Home / โรแมนติก / สัญญารักไร้หัวใจ / ตอนที่ 4 ก้าวแรกสู่กรงทอง

Share

ตอนที่ 4 ก้าวแรกสู่กรงทอง

last update Last Updated: 2025-08-06 22:41:16

ตอนที่ 4 ก้าวแรกสู่กรงทอง

คฤหาสน์วรวิชญ์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พราวตะวันยืนมองประตูรั้วเหล็กดัดขนาดใหญ่ที่เปิดออกช้า ๆ ราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปในความมืดมิดของชีวิตคู่ที่ไม่ได้ปรารถนา

บ้านหลังงามถูกปลูกแยกออกจากคฤหาสน์ใหญ่ของนายแพทย์ธีระและคุณหญิงอรุณี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนได้อย่างงดงามแต่ความหรูหรานั้นกลับดูว่างเปล่าและโดดเดี่ยวในสายตาของพราวตะวัน

สัมภาระไม่กี่ชิ้นของเธอถูกขนลงจากรถอย่างรวดเร็ว พราวตะวันก้าวเท้าลงจากรถด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในใจ ทุกย่างก้าวที่เดินผ่านสวนหย่อมที่จัดแต่งอย่างประณีต ราวกับเดินเข้าสู่กรงขังทองคำขนาดใหญ่ ลมหายใจของเธอติดขัดเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันที่มองไม่เห็น

อคิณเดินนำหน้าเธอไปอย่างเงียบ ๆ ท่าทางของเขาดูมั่นคงและเป็นเจ้าของทุกสิ่งอย่างแท้จริง พราวตะวันเมินหน้าหนี เขาเปิดประตูบ้านหลังใหญ่ที่บัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ของทั้งสองคน

ภายในโอ่อ่ากว่าที่คิด ห้องโถงกว้างขวาง ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราและงานศิลปะที่ดูมีราคาแพง มันไม่ใช่บ้านแต่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา

พราวตะวันเดินตามอคิณขึ้นบันไดวนไปยังห้องนอนใหญ่ชั้นบน เขาเปิดประตูห้องให้เธอเข้าไป ห้องนอนนั้นกว้างขวางไม่แพ้กัน มีหน้าต่างบานใหญ่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ยามเย็นอันกว้างไกล

บนเตียงคิงไซส์ที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมสีขาวสะอาดตา มีกลีบกุหลาบโรยอยู่บางส่วน บ่งบอกถึงความเป็น "เรือนหอ" ที่จัดเตรียมไว้ให้

พราวตะวันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นส่วนตัวถาโถมเข้าใส่ นี่คือสถานที่ที่เธอจะต้องใช้ชีวิตต่อไปนับจากนี้และมันไม่ใช่ที่ที่เธออยากอยู่เลยแม้แต่น้อย

ในช่วงสาย ๆ ของวันหนึ่ง ขณะที่พราวตะวันกำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องครัวขนาดใหญ่ของคฤหาสน์หลังใหม่ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นไม่นานนัก คุณหญิงอรุณีก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า ถือตะกร้าผลไม้และกล่องของขวัญเล็ก ๆ เข้ามาด้วยตัวเอง

“หนูพราวตื่นแล้วเหรอลูก” คุณหญิงอรุณีเดินเข้ามาหาเธอด้วยก้าวที่สง่างาม มือเรียวสวยเอื้อมมาจับมือพราวตะวันเบา ๆ สัมผัสที่อ่อนโยนและอบอุ่นนั้นทำให้พราวตะวันรู้สึกประหลาดใจ เธอคาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่เย็นชาหรือห่างเหินจากครอบครัวของอคิณแต่กลับกลายเป็นตรงกันข้าม

