แพรดาวกวาดตามองให้ห้องแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ เธอมาทำความสะอาดที่นี่หลายครั้ง แต่เจ้าของบ้านมักเก็บทุกอย่างค่อนข้างเป็นระเบียบ ทำให้การทำงานของเธอง่ายและกินแรงน้อยมาก แต่วันนี้ห้องของเขา...อย่างกับถูกรื้อค้น
หรือว่า...
จะมีโจรขึ้นบ้าน!
ใบหน้าสวยขาวซีดไร้สีเลือด พยายามตั้งสติแล้วล้วงมือหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าผ้าที่คล้องไหล่ แต่ความตื่นกลัวของเธอทำให้มือไม้สั่นควานหาโทรศัพท์ไม่ถือ
“บ้าจริง อยู่ไหน หรือลืมเอามาจากบ้านด้วย”
แม่บ้านสาวเริ่มร้อนรน ทันใดนั้นเธอรู้สึกถึงได้ไอร้อนจากด้านหลัง เมื่อเอี้ยวใบหน้ามองพลันเห็นใบหน้าของชายผู้หนึ่ง รอยยิ้มเพิ่งจุดขึ้นที่มุมปากทว่าฝ่ามือของเขากลับยกมือขึ้นปิดครึ่งปากครึ่งจมูกของเธอ
“เธอเป็นใคร!”
“อื้อ!” หญิงสาวเบิกตาโต เธอยอมรู้จักชายคนนี้แต่เขากลับทำเหมือนไม่เคยเห็นเธอมาก่อน ความกลัวทำให้ร่างเล็กดิ้นรนขัดขืน และทำให้วงแขนนั้นโอบรัดเธอแน่นขึ้น ร่างอ่อนนุ่มในชุดแม่บ้านไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว เขาพร้อมจะบิดคอเธอให้หักคามือ แต่ก็ค่อยๆ คลายออกเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มไร้แรงต่อต้าน เมื่อเขาปล่อยมือออกร่างของเธอก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้น หญิงสาวสูดลมหายใจลึกก่อนไอโขลกๆออกมาทั้งน้ำตานองหน้า
“คุณ...คุณหัสดิน..”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วแต่ปรายตามองไร้ความสงสารเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้น
“ใครส่งเธอมา”
“บริษัททำความสะอาดส่งมาค่ะ” แพรดาวยกมือขึ้นลูบอกตัวเองเป็นเชิงปลอบโยน เมื่อครู่เธอคิดว่าเขาจะบีบคอเธอให้ตายแล้ว “ดิฉันเป็นแม่บ้านมาทำความสะอาด คุณหัสดินโทรไปเช็กก็ได้ค่ะ ครั้งก่อนคุณก็โทรไปเช็กแล้วนี่คะ”
“ครั้งก่อน?”
‘เราเคยเจอกันแล้วเหรอ’
ชายหนุ่มเก็บถ้อยคำของตัวเองแล้วกวาดตามองหญิงสาวอีกครั้ง ก็คงจริง ถ้าไม่เคยเจอกันมาก่อนผู้หญิงคนนี้คงไม่เรียกเขาว่าหัสดินหรอก
โดยปกติ ‘ดิน’ จะไม่มีความทรงจำของ ‘ดาร์ก’ เช่นเดียวกับที่ ‘ดาร์ก’ ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับ ‘ดิน’ แต่บางเรื่องราวของดินส่งผลกระทบต่อดาร์ก บางสถานการณ์ที่กดดันหรือโกรธแค้นจนทำให้ดาร์กรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นได้ เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างรู้เรื่องราวของกันและกัน ดินมักจะเขียนบันทึกลงในสมุดไดอารี่ ส่วนดาร์กจะอัดเสียงตนเองด้วยเครื่องบันทึกเสียง ทั้งสองไม่ชอบอัดคลิป วิธีที่เลือกใช้ถือว่าสะดวกใจทั้งสองฝ่าย
“ถ้าคุณไม่สะดวก ดิฉันมาวันหลังก็ได้ค่ะ” แพรดาวถามหลังตั้งสติได้ เธอยันกายลุกขึ้นยืนแต่มือยังจับลำคอของตนอยู่ พูดตามตรงเธออยากวิ่งออกไปในทันที แต่ก็เกรงว่าเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นโจรมาขโมยของในบ้านเขา
“ไม่ต้อง” ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำโบกมือไปมา “มีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป”
“เอ่อ...”
