LOGINหลังจากเดินทางมานานนับเดือนในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงที่หมายเสียที เสี่ยวไป๋ก้าวเท้าไปหยุดในที่รกร้างแห่งหนึ่ง ต้นเถาจื่อ[1] ยังพอมีร่มเงาให้ได้หลบแดดอยู่บ้าง นับว่าเจ้าม้าดำนั่นรู้ความยิ่งนักมันหยุดลงที่ใต้ต้นไม้ พลางก้มหน้าเล็มกินหญ้าที่ขึ้นเกือบถึงหัวเข่า หลังต้นเถาจื่อเป็นบ้านพัง ๆ หลังหนึ่ง นางกระโดดลงจากเกวียนแต่แล้วก็รีบกรีดร้องกระโดดโหยงขึ้นมาบนเกวียนเช่นเดิม กริชเล่มหนึ่งปักลงไปบนพื้น งูลายตัวยาวบิดม้วนหัวมันถูกเสียบจมลงไปในดิน นางลูบแขนตนเองพลางเบ้ปากมอง
"นี่คือบ้านบรรพชนของสกุลลู่จริงหรือ" นางหันไปมองระหว่างบ้านพัง ๆ และสามีหนุ่มที่กำลังก้มเก็บซากงูขึ้นมา
"คงใช่" คงใช่!!..หมายความว่าอย่างไร อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้อย่างนี้น่ะหรือ เขาพานางมาผิดที่หรือไม่ ถึงอย่างไรสกุลลู่ก็มีลำดับขั้นป๋อ เหตุใดจึงมีบ้านบรรพชนที่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้
"มะ..หมายความว่าอย่างไรกัน หรือว่าท่านมาผิดที่" ลู่ชุนเดินเข้าไปในบ้าน อย่าเรียกว่าบ้านเลยเถอะ เรียกว่าไม้พัง ๆ ตั้งตระหง่านกองหนึ่งดีกว่า
"หลังจากที่ท่านทวดของข้าสร้างชื่อเสียงในสนามรบ ฝ่าบาทก็มอบที่ดินบรรพชนในอำเภอฮุ่ยหลัว คนสกุลลู่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นั่น"
"เช่นนั้นเหตุใดพวกเราจึงไม่ไปอำเภอฮุ่ยหลัวเล่า พวกเรามาเหลียงโจวทำไมกัน"
"ก็เพราะที่อำเภอฮุ่ยหลัวเป็นที่ดินสกุลลู่"
"ก็ใช่อย่างไรเล่า พวกเราต้องไปที่ดินบรรพชนสกุลลู่สิ ไปเถอะออกเดินทางยามนี้ยังทัน"
"เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ..หากไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ก็ไปอำเภอฮุ่ยหลัวเถอะ ข้าจะไม่รั้งเจ้า ส่วนข้าจะอยู่ที่นี่ บ้านเดิมของสกุลถางของมารดาข้า" จ้าวลี่หลินมองใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม เขาไม่ได้มองมาที่นาง แต่มองไปยังบ้านทรุดโทรมตรงหน้า แววตาที่เอ่ยถึงมารดาสั่นไหวนางจึงทันได้เห็น หญิงสาวถอนหายใจออกมา