“สวัสดีค่ะคุณแม่” พราวตะวันกล่าวตะกุกตะกัก พยายามยิ้มตอบ

“ไม่ต้องเรียกคุณแม่หรอกลูกเรียกว่าแม่ก็ได้จ้ะ” คุณหญิงอรุณียิ้มกว้าง

“มาอยู่บ้านใหม่แบบนี้ คงยังไม่คุ้นเคยใช่ไหมจ๊ะ แม่แวะมาดูว่ามีอะไรให้ช่วยไหมหรืออยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า” ท่านมองสำรวจรอบบ้านด้วยสายตาชื่นชม

“บ้านหลังนี้อคิณเขาเลือกและตกแต่งเองเลยนะ แม่รู้ว่าเขาตั้งใจมาก”

พราวตะวันรู้สึกเกรงใจ เธอไม่รู้จะวางตัวอย่างไรดี เพราะท่าทีของคุณหญิงอรุณีนั้นอบอุ่นเกินกว่าที่เธอคาดไว้มันทำให้แผนการ "ทำให้เกลียด" ของเธอเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย เธอไม่ได้เตรียมรับมือกับการต้อนรับที่อ่อนโยนเช่นนี้

“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เอ่อแม่ค่ะ” พราวตะวันแก้คำเรียกด้วยท่าที

“พราวจัดการได้ค่ะ ไม่อยากรบกวนคุณแม่ค่ะ”

“รบกวนอะไรกันจ๊ะลูกนี่บ้านของลูกแล้วนะ อคิณเขาก็ยุ่งอยู่กับการทำงานทั้งวัน แม่เลยอยากมาดูแลให้หนูรู้สึกสบายใจ” คุณหญิงอรุณีเดินไปสำรวจครัว

“แม่สั่งแม่บ้านมาช่วยจัดเตรียมอาหารเที่ยงไว้ให้แล้วนะ นี่แม่เอาขนมไทยที่หนูชอบมาฝากด้วยนะ แม่จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ พราวชอบขนมชั้นมากเลยใช่ไหมจ๊ะ”

“ขอบคุณนะคะแม่”

คำพูดของคุณหญิงอรุณีทำให้พราวตะวันชะงัก ท่านจำได้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอเองก็แทบจะลืมไปแล้ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

พราวตะวันไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไรกับความใจดีที่เธอไม่คู่ควร เธอพยายามจะสร้างกำแพงและอคติ แต่ความอบอุ่นของคุณหญิงอรุณีกลับแทรกซึมเข้ามาอย่างช้า ๆ

ในช่วงบ่ายอคิณกลับมาถึงบ้าน พราวตะวันตั้งใจว่าจะเริ่มแผนการทำให้เขาเกลียดเธอทันทีที่เจอหน้า เธอเดินลงมาจากห้องนอนในสภาพที่ไม่ได้จัดแต่งอะไรเป็นพิเศษ เสื้อยืดคอกว้างสีซีด กางเกงขาสั้นยับยู่ยี่ ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับเพิ่งตื่นนอน เธอตั้งใจจะทำลายภาพลักษณ์ของเจ้าสาวผู้เลอโฉมที่เขาเคยเห็น

อคิณที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นหันมามองเธอเล็กน้อย แววตาของเขาไม่ได้แสดงความรังเกียจอย่างที่เธอคาดหวัง กลับกันเขายกยิ้มมุมปากเบา ๆ ราวกับจะหยอกเย้า

“วันนี้คุณดูสบาย ๆ ดีนะครับพราว” อคิณกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ พราวตะวันเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับเขา เธอถอดรองเท้าแตะออก แล้วยกเท้าขึ้นเหยียบโซฟาอีกข้างอย่างไม่เรียบร้อยพลางสะบัดปลายเท้าเล็กน้อยให้ดินที่ติดอยู่ร่วงลงไปบนเบาะ

“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละค่ะ” พราวตะวันตอบเสียงห้วน พยายามทำตัวให้ดูห่างเหินและไม่สนใจ อคิณเลิกคิ้วเล็กน้อยเขาถอดเสื้อสูทออกแล้ววางพาดไว้บนพนักเก้าอี้ พลางคลายเนคไทออก ท่าทางผ่อนคลายของเขาทำให้พราวตะวันรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

