LOGIN
จ้าวลี่หลินนั่งบนเกวียนหันหลังให้กับลู่ชุน นางนำข้าวที่หุงเอาไว้คลุกกับงาขาวเกลือปรุงรสและเนื้อแห้งสับละเอียด จากนั้นปั้นเป็นก้อนขนาดพอดีคำ ห่อด้วยใบจิงจูฉ่าย จัดวางใส่กล่องเอาไว้ ทำแบบนี้ไปจนข้าวที่หุงมาหมดหม้อ ความจริงหากนางหาสาหร่ายได้ก็คงจะดีไม่น้อย แต่ในเมื่อมันไม่มีก็ต้องหาอะไรแก้ขัดไปก่อน ถึงอย่างไรก็กินได้เช่นกัน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว นางก็ขยับไปด้านหน้า
"กินข้าวก่อนเถอะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ มีเพียงเสียงล้อเกวียนกับเสียงย่ำเท้าของเจ้าเสี่ยวไป๋เท่านั้นที่ดังก้อง สองผัวเมียกลับไม่แม้แต่จะเอ่ยปากสนทนากันเลยสักคำเดียว
"เพิ่งจะออกเดินทางเอง เจ้าก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ บอกแล้วว่าอย่าถ่วงข้ามิเช่นนั้นข้าก็ไม่กลัวที่จะทิ้งเจ้า" จ้าวลี่หลินถอนหายใจออกมา ที่บอกว่าบุรุษผู้นี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายก็ไม่เกินจริงนัก เมื่อคืนเขายังสังหารโจรที่หมายจะทำร้ายนาง เฝ้านางยามที่อาบน้ำ ทว่าตอนนี้กลับขู่จะทิ้งนางอีกแล้ว
"ข้ามิได้หมายความว่าจะพักเสียหน่อย ข้ายังต้องพักอันใดอีก เหนื่อยหรือก็ไม่ ท่านต่างหากนั่งบังคับเกวียนอยู่ตลอด ทั้งเมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอน อาหารเช้าก็ไม่ได้กินอีก"
"มันก็เรื่องของข้า!!.."
"ใช่มันเป็นเรื่องของท่าน แต่หากท่านเป็นลมหมดสติขึ้นมา เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องของท่านเพียงผู้เดียว ยามนั้นต้องเป็นเรื่องของข้าเช่นกัน อย่าลืมว่าชีวิตข้ายามนี้ผูกติดเอาไว้กับท่านแล้ว อ้อ..อย่าได้คิดเชียวว่าข้าจะเป็นห่วง ข้าก็เพียงหวังให้ท่านพาข้าไปถึงบ้านบรรพชนอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นท่านจะทำสิ่งใดล้วนไม่เกี่ยวกับข้า"
"เจ้า!!..สตรีน่ารังเกียจ" ลู่ชุนถลึงตามอง เขาเค้นเสียงเหี้ยมออกมา จ้าวลี่หลินรู้สึกหวาดกลัวมาก ทว่าก็พยายามเชิดหน้าขึ้นเหมือนไม่ได้รู้สึกอันใด
เจ้าเสี่ยวไป๋ห้อตะบึงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แม้เจ้านายมันจะไม่มองทาง แต่กระนั้นเจ้าม้าดำก็วิ่งไปอย่างมั่นคง หลบหลีกสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้อย่างแม่นยำ แต่กระนั้นก้อนหินก้อนใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางทาง ก็ทำเอาหญิงสาวที่มองเห็นกรีดร้องขึ้น