"เช่นนั้นพวกเราก็เข้าไปดูข้างในเถอะ ยังพอจะอยู่อาศัยได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็ขึ้นไปตัดไม้บนเขา สร้างบ้านขึ้นมาใหม่เสีย ในป่ามีต้นไม้ ในน้ำมีปลา ดูสิว่าพวกเราจะอยู่กันไม่ได้ เราสองคนสี่มือสี่เท้ายังต้องกลัวความลำบากอีกหรือ" ลู่ชุนขมวดคิ้วขึ้น เขาเกือบจะยกมือขึ้นเคาะหูตนเองเสียแล้ว นั่นเป็นคำพูดของนางจริงหรือ สตรีที่เห็นเขาก็คอยแต่จะรังเกียจ และส่งสายตายั่วยวนให้พี่ใหญ่เขาเสมอ ยังเป็นนางผู้นั้นจริงหรือ
จ้าวลี่หลินเดินเข้าไปในบ้าน เพียงแค่ผลักเบา ๆ ประตูไม้ก็พังลงไป ทั้งหนูทั้งสัตว์ป่าวิ่งหนีไปคนละทาง นั่นยังไม่รวมงูที่นางกลัวนักหนานั่นอีก ร่างอรชรแทบจะทรุดตัวลงกับพื้น ทว่าพื้นก็ไม่มีที่ให้ทรุดตัวลงได้เช่นกัน
"ท่าน..คืนนี้พวกเราจะนอนกันอย่างไร เกรงว่าคงต้องสร้างบ้านใหม่แล้ว"
"ทำไมกลัวแล้วหรือ ไม่ใช่เจ้าพูดเองหรือว่าไม่กลัว ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วกระมัง" ลู่ชุนแค่นเสียงเย้ยหยัน เขาเดินผ่านนางเข้าไปข้างใน หน้าต่างบ้านที่เคยมีถูกถอดออกไปแล้ว เครื่องเรือนก็หายไปหมด พื้นบ้านโล่ง ๆ เต็มไปด้วยต้นหญ้าและเห็ดพิษ เดินเข้าไปข้างในยังเหลือเตียงไม้เนื้อแข็งที่ยังพอนอนได้อยู่
จ้าวลี่หลินเบ้ปากขึ้นเดินตามชายหนุ่มเข้าไปสำรวจข้างในเช่นกัน ความทรงจำเกี่ยวกับถางอี๋เหนียงมารดาของลู่ชุนก็ไม่มีในความทรงจำเลยสักนิด จำได้แค่เพียงว่านางขายตัวเข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ในสกุลลู่ ต่อมาลู่จือเห็นเข้าก็ถูกใจรับนางเป็นสาวใช้ข้างห้อง หลังให้กำเนิดลู่ชุนก็ถูกยกเป็นอี๋เหนียง แต่บ้านเดิมของถางอี๋เหนียงอยู่ที่ใดนั้น จ้าวลี่หลินไม่รู้เลยสักนิด
ฮี่ ๆ เสียงเสี่ยวไป๋ร้องขึ้นมา พร้อมกับเสียงฟึดฟัดของลมหายใจมัน จ้าวลี่หลินแทบจะนึกภาพตลก ๆ ของเจ้าม้าบ้านั่นได้ทันที ทว่านอกจากเสียงร้องของม้าแล้ว ก็มีเสียงเรียกของบุรุษผู้หนึ่ง นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าเสี่ยวไป๋นั่นนอกจากจะเป็นม้าแล้ว ยังเป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้อีกด้วย
"พวกท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ" ลู่ชุนเดินออกมาข้างนอก จ้าวลี่หลินก็เดินตามออกมาด้วย ผู้ที่มาเรียกเป็นบุรุษมีหนวดเคราและเส้นผมสีดำแซมด้วยสีขาว ดูแล้วมีอายุมากสักหน่อย ลู่ชุนประสานมือด้านหน้าโค้งตัวลงเล็กน้อย
"ข้ากับภรรยาพวกเรากลับมาอยู่ที่ดินของท่านตาขอรับ ท่านคือ.."