‘แต่ฉันไม่อยากทำแล้วนี่!’
“ทำไม? หรือเจ้าของห้องอยู่เลยหยิบฉวยอะไรไม่สะดวก”
“คุณ!” แพรดาวขึงตาใส่แต่อีกฝ่ายกลับจ้องเขม็ง ความกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น กลายเป็นความโกรธที่โดนดูถูก หญิงสาวพยายามข่มความโกรธที่อยู่ภายใน แม่ของเธอคงเจอเรื่องพวกนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ช่างเถอะ! เขาก็แค่ลูกค้า
แต่ทำไม...ไม่เหมือนกับที่เจอกันครั้งก่อน
ต่างกันอย่างมากเหลือเกิน
ดาร์กรับรู้ถึงสายตาที่ลอบมองมาทางเขา ชายหนุ่มขยับตัวให้เธอมองเต็มตา “อยากดูอะไรอีกไหม”
“เปล่าคะ” แม่บ้านส่ายหน้ารัวๆ “ถ้าอย่างนั้น ฉัน เอ่อ ดิฉันเริ่มทำงานเลยนะคะ”
“อืม” ดาร์กพยักหน้ารับ “เธอชื่ออะไรนะ”
“แพรดาวค่ะ แต่แพรมาทำงานแทนแม่จ๋าค่ะ คุณสามารถโทรเช็กที่บริษัทได้ค่ะ” เธอเห็นเขาหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาก็ไม่ได้ใส่ใจอีก ‘มีหน้าที่อะไรก็ทำไป’ หญิงสาวบอกกับตัวเองแล้วเดินเลี่ยงเจ้าของร่างสูงไปยังส่วนที่เป็นครัวขนาดเล็ก เธอลงมือเก็บจานชามที่กองในซิงค์ล้างจาน เพียงไม่กี่นาทีเธอก็ไม่ได้สนใจการมีตัวตนของผู้ชายคนนั้น
เขาไม่ได้โทรไปเช็กกับบริษัททำความสะอาด แค่หยิบมาดูเวลา แต่การเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นดึงดูดสายตาของเขา รูปร่างเธอผอมบางและสูงน่าจะประมาณ 160 เซนติเมตร แต่การทำงานคล่องแคล่วนั้นทำให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้โกหก
“อายุเท่าไหร่”
“คะ?” แพรดาวสะดุ้งแล้วหันไปตามเสียงด้านหลัง “คุณถามว่าอะไรนะคะ”
“ผมถามว่าคุณอายุเท่าไหร่” เขาทำหน้ายุ่งเล็กน้อยที่ต้องถามซ้ำ หรือผู้หญิงคนนี้สติไม่ค่อยดีนะ
“ยี่สิบสองค่ะ” ตอบแล้วก็ทำงานของตนเอง “คุณจะเข้าห้องน้ำก่อนไหมคะ ฉันจะไปทำความสะอาดห้องน้ำ”
“ไม่ล่ะ จะดูว่าเธอหยิบอะไรไปจากห้องนี้หรือเปล่า”
หญิงสาวหันมาจ้องมองเขาอย่างเหลืออด “ครั้งก่อนคุณให้ฉันทำไข่พะโล้ให้กิน ไม่เห็นคุณจ้องจับผิดขนาดนี้”
“ห๊ะ! ทำอะไรให้กินนะ”
“ไข่พะโล้ไงคะ คุณให้แบงค์พันฉันมาแล้วไม่เอาเงินทอนด้วย” แพรวดาวไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขาทำเป็นจำเธอไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องทำเหมือนเธอเป็นขโมยด้วย “ถ้าฉันจะเอาขโมยของๆคุณ ฉันจะทอนเงินให้คุณไปเพื่ออะไร”
“ไข่พะโล้ เมนูโรงอาหารแบบนั้นต้องเสียเงินตั้งพันหนึ่งเลยเหรอ”
“คุณเป็นคนสั่งเองนะคะ แล้วยังกินทอดมันปลากรายของฉันด้วย”
ดาร์กทำหน้าหงุดหงิด เป็นความอยากอาหารของดินแน่ๆ เขาไม่ชอบเมนูกับข้าวโรงอาหารพวกนั้นเลยสักนิด แค่คิดก็อยากจะขย้อยออกมาแล้ว
แพรดาวพยายามเก็บสีหน้าแต่แววตาเธอฉายความไม่พอใจเต็มเปี่ยม
“แย่ล่ะ ต้องเข้าร้านตอนบ่ายนี่นะ” ดาร์กบ่นกับตัวเอง เมื่อคืนกลับจากซีเคร็ท คลับ ก็เกือบตีสี่ กลับมาจัดการงานที่ต้องทำก่อนที่ ‘ดิน’ จะใช่ร่างนี้ กลายเป็นว่านี่เกือบ10โมงเช้าแล้วแต่ร่างกายนี้ยังไม่ได้พักผ่อนเลย