"เฮ้ย!!..ท่านระวังชน" ลู่ชุนกระตุกบังเหียนม้าขึ้น เสี่ยวไป๋ถูกดึงกะทันหันก็แสดงความไม่พอใจออกมา มันตะกุยขาหน้าขึ้นพ่นลมหายใจออกจากจมูกบาน ๆ และร้องฮี่เสียงดัง จ้าวลี่หลินไม่ทันตั้งตัวถลาไปข้างหน้า ลำตัวติดคอกกั้นทว่าใบหน้ากระแทกเข้ากับแผ่นหลังแกร่ง เลือดไหลออกมาจากรูจมูกเล็ก
"อู๊ย...ท่าน!!..เหตุใดจึงไม่ระวัง"
"นั่นไม่ใช่เพราะเจ้ากรีดร้องเหมือนคนเสียสติหรอกหรือ"
"ก็ไอ้ม้าดำนั่นมันจะชนหินอยู่แล้ว"
"ฮี่ ๆ" พรืด!!..เสียงลมหายใจพ่นออกมา พร้อมกับหน้าแหลม ๆ ที่ตวัดกลับมามองนาง ให้ตายเถอะ ไอ้ม้าบ้านี่มันต้องรู้ภาษามนุษย์แน่ ๆ ก็ดูจากที่มันหันมามองนางสิ ไหนจะฟันเหยิน ๆ ที่มันแสยะออกมาอีก
จ้าวลี่หลินมือหนึ่งถือผ้าเช็ดหน้าปิดจมูก อีกมือกำคอกไม้กั้นระหว่างคอกโดยสารและคนขับเกวียนเอาไว้แน่น ลู่ชุนก้มลงหยิบกล่องข้าวที่ตกลงไปข้างตนเอง ดีที่เขาคว้าเอาไว้ทันไม่เช่นนั้นอาหารนี่ก็คงไม่ต้องกินแล้ว เขาวางมันไว้บนต้นขา อีกมือก็ยื่นไปตบที่ก้นม้าเบา ๆ
"เสี่ยวไป๋เด็กดีอย่าถือสานางเลย สตรีเช่นนี้มีค่าให้เจ้านำมาเป็นอารมณ์หรือ รีบไปเถอะ" เจ้าเสี่ยวไป๋หันหน้ากลับไป และเริ่มวิ่งไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวล จ้าวลี่หลินถอนหายใจออกมา เอาเถอะคงเป็นเหมือนคำที่ว่า สัตว์เลี้ยงและเจ้าของย่อมนิสัยเหมือนกัน เช่นนั้นไม่รู้ว่าลู่ชุนจะชอบกินหญ้าเหมือนไอ้ม้าดำนี่หรือไม่
ลู่ชุนเปิดกล่องข้าวออกมาหยิบข้าวปั้นขนาดพอดีคำโยนเข้าปาก ก้อนข้าวธรรมดากลับซ่อนเนื้อและผักดองเอาไว้ข้างใน คิ้วหนายกขึ้นพึงพอใจเป็นอย่างมาก เขาหยิบก้อนแล้วก่อนเล่า ครั้นก้มลงมามองก็เหลือเพียงสามก้อนเท่านั้น ชายหนุ่มแอบหันกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นสตรีนางนั้นกำลังเงยหน้าเชิดปลายจมูกขึ้น ท่าทางตลกขบขันเสียจริง ผ้าเช็ดหน้าถูกนางม้วนยัดเข้ารูจมูกไปแล้ว ไหนเลยจะเหมือนสตรีเจ้าเล่ห์คนเดิม หรือเพราะถูกคนของฮูหยินใหญ่ทำร้ายจึงได้ฟั่นเฟือนไปแล้ว
"นอนลงไปสิเลือดจะได้หยุดไหล" นางก้มหน้าลงหันไปมอง ริมฝีปากเบ้ขึ้น
"เหมือนจะหยุดไหลแล้วละ ท่านจะดื่มน้ำหรือไม่" นางหยิบกระบอกไม้ไผ่ส่งไปข้างหน้า พร้อมกับรับกล่องข้าวมาถือไว้ ครั้นเห็นข้าวปั้นสามก้อน ก็กลอกตาขึ้น ข้าวมีถึงสิบก้อนเขากินไปเจ็ดก้อนเชียวหรือ ไม่กินไปให้หมดเลยเล่าไอ้คนบ้าเอ๊ย ถึงในใจจะด่ากราดเพียงใด แต่ใบหน้าก็แสดงออกเพียงรอยยิ้มเท่านั้น
"หืม..โป้เหอ[1] นำมาทำชาได้ด้วยหรือ"
"เหตุใดจะไม่ได้ โป้เหอมีรสหอมเย็น พวกเราเดินทางกันกลางแจ้งตากแดดร้อน ๆ เช่นนี้ ดื่มชาโป้เหอก็จะช่วยให้สดชื่นขึ้น คลายร้อนและยังไม่ทำให้เป็นไข้แดดอีกด้วย"
