ตอนที่ 12
สิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง
เย็นนั้นหลงจิวซิ่งกลับมาถึงจวนก็ตรงไปที่เรือนฮูหยินทันทีด้วยท่าทีรีบร้อน ก่อนจะถามหาเครื่องประดับที่นางเลือกมาด้วยน้ำเสียงกริ้วโกรธราวกับนางไปตบหน้ามารดาเขาไว้อย่างไรอย่างนั้น
“ชุดเครื่องประดับที่ฮูหยินเลือกมาจากคลังตอนนี้อยู่ที่ใด!!” เขาเอ่ยถาม แต่นางกลับค่อย ๆ วางพู่กันในมือลงอย่างไม่รีบร้อน
“ข้าส่งให้หอประมูลไปแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้คงประมูลกันเสร็จแล้วพรุ่งนี้พวกเขาคงเอาตั๋วเงินมาให้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือเจ้าคะ” นางแสร้งเอ่ยถามราวกับไม่เห็นท่าทีโกรธขึงของเขา
คำพูดบวกกับท่าทีของนางทำให้เขาสติขาดผึงทันที ก่อนจะตรงเข้าไปบีบคอนางอย่างแรงจนนางหายใจแทบไม่ออก
ไป๋ลู่ที่เห็นเช่นนั้นจึงคิดจะเข้าไปห้าม แต่ถูกคนของเขาจับลากโยนออกนอกห้องเสียก่อน
โจวเยี่ยนเหยียนหาได้กลัวเขาไม่ นางไม่ดิ้นหรือขัดขืนแต่อย่างใด กลับกันนางทำเพียงดึงปิ่นบนหัวออกมาแล้วจ่อไปที่คอเขาแทน
“เจ้าไม่ควรเลย ไม่ควรไปยุ่งกับเครื่องประดับชุดนั้นเลยจริง ๆ หึ!! สตรีโง่เขลาโลภมาก!! เจ้าคิดว่าปิ่นด้ามเดียวจะสังหารข้าได้งั้นหรือ”
จบประโยคเขาก็รู้สึกเจ็บที่ลำคอ พร้อมกับรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลย้อยจนชุมเสื้อของเขา นั่นทำให้เขาเผลอคลายมือออกเล็กน้อยนางจึงสะบัดหลุดมาได้
ก่อนจะใช้จังหวะที่เขากำลังตกใจกระโดดกอดเขาจากด้านหลังพร้อมกับใช้ปิ่นอันเดิมเชือดคอเขาอย่างรวดเร็ว
หลงจิวซิ่งทั้งตกใจและทึ่งกับความเร็วของนาง แต่พอรับรู้ได้ว่านางไม่ได้ถึงขั้นเอาชีวิตเขา กลับกันโจวเยี่ยนเหยียนนั้นรู้สึกเสียดายนักที่เมื่อครู่ตนใช้ปิ่นเชือดคอเขาผิดด้าน
รู้อย่างนี้นางควรทำปิ่นให้มีคมทั้งสองด้านก็คงดี จะทำเช่นเดิมเขาก็ไหวตัวทันแล้ว อีกอย่างนางคงสู้แรงเขาไม่ไหวจึงถอยมายืนมองเขาอยู่อีกฝั่งของห้องแทน
“ข้าหาได้ทำสิ่งใดผิดไม่ เครื่องประดับเหล่านั้นเป็นท่านที่ให้ข้าไปเลือกมันด้วยตัวเอง หากท่านไม่ต้องการให้ข้าก็เอาเก็บไว้กับตัวสิ”
ประโยคของนางไม่ได้ลดความโกรธของชายหนุ่มลงได้เลย เพราะเครื่องประดับชุดนั้นเป็นของอาจารย์ซิวทำขึ้นเป็นชิ้นสุดท้ายก่อนตาย เพราะงั้นคนทั้งแผ่นดินจึงต้องการครอบครองอย่างมาก
แต่นางกลับไม่รู้คุณค่าส่งให้โรงประมูลราวกับเป็นเครื่องประดับทั่วไป หากรู้ว่านางโง่เขลาเช่นนี้ต่อให้ได้อำนาจของบิดานางเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนางแน่
“เจ้า!!! ข้าควรส่งเจ้ากลับไปให้ท่านอ๋องเสีย!!!”
