ตอนที่ 6 เงาของความเจ้าชู้
สายลมยามบ่ายพัดโชยเข้ามาในสวนหย่อมของคฤหาสน์วรวิชญ์ พราวตะวันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างสงบ เธอเริ่มรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศที่นี่มากขึ้นเล็กน้อย
หลังจากหลายวันที่ผ่านมาเธอเผลอสังเกตเห็นความเอาใจใส่เล็ก ๆ น้อย ๆ ของอคิณที่ทำให้ใจเธอสั่นคลอนไปบ้างแต่แล้วความสงบนั้นก็พลันสลายไปเมื่อเสียงหัวเราะครึกครื้นของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ
อคินัยน้องชายของอคิณเดินเข้ามาในสวนพร้อมกับแม่บ้านสาวสองสามคน เขากำลังหยอกล้อและพูดคุยอย่างสนุกสนานกับพวกเธอ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับอยู่เสมอ ท่าทางติดเล่นและเป็นกันเองกับสาว ๆ ของอคินัยสะดุดตาพราวตะวันเข้าอย่างจัง
“น้องพราวสวัสดีครับ” อคินัยทักทายเธอด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปขยิบตาให้แม่บ้านสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินถือถาดน้ำส้มผ่านมา
“ดื่มน้ำส้มไหมครับคนสวย” พราวตะวันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองในใจ นี่แหละคือสิ่งที่เธอเคยได้ยินมา ครอบครัววรวิชญ์เป็นพวกเจ้าชู้ อคิณเองก็คงไม่ต่างจากน้องชายของเขา แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะทำตัวดีกับเธอแค่ไหน แต่มันก็คงเป็นแค่การเสแสร้ง
“พี่พราวคะ วันนี้ฟ้าเอาขนมมาฝากค่ะ” เสียงสดใสของพราวฟ้าน้องสาวของพราวตะวันดังขึ้น พราวฟ้าที่พักอาศัยอยู่หอพักไม่ไกลจากบ้านของพราวตะวันกับอคิณ เดินเข้ามาในสวนด้วยรอยยิ้มกว้างอคินัยหันไปยิ้มให้พราวฟ้าทันทีแววตาแพรวพราวอย่างเห็นได้ชัด
“พราวฟ้าคนสวย” อคินัยกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับให้พี่ชายคนนี้ไปรับไปส่งที่มหาวิทยาลัยดีไหม” พราวฟ้าหัวเราะคิกคัก
“ไม่เป็นไรค่ะคุณอคินัยพราวไปเองได้ค่ะ” ภาพตรงหน้าตอกย้ำความเชื่อของพราวตะวัน ความเจ้าชู้ของตระกูลนี้มันฝังลึกอยู่ในสายเลือด น้องชายเจ้าชู้ขนาดนี้ แล้วพี่ชายอย่างอคิณจะไปเหลืออะไรความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจต่ออคิณพลันสลายไปสิ้น อคติที่เคยถูกสั่นคลอนกลับแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง
ในบ่ายวันต่อมาขณะที่พราวตะวันกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องรับแขก เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น แม่บ้านเดินไปเปิดประตูและครู่เดียว นิชาหญิงสาวสวยสง่า บุคลิกดี ก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีเป็นกันเองราวกับเป็นเจ้าของบ้าน เธอสวมชุดเดรสแบรนด์เนมราคาแพงและแต่งหน้าจัดเต็ม
“อ้าว มีแขกเหรอคะ” นิชาทักทายด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย แต่แววตาเหลือบมองพราวตะวันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ประเมินและแฝงความไม่พอใจ
“ตายจริง นี่คุณพราวใช่ไหมคะ ไม่ยักรู้ว่าวันนี้คุณจะอยู่บ้าน” พราวตะวันรู้สึกไม่ชอบหน้าผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ท่าทางที่ดูคุ้นเคยกับบ้านนี้มากเกินไปทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ
“สวัสดีค่ะ” พราวตะวันตอบเสียงเรียบ
“ฉันนิชาค่ะ เป็นเพื่อนเก่าของอคิณ เราสนิทกันมากเลยล่ะ” นิชากล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานหยดย้อย แต่ดวงตาของเธอกลับฉายแววท้าทาย เธอเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับพราวตะวันอย่างสบาย ๆ
“ไม่ยักรู้ว่าอคิณแต่งงานแล้ว นี่ฉันเพิ่งรู้ข่าวเองค่ะ เสียดายจัง ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ คงจะมาค้านงานแต่งไปแล้ว” คำพูดของนิชาทำให้พราวตะวันขมวดคิ้วแน่น ท่าทีสนิทสนมและคำพูดที่พยายามจะสื่อความหมายทำให้พราวตะวันเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
