ตอนที่ 17
หักหน้า
“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นธุระจัดการเรื่องเยว่ซิงให้ลูก ขอโทษเจ้าด้วยที่ข้าไม่ได้ไปรับเจ้าเข้าจวนด้วยตัวเอง”
หลงจิวซิ่งเอ่ยกับหญิงคนรักของตัวเองโดยไม่ได้สนใจสายตาภรรยาเอกที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
ส่วนบิดาและมารดาของเขาก็มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะไม่คิดว่าบุตรชายจะพูดหักหน้าฮูหยินของตัวเองต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะข้าเข้าใจ อีกอย่างนายท่านกับฮูหยินใหญ่ก็เอาใจใส่ข้าเป็นอย่างดี อนุเช่นข้าไม่กล้าเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้หรอกเจ้าค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าพลางเอ่ยตอบ
แต่กิริยาที่แสดงออกนั้นชัดเจนว่าน้อยใจเพียงใดที่ชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนไปรับตนเข้าจวนเอง
“เราเข้าไปคุยกันในจวนดีกว่า ยืนคุยกันตรงนี้คงไม่ได้เข้าจวนกันพอดี ไปเถอะเจ้าค่ะท่านพี่” ฮูหยินใหญ่เอ่ยพร้อมกับเดินเข้าจวนไปพร้อมสามี
หลงจิวซิ่งจึงเข้าไปประคองจงเยว่ซิงเข้าจวนอยากออกนอกหน้า แต่แอบเหลือบตามามองสตรีอีกนางว่ามีปฏิกิริยาเช่นไรบ้าง
แล้วก็ได้เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกของนางเท่านั้น นั่นทำให้หลงจิวซิ่งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
“ฮูหยินน้อยเชิญเข้าจวนดีกว่าเจ้าค่ะ” เสี่ยวหวาเอ่ยพร้อมกับประคองนายสาวเดินตามคนเหล่านั้นไป
“พี่สะใภ้อย่าคิดมากไปเลยขอรับ อย่างไรท่านก็เป็นฮูหยินเอก แม้จงเยว่ซิงจะเป็นคนรักของพี่ใหญ่แต่ก็เป็นเพียงอนุเท่านั้น ไม่อาจเทียบท่านได้เลยสักนิด”
หลงจิวฉิงเอ่ยปลอบใจนางที่ไม่ยิ้มแย้มเลยตั้งแต่ที่รู้ว่าจงเยว่ชิงคือผู้ใด นางจึงหันไปยิ้มให้น้องชายสามีเล็กน้อย ก่อนจะเดิมตามคนอื่นไปเงียบ ๆ
ในหัวนางตอนนี้กำลังคิดว่าหลงจิวซิ่งมีแผนการอะไรกันแน่ หรือต้องการเอานางมาบังหน้าเพื่อให้คนรักของตัวเองอยู่อย่างปลอดภัย
หรือต้องการให้นางสร้างความดีความชอบแล้วค่อยสังหาร จากนั้นก็เอาความชอบของนางให้สตรีผู้นั้น ก่อนจะยกขึ้นเป็นฮูหยินเอกแทนนาง
“นายหญิงคิดสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ” เสี่ยวหวาสะกิดเอ่ยถามนาง เมื่อเห็นว่าเดินใกล้ถึงห้องโถงใหญ่แล้ว
นางไม่ตอบแต่กลับส่ายหน้าเบา ๆ เท่านั้น เมื่อเข้าไปในห้องโถงก็นั่งตามตำแหน่งลำดับศักดิ์ ยังดีที่สตรีผู้นั้นรู้ว่าตัวเองควรนั่งที่ใด
“พวกเจ้าเดินทางมาเหนื่อย แต่พ่อกับแม่ขอรบกวนเวลาพวกเจ้าไม่นาน อย่างที่รู้ว่าสะใภ้เป็นบุตรสาวบุญธรรมของท่านอ๋องสี่ ดังนั้นไทเฮาจึงให้คนในวังมาแจ้งไว้ หากสะใภ้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วให้เข้าเฝ้าในวันถัดไปทันที”