“ทำไมคุณไม่ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยคะ ตัวก็เหม็น เหงื่อออกซก คงจะสกปรกน่าดู” พราวตะวันแกล้งทำจมูกฟุดฟิด ราวกับได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่มีกลิ่นเหม็นเลยแม้แต่น้อย อคิณยิ้มบาง ๆ

“ผมเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล ก็ต้องมีกลิ่นบ้างเป็นธรรมดาครับ” เขาลุกขึ้นเดินตรงมาหาเธอพราวตะวันนั่งตัวแข็งเกร็งไปทั้งตัวแต่เขากลับไม่ได้เดินมาใกล้มากนัก เขาเดินอ้อมไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วกลับไปนั่งที่เดิมราวกับเธอไม่มีตัวตน

“คุณไม่ต้องมาทำเป็นใจดีใส่ฉันหรอกนะคะ” พราวตะวันกล่าวต่อ เสียงเริ่มแข็งขึ้น

“ฉันรู้ว่าคุณแค่เสแสร้งฉันจะไม่ยอมโดนคุณหลอกง่าย ๆ หรอก” อคิณเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ มองเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา รอยยิ้มบนใบหน้าเขาจางหายไปเล็กน้อย

“ผมไม่เคยคิดจะหลอกคุณ” อคิณตอบเสียงเรียบ

“แต่ถ้าคุณอยากให้ผมเป็นคนร้ายกาจอย่างที่คุณคิด ผมก็จะยอมเป็นให้คุณเห็นเอง” คำพูดของเขาทำให้พราวตะวันรู้สึกประหลาดใจ แผนการของเธอดูเหมือนจะไม่ได้ผลตามที่ตั้งใจไว้เลย

เมื่อค่ำคืนมาเยือนบรรยากาศในห้องนอนใหญ่ยิ่งทวีความอึดอัด พราวตะวันยืนอยู่ข้างเตียงโดยมีอคิณยืนอยู่ไม่ห่างนัก กลีบกุหลาบที่โรยอยู่บนเตียงยังคงส่งกลิ่นหอมหวานแต่กลับเป็นกลิ่นที่เธอรู้สึกขมขื่น

“ฉันจะไม่นอนบนเตียงเดียวกับคุณ คุณนอนไปบนเตียงเถอะ ฉันจะไปนอนที่อื่น” พราวตะวันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว ดวงตาจ้องมองเขาอย่างท้าทาย

อคิณมองเธอด้วยแววตาที่สงบนิ่ง แต่มีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ลึก ๆ เขาถอนหายใจเบา ๆ พลางเดินไปหยิบหมอนและผ้าห่มสำรองที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า

“ไม่ต้องหรอกครับพราว” อคิณกล่าว

“ผมจะนอนที่พื้นเอง” พราวตะวันเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะตอบรับง่ายดายเช่นนี้เธอคาดหวังว่าเขาจะพยายามบังคับหรืออย่างน้อยก็โต้เถียง อคิณปูที่นอนปิกนิกลงบนพื้นข้างเตียงอย่างเรียบร้อย เขาไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจหรือหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย

“ผมจะให้เกียรติคุณ” อคิณกล่าวขณะที่เขาล้มตัวลงนอนบนพื้น ดวงตาคมกริบมองขึ้นมาที่เธอ

“ผมจะรอจนกว่าคุณจะเต็มใจให้ผมเข้าไปใกล้คุณเอง จนกว่าคุณจะยอมเปิดใจและมองเห็นว่าผมเป็นใคร” พราวตะวันยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น มองแผ่นหลังกว้างของเขาที่นอนอยู่บนพื้น ความรู้สึกผิดบางอย่างแล่นเข้ามาในใจ เธอพยายามทำตัวให้เขารังเกียจแต่เขากลับแสดงความเข้าใจและให้เกียรติเธออย่างไม่คาดคิด ความอดทนของเขาทำให้แผนการของเธอยากขึ้นกว่าที่คิดไว้มาก

เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียง พยายามข่มตาให้หลับแต่ภาพของอคิณที่นอนอยู่บนพื้นกลับวนเวียนอยู่ในความคิด นี่คือสงครามที่เธอตั้งใจจะชนะ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ค่ำคืนแรกในกรงทองผ่านไปพร้อมกับความรู้สึกหลากหลายที่ตีวนอยู่ในใจของพราวตะวัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 12 ยิ่งพยายามใกล้ยิ่งห่างไกล

    ตอนที่ 12 ยิ่งพยายามใกล้ยิ่งห่างไกล อคิณกลับเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าอ่อนล้าจากการประชุมที่ยาวนานกว่าที่คิด เขามองไปที่พราวตะวันที่กำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง ใบหน้าของเธอหันออกไปมองทิวทัศน์ข้างนอก แต่แววตาของเธอกลับว่างเปล่า ราวกับว่าความคิดของเธอกำลังล่องลอยไปในที่ไกลแสนไกล อคิณเดินเข้ามาใกล้เธอช้าๆ เขารู้สึกผิดที่บังคับเธอให้มารอเขาประชุม “ผมขอโทษนะครับพราว ที่ทำให้คุณต้องรอนาน” อคิณกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พราวตะวันไม่ตอบอะไร เธอยังคงนิ่งราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องกับเธอ ราวกับว่าการมีตัวตนของเขาไม่มีผลอะไรต่อเธอเลยแม้แต่น้อย อคิณถอนหายใจเบาๆ เขาเดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นแล้วเอื้อมมือไปจับมือของเธอไว้เบาๆ “ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่ผมขอโทษได้ไหม” พราวสะบัดมือของเขาออกอย่างแรง “ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันรำคาญที่ต้องอยู่ใกล้ๆ คุณอย่างนี้และยิ่งตอนนี้ฉันก็ยิ่งไม่อยากอยู่ใกล้ๆ คุณ” “ผมรู้ว่าคุณรำคาญผมแต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมไม่ได้อยากทำให้คุณอึดอัด” อคิณบอกกับเธอ อคิณเงียบไปชั่วขณะ เขามองพราวตะวันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และตัดพ้อ “พราวคุณไม่เคยคิ

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 11 โรคจิต

    ตอนที่ 11 โรคจิต สุริยะพ่อของเธอกำลังนอนพักฟื้นอยู่ในห้องพิเศษยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกสาวและลูกเขยมาเยี่ยม “พ่อดีใจมากที่พราวมาหาพ่อ ไม่ได้เจอกันหลายวันเป็นไงบ้างลูกอยู่กับอคิณ” สุริยะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ แต่วันนี้พราวเห็นพ่อดีขึ้นพราวก็ดีใจแล้วค่ะ แล้วแม่ไปไหนคะพราวคิดถึง” พราวตะวันถามหาแม่พร้อมกับมองไปรอบๆ เพื่อหาแม่ของเธอ “แม่ไปซื้อของน่ะลูก เพิ่งออกไปน่าจะอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะกลับ” สุริยะพูดกับพราวตะวันก่อนจะหันไปหาอคิณยิ้มๆ ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุขใจ “อคิณ ขอบใจมากนะลูกที่ดูแลพราวแทนพ่อ” “ไม่เป็นไรเลยครับคุณพ่อ” อคิณยิ้มอบอุ่นและอ่อนโยน “ดูแลพราวเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ” คำพูดของอคิณทำให้พราวตะวันรู้สึกได้ว่าเขาจะอบอุ่นและแสนดีไปไหนทั้งๆ ที่เขารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่มีทางรักเขาได้ พราวตะวันอยู่คุยกับพ่อสักพักก่อนจะกลับเพราะอคิณมีประชุมด่วนเข้ามา “พราวเราต้องกลับกันแล้ว คุณพ่อครับผมต้องพาพราวกลับบ้านแล้วนะครับ เพราะมีประชุมด่วนเข้ามา ไว้ผมจะพาพราวมาหาบ