"ข้าไม่เคยรู้ว่าเจ้ามีความรู้เช่นนี้ด้วย"
"มีอีกหลายเรื่องเชียวละที่ท่านไม่รู้เกี่ยวกับข้า เช่นไรสนใจแล้วหรือ"
"หึ..สตรีไร้ยางอายเช่นเจ้า ข้าหรือจะอยากรู้"
"เฮอะ!!..ก็ที่เอ่ยมานี่ล้วนอยากรู้ทั้งนั้น" จ้าวลี่หลินเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
ลู่ชุนเป็นคนปากหนักเขาไม่ค่อยพูดมากสักเท่าไร แต่กระนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงได้เอาแต่ต่อปากต่อคำกับนางไม่จบไม่สิ้น ดูเหมือนการเดินทางคราวนี้ก็มิได้น่าเบื่อสักเท่าไรนัก แต่กระนั้นทั้งสองก็ไม่รีรอ เจ้าเสี่ยวไป๋ก็ยังควบออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกลงที่ตรงขอบฟ้า ชายหนุ่มก็แวะพักข้างทางเหมือนเช่นเมื่อวาน เขาเลือกหยุดใกล้แหล่งน้ำเพื่อที่จะสะดวกต่อหญิงสาว
จ้าวลี่หลินก็รับหน้าที่ทำอาหารอีกเช่นเคย วันนี้โชคดีที่ลู่ชุนยิงกระต่ายป่ามาได้หนึ่งตัว นางหมักเกลือและย่างจนเหลืองหอม จากนั้นก็บดงาโรยลงไปนางกินไปเพียงแค่ขาเดียวที่เหลือก็ลงท้องของลู่ชุนไปจนหมด คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่นางต้องนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก เพราะไม่รู้ว่าจะมีมือสังหารบุกเข้ามาอีกหรือไม่ นึกไปถึงเมื่อคืนที่พวกชุดดำพุ่งตัวมาทางนาง บุรุษผู้นั้นไม่ได้มองกลับมาสักนิด มือเขาก็ตวัดกระบี่ทางคนผู้นั้น ปลายกระบี่ทะลุตัดหัวใจตายในดาบเดียว และเขาแทงมันโดยที่ไม่หันมามองเหมือนกับว่ามีตาอยู่ด้านหลัง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดหลุดคมกระบี่เข้ามาทำร้ายนางได้ ต่อให้เห็นการนองเลือดกับตา แต่ไม่รู้ทำไมนางถึงได้ไม่กลัวเขาเลยสักนิด กลับเชื่อใจเขามากขึ้นไปอีก
เชิงอรรถ
^ 薄荷bòhé/โป้เหอ สะระแหน่ Mint
ตอนที่ 21 ซื้อที่ดินเพิ่มในเมื่อลู่ชุนรับของกำนัลของภรรยามาแล้วทั้งคืน เช้าวันต่อมาเขาก็ไม่รอช้า หากรีบจัดการธุระให้นางเสร็จเร็วไวไม่แน่ว่า คืนนี้เขาอาจจะได้นอนมองหญิงงามควบขี่บนตัวเขาอีกก็ได้ "ท่านหัวหน้าหยางขอรับ" ลู่ชุนตะโกนเรียกผู้เฒ่าสกุลหยางอยู่หน้ารั้วบ้าน ป้าหยางชะโงกหน้าออกมาดู ครั้นเห็นเป็นผู้ใดก็รีบวิ่งเข้าไปเรียกหยางซูเม่ยออกมาต้อนรับ แน่นอนว่าซูเม่ยย่อมต้องยินดี นางจัดทรงผมตนเองให้เรียบร้อย ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม เดินด้วยท่วงท่าที่ดูเหมือนจะงดงามออกไป"พี่ชุนเองหรือ เข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ ท่านปู่ออกไปดูนาข้าวสาลีอีกประเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว" ลู่ชุนดูลังเลอยู่บ้าง ทว่าซูเม่ยก็บอกว่ายังมีมารดาของนางที่อยู่ในบ้านอีก เขาจึงได้ตอบตกลง แต่กระนั้นก็นั่งรอที่โต๊ะใต้ต้นไม้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปถึงในบ้าน ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดอันใด แต่ชายหญิงก็ไม่ควรอยู่กันตามลำพัง อีกอย่างเขาก็มีภรรยาแล้วด้วย ต่อให้อยากเห็นนางดื่มน้ำส้มบ้างก็ตาม"แม่ข้าซื้อชามาใหม่ ท่านปู่ชอบดื่มชาน่ะ พี่ชุนลองดื่มดูเจ้าค่ะ" "ขอบใจเจ้ามาก" ลู่ชุนรับจอกชาขึ้นดื่ม กลิ่นชาเก่ามีกลิ่นอับ รสชาติของชาก็ไม่ดีเท่าไร หากไม
ตอนที่ 20 สามีกลับมาแล้วจ้าวลี่หลินเดินกลับจากลำธารพร้อมกับว่านถิงถิง ครั้นเมื่อถึงทางแยกบ้านสกุลว่านต้องเลี้ยวไปทางซ้าย ส่วนบ้านสกุลลู่ยังต้องตรงไปจนเกือบถึงเขาด้านหลังหมู่บ้าน นางอุ้มตะกร้าเดินอ้อมไปยังหลังหมู่บ้าน ไม่รู้ป่านนี้เสี่ยวไป๋จะกลับมาหรือยัง แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า อาชาตัวนั้นเป็นม้าที่รู้ความเป็นอย่างมาก มันทั้งรู้ภาษามนุษย์ และยังมีความเฉลียวฉลาด แต่กระนั้นก็อดห่วงมันไม่ได้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ทั้งนางและลู่ชุนก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่จนหมด อาภรณ์หรูหราที่เคยใส่ในเมืองนำออกไปขายจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงไม่ถึงสามชุด เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าเหมือนชาวบ้านที่นี่ แต่ก็ไม่น่าเสียดายเลยสักนิด นางชอบที่นี่ทั้งยังชินกับมันอีกด้วย ร่างอรชรเดินมาหยุดที่รั้วบ้าน ครั้นเห็นว่าประตูเปิดอยู่ นางก็ยิ้มกว้างออกมา รีบวิ่งเข้าไปวางตะกร้าเอาไว้ที่พื้น ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มที่ยืนอ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว"ข้ากลับมาแล้ว""ท่านกลับมาแล้ว ท่านพี่เหตุใดจึงกลับช้านักเจ้าคะ เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าให้ข้าดูหน่อยเถอะ อาหารแห้งที่ข้าทำให้พอกินหรือไม่เจ้าคะ" "ข้าตอบไม่ทันแล้ว หลินห