เมื่อไม่รู้จะด่านางคำใด จึงได้เอ่ยเช่นนั้นออกไป แต่กลายเป็นนางเผยรอยยิ้มดีใจออกมาแทน
“ดีเจ้าค่ะ ส่งข้ากลับไปให้บิดาแล้วเราก็หย่ากันเสีย ข้าจะไม่เอาสมบัติท่านสักชิ้น ยกเว้นเครื่องประดับที่ท่านให้ข้ามานะ ไป๋ลู่เก็บของเราจะกลับจวนของเรากัน!!!!!”
นางเอ่ยอย่างดีใจพร้อมกับแสดงออกว่าอยากไปจากเขาเพียงใด นั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มโกรธมากกว่าเดิม
“ข้าประชดเจ้า!!!!”
“อ้าว!!! ท่านจะพูดกลับไปกลับมาเช่นนี้ได้อย่างไร เช่นนี้ทำการค้าผู้ใดจะไปเชื่อท่านกัน นี่ข้าได้บุรุษกะล่อนพูดจาปลิ้นปล่อนมาเป็นสามีงั้นหรือเนี่ย ช่างโชคร้ายจริง ๆ ต่อไปท่านพูดอะไรคงเชื่อไม่ได้แล้ว”
ยิ่งนางพูดก็ยิ่งเหมือนสุมไฟใส่หัวหลงจิวซิ่ง เขาไม่เคยโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้มาก่อน นางเป็นคนแรกที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้
“เจ้า!!!! เจ้า!!!!” หลงจิวซิ่งได้แต่ยืนชี้หน้านางอย่างโมโหจนเสียกิริยา ก่อนจะเดินหนีนางออกจากห้องไป ไม่เช่นนั้นเขาอาจพลาดทำอะไรนางได้อย่างตอนแรกที่บีบคอนาง
เช้าวันต่อมาข่าวลือเรื่องที่คู่แต่งงานใหม่ทะเลาะกันจนจวนแทบแตกก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองไค่เฟิง ท่านอ๋องได้ยินจึงตรงดิ่งไปที่จวนหลงจิ่วซิ่งตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีด้วยซ้ำ
“มันอยู่ที่ใดพ่อจะจัดการมันเอง! กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายบุตรสาวข้าเช่นนี้ เจ้าอย่าห้ามพ่อมันทำเจ้าถึงขั้นนี้ยังจะห้ามข้าอีกหรือ!!!!”
มาถึงท่านอ๋องก็โวยวายจะพบหลงจิวซิ่งให้ได้ แต่โจวเยี่ยนเหยียนออกมาเร็วกว่า เพราะรู้ว่าบิดาเอาเรื่องเขาถึงตายแน่
“ท่านพ่อใจเย็นก่อนเถอะเพคะ ข้าไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น เราทั้งสองปรับความเข้าใจกันแล้วเพคะ”
นางพูดไปก็พยายามดึงแขนบิดาเอาไว้ แต่สตรีตัวเล็กนิดเดียวจะสู้แรงบุรุษได้อย่างไร นางจึงถูกบิดาลากไปทั้งอย่างนั้น
บ่าวที่เห็นได้แต่ก้มหน้ามองพื้น เพราะมันเป็นภาพที่ดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก
“ท่านพ่อตาเรียกหาข้าหรือพะย่ะค่ะ” เสียงทุ้มดังขึ้นที่หน้าประตูก่อนตัวคนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาคารวะท่านอ๋อง
“เจ้ากล้าดีอย่างไรมาทำร้ายบุตรสาวข้า เห็นหรือไม่นางบอบช้ำหมด....แล้ว นั่นคอเจ้าไปโดนสิ่งใดมา”
ท่านอ๋องชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าคอชายหนุ่มมีผ้าพันแผลพันไว้รอบคอ ก่อนจะหันมามองบุตรสาวตัวเองที่มีเพียงรอยช้ำนิดหน่อยเท่านั้น
“เรียนท่านอ๋อง นายท่านของเราถูกของมีคมบาดเข้าที่ลำคอ เมื่อคืนจึงได้ตามตัวหมอมาดูอาการกลางดึกพะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเป็นผู้รายงานแทนนายของตัวเอง