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 10 ความจริงที่ถูกซ่อน

    ตอนที่ 10 ความจริงที่ถูกซ่อน เสียงนกเจื้อยแจ้วปลุกพราวตะวันให้ตื่นจากภวังค์ เธอยังคงสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่หลงเหลือบนหมอนข้างที่ใช้กอดเมื่อคืน ความรู้สึกปลอดภัยที่อ้อมกอดของอคิณมอบให้ยังคงหลงเหลืออยู่ในความรู้สึกของเธอ พราวตะวันโกรธตัวเองที่เผลอไผลไปกับสัมผัสของเขา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีวนอยู่ในอก ความดีที่เขาแสดงออกตลอดมาสวนทางกับภาพลักษณ์เสือผู้หญิงที่เธอปักใจเชื่อ “พราวแกจะมาเห็นใจเขาง่ายๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ แกต้องแข็งแกร่งเข้าไว้” พราวตะวันพึมพำกับตัวเอง เพราะเธอไม่อยากให้ความรู้สึกอ่อนไหวไปกับการกระทำแค่นี้ของเขาไม่ได้ไม่เช่นนั้นแผนการทั้งหมดของเธอก็จะพังทลายลง ในเช้าวันนั้น อคิณกำลังจะออกไปทำงานตามปกติ พราวตะวันลงมายังห้องอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอยังคงรักษาระยะห่างจากเขาเหมือนเดิม แต่สายตาของเธอก็มีเผลอมองเขาอยู่บ่อยครั้ง อคิณเองก็เช่นกัน เขามองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนที่มันออกมาจากใจของเขาจริงๆ “วันนี้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งวัน” อคิณกล่าวขึ้นมาขณะจิบกาแฟ “ถ้าคุณมีอะไรก็เรียกคนใช้หรือว่าโทรหาผมได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรง

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 9 ไฟดับ

    ตอนที่ 9 ไฟดับพายุฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักตั้งแต่หัวค่ำ เสียงฟ้าร้องครืนครืนตามมาด้วยแสงฟ้าผ่าแปลบปลาบ ทำให้บ้านทั้งหลังมืดสนิทในพริบตา เมื่อกระแสไฟฟ้าดับลงอย่างกะทันหันพราวตะวันที่กำลังเดินอยู่ในห้องโถงกรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ เธอเป็นคนกลัวความมืดและเสียงฟ้าฝนที่กระหน่ำลงมายิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวจับใจทันใดนั้นเองมือหนาก็เอื้อมมาคว้าแขนของเธอไว้ อคิณจุดเทียนไขหลายเล่มที่วางเตรียมไว้ทั่วบ้าน ทำให้บ้านแสงสลัวของเปลวเทียนเป็นสิ่งเดียวที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด เขาเห็นใบหน้าของพราวตะวันที่ซีดเผือดและดวงตาที่ฉายแววหวาดกลัวอย่างชัดเจน“คุณกลัวความมืดเหรอพราว” อคิณถามเสียงนุ่มน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยพราวตะวันสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา เธอไม่ชอบให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเอง“เปล่า ฉันไม่ได้กลัว” เธอตอบเสียงแข็ง พยายามซ่อนความสั่นเทาในน้ำเสียง“แค่ตกใจนิดหน่อย”อคิณไม่ได้เซ้าซี้อะไร เขาจูงมือเธอให้เดินตามเขาไปยังห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาตัวใหญ่และผิงไฟที่ยังคงให้ความอบอุ่นเขาจุดเทียนเพิ่มอีกสองสามเล่ม เพื่อให้ห้องสว่างขึ้นเล็กน้อย พราวตะวันนั่งลงบนโซฟาอย่างเงียบ