หลงจิ้งสิงเอ่ยบอกเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถรอได้ พร้อมกับมองฮูหยินของบุตรชายคนโตด้วยสายตาอ่านยาก
“ที่บิดารีบบอกก็เพื่อจะให้เจ้าได้เตรียมตัว ในวังหลวงพิธีการมากมายนัก ยิ่งไทเฮารับสั่งเองกับตัวเช่นนี้ยิ่งต้องระมัดระวัง” ถังซิ่นหลิงผู้เป็นแม่สามีเอ่ยพร้อมมองนางด้วยสายตาเอ็นดู
“ขอบคุณท่านพ่อท่านแม่สามีที่เอาใจใส่เจ้าค่ะ ลูกจะระวังตัวให้ดี จะไม่ทำให้เสื่อมเสียถึงจวนตระกูลหลงแน่นอนเจ้าค่ะ”
นางเอ่ยตอบด้วยท่าทีหนักแน่น โดยไม่ได้มองไปที่หลงจิวซิ่งที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แม้แต่น้อย และไม่ได้เอ่ยขอร้องให้เขาไปส่งนางที่วังหลวงด้วย
“ฮูหยินน้อยช่างวาสนาดีนัก มาถึงเมืองหลวงก็ได้เข้าเฝ้าเชื้อพระวงศ์ทันที ข้าที่อยู่เมืองหลวงมานานยังไม่มีโอกาสเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ” จงเยว่ซิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
เจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครคิดว่าเจ้าเป็นใบ้หรอกนะ แล้วอีกอย่างข้าไม่คิดจะพาเจ้าเข้าวังไปด้วยหรอก
“พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งเจ้าที่หน้าประตูวังหลวงแล้วกันนะ” เสียงทุ้มของสามีนางดังขึ้น แต่นางก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธออกไป
ท่าทางของนางเย็นชายิ่งกว่าตอนแต่งเข้าจวนเขาใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ ทำเอาหลงจิวซิ่งหวั่นใจเล็กน้อย
“เช่นนั้นสะใภ้ไปพักผ่อนเถอะแม่ให้คนจัดเรือนไว้ให้แล้ว แม่นมจูพาฮูหยินน้อยไปที่เรือนที” เสียงฮูหยินใหญ่เอ่ยสั่งคนของตน นางจึงเดินตามแม่นมจูออกไป
เมื่อคนในห้องโถงเห็นว่าโจวเยี่ยนเหยียนออกไปแล้ว จึงไล่อนุของบุตรชายออกไปอีกคน เพราะต้องการคุยกันเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น
“เจ้ากำลังคิดทำสิ่งใดอยู่เจ้าใหญ่ เจ้าไปหักหน้านางต่อหน้าคนมากมายเช่นนั้นได้อย่างไร แค่ที่เจ้าให้ข้าออกหน้ารับอนุให้ก็ถูกคนของท่านอ๋องสี่เพ่งเล็งมากพออยู่แล้ว!!!”
เมื่อเหลือเพียงคนในครอบครัวผู้เป็นมารดาก็ระเบิดอารมณ์ใส่บุตรชายคนโตทันที
“ท่านแม่ใจเย็นก่อนเถอะขอรับ พี่ใหญ่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงจวนท่านก็จะต่อว่าเขาแล้วหรือ” หลงจิวฉิงเอ่ยช่วยพี่ชายตัวเอง
“เจ้าเงียบไปเลยเจ้ารอง วัน ๆ มัวแต่เที่ยวเล่นกับสหายงานการไม่ทำอย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ!!!”