"ข้าหยางมั่วเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่นี่ และนี่คือหยางไห่บุตรชายของข้า เช่นนั้นพวกเจ้าก็คือญาติของตาเฒ่าถางอี้หรือ"
"เป็นเช่นนั้นขอรับ ท่านตาของข้ามีนามว่าถางอี้ ท่านยายมีนามว่าหลี่เหม่ย ส่วนมารดาของข้านามว่าถางหลิงอี" ลู่ชุนบอกรายชื่อญาติทางฝั่งมารดาออกมาจนหมด ครั้นได้ยินว่าเขาเป็นบุตรชายของถางหลิงอี หยางไห่ที่ยืนนิ่งมานานก็เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าลู่ชุนอย่างโจ่งแจ้ง เหมือนจะมองหาเงาของใครบางคนผ่านทางบุรุษผู้นั้น ลู่ชุนยืนนิ่งให้สองพ่อลูกจ้องตามสบาย
"อ่า..เจ้าเป็นบุตรชายของอาหลิงอีเองหรอกหรือ นางเป็นเช่นไรบ้างสบายดีหรือไม่ แล้วเหตุใดจึงไม่กลับมาด้วยกัน"
"นางจากไปแล้วขอรับ ข้าตั้งใจนำกระดูกของนางกลับมาบ้านเกิดด้วย ท่านแม่คิดถึงที่นี่อยู่เสมอ" หยางไห่เหม่อมองไปยังใต้ต้นเถาจื่อ ดวงตาสั่นไหว
"เหตุใดนางถึงจากไป นางเจ็บป่วยหรือ"
"หลังจากที่ท่านแม่ให้กำเนิดข้า นางก็ไม่แข็งแรงมาตลอด ปีชุนเต๋อที่สิบห้านางก็จากไปแล้ว" หยางไห่เซถอยหลังจนเกือบล้ม หยางมั่วผู้เป็นบิดาต้องจับเอาไว้พร้อมทั้งไอเรียกสติ
"ตั้งแต่ตาเฒ่าถางจากไป บ้านหลังนี้ก็ปล่อยร้างมาตลอด พวกข้าก็มิได้สนใจมาดูแล เพราะคิดว่าคงจะไม่มีคนกลับมาอยู่ แต่อาไห่กับมารดาของเจ้าเป็นสหายกันตั้งแต่เด็ก ๆ วันที่นางออกจากหมู่บ้านไป นางเคยบอกกับลูกชายข้าว่าจะกลับมา อาไห่จึงไม่ยอมให้ใครเข้ามารุกล้ำที่นี่ ในเมื่อพวกเจ้าตั้งใจมาอยู่ที่นี่แล้ว ก็อยู่ไปเถอะ เครื่องไม้เครื่องมือถางหญ้าก็ไปยืมข้าได้ พรุ่งนี้ข้าจะเกณฑ์คนในหมู่บ้านมาช่วยสร้างบ้าน ระหว่างนี้พวกเจ้าก็พักบ้านข้าก่อนก็แล้วกัน" ผู้เฒ่าหยางมั่วเห็นว่าสองผัวเมียตั้งใจมาอยู่ที่นี่ ประเดี๋ยวเขาก็จะประทับรายชื่อตีทะเบียนราษฎร์เป็นคนในหมู่บ้านอู่ยวน
"อย่าให้ข้ากับภรรยาต้องรบกวนเลยขอรับ ในบ้านยังเหลือเตียงไม้พอจะนอนได้อยู่ พวกเราอาศัยกันที่นี่ได้ แต่เรื่องสร้างบ้านยังต้องรบกวนท่านหัวหน้าอยู่ดี"
หยางมั่วเห็นว่าเกลี้ยกล่อมแล้วลู่ชุนก็ยังคงยืนยันจะอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้บังคับให้ลำบากใจ เขากลับไปที่บ้านพร้อมกับหยางไห่ เพียงไม่นานก็พาคนหนุ่มในหมู่บ้านมาช่วยกันถางหญ้าในบ้าน และรอบ ๆ บ้านให้พออยู่ได้ไปก่อน และยังบอกอีกว่าหากขาดเหลือสิ่งใดอย่าได้เกรงใจรีบไปแจ้งให้เขาทราบที่บ้านโดยด่วน ลู่ชุนและจ้าวลี่หลินโค้งคำนับเป็นการขอบคุณ เอาไว้ให้เสร็จเรื่องที่อยู่เขาค่อยขึ้นเขาไปหากวางป่ามาย่างเลี้ยงคนในหมู่บ้านสักวัน
เชิงอรรถ
^ 桃子 [táozi เถาจื่อ] ลูกท้อ