ตอนที่ 19 ภรรยาของพี่ชุนวันที่สี่ผ่านไปจ้าวลี่หลินก็ยังคงต้องอยู่กับอนุไป๋ที่บ้านเพียงลำพัง ตอนแรกสามีบอกว่าจะกลับมาวันนี้ แต่รอจนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา นางเดินไปชะเง้อมองที่หน้าประตูบ้าน และเดินกลับเข้ามาอย่างนี้ซ้ำ ๆ จนครั้งสุดท้ายเจ้าม้าดำชื่อขาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มันเดินเข้าไปกัดอาภรณ์ของนาง และลากกลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ใช้เท้าถีบประตูปิดลง นางโกรธเป็นอย่างมาก ตะโกนด่าเจ้าม้าบ้านั่นอย่างไม่ไว้หน้า"ไอ้ม้าบ้าเอ๊ย ไหนเจ้าหวงสามีข้านักหนา เขายังไม่กลับบ้านแต่เจ้ากลับดีนัก ไม่เป็นห่วงแล้วยังมาขังข้าไว้อีก" เสี่ยวไป๋ส่งเสียงร้องขึ้นมาหนึ่งคำ ก็เลิกสนใจนางอีก มันเดินกลับไปที่คอกของตนเอง ปล่อยให้นายหญิงวิปลาสตะโกนด่าต่อไปจ้าวลี่หลินด่าไปจนเหนื่อยล้านางหลับไปตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ตื่นขึ้นมาก็เป็นยามเช้าเข้าไปแล้ว หญิงสาวลากร่างกายที่ห่อเหี่ยวไปล้างหน้าบ้วนปาก และออกไปที่คอกเสี่ยวไป๋"ข้าลืมตัดหญ้ามาให้ เจ้าออกไปหากินเองละกัน นี่พูดก็พูดเถอะ ปกติแล้วเป็นม้าก็ต้องออกไปหาอาหารเองอยู่แล้ว มิใช่หน้าหนาวเสียหน่อย ยังต้องให้ตัดหญ้าให้อีก" เสี่ยวไป๋ไหนเลยจะสนใจนาง มันย่ำเท้าวิ่งออกไ
ตอนที่ 18 เก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกลู่ชุนขึ้นเขาไปได้สามวันแล้ว ในช่วงสามวันนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก วัน ๆ นางก็เอาแต่ก่อกวนเสี่ยวไป๋ ทะเลาะกับมันสักรอบสองรอบ จากนั้นก็ไปทำปุ๋ยหมักของนาง ตั้งแต่ที่ได้ฟังคำพูดของสามี นางก็เลิกคิดเรื่องมือวิเศษของนางไปเสีย เพราะนางลองใช้ชุบชีวิตหนูที่สามีหามา ปรากฏว่ามันก็ต้องถูกนำมาแกงอยู่ดี และอีกอย่างตามความคิดของนางนั้น ไม่ว่ามือคู่นี้จะปลูกอะไรก็มักจะขึ้นเสมอ นางจึงนำก้อนทองที่เก็บไว้ห้าก้อนมาปลูกเสีย นอกจากทองจะไม่งอกแล้ว มันยังดำอีกด้วย เรื่องนี้จึงเป็นอันจบไป "สะใภ้ลู่!!..สะใภ้ลู่อยู่หรือไม่" จ้าวลี่หลินยกเท้าขึ้นจากบ่อหมัก นางเดินไปล้างเท้าที่ถังน้ำ แล้วจึงเดินมาหน้าบ้าน"น้าชิงอีนี่เอง เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ" ชิงอีมารดาของอาซินเดินเข้าไปในบ้าน นางก้มหน้ามองแต่ทางตรงหน้า ไม่สอดส่ายสายตามองไปทั่วเหมือนป้าหยางภรรยาลุงไห่ นั่นจึงทำให้จ้าวลี่หลินรู้สึกดีกับนางมากขึ้น นางพาน้าชิงอีเข้ามานั่งในห้องโถงใหญ่ในบ้าน รินน้ำชาส่งไปตรงหน้า "อืม..ชาดี..สมแล้วที่เป็นสตรีจากเมืองหลวง" ชิงอีสูดดมกลิ่นชาก่อนจะยกขึ้นดื่ม ความจริงนางไม่รู้หรอกว่าชาดีหรือไม่ ชาวบ้านเช่นนาง