ทำให้ท่านอ๋องที่เข้าใจผิดคิดว่าบุตรสาวตัวเองถูกชายหนุ่มทำร้ายจนต้องตามหมอนั้น มีท่าทีผ่อนคลายและสงบลงทันที
“จะ เจ้าไม่ระวังละสิถึงได้บาดเจ็บเช่นนี้!!” ท่านอ๋องเอ่ยถามแต่ในใจพอจะคาดเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว
“เป็นข้าที่ขาดสติจนเผลอทำรุนแรงกับเหยียนเอ๋อร์ไป นางเรียกสติข้าด้วยการทำเช่นนี้ก็เหมาะสมแล้ว” หลงจิวซิ่งเอ่ยพร้อมกับจ้องไปที่ฮูหยินตัวเองนิ่ง
“เจ้าใช้สิ่งใดทำร้ายเขา” บิดาหันมาถามนางอย่างสงสัย เพราะเขาไม่เคยสอนให้บุตรสาวใช้อาวุธเลยสักครั้ง
“แหะ ๆ ใช้ปิ่นเพคะ แต่ข้าไม่ได้กะเอาถึงตายนะ จริง ๆ ก็คิดจะเอาถึงตายแหละแต่ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย” นางเอ่ยงึมงำพร้อมกับก้มหน้ามองพื้นอย่างเด็กสำนึกผิด
“สามีภรรยามีปากเสียงกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าให้ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยนะ เอาล่ะบิดากลับก่อนดีกว่า ส่วนเจ้าอย่าให้รู้ว่าเจ้าทำร้ายบุตรสาวข้าอีกนะ!”
ท่านอ๋องเอ่ยจบก็เดินกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเมื่อครู่ตนไม่ได้โวยวายหาเรื่องใครทั้งสิ้น
ทิ้งให้สองสามีภรรยายืนมองหน้ากัน ก่อนที่โจวเยี่ยนเหยียนจะสะบัดหน้าเดินกลับเรือนตัวเองไป
“คนของเราเตรียมของเสร็จหรือยัง” หลงจิวซิ่งเอ่ยถามคนสนิทของตัวเอง
“เรียบร้อยขอรับ ตอนนี้สามารถออกเดินทางกลับเมืองหลวงได้ทันทีขอรับ”
“บอกพวกเขาเราจะออกเดินทางในอีกเจ็ดวันข้างหน้า พ่อบ้านไปแจ้งฮูหยินของข้าด้วยล่ะ” เอ่ยจบก็เดินจากไปทันที
พ่อบ้านถึงกับปาดเหงื่อ เมื่อคืนหลังจากที่นายท่านเดินออกจากเรือนนายหญิงมา เสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยเลือดจนพวกบ่าวที่เห็นตกใจ
ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกันแต่อีกใจก็เป็นหวงฮูหยินไม่น้อย หากนายท่านบาดเจ็บเพียงนี้แล้วนายหญิงจะเจ็บเพียงใด
แต่พอไปตามหมอมารักษา เขากลับได้รู้ว่านายหญิงนั้นเพียงบอบช้ำเล็กน้อยเท่านั้น เป็นนายท่านของเขาต่างหากที่เจ็บหนักกว่า
รอยบาดที่ลำคอลึกจนท่านหมอที่มารักษายังบอกว่าโชคดีนักที่ไม่บาดลงไปลึกกว่านี้ ไม่เช่นนั้นนายท่านของเขาคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
ทำให้คืนนั้นทั้งคืนพ่อบ้านถึงกับนอนไม่หลับ เพราะในใจเอาแต่คิดว่าตั้งแต่ฮูหยินแต่งเข้ามา ตนได้ล่วงเกินอะไรนางไปมากน้อยเพียงใดแล้ว
หากวันหน้านางเกิดไม่พอใจแล้วคิดสังหารเขา เขาคงไม่รอดเงื้อมมือนางแน่ แม้จะมีวรยุทธแต่นายท่านมีวรยุทธสูงกว่าเขายังถูกฮูหยินทำร้ายได้เช่นนี้
แล้วเขาจะเหลืออะไรเล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกลัวแต่หน้าที่ไม่อาจละเลยได้ จึงเดินเจียมเนื้อเจียมตัวไปพบฮูหยินของจวนอย่างจำใจ
เรื่องที่โจวเยี่ยนเหยียนทำกับเขาเมื่อคืนนั้น เขายังรู้สึกขุ่นเคืองไม่หาย แต่หากอยู่ที่นี่เขาจะไม่สามารถกำราบนางได้เลยเพราะถ้าทำอะไรลงไป อ๋องโจวจิ้งห้าวก็จะมาเอาเรื่องเขาอย่างเมื่อครู่ทันที
เช่นนั้นเขาจะใช้ระยะทางระหว่างเมืองไห่เฟิงกับเมืองหลวง ค่อย ๆ ขัดเกลาให้นางเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและอยู่ใต้บัญชาเขาเอง กลับมาเมืองไห่เฟิงรอบหน้านางคงสร้างประโยชน์ให้เขาได้มากขึ้น
ตอนที่ 28หาเรื่องพักนี่หลงจิวซิ่งปวดหัวกับการส่งสินค้าลับเป็นอย่างมาก เพราะล่าสุดสินค้าที่เขาลอบนำเข้ามาถูกทางการจับกุมได้ทั้งหมด และคนที่เป็นผู้นำจับในครั้งนี้ก็คืออ๋องโจวจิ้งห้าว พ่อตาของเขานั่นเองมูลค่าสินค้าครั้งนี้เสียหายกว่าสิบล้านตำลึงทอง นับว่ามากที่สุดตั้งแต่ทำการค้านี้มาเลยก็ว่าได้“นายท่านตอนนี้คนของเราส่งข่าวมาว่าอ๋องโจวจิ้งห้าวเค้นเอาความจากคนของเราจนสาวมาถึงพ่อค้าที่ส่งของให้เราแล้วขอรับแต่ยังไม่สามารถจับตัวได้ และพ่อค้าที่เราทำการค้าด้วยก็ส่งคนมาขอความช่วยเหลือจากเรา หากไม่ช่วยเหลือเขาขู่จะเปิดโปงเรื่องทุกอย่างขอรับ”คนของหลงจิวซิ่งเอ่ยพร้อมกับยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ เมื่อเปิดอ่านชายหนุ่มก็ขย้ำมันจนยับยู่ยี่ด้วยความโกรธ“จัดการเสีย คนตายย่อมไม่สามรถพูดได้ อย่าให้มันได้มีโอกาสเอ่ยปากถึงข้าได้!” เอ่ยจบก็เผาจดหมายฉบับนั้นทิ้งทันที“มูลค่าสินค้าที่เราสูญเสียไปนั้นมากมายนัก ตอนนี้เงินใ
ตอนที่ 27อยากพบหน้าด้านจงเยว่ชิงที่อยู่ ๆ ก็ล้มป่วยนั้น เมื่อได้ยินเรื่องที่หลงจิวซิ่งเรียกอนุจี้ไปปรนนิบัติตนก็รู้สึกไม่พอใจทันที“เป็นไปได้อย่างไร ข้ารับใช้เขาไม่ได้เขาก็เรียกหาสตรีอื่นทันทีหรือ แล้วที่บอกว่ารักใคร่ข้ามากมายนั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกสินะ!!”“นายหญิงใจเย็นก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานเท่านั้น นายหญิงจะใส่ใจไปทำไมกัน คนที่นายหญิงควรใส่ใจคือนายท่านต่างหากเจ้าค่ะ” มี่มี่เอ่ยเตือนนายสาว“จริงสิ แต่ข้าล้มป่วยเช่นนี้จะพบผู้ใดได้อีก กว่าจะหายนายท่านคงลืมข้าไปแล้วกระมั้ง” หญิงสาวเอ่ยอย่างหงุดหงิด“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร ต่อให้เจ้าล้มป่วยข้าจะยังจะมาหาเจ้าเช่นเดิมนั่นแหละ” เสียงบุรุษดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับตัวคนที่ถือกล่องบางอย่างเข้ามา“นายท่านข้ากำลังป่วยอยู่อย่าเข้าใกล้ข้าเลย ท่านจะติดหวัดจากข้าเอาได้นะเจ้าคะ&rdqu
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