“ผมจะไปนอนสักงีบ คุณไม่ต้องทำความสะอาดห้องนอนผม”
“ค่ะ”
แพรดาวโล่งใจที่เห็นเขาเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ผู้ชายคนนี้แปลกและประหลาดจริงๆ หรือว่าจะเป็นฝาแฝดกันนะ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา ไม่เอาน่า เรื่องของลูกค้าไม่เกี่ยวอะไรกับเธอสักนิด เธอก็แค่แม่บ้านทำความสะอาดเท่านั้น
เรื่องอื่น ไม่เกี่ยวกับเธอ จำไว้สิ ผลจากการใส่ใจเรื่องคนอื่น มันเจ็บปวดขนาดไหน
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ” ชายหนุ่มเอนตัวไปด้านหน้ากอดพวงมาลัยรถหลวมๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “พักที่นี่สินะ คอนโดหรูเชียว นี่ถ้าไม่รู้ว่าแบ็คของเธอเป็นใคร คงนึกว่ามีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ” “แบ็คคืออะไรคะ” เธอเอียงคอถามเขา “คนที่หนุนหลังเธอไง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คนที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเธอ” “อ้อ...จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูก...แต่...” เรื่องนี้ไม่อนุญาตให้พูดกับคนอื่น เธอก็เลยอ้ำอึ้งไม่รู้จะอธิบายยังไง “เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” เขาโบกมือไปมา “ไปนอนเถอะ” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวยกมือไหว้แล้วลงจากรถ ถ้าคืนนี้ไม่มีเขาช่วยต้องแย่แน่ๆ “นี่!” “คะ” หญิงสาวหันกลับมามอง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านทำให้ผมยาวปลิวไหวเล็กน้อยจนเธอต้องยกมือขึ้นจับปลายผม “เธอบอกว่ามีคนหน้าเหมือนผม” “อ้อ! ใช้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ “แต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย” “งั้นที่เธอละเมอก็คือเรียกชื่อคนๆนั้นสินะ” เพราะอยู่ในแสงสลัวจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ใบหน้
ราวกับความฝัน แพรดาวลืมตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอนอนมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่จนมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน แต่เกิดลังเลว่าคนที่เธอมองเห็นตรงหน้านี้เป็นใคร ‘พี่ดิน’ หรือ ‘มิสเตอร์ดาร์ก’ ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว คนที่แกล้งหลับอยู่นานก็ทนไม่ไหว ยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากฉกจูบอย่างรวดเร็ว เสียงร้องอุทานถูกดูดกลืนไปหมดสิ้น กลายเป็นเสียงอู้อี้ครางในลำคอ ดวงตาที่เมื่อครู่ยังปิดอยู่นั้นลืมตาจ้องมองขณะที่เรียวลิ้นร้อนแทรกในโพรงปากสาว ดวงตาร้อนแรงทำให้แพรดาวดันแผ่นอกเขาออก ทว่าอีกฝ่ายกลับโอบรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นขึ้น ราวกับรู้ว่าหญิงสาวจูบไม่เป็นและไม่เคยถูกจูบมาก่อน เธอเหมือนจะเป็นลมเพราะหายใจไม่ออก เขาจึงยอมผละจากริมฝีปากหวาน “พี่...