ตอนที่ 17 ปีศาจสาวของข้าผู้เดียว"เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ" หลังจากจบบทรักลู่ชุนก็รั้งภรรยาสาวเข้ามากอด เขาก้มลงจูบที่กลางศีรษะ ดวงตาปรือฉ่ำใกล้เข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที่แล้ว แต่กระนั้นก็ฝืนเอาไว้ เห็นใบหน้าหวานเหมือนกำลังมีเรื่องค้างคาใจ "เปล่าหรอกเจ้าค่ะ..ท่านพี่ครั้งนี้ท่านจะขึ้นเขานานหรือไม่" "คิดว่าจะไปสักสี่ห้าวัน ครั้งนี้อาตงกับอาซินขอไปด้วย คงต้องล่าให้เยอะขึ้นหน่อย จะได้ปันกันได้""ก็ดีเจ้าค่ะ" ลู่ชุนลูบหลังนางเบา ๆ เขาหลับตาลงอีกครั้ง ครั้นกำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงนางอีกแล้ว"ท่านพี่คิดว่าผักที่ข้าปลูกโตไวเกินไปหรือไม่ อาตงบอกว่าผักข้าโตไวเกินไป มันผิดปกติใช่หรือไม่""โตไวแล้วไม่ดีหรือ โตไวก็เอาไปขายได้ไว เจ้าก็บอกไปอย่างที่เจ้าบอกก็ถูกต้องแล้ว ปุ๋ยอะไรของเจ้านั่นอย่างไร มันเร่งการเจริญเติบโตให้ผักพวกนั้น หลินหลินเจ้าอย่าคิดมากเลย ดินดี น้ำดี การดูแลดีย่อมทำให้ผลผลิตออกมาดี" "แต่ชาวบ้านที่นี่ยังคงเชื่อเรื่องลี้ลับ ข้าเกรงว่า"อาทิตย์ก่อนมีนักพรตผ่านมาทางหมู่บ้าน นักพรตชรานั่นบอกว่าที่หมู่บ้านมีกลิ่นอายของปีศาจ จึงได้ทำพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคล ท่านหัวหน้าหยางให้ภรรยาเรี่ยไรเงิ
ตอนที่ 16 ผักโตไวซ่า!!..น้ำอุ่นร้อนไหลออกจากถังไม้ไผ่กระเพื่อมแล้วกระเพื่อมเล่า มือเรียวเกาะขอบถังยันตัวขึ้นรับแรงอัดกระแทกจากทางด้านล่าง"อ้าส์...ท่านพี่..""หลินหลินนั่งทับลงมาเร็วเข้า" มือหนาบีบเอวบางจนขึ้นรอยนิ้ว เขาอ้าขาออกแรงดึงเอวเล็ก บังคับให้นางทิ้งตัวลงมาบนกลางกายเขา "อื้อ...จุกเจ้าค่ะ" จ้าวลี่หลินเชิดหน้าห่อปากความคับแน่นทำให้นางไม่อาจขยับกายได้ ลู่ชุนถูกความบีบรัดของนางทรมานจนแทบจะสิ้นท่า เขาคำรามเสียงแหบพร่า โน้มตัวดันนางไปข้างหน้า กดทับให้นางเป็นฝ่ายตั้งรับ จ้าวลี่หลินคุกเข่าในอ่างน้ำ มือเล็กกำขอบอ่างเอาไว้แน่น สะโพกมนแอ่นขึ้นรับแรงกระแทกจากสามีจนตัวโยน"หลินหลินเด็กดี..อ้าส์..อ้าขาออกอีกนิด""มะ..ไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ..อื้อ..มันชิดขอบแล้ว..อู๊ย..." นางก็อยากจะอ้าขาให้กว้างกว่านี้อยู่หรอก ทว่าอ่างน้ำมันก็มีพื้นที่อยู่เท่านี้ "รัดแน่นถึงเพียงนี้ชอบที่สามีทำใช่หรือไม่..ซี้ด.."เสียงแหบพร่าของสามีหนุ่มทำเอาร่างอรชรทรุดตัวลงไปในน้ำ ลู่ชุนรั้งเอวนางขึ้นมา ขยับท่าให้ถนัดกระแทกแท่งเนื้อเข้าในช่องรัก ยิ่งโหมกระแทกแรงเพียงใด เสียงครางหวานและเสียงแหบพร่าก็ประสานกันดังยิ่งขึ้น กลบเ