นิชาเริ่มเข้ามาเยี่ยมเยียนคฤหาสน์วรวิชญ์บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เธออ้างว่ามาหาอคิณเพื่อพูดคุยเรื่องงานหรือเรื่องเก่า ๆ สมัยเรียน แต่ทุกครั้งที่เธอมา เธอจะพยายามสร้างสถานการณ์ให้พราวตะวันเข้าใจผิด
วันหนึ่งขณะที่อคิณกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือ นิชาก็เดินเข้ามาพร้อมกาแฟร้อนในมือ เธอยืนพิงขอบประตูห้องมองอคิณด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม
“อคิณคะ กาแฟค่ะ” นิชาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“พักบ้างนะคะ เห็นทำงานหนักแล้วนิชาเป็นห่วง” พราวตะวันที่บังเอิญเดินผ่านมาเห็นภาพนั้นพอดี ภาพนิชาที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกับอคิณ สายตาที่ส่งให้กัน ราวกับกำลังจะสื่อความหมายบางอย่าง เธอได้ยินคำว่า "เป็นห่วง" ชัดเจน
“อ้าว คุณพราว” นิชาแสร้งทำเป็นตกใจเมื่อเห็นพราวตะวันยืนอยู่
“ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนนะคะ พอดีนิชาเอาเอกสารมาให้อคิณเรื่องโครงการใหม่น่ะค่ะ” อคิณเงยหน้าขึ้นมองพราวตะวันด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้อธิบายอะไรแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธท่าทีสนิทสนมของนิชา ซึ่งนั่นยิ่งทำให้พราวตะวันรู้สึกโกรธและอคติเพิ่มขึ้นไปอีก "เห็นไหม เขาเป็นเสือผู้หญิงจริง ๆ" เสียงในใจของพราวตะวันตะโกนก้อง
นิชาไม่หยุดแค่นั้น เธอมักจะใช้โอกาสที่พราวตะวันอยู่ใกล้ ๆ เพื่อพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่เธอเคยคบกับอคิณ โดยจงใจพูดให้ดูเกินจริงและคลุมเครือ
“อคิณคะ จำได้ไหมคะตอนที่เราไปเที่ยวอิตาลีด้วยกัน ทะเลสาบโคโม่สวยมากเลยนะคะ” นิชาพูดขึ้นในระหว่างทานอาหารค่ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นิชาถูกเชิญมาร่วมโต๊ะอาหารพร้อมกับอคิณและพราวตะวัน พราวตะวันมองหน้าอคิณ เขาไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่จิบไวน์อย่างเงียบ ๆ ความเงียบของเขาถูกตีความไปในทางที่แย่ที่สุดในสมองของพราวตะวัน
“อคิณเขานี่แหละค่ะ เป็นคนโรแมนติกมากเลยนะคะ” นิชาพูดพลางหัวเราะคิกคัก
“ตอนนั้นเขาซื้อสร้อยคอรูปดาวให้ฉันด้วยค่ะ บอกว่าเป็นดาวนำโชคของเราสองคน” พราวตะวันกำมีดในมือแน่น เธอรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว คำพูดของนิชา ภาพที่เธอเห็นอคินัยหยอกล้อสาว ๆ รวมถึงนิตยสารซุบซิบดาราที่เธออ่าน ยิ่งทำให้เธอปักใจเชื่อว่า อคิณคือเสือผู้หญิงตัวจริงเสียงจริง เขาพยายามทำดีกับเธอเพียงเพื่อจะหลอกลวงให้เธอรัก แล้วก็ทิ้งขว้างไปเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ
อคติและความรังเกียจที่พราวตะวันมีต่ออคิณกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม แผนการ "ทำให้เกลียด" ที่เธอเคยตั้งใจจะทำ ดูเหมือนไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะสิ่งที่เธอเห็นและได้ยินตอนนี้ มันตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เธอจะต้องหาทางหย่ากับเขาให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม
ตอนที่ 50 แผนร้ายแต่ก็ยังรักในเวลาเดียวกัน อคิณกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เขาได้รับข้อความจากฟิล์มที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย อคิณรู้สึกสงสัยแต่ก็ตัดสินใจที่จะมาพบฟิล์มเพียงลำพังเพื่อที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมด ฟิล์มปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและดูเหนื่อยล้า“ผมต้องขอโทษด้วยที่โทรหาคุณในเวลาแบบนี้” ฟิล์มพูด “แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”อคิณวางแก้วกาแฟลงแล้วมองฟิล์มอย่างสงสัย “ว่ามาเลย”“พราวตะวัน... เธอยังติดต่อกับผมอยู่” ฟิล์มบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลังเล “เราไม่ได้เลิกกันจริงๆ เราแค่แกล้งทำเป็นเลิกกันเพื่อให้คุณตายใจ”อคิณมองฟิล์มด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงแค่เรื่องตลก “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่พราวตะวันกับฉันยังคบกันอยู่ไง” ฟิล์มพูด “เธอแค่ต้องการจะแก้แค้นคุณที่ทิ้งเธอไป แล้วเธอก็ใช้ฉันเป็นเครื่องมือ”อคิณหัวเราะในลำคอ “คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหรอ”“แต่ผมพูดความจริง!” ฟิล์มตะโกน “คุณต้องเชื่อผม”อคิณส่ายหน้า “ผมเชื่อในตัวพราว” อคิณบอก“และผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะยอมมาเจอผมเพียงลำพังเพื่อพูดเรื่องแบบนี้”ฟิล์ม
ตอนที่50แผนร้ายแต่ยังรัก เสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้นในยามเย็น พราวตะวันมองไปที่หน้าจออินเตอร์คอมแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นณิชายืนอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง พราวตะวันเปิดประตูบ้านให้พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“มีอะไรหรือเปล่าคะณิชา”ณิชาไม่ตอบ เธอเดินเข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เกินจริง“ฉันรู้ว่าอคิณไม่อยู่ และฉันก็มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”พราวตะวันถอนหายใจ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ ฉันขอให้คุณกลับไปเถอะค่ะ”“เรื่องของอคิณไงล่ะ” ณิชาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ “เธอคิดว่าเธอชนะแล้วเหรอพราวตะวัน”พราวตะวันมองณิชาด้วยสายตาที่สงสาร “ฉันไม่เคยคิดจะเอาชนะใครค่ะ และฉันก็ไม่ได้อยากแข่งกับคุณด้วย”“แต่ฉันอยากแข่ง!” ณิชาตะคอก“ฉันอยากจะบอกเธอว่าสิ่งที่เธอได้มามันคือความหลอกลวง!” ณิชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเสียงให้พราวตะวันฟัง เป็นเสียงของฟิล์มที่พูดว่า“ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดให้อคิณรู้ว่าเราแค่เล่นละครตบตาเขา”พราวตะวันอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของฟิล์ม แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาและรู้ทันทีว่านี่คือแผนการของณิชาที่จะทำลายความสัมพันธ์ของเธอก
ตอนที่ 49เลขาคนใหม่อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบกับอคินัย น้องชายของเขาที่ยืนอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางที่ดูจริงจังผิดปกติ อคินัยไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดกับอคิณทันที “พี่คินน์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา” อคิณพยักหน้าให้เขา แล้วทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปมองพราวตะวัน“เดี๋ยวผมขอคุยกับน้องชายก่อนนะครับ” พราวตะวันยิ้มให้ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องทำงาน แต่เมื่อเธอจะเดินออกไปเธอก็พบกับ พราวฟ้าที่ยืนอยู่หน้าห้องพอดี“พี่พราว ฟ้าคิดถึงก็เลยมาหาค่ะ ได้ยินว่าพี่มาทำงานวันแรกก็เลยซื้อผลไม้มาฝากค่ะ”พราวตะวันรับถึงผลไม้มาแล้วยิ้ม “ขอบใจนะ เดี๋ยวเราไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ พอดีพี่คินน์มีเรื่องต้องคุยกับอคินัย”พราวฟ้าพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เดินไปนั่งที่โซนร้านอาหารของโรงพยาบาลในห้องทำงาน อคินัยเริ่มพูดกับอคิณด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เลขาคนเก่าของผมลาออกกะทันหัน ผมอยากให้พี่ช่วยหาเลขาคนใหม่ให้หน่อย” “ถ้าพี่หาให้ได้ พี่จะได้อะไรเหรอ” อคิณถามอย่างยิ้มๆ อคินัยเลิกคิ้ว “แล้วพี่อยากได้อะไรล่ะครับ” “ฉันมีคนในใจแล้ว” อคิณตอบก่อนจะหันไ
