ตอนที่ 5 การตอบโต้ที่เหนือความคาดหมาย
เช้าวันรุ่งขึ้นพราวตะวันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกไม่สดใส เธอเดินลงมาจากห้องนอนในสภาพที่ไม่ได้สนใจการแต่งกายเหมือนเดิม เสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงขาสั้นยับยู่ยี่ ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับรังนก เธอตั้งใจจะลงไปสร้างความรบกวนให้อคิณตั้งแต่เช้าเพื่อเริ่มแผนการ "ทำให้เกลียด" ที่เธอตั้งใจไว้
เมื่อเดินลงมาถึงห้องอาหาร พราวตะวันเห็นอคิณนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวยาวใหญ่ กำลังจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสง่างาม เขาสวมชุดลำลองดูสบาย ๆ แต่ก็ยังคงเนี้ยบและดูดีในสายตาของเธอ
พราวตะวันรู้สึกขัดใจเล็กน้อยเธอจงใจลากเก้าอี้เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเมื่อนั่งลงมือเรียวหยิบขนมปังขึ้นมาทาเนยอย่างลวก ๆ จนเนยเลอะขอบจาน แต่ดูเหมือนอคิณจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขายังคงอ่านหนังสือพิมพ์ต่ออย่างใจเย็น
“นี่คุณไม่คิดจะไปออกกำลังกายบ้างหรือคะ” พราวตะวันแกล้งพูดขึ้นเสียงดัง
“อยู่แต่ในบ้านแบบนี้ระวังจะเฉาก่อนวัยนะคะ” อคิณพับหนังสือพิมพ์ลงช้า ๆ เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“ผมออกกำลังกายทุกเช้าครับ ไม่ต้องห่วง” คำตอบของเขาทำให้พราวตะวันรู้สึกหงุดหงิด เขาไม่ได้โต้ตอบอย่างที่เธอคาดไว้เลย เธอพยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่จงใจให้กวนใจ
“แล้วนี่คุณไม่มีงานทำหรือไงคะ เห็นอยู่บ้านตลอดแบบนี้” เธอพูดพลางจิบกาแฟเสียงดังจ๊วบจ๊าบ
“ผมทำงานที่บ้านได้ครับ” อคิณตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“บางวันก็เข้าโรงพยาบาลบ้างแต่วันนี้ผมอยากอยู่บ้าน” พราวตะวันขมวดคิ้วแน่น แผนการของเธอเหมือนกำลังพุ่งชนกำแพงที่มองไม่เห็น อคิณยังคงสงบนิ่งและตอบกลับด้วยความสุภาพเสมอ ไม่ว่าจะเธอจะทำตัวไม่น่ารักแค่ไหนก็ตาม
ตลอดทั้งวันพราวตะวันยังคงพยายามทำตัวให้วุ่นวายและไม่เรียบร้อย เธอเปิดเพลงเสียงดังลั่นบ้านในเวลาที่อคิณกำลังทำงานในห้องหนังสือ
เธอทำน้ำหกบนพื้นหลายครั้งและจงใจวางของระเกะระกะไม่เป็นที่ แต่ทุกครั้งอคิณก็จัดการแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างใจเย็นเสมอ เขาไม่เคยแสดงความไม่พอใจออกมาเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงเย็นพราวตะวันเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรทาน เธอแปลกใจเมื่อเห็นอาหารหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ อาหารทั้งหมดเป็นของโปรดของเธอ ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดกุ้ง กะเพราไก่ไข่ดาวและแกงเขียวหวานไก่ เธอหันไปมองอคิณที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“นี่อะไรคะ” พราวตะวันถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ผมเห็นคุณทานอาหารข้างนอกไม่ค่อยเยอะ เลยให้แม่บ้านเตรียมอาหารที่คุณชอบให้” อคิณตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ไม่มีแววล้อเลียนหรือต้องการคำขอบคุณ
พราวตะวันรู้สึกหงุดหงิด เธอไม่ได้อยากให้เขาดูแลเอาใจใส่แบบนี้ มันทำให้แผนของเธอยากขึ้นไปอีก
เธอจงใจตักข้าวเยอะ ๆ จนพูนจาน และกินเสียงดังด้วยความเร่งรีบ ทว่าอคิณก็ยังคงนั่งทานข้าวอย่างสงบ เขาสังเกตเห็นว่าเธอชอบดื่มน้ำส้มคั้น เขาจึงเอื้อมมือไปรินน้ำส้มใส่แก้วแล้วเลื่อนมาให้เธอเบา ๆ การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ทำให้พราวตะวันรู้สึกประหลาดใจ
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้” พราวตะวันถามออกไปในที่สุด
“คุณต้องการอะไรกันแน่” อคิณวางช้อนลงช้า ๆ มองเธอด้วยแววตาที่จริงจัง
“ผมแค่ทำหน้าที่ของสามีที่ดี” คำตอบของเขาทำให้พราวตะวันพูดไม่ออก ความรู้สึกสับสนเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเธอ อคิณไม่ได้เหมือนกับที่ข่าวลือบอกเลยแม้แต่น้อย