พี่ดิน” ชายหนุ่มชะงักไปทันที เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างหอมกรุ่นที่โอบกอดตลอดคืน “เมื่อกี้...เรียกว่าอะไรนะ” “เอ่อ...” แพรดาวทำตาปริบๆ เธอก็ไม่รู้ทำไมเมื่อครู่คิดว่าเขาคือ ‘พี่ดิน’ ทั้งที่ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องทำงานมิสเตอร์ดาร์ก เพราะไม่ได้ยินคำตอบที่พอใจ เขาโน้มหน้าลงกดหน้
แพรดาวขมวดคิ้ว มือเรียวกระชับสาบเสื้อจนมั่นใจแล้วค่อยๆ เดินออกมา เธอเพิ่งเห็นว่าโซฟาในห้องของเขาถูกปรับเป็นเตียงนอนได้ด้วย และมันก็มีหมอนวางอยู่ “เสื้อผ้าเปียกเอาใส่ถุงซักผ้าแล้วไปวางหน้าห้อง” เขาสั่งโดยไม่มอง แม้ปากบ่นว่าขนมไม่อร่อยแต่ก็กินจนแก้มตุ้ย “ค่ะ” แพรดาวเอาเสื้อผ้าเปียกของตัวเองใส่ถุงพลาสติกสำหรับรอซัก และมองหาเสื้อผ้าของเขา ชายหนุ่มเห็นเธอมองไปมองมาก็เอ่ยปากถาม “หาอะไร” “สะ..เสื้อ...เสื้อของมิสเตอร์ล่ะคะ” “ฉันไม่เคยซัก มีแต่ทิ้ง” เขาพูดแล้วปัดมือไปมา แล้วกวาดตามองหญิงสาว เพราะผมเธอเปียกแต่ก็ยังมองออกว่าเธอตัดผมสั้นกว่าเดิมไปเล็กน้อย แพรดาวเขินอายที่ถูกจ้องมองจึงก้าวเร็วๆ เอาถุงเสื้อไปวางที่หน้าประตูแล้วเดินกลับเข้ามา “ห้องนี้ไม่มีผ้าห่ม” เขาพูดห้วนๆ แล้วชี้ไปที่เตียง “ไปนอน” “คะ?” “จะกลับบ้านสภาพนี้เหรอ” แพรดาวส่ายหน้าไปมาแล้วไปนั่งบนเตียง เธอไม่รู้จะทำอะไรก็เอาหยิบหมอนมาวางบนตัก “ให้นอนไม่ใช่ให้นั่ง” โดนดุอีกครั้งทำเอาหญิงสาวสะด
เขาอยู่ในด้านมืดแต่ไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่า เขาสั่งให้ลูกน้องจัดการคนนั้นแล้วหันมาสนใจหญิงสาวที่อยู่ในรถ "อวดเก่ง" แพรดาวได้ยินเสียงคุ้นเคยจึงปรือตาขึ้นมอง เธอครางเสียงแผ่วขอความช่วยเหลือ "ร้อน ทรมาน"มิสเตอร์เลิกคิ้วแล้วยื่นมือไปแตะเนื้อตัวผ่าวร้อนของเธอ "ไอ้ระยำ!" ไม่รู้ว่าเขาด่าใคร แต่เวลานี้ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และยังรู้สึกแปลกประหลาดไปหมด สัมผัสได้เพียงความแข็งแกร่งที่โอบอุ้มเธอ มือเรียวเล็กยื่นไปคล้องคอเขาไว้ แล้วขยับหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างหาความปลอดภัย "จัดการมัน""ครับเจ้านาย"ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ไปยุ่งกับผู้หญิงของมิสเตอร์ดาร์ก "อดทนหน่อย" น้ำเสียงแข็งกระด้างแต่แฝงความห่วงใยทำให้แพรดาวรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนนี้มิสเตอร์ดาร์กอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกมาทางส่วนตัวกลับมาที่ห้องทำงาน เขาวางเธอบนเก้าอี้แต่หญิงสาวยังไม่ยอมปล่อยมือที่คล้องคอเขาอยู่"รู้ตัวไหมว่าเธอโดนวางยา""ไม่..ไม่รู้ค่ะ""เหอะ! ทำงานร้านเหล้าแต่ไม่รู้จักระวังตัว" เขาบ่นแล้วแกะมือออก "ทรมานจัง" เสียงครางหวานปลุกเร้าชายหนุ่มให้แทบคลุ้มคลั่ง แต่เขาต้องกัดฟันข่มใจเดินไปหยิบน้ำเย็นมาให้เธอดื่ม