ตอนที่48ข่าวลือที่ไม่อาจสั่นคลอนวันจันทร์ที่สดใส พราวตะวันเดินทางมายังโรงพยาบาลของอคิณด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เธอสวมชุดทำงานที่ดูทะมัดทะแมงและมั่นใจในตัวเอง อคิณเดินมารอรับเธอที่หน้าลิฟต์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“พร้อมไหมครับคุณผู้ช่วย” เขาถามอย่างล้อเล่นพราวตะวันยิ้มตอบ “พร้อมแล้วค่ะ”เมื่อลิฟต์เปิดออก พราวตะวันก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพนักงานจำนวนมากกำลังยืนรอต้อนรับเธออยู่ อคิณหันไปแนะนำพราวตะวันกับทุกคน“นี่คือพราวตะวัน ภรรยาของผม และเธอกำลังจะมาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของผมครับ”พนักงานต่างปรบมือแสดงความยินดี แต่พราวตะวันก็สังเกตเห็นสายตาบางคู่ที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรและมีการกระซิบกระซาบกันเบาๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักอคิณพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของงานให้เธอฟัง พราวตะวันตั้งใจฟังทุกคำพูดของอคิณ แต่ในใจของเธอก็ยังคงกังวลกับสายตาแปลกๆ ของพนักงานเหล่านั้นในระหว่างที่พักเที่ยง พราวตะวันตัดสินใจเดินไปที่โซนพักผ่อนเพื่อหาอะไรดื่ม แต่แล้วเธอก็ได้ยินพนักงานกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันถึงข่าวลือที่กำลังแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย“ได้ยิน
ตอนที่47ไม่รับสาย หลังจากใช้เวลที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข อคิณและพราวตะวันก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในตัวเมือง บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความรัก ของทั้งสองที่ยิ่งได้อยู่ด้วยกันก็ยิ่งรักกันมากขึ้น พราวตะวันเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะรักอคิณได้เพราะวันแรกเธอแทบไม่อยากจะอยู่ใกล้เขาเสียด้วยซ้ำ อคิณขับรถด้วยรอยยิ้ม ขณะที่พราวตะวันเอนศีรษะซบลงที่ไหล่ของเขาอย่างผ่อนคลาย “คุณมีความสุขไหมครับ” อคิณเอ่ยถามเบาๆ พราวตะวันพยักหน้า “ที่สุดเลยค่ะ” เธอตอบ “พราวไม่คิดเลนว่าการได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีความสุขได้มากขนาดนี้” อคิณยิ้ม “ผมจะทำให้ทุกๆ วันของเราเป็นวันที่มีความสุขแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ” เขาบอกพลางยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนน จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอคือฟิล์ม อคิณหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อนี้ “ใครโทรมาหาเหรอพราว” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่สบายใจ เขารู้ว่าเป็นใครแต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้น พรา
ตอนที่46เร่าร้อนที่บ้านสวน หลังจากงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความสุขจบลง อคิณและพราวตะวันก็เดินกลับเข้ามาในบ้านสวนที่เงียบสงบยามค่ำคืน บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากความครื้นเครงมาเป็นความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน อคิณดึงพราวตะวันเข้ามากอดจากด้านหลังแน่นขึ้นขณะที่เดินผ่านห้องโถง “ผมรักคุณนะพราว” เสียงกระซิบแหบพร่าเบาๆ ที่ข้างหูทำให้พราวตะวันรู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นที่วิ่งไปทั่วร่าง “ฉันก็รักคุณค่ะคินน์” เธอกระซิบตอบกลับพร้อมกับหันหน้าเข้าหาเขา ริมฝีปากของอคิณทาบทับลงมา พราวตะวันตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเร่าร้อน มือของเธอประสานเข้าไปในกลุ่มผมด้านหลังของอคิณก่อนจะดึงทิ้งอย่างแผ่วเบาเพื่อเพิ่มความเร่าร้อนให้กับการจูบ มือของอคิณก็เลื่อนลงมาโอบเอวของพราวตะวันไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นไปตามแผ่นหลัง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความต้องการของกันและกัน ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มติดขัดเมื่ออคิณค่อยๆ ถอดเสื้อของพราวตะวันออกจนเปลือยเปล่า อ้อมกอดที่อบอุ่นค่อยๆ เคลื่อนมาโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ อุ้มเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ พราวตะวันโอบแขนรอบคอขอ