คิดจะช่วยผู้อื่นแต่ตัวเองกลับโดนร่างแหไปด้วย เจ้าตัวจึงนั่งก้มหน้าสงบคำแต่โดยดี
“แม้นางจะเป็นเพียงบุตรสาวบุญธรรมของอ๋องสี่ แต่ก็เป็นบุตรสาวที่อ๋องสี่รักใคร่ เจ้าทำเช่นนี้วางแผนสิ่งใดอยู่กันแน่!!” มารดาเอ่ยถามบุตรชายอย่างไม่เข้าใจ
“ท่านพ่อท่านแม่อย่าห่วงไปเลย ข้าทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ของการค้าเราทั้งนั้น เส้นทางการค้าทางฝั่งตะวันออกเป็นของอ๋องสี่ทั้งหมด หากเราสามารถขยายการค้าของเราไปได้ กำไรต่อปีของเราย่อมมากขึ้น”
“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดสิ่งใด แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเอาตัวบุตรสาวของเขามาเช่นนี้ แล้วที่เจ้าทำกับนางทั้งหมดนั้นเจ้าทำไปเพื่อเหตุผลใดกันแน่ สตรีเช่นนางมีอำนาจหนุนหลังมากมายก็จริง แต่ก็เสี่ยงเช่นกัน” ผู้เป็นมารดาเอ่ยแย้งบุตรชาย
“ท่านแม่ อำนาจใดจะชนะความรักของหนุ่มสาวกันเล่าขอรับ ยิ่งตอนนี้ข้ากับนางแต่งงานกันด้วยสมรสพระราชทาน วันหน้าอย่างไรนางก็ไม่อาจหนีจากข้าได้”
“แต่ก็ไม่ได้แปลว่านางจะรักเจ้านะ จิวซิ่ง” บิดาเอ่ยเตือน
“แต่ข้ามั่นใจว่านางรักข้าแล้วขอรับ ท่านคิดว่าระยะเวลาที่เดินทางมาเมืองหลวง ข้าจะไม่ทำสิ่งใดเลยงั้นหรือ อีกอย่างสตรีที่ออกเรือนก็ต้องเชื่อฟังสามี แม้อดีตจะเป็นคนดื้อรั้นเพียงใดตาม” หลงจิววิ่งเอ่ยด้วยความมั่นใจ
“แล้วเจ้าให้ข้ารับจงเยว่ชิงมาเพื่อสิ่งใด หากเจ้าจะใช้อำนาจของนางปูทางให้ตัวเองเช่นนี้” มารดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจชัดเจน
“อย่างที่ท่านพ่อท่านแม่รู้ นางคือคนที่ข้ารักแต่ฐานะของนางต่ำต้อยเกินไป และไม่สามารถทำประโยชน์ให้ข้าได้ เพราะฉะนั้นลูกจึงให้ท่านแม่ออกหน้ารับนางเข้าจวนให้” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
“เจ้าให้แม่รับนางเข้ามา ทั้งที่เพิ่งแต่กับภรรยาเอกได้เพียงสามวันเนี่ยนะ หากโจวเยี่ยนเหยียนรู้เข้านางจะรู้สึกเช่นไร!!!” ผู้เป็นมารดาตวาดใส่บุตรชายทันที
“ท่านแม่อย่าห่วงเลยขอรับ นางไม่กล้าโวยวายสิ่งใดหรอกเพราะตัวนางเองก็มีมลทินติดตัวเช่นกัน” เขาเอ่ยพลางยิ้มหยันอย่างผู้ที่เหนือกว่า
เมื่อเห็นบุตรชายรับปากว่าเรื่องทุกอย่างจะไม่กระทบถึงจวนตระกูลหลง ผู้เป็นบิดาจึงไล่เขาไปพักผ่อนก่อนที่ตนจะออกไปตรวจบัญชีที่ร้าน
ตระกูลหลงทำการค้ามานาน แต่มารุ่งเรืองที่สุดก็ตอนที่หลงเจิ้งสิงขึ้นเป็นผู้นำตระกูล ต่อมาก็ได้บุตรชายคนโตเข้ามาช่วยจนสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของแคว้นหานได้
สินค้าที่เขาขายมีมากมายตั้งแต่ข้าวสารไปจนถึงเครื่องเทศ ถือว่าเป็นกิจการที่รุ่งเรืองที่สุด
รองลงมาก็เป็นพวกผ้าไหม เครื่องประดับหรือเครื่องประทินโฉมสตรี ซึ่งในส่วนนี้ตระกูลหลงสายรองจะเป็นผู้ดูแลอยู่