ตอนที่ 21 ซื้อที่ดินเพิ่มในเมื่อลู่ชุนรับของกำนัลของภรรยามาแล้วทั้งคืน เช้าวันต่อมาเขาก็ไม่รอช้า หากรีบจัดการธุระให้นางเสร็จเร็วไวไม่แน่ว่า คืนนี้เขาอาจจะได้นอนมองหญิงงามควบขี่บนตัวเขาอีกก็ได้ "ท่านหัวหน้าหยางขอรับ" ลู่ชุนตะโกนเรียกผู้เฒ่าสกุลหยางอยู่หน้ารั้วบ้าน ป้าหยางชะโงกหน้าออกมาดู ครั้นเห็นเป็นผู้ใดก็รีบวิ่งเข้าไปเรียกหยางซูเม่ยออกมาต้อนรับ แน่นอนว่าซูเม่ยย่อมต้องยินดี นางจัดทรงผมตนเองให้เรียบร้อย ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม เดินด้วยท่วงท่าที่ดูเหมือนจะงดงามออกไป"พี่ชุนเองหรือ เข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ ท่านปู่ออกไปดูนาข้าวสาลีอีกประเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว" ลู่ชุนดูลังเลอยู่บ้าง ทว่าซูเม่ยก็บอกว่ายังมีมารดาของนางที่อยู่ในบ้านอีก เขาจึงได้ตอบตกลง แต่กระนั้นก็นั่งรอที่โต๊ะใต้ต้นไม้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปถึงในบ้าน ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดอันใด แต่ชายหญิงก็ไม่ควรอยู่กันตามลำพัง อีกอย่างเขาก็มีภรรยาแล้วด้วย ต่อให้อยากเห็นนางดื่มน้ำส้มบ้างก็ตาม"แม่ข้าซื้อชามาใหม่ ท่านปู่ชอบดื่มชาน่ะ พี่ชุนลองดื่มดูเจ้าค่ะ" "ขอบใจเจ้ามาก" ลู่ชุนรับจอกชาขึ้นดื่ม กลิ่นชาเก่ามีกลิ่นอับ รสชาติของชาก็ไม่ดีเท่าไร หากไม
ตอนที่ 20 สามีกลับมาแล้วจ้าวลี่หลินเดินกลับจากลำธารพร้อมกับว่านถิงถิง ครั้นเมื่อถึงทางแยกบ้านสกุลว่านต้องเลี้ยวไปทางซ้าย ส่วนบ้านสกุลลู่ยังต้องตรงไปจนเกือบถึงเขาด้านหลังหมู่บ้าน นางอุ้มตะกร้าเดินอ้อมไปยังหลังหมู่บ้าน ไม่รู้ป่านนี้เสี่ยวไป๋จะกลับมาหรือยัง แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า อาชาตัวนั้นเป็นม้าที่รู้ความเป็นอย่างมาก มันทั้งรู้ภาษามนุษย์ และยังมีความเฉลียวฉลาด แต่กระนั้นก็อดห่วงมันไม่ได้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ทั้งนางและลู่ชุนก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่จนหมด อาภรณ์หรูหราที่เคยใส่ในเมืองนำออกไปขายจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงไม่ถึงสามชุด เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าเหมือนชาวบ้านที่นี่ แต่ก็ไม่น่าเสียดายเลยสักนิด นางชอบที่นี่ทั้งยังชินกับมันอีกด้วย ร่างอรชรเดินมาหยุดที่รั้วบ้าน ครั้นเห็นว่าประตูเปิดอยู่ นางก็ยิ้มกว้างออกมา รีบวิ่งเข้าไปวางตะกร้าเอาไว้ที่พื้น ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มที่ยืนอ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว"ข้ากลับมาแล้ว""ท่านกลับมาแล้ว ท่านพี่เหตุใดจึงกลับช้านักเจ้าคะ เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าให้ข้าดูหน่อยเถอะ อาหารแห้งที่ข้าทำให้พอกินหรือไม่เจ้าคะ" "ข้าตอบไม่ทันแล้ว หลินห