หลังจากทานอาหารเสร็จ พราวตะวันเดินกลับขึ้นห้อง เธอแปลกใจเมื่อพบว่าห้องนอนที่ดูว่างเปล่าเมื่อเช้า บัดนี้มีแจกันดอกลิลลี่สีขาววางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ลอยมาแตะจมูก บนเตียง ผ้าปูที่นอนถูกเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนหวาน ซึ่งเป็นสีโปรดของเธอและหมอนข้างใบโปรดของเธอก็ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เหมือนมีใครบางคนรู้ใจเธอเป็นอย่างดี
อคิณเดินตามเข้ามาในห้อง เขาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเธอ
“ผมให้แม่บ้านจัดห้องให้ใหม่ครับ” อคิณกล่าว
“เผื่อคุณจะชอบ” พราวตะวันหันไปมองเขา เธอพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกประหลาดใจไว้
“คุณทำแบบนี้ทำไมคะ” “ผมอยากให้คุณรู้สึกสบายใจที่บ้านหลังนี้” อคิณตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ที่นี่คือบ้านของคุณและผมอยากให้คุณมีความสุข” พราวตะวันรู้สึกอึดอัดกับความใจดีของเขา เธอต้องการให้อคิณโกรธเกลียดเธอแต่เขากลับมอบแต่ความเอาใจใส่และอบอุ่น
“คุณไม่ต้องทำดีกับฉันหรอกค่ะ” พราวตะวันกล่าว
“มันเสียเวลาเปล่า” อคิณยิ้มบาง ๆ
“ผมไม่คิดว่ามันเสียเวลาครับ” เขาล้มตัวลงนอนบนพื้นข้างเตียงเช่นเคย
“ราตรีสวัสดิ์ครับพราว” พราวตะวันมองเขาที่นอนอยู่บนพื้นอีกครั้ง ความรู้สึกผิดเริ่มกัดกินหัวใจเธอ เธอพยายามข่มตาหลับแต่ความใจดีของอคิณกลับทำให้เธอสับสนและนอนไม่หลับตลอดคืน
หลายวันผ่านไป แผนการ "ทำให้เกลียด" ของพราวตะวันยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามทำตัวไร้มารยาท ทำเสียงดัง ปล่อยตัวปล่อยใจไม่สนใจภาพลักษณ์ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล อคิณยังคงอดทนและตอบโต้ด้วยความสุภาพและใจเย็นเสมอ เขาไม่เคยโกรธ ไม่เคยตำหนิและยังคงดูแลเอาใจใส่เธออย่างสม่ำเสมอ
บางครั้งเขาก็ทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะอาหารเช้า เพื่อบอกว่าเขาเตรียมอะไรไว้ให้หรือฝากแม่บ้านให้เตรียมของโปรดของเธอ
เขามักจะสังเกตเห็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอต้องการ โดยที่เธอไม่เคยเอ่ยปากขอ พราวตะวันเคยแกล้งทำของแตก เขาก็รีบเข้ามาช่วยเก็บกวาดอย่างใจเย็นโดยไม่ปริปากบ่น เธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาเมื่อเขาพูดด้วย แต่เขาก็ยังคงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงปกติเสมอ
“คุณนี่มันประหลาดจริง ๆ” พราวตะวันเคยเผลอพูดออกไปในวันหนึ่ง เมื่ออคิณกำลังช่วยเธอจัดเรียงหนังสือที่เธอจงใจวางสลับกันมั่วไปหมด อคิณเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยรอยยิ้ม
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละครับ” ความสับสนเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของพราวตะวันอย่างช้า ๆ อคิณที่เธอรู้จักจากข่าวลือคือเสือผู้หญิง เจ้าชู้ตัวพ่อ แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เขามีความอดทนสูง มีความเป็นสุภาพบุรุษ และดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
พราวตะวันเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง หรือว่าข่าวลือเหล่านั้นจะไม่เป็นความจริงหรือว่าเธอจะมองคนผิดไป ทุก ๆ การกระทำของอคิณ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอาหารโปรด การจัดห้องให้น่าอยู่ หรือการอดทนกับความไม่น่ารักของเธอ ล้วนแต่สั่นคลอนกำแพงแห่งอคติที่เธอสร้างขึ้นมาอย่างแน่นหนา
แผนการที่เธอตั้งใจจะทำให้อคิณเกลียดเธอเพื่อขอหย่า บัดนี้กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงใจเธอเอง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอดทนกับเธอได้มากขนาดนี้ และความไม่เข้าใจนี้เองที่ทำให้พราวตะวันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนที่ 50 แผนร้ายแต่ก็ยังรักในเวลาเดียวกัน อคิณกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เขาได้รับข้อความจากฟิล์มที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย อคิณรู้สึกสงสัยแต่ก็ตัดสินใจที่จะมาพบฟิล์มเพียงลำพังเพื่อที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมด ฟิล์มปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและดูเหนื่อยล้า“ผมต้องขอโทษด้วยที่โทรหาคุณในเวลาแบบนี้” ฟิล์มพูด “แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”อคิณวางแก้วกาแฟลงแล้วมองฟิล์มอย่างสงสัย “ว่ามาเลย”“พราวตะวัน... เธอยังติดต่อกับผมอยู่” ฟิล์มบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลังเล “เราไม่ได้เลิกกันจริงๆ เราแค่แกล้งทำเป็นเลิกกันเพื่อให้คุณตายใจ”อคิณมองฟิล์มด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงแค่เรื่องตลก “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่พราวตะวันกับฉันยังคบกันอยู่ไง” ฟิล์มพูด “เธอแค่ต้องการจะแก้แค้นคุณที่ทิ้งเธอไป แล้วเธอก็ใช้ฉันเป็นเครื่องมือ”อคิณหัวเราะในลำคอ “คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหรอ”“แต่ผมพูดความจริง!” ฟิล์มตะโกน “คุณต้องเชื่อผม”อคิณส่ายหน้า “ผมเชื่อในตัวพราว” อคิณบอก“และผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะยอมมาเจอผมเพียงลำพังเพื่อพูดเรื่องแบบนี้”ฟิล์ม
ตอนที่50แผนร้ายแต่ยังรัก เสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้นในยามเย็น พราวตะวันมองไปที่หน้าจออินเตอร์คอมแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นณิชายืนอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง พราวตะวันเปิดประตูบ้านให้พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“มีอะไรหรือเปล่าคะณิชา”ณิชาไม่ตอบ เธอเดินเข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เกินจริง“ฉันรู้ว่าอคิณไม่อยู่ และฉันก็มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”พราวตะวันถอนหายใจ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ ฉันขอให้คุณกลับไปเถอะค่ะ”“เรื่องของอคิณไงล่ะ” ณิชาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ “เธอคิดว่าเธอชนะแล้วเหรอพราวตะวัน”พราวตะวันมองณิชาด้วยสายตาที่สงสาร “ฉันไม่เคยคิดจะเอาชนะใครค่ะ และฉันก็ไม่ได้อยากแข่งกับคุณด้วย”“แต่ฉันอยากแข่ง!” ณิชาตะคอก“ฉันอยากจะบอกเธอว่าสิ่งที่เธอได้มามันคือความหลอกลวง!” ณิชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเสียงให้พราวตะวันฟัง เป็นเสียงของฟิล์มที่พูดว่า“ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดให้อคิณรู้ว่าเราแค่เล่นละครตบตาเขา”พราวตะวันอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของฟิล์ม แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาและรู้ทันทีว่านี่คือแผนการของณิชาที่จะทำลายความสัมพันธ์ของเธอก
ตอนที่ 49เลขาคนใหม่อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบกับอคินัย น้องชายของเขาที่ยืนอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางที่ดูจริงจังผิดปกติ อคินัยไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดกับอคิณทันที “พี่คินน์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา” อคิณพยักหน้าให้เขา แล้วทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปมองพราวตะวัน“เดี๋ยวผมขอคุยกับน้องชายก่อนนะครับ” พราวตะวันยิ้มให้ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องทำงาน แต่เมื่อเธอจะเดินออกไปเธอก็พบกับ พราวฟ้าที่ยืนอยู่หน้าห้องพอดี“พี่พราว ฟ้าคิดถึงก็เลยมาหาค่ะ ได้ยินว่าพี่มาทำงานวันแรกก็เลยซื้อผลไม้มาฝากค่ะ”พราวตะวันรับถึงผลไม้มาแล้วยิ้ม “ขอบใจนะ เดี๋ยวเราไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ พอดีพี่คินน์มีเรื่องต้องคุยกับอคินัย”พราวฟ้าพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เดินไปนั่งที่โซนร้านอาหารของโรงพยาบาลในห้องทำงาน อคินัยเริ่มพูดกับอคิณด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เลขาคนเก่าของผมลาออกกะทันหัน ผมอยากให้พี่ช่วยหาเลขาคนใหม่ให้หน่อย” “ถ้าพี่หาให้ได้ พี่จะได้อะไรเหรอ” อคิณถามอย่างยิ้มๆ อคินัยเลิกคิ้ว “แล้วพี่อยากได้อะไรล่ะครับ” “ฉันมีคนในใจแล้ว” อคิณตอบก่อนจะหันไ