แต่ทุกสิ้นปีก็จะมีการปันผลรายได้กันชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องรายได้ส่วนแบ่งจึงไม่เคยมีปัญหามาก่อน
แล้วล่าสุดเขาก็ให้บุตรชายคนโตขยายสาขาไปยังเมืองหลักต่าง ๆ นั่นก็เป็นไปได้ด้วยดีเสมอมา เว้นแต่เมืองทางทิศตะวันออกที่มีท่านอ๋องสี่ปกครองอยู่
จนบุตรชายเขาวางแผนต้องแต่งเอาบุตรสาวบุญธรรมของอ๋องสี่มานั่นแหละ ทุกอย่างจึงเข้าที่เข้าทางได้ง่ายขึ้น
แม้จะคิดไม่ตกเรื่องที่บุตรชายไปยุ่งกับคนของเชื้อพระวงศ์อย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
แต่อย่างไรก็แต่งนางเข้ามาแล้ว หากสามารถใช้ประโยชน์จากนางได้อย่างที่บุตรชายว่า เขาก็พร้อมจะเสี่ยงเพื่อให้ตระกูลหลงยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่านี้
ตอนที่ 28หาเรื่องพักนี่หลงจิวซิ่งปวดหัวกับการส่งสินค้าลับเป็นอย่างมาก เพราะล่าสุดสินค้าที่เขาลอบนำเข้ามาถูกทางการจับกุมได้ทั้งหมด และคนที่เป็นผู้นำจับในครั้งนี้ก็คืออ๋องโจวจิ้งห้าว พ่อตาของเขานั่นเองมูลค่าสินค้าครั้งนี้เสียหายกว่าสิบล้านตำลึงทอง นับว่ามากที่สุดตั้งแต่ทำการค้านี้มาเลยก็ว่าได้“นายท่านตอนนี้คนของเราส่งข่าวมาว่าอ๋องโจวจิ้งห้าวเค้นเอาความจากคนของเราจนสาวมาถึงพ่อค้าที่ส่งของให้เราแล้วขอรับแต่ยังไม่สามารถจับตัวได้ และพ่อค้าที่เราทำการค้าด้วยก็ส่งคนมาขอความช่วยเหลือจากเรา หากไม่ช่วยเหลือเขาขู่จะเปิดโปงเรื่องทุกอย่างขอรับ”คนของหลงจิวซิ่งเอ่ยพร้อมกับยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ เมื่อเปิดอ่านชายหนุ่มก็ขย้ำมันจนยับยู่ยี่ด้วยความโกรธ“จัดการเสีย คนตายย่อมไม่สามรถพูดได้ อย่าให้มันได้มีโอกาสเอ่ยปากถึงข้าได้!” เอ่ยจบก็เผาจดหมายฉบับนั้นทิ้งทันที“มูลค่าสินค้าที่เราสูญเสียไปนั้นมากมายนัก ตอนนี้เงินใ
ตอนที่ 27อยากพบหน้าด้านจงเยว่ชิงที่อยู่ ๆ ก็ล้มป่วยนั้น เมื่อได้ยินเรื่องที่หลงจิวซิ่งเรียกอนุจี้ไปปรนนิบัติตนก็รู้สึกไม่พอใจทันที“เป็นไปได้อย่างไร ข้ารับใช้เขาไม่ได้เขาก็เรียกหาสตรีอื่นทันทีหรือ แล้วที่บอกว่ารักใคร่ข้ามากมายนั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกสินะ!!”“นายหญิงใจเย็นก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานเท่านั้น นายหญิงจะใส่ใจไปทำไมกัน คนที่นายหญิงควรใส่ใจคือนายท่านต่างหากเจ้าค่ะ” มี่มี่เอ่ยเตือนนายสาว“จริงสิ แต่ข้าล้มป่วยเช่นนี้จะพบผู้ใดได้อีก กว่าจะหายนายท่านคงลืมข้าไปแล้วกระมั้ง” หญิงสาวเอ่ยอย่างหงุดหงิด“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร ต่อให้เจ้าล้มป่วยข้าจะยังจะมาหาเจ้าเช่นเดิมนั่นแหละ” เสียงบุรุษดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับตัวคนที่ถือกล่องบางอย่างเข้ามา“นายท่านข้ากำลังป่วยอยู่อย่าเข้าใกล้ข้าเลย ท่านจะติดหวัดจากข้าเอาได้นะเจ้าคะ&rdqu
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