ตอนที่ 19 ภรรยาของพี่ชุนวันที่สี่ผ่านไปจ้าวลี่หลินก็ยังคงต้องอยู่กับอนุไป๋ที่บ้านเพียงลำพัง ตอนแรกสามีบอกว่าจะกลับมาวันนี้ แต่รอจนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา นางเดินไปชะเง้อมองที่หน้าประตูบ้าน และเดินกลับเข้ามาอย่างนี้ซ้ำ ๆ จนครั้งสุดท้ายเจ้าม้าดำชื่อขาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มันเดินเข้าไปกัดอาภรณ์ของนาง และลากกลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ใช้เท้าถีบประตูปิดลง นางโกรธเป็นอย่างมาก ตะโกนด่าเจ้าม้าบ้านั่นอย่างไม่ไว้หน้า"ไอ้ม้าบ้าเอ๊ย ไหนเจ้าหวงสามีข้านักหนา เขายังไม่กลับบ้านแต่เจ้ากลับดีนัก ไม่เป็นห่วงแล้วยังมาขังข้าไว้อีก" เสี่ยวไป๋ส่งเสียงร้องขึ้นมาหนึ่งคำ ก็เลิกสนใจนางอีก มันเดินกลับไปที่คอกของตนเอง ปล่อยให้นายหญิงวิปลาสตะโกนด่าต่อไปจ้าวลี่หลินด่าไปจนเหนื่อยล้านางหลับไปตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ตื่นขึ้นมาก็เป็นยามเช้าเข้าไปแล้ว หญิงสาวลากร่างกายที่ห่อเหี่ยวไปล้างหน้าบ้วนปาก และออกไปที่คอกเสี่ยวไป๋"ข้าลืมตัดหญ้ามาให้ เจ้าออกไปหากินเองละกัน นี่พูดก็พูดเถอะ ปกติแล้วเป็นม้าก็ต้องออกไปหาอาหารเองอยู่แล้ว มิใช่หน้าหนาวเสียหน่อย ยังต้องให้ตัดหญ้าให้อีก" เสี่ยวไป๋ไหนเลยจะสนใจนาง มันย่ำเท้าวิ่งออกไ
ตอนที่ 18 เก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกลู่ชุนขึ้นเขาไปได้สามวันแล้ว ในช่วงสามวันนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก วัน ๆ นางก็เอาแต่ก่อกวนเสี่ยวไป๋ ทะเลาะกับมันสักรอบสองรอบ จากนั้นก็ไปทำปุ๋ยหมักของนาง ตั้งแต่ที่ได้ฟังคำพูดของสามี นางก็เลิกคิดเรื่องมือวิเศษของนางไปเสีย เพราะนางลองใช้ชุบชีวิตหนูที่สามีหามา ปรากฏว่ามันก็ต้องถูกนำมาแกงอยู่ดี และอีกอย่างตามความคิดของนางนั้น ไม่ว่ามือคู่นี้จะปลูกอะไรก็มักจะขึ้นเสมอ นางจึงนำก้อนทองที่เก็บไว้ห้าก้อนมาปลูกเสีย นอกจากทองจะไม่งอกแล้ว มันยังดำอีกด้วย เรื่องนี้จึงเป็นอันจบไป "สะใภ้ลู่!!..สะใภ้ลู่อยู่หรือไม่" จ้าวลี่หลินยกเท้าขึ้นจากบ่อหมัก นางเดินไปล้างเท้าที่ถังน้ำ แล้วจึงเดินมาหน้าบ้าน"น้าชิงอีนี่เอง เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ" ชิงอีมารดาของอาซินเดินเข้าไปในบ้าน นางก้มหน้ามองแต่ทางตรงหน้า ไม่สอดส่ายสายตามองไปทั่วเหมือนป้าหยางภรรยาลุงไห่ นั่นจึงทำให้จ้าวลี่หลินรู้สึกดีกับนางมากขึ้น นางพาน้าชิงอีเข้ามานั่งในห้องโถงใหญ่ในบ้าน รินน้ำชาส่งไปตรงหน้า "อืม..ชาดี..สมแล้วที่เป็นสตรีจากเมืองหลวง" ชิงอีสูดดมกลิ่นชาก่อนจะยกขึ้นดื่ม ความจริงนางไม่รู้หรอกว่าชาดีหรือไม่ ชาวบ้านเช่นนาง