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 8 ฟิล์มผู้ห่างเหิน

    ตอนที่ 8 ฟิล์มผู้ห่างเหินหลังจากเหตุการณ์ในห้องนอน พราวตะวันรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอพยายามสลัดภาพและสัมผัสจากอคิณออกไปจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้ หนทางเดียวที่จะยืนยันว่าเธอไม่ได้หวั่นไหวคือการยึดมั่นใน ฟิล์ม เธอจึงพยายามติดต่อเขาให้มากขึ้น หวังว่าจะได้ระบายความอึดอัดในชีวิตคู่ที่อ้างว้างนี้ข้อความแล้วข้อความเล่าถูกส่งไปหาฟิล์ม เล่าถึงความทุกข์ใจ การถูกบีบบังคับและความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องเผชิญ ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานั้นช้าลงเรื่อย ๆ และมักจะมาพร้อมข้ออ้างเดิม ๆ"พี่กำลังเรียนหนักมากเลยพราว""วันนี้มีงานกลุ่มด่วน พี่ต้องรีบส่ง" หรือแม้แต่"พราวอย่าคิดมากสิ พี่ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว"พราวตะวันกุมโทรศัพท์แน่น ดวงตาจับจ้องหน้าจอที่ว่างเปล่า ความผิดหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ คนที่เธอเคยคิดว่าเป็นที่พึ่งเดียวในชีวิต กลับดูห่างเหินและไม่สนใจความทุกข์ของเธอเลยแม้แต่น้อย เธอเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพูดอยู่กับกำแพง ยิ่งเธอบอกเล่าความเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ฟิล์มก็ยิ่งดูห่างไกลออกไปเท่านั้นค่ำวันหนึ่งสุริยะและอรัญญาพ่อและแม่ของพราวตะวัน พร้อมด้วยพราวฟ้าน้องสาวของเธอ ได

  • สัญญารักไร้หัวใจ   ตอนที่ 7 หึงหวง

    ตอนที่ 7 หึงหวงชุดราตรีสีน้ำเงินเข้มขับผิวขาวผ่องของพราวตะวันให้โดดเด่น เธอยืนอยู่ข้างอคิณในงานเลี้ยงการกุศลที่จัดขึ้นอย่างหรูหราผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา เสียงดนตรีบรรเลงเบา ๆ คลอเคล้ากับเสียงหัวเราะและบทสนทนา อคิณในชุดสูทสีดำสนิทดูสง่างามและเป็นที่สนใจของสาว ๆ ทั่วทั้งงานแต่เขากลับไม่เคยละสายตาจากพราวตะวันเลยแม้แต่น้อย“ยิ้มหน่อยสิครับพราว คุณดูเครียดไปนะ” อคิณกระซิบข้างหูเธอ เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้พราวตะวันรู้สึกขนลุกซู่ เธอปั้นหน้ายิ้มออกมาอย่างฝืน ๆ“ฉันไม่ชอบงานแบบนี้ค่ะ มันน่าเบื่อ” เธอตอบเสียงเรียบ“แต่คุณก็ต้องร่วมงานสังคมบ้างในฐานะภรรยาของผม” อคิณกล่าว เขาเอื้อมมือมาโอบเอวเธออย่างเป็นธรรมชาติ สัมผัสอุ่นร้อนจากฝ่ามือเขาที่แนบชิดกับผิวของเธอทำให้พราวตะวันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เธอพยายามปัดมือเขาออก แต่เขากลับกระชับวงแขนแน่นขึ้นเล็กน้อย“คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ผมขอไปคุยกับเพื่อนสักครู่” อคิณที่เห็นว่าพราวตะวันไม่ชอบการที่มีคนเยอะ ๆ เขาจึงไม่พาเธอไปคุยกับกลุ่มเพื่อนของเขาเลยให้เธอยืนรอเงียบ ๆ คนเดียวในขณะที่อคิณเดินไปหาเพื่อน ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามาหาพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status