คงเพราะต่างรู้ว่ามิสเตอร์ดาร์กโหดขนาดไหน ต่อให้ห้องทำงานไม่ได้ล็อกก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปเฉียดใกล้แพรดาวเดินมาตามทางที่คุ้นเคย เธอเปิดประตูเข้าไปแล้วเอาขนมไปวางบนโต๊ะทำงาน หญิงสาวลลังเลอยู่คู่หนึ่งหันซ้ายหันขวาหยิบกระดาษโน๊ตบนโต๊ะเขียนข้อความสั้นๆวางไว้ให้เขา‘ขนมค่ะแทนคำขอบคุณอร่อยมากๆเลยกินกับกาแฟได้เลยนะคะ’แพรดาวดวงตากลมกวาดตามองในห้อง เธอคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกภาพความทรงจำต่างๆ ก็ผุดขึ้นมา หน้านิ่งๆดุๆ แต่ก็ยอมให้เธอปล่อยโฮโดยไม่ขับไล่ไปไหน หรือตอนที่เขาสั่งให้เธอนั่งรอที่นี้จนผล็อยหลับไป รอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คนๆนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวแบบที่คนอื่นหวาดกลัวนักหรอก เธอหันซ้ายหันขวาแล้วเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่มุมห้อง มือเรียวหยิบถุงขนมชูขึ้นแล้วพูดว่า“หวังว่าจะชอบขนมนะคะ” มือเรียววางกระดาษบนโต๊ะแล้วเอาถุงขนมทับอีกที มองดูจนมั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่เขามองเห็นแล้วเดินออกมาใจจริงแพรดาวอยากกลับที่พักมากกว่า แต่เกรซโทรเข้ามาพอดี สมองกำลังคิดหาทางหลบเลี่ยงแต่จู่ๆ ก็มีคนมาคล้องแขนเธอ“ว้าว! แพรดาวนิวลุค!เกือบจำไม่ได้เลยนะเนี้ย” เกรซทำตาโตแล้วจับไหล่เพื่อนสาวหมุนตัวไปมา
หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีน้ำเงินเข้มแบบเรียบง่ายแต่ตัดเย็บประณีตเพราะเป็นแบรนด์หรู แพรดาวรู้สึกขัดเขินเล็กน้อยเพราะไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ ปกติเสื้อผ้ามือสองคล้องกระเป๋าผ้า ตอนนี้ถูกคทาภัทรกับคุณนิตยาจับแปลงโฉมเสียใหม่ ทั้งทรงผมที่เคยปล่อยยาวแล้วมัดรวบง่ายๆ ก็ถูกตัดแต่งเป็นทรงสมัย และเพราะเธอยังไม่คุ้นจึงให้เล็มผมออกแต่มันตัดแล้วก็ดูเหมือนดาราเกาหลีเลยทีเดียว “ลูกแม่น่ารักจริงๆ น่าจะได้เจอกันเร็วกว่านี้” คุณนิตยาพูดแล้วก็น้ำตาซึม ยิ่งเห็นว่ารู้สึกผ่ายผอมขนาดไหนและต้องทำงานส่งตัวเองเรียนอีกก็ยิ่งรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น “ได้เจอกันก็ดีแล้วค่ะ” แพรดาวไม่เคยคิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้แต่ลึกๆ เธอก็ยังหวาดกลัวว่าความโชคดีนี้จะไม่ยืนยาว บางครั้งก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันจนกลัวที่จะตื่นหลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จแล้วคุณนิตยาก็ให้คนขับรถมาส่งที่คอนโด ส่วนคทาภัทรแยกไปทำงานก่อนแล้ว“เอาไว้แม่จะมารับไปกินข้าวอีกนะ”“คราวหน้าน้องแพรทำกับข้าวให้แม่นิตยากินนะคะ”“หนูชอบทำอาหารเหรอ”“ค่ะ”“ดีเลย แม่ก็ชอบ แต่ไม่ได้เข้าครัวนานแล้ว พ่อลูกงานยุ่งแม่ก็ไม่รู้จะทำกับข