ตอนที่48ข่าวลือที่ไม่อาจสั่นคลอนวันจันทร์ที่สดใส พราวตะวันเดินทางมายังโรงพยาบาลของอคิณด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เธอสวมชุดทำงานที่ดูทะมัดทะแมงและมั่นใจในตัวเอง อคิณเดินมารอรับเธอที่หน้าลิฟต์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“พร้อมไหมครับคุณผู้ช่วย” เขาถามอย่างล้อเล่นพราวตะวันยิ้มตอบ “พร้อมแล้วค่ะ”เมื่อลิฟต์เปิดออก พราวตะวันก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพนักงานจำนวนมากกำลังยืนรอต้อนรับเธออยู่ อคิณหันไปแนะนำพราวตะวันกับทุกคน“นี่คือพราวตะวัน ภรรยาของผม และเธอกำลังจะมาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของผมครับ”พนักงานต่างปรบมือแสดงความยินดี แต่พราวตะวันก็สังเกตเห็นสายตาบางคู่ที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรและมีการกระซิบกระซาบกันเบาๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักอคิณพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของงานให้เธอฟัง พราวตะวันตั้งใจฟังทุกคำพูดของอคิณ แต่ในใจของเธอก็ยังคงกังวลกับสายตาแปลกๆ ของพนักงานเหล่านั้นในระหว่างที่พักเที่ยง พราวตะวันตัดสินใจเดินไปที่โซนพักผ่อนเพื่อหาอะไรดื่ม แต่แล้วเธอก็ได้ยินพนักงานกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันถึงข่าวลือที่กำลังแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย“ได้ยิน
ตอนที่47ไม่รับสาย หลังจากใช้เวลที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข อคิณและพราวตะวันก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในตัวเมือง บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความรัก ของทั้งสองที่ยิ่งได้อยู่ด้วยกันก็ยิ่งรักกันมากขึ้น พราวตะวันเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะรักอคิณได้เพราะวันแรกเธอแทบไม่อยากจะอยู่ใกล้เขาเสียด้วยซ้ำ อคิณขับรถด้วยรอยยิ้ม ขณะที่พราวตะวันเอนศีรษะซบลงที่ไหล่ของเขาอย่างผ่อนคลาย “คุณมีความสุขไหมครับ” อคิณเอ่ยถามเบาๆ พราวตะวันพยักหน้า “ที่สุดเลยค่ะ” เธอตอบ “พราวไม่คิดเลนว่าการได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีความสุขได้มากขนาดนี้” อคิณยิ้ม “ผมจะทำให้ทุกๆ วันของเราเป็นวันที่มีความสุขแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ” เขาบอกพลางยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนน จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอคือฟิล์ม อคิณหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อนี้ “ใครโทรมาหาเหรอพราว” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่สบายใจ เขารู้ว่าเป็นใครแต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้น พรา
ตอนที่46เร่าร้อนที่บ้านสวน หลังจากงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความสุขจบลง อคิณและพราวตะวันก็เดินกลับเข้ามาในบ้านสวนที่เงียบสงบยามค่ำคืน บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากความครื้นเครงมาเป็นความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน อคิณดึงพราวตะวันเข้ามากอดจากด้านหลังแน่นขึ้นขณะที่เดินผ่านห้องโถง “ผมรักคุณนะพราว” เสียงกระซิบแหบพร่าเบาๆ ที่ข้างหูทำให้พราวตะวันรู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นที่วิ่งไปทั่วร่าง “ฉันก็รักคุณค่ะคินน์” เธอกระซิบตอบกลับพร้อมกับหันหน้าเข้าหาเขา ริมฝีปากของอคิณทาบทับลงมา พราวตะวันตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเร่าร้อน มือของเธอประสานเข้าไปในกลุ่มผมด้านหลังของอคิณก่อนจะดึงทิ้งอย่างแผ่วเบาเพื่อเพิ่มความเร่าร้อนให้กับการจูบ มือของอคิณก็เลื่อนลงมาโอบเอวของพราวตะวันไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นไปตามแผ่นหลัง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความต้องการของกันและกัน ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มติดขัดเมื่ออคิณค่อยๆ ถอดเสื้อของพราวตะวันออกจนเปลือยเปล่า อ้อมกอดที่อบอุ่นค่อยๆ เคลื่อนมาโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ อุ้มเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ พราวตะวันโอบแขนรอบคอขอ