ตอนที่ 17 ปีศาจสาวของข้าผู้เดียว"เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ" หลังจากจบบทรักลู่ชุนก็รั้งภรรยาสาวเข้ามากอด เขาก้มลงจูบที่กลางศีรษะ ดวงตาปรือฉ่ำใกล้เข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที่แล้ว แต่กระนั้นก็ฝืนเอาไว้ เห็นใบหน้าหวานเหมือนกำลังมีเรื่องค้างคาใจ "เปล่าหรอกเจ้าค่ะ..ท่านพี่ครั้งนี้ท่านจะขึ้นเขานานหรือไม่" "คิดว่าจะไปสักสี่ห้าวัน ครั้งนี้อาตงกับอาซินขอไปด้วย คงต้องล่าให้เยอะขึ้นหน่อย จะได้ปันกันได้""ก็ดีเจ้าค่ะ" ลู่ชุนลูบหลังนางเบา ๆ เขาหลับตาลงอีกครั้ง ครั้นกำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงนางอีกแล้ว"ท่านพี่คิดว่าผักที่ข้าปลูกโตไวเกินไปหรือไม่ อาตงบอกว่าผักข้าโตไวเกินไป มันผิดปกติใช่หรือไม่""โตไวแล้วไม่ดีหรือ โตไวก็เอาไปขายได้ไว เจ้าก็บอกไปอย่างที่เจ้าบอกก็ถูกต้องแล้ว ปุ๋ยอะไรของเจ้านั่นอย่างไร มันเร่งการเจริญเติบโตให้ผักพวกนั้น หลินหลินเจ้าอย่าคิดมากเลย ดินดี น้ำดี การดูแลดีย่อมทำให้ผลผลิตออกมาดี" "แต่ชาวบ้านที่นี่ยังคงเชื่อเรื่องลี้ลับ ข้าเกรงว่า"อาทิตย์ก่อนมีนักพรตผ่านมาทางหมู่บ้าน นักพรตชรานั่นบอกว่าที่หมู่บ้านมีกลิ่นอายของปีศาจ จึงได้ทำพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคล ท่านหัวหน้าหยางให้ภรรยาเรี่ยไรเงิ
ตอนที่ 16 ผักโตไวซ่า!!..น้ำอุ่นร้อนไหลออกจากถังไม้ไผ่กระเพื่อมแล้วกระเพื่อมเล่า มือเรียวเกาะขอบถังยันตัวขึ้นรับแรงอัดกระแทกจากทางด้านล่าง"อ้าส์...ท่านพี่..""หลินหลินนั่งทับลงมาเร็วเข้า" มือหนาบีบเอวบางจนขึ้นรอยนิ้ว เขาอ้าขาออกแรงดึงเอวเล็ก บังคับให้นางทิ้งตัวลงมาบนกลางกายเขา "อื้อ...จุกเจ้าค่ะ" จ้าวลี่หลินเชิดหน้าห่อปากความคับแน่นทำให้นางไม่อาจขยับกายได้ ลู่ชุนถูกความบีบรัดของนางทรมานจนแทบจะสิ้นท่า เขาคำรามเสียงแหบพร่า โน้มตัวดันนางไปข้างหน้า กดทับให้นางเป็นฝ่ายตั้งรับ จ้าวลี่หลินคุกเข่าในอ่างน้ำ มือเล็กกำขอบอ่างเอาไว้แน่น สะโพกมนแอ่นขึ้นรับแรงกระแทกจากสามีจนตัวโยน"หลินหลินเด็กดี..อ้าส์..อ้าขาออกอีกนิด""มะ..ไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ..อื้อ..มันชิดขอบแล้ว..อู๊ย..." นางก็อยากจะอ้าขาให้กว้างกว่านี้อยู่หรอก ทว่าอ่างน้ำมันก็มีพื้นที่อยู่เท่านี้ "รัดแน่นถึงเพียงนี้ชอบที่สามีทำใช่หรือไม่..ซี้ด.."เสียงแหบพร่าของสามีหนุ่มทำเอาร่างอรชรทรุดตัวลงไปในน้ำ ลู่ชุนรั้งเอวนางขึ้นมา ขยับท่าให้ถนัดกระแทกแท่งเนื้อเข้าในช่องรัก ยิ่งโหมกระแทกแรงเพียงใด เสียงครางหวานและเสียงแหบพร่าก็ประสานกันดังยิ่งขึ้น กลบเ







