Share

ตอนที่ 5 หนามยอกเอาหนามบ่ง

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2025-01-28 14:39:17

“อิงเอ๋อ อิงเอ๋อ!”

“จะ เจ้าคะ”

“ไปยืนทำอะไรตรงนั้นเข้ามานั่งได้แล้วหากอาหารเย็นชืดหมดจะเสียรสชาติเอา”

“เจ้าค่ะ”

“ท่านอาสะใภ้กินนี่สิ ข้าคีบให้”

ซ่งหงอี้คีบเนื้อปลาให้นางอย่างทุลักทุเล ซ่งอวี่ถงเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเขาเอาแต่คีบข้าวเปล่ากินอยู่อย่างนั้นจนนางนึกสงสัย

‘ปลามีตั้งหลายตัวเหตุใดถึงกินแต่ข้าวเปล่าๆ เช่นนั้นกัน’

“ท่านกินแต่ข้าวเปล่าไม่แตะอาหารสักคำ เป็นอะไรอาหารไม่ถูกปากหรือ”

“ข้ากลัวเจ้าไม่อิ่ม”

“ห๋า”

“เจ้ากินไปเถอะตอนออกไปจับปลาข้าก็ย่างกินไปหลายตัวแล้ว ในท้องก็อิ่มพอตัวก็เพียงแค่นั่งกินเป็นเพื่อนเจ้ากับหงเอ๋อก็เท่านั้น”

“อ่อ อย่างนี้เองหรือ”

“นี่ท่านอาสะใภ้”

“หืม”

“พวกท่านนอนเตียงเดียวกันใช่ไหม เช่นนั้นข้าขอนอนเตียงเล็กนะขอรับ”

“แค่กๆ”

“อะไรกันข้าถามแค่นี้เองต้องตกใจด้วยงั้นหรือ”

“คือว่าหงเอ๋อข้านอนกับเจ้าก็ได้นะ”

“ไม่เอาตัวพวกท่านใหญ่ออกปานนั้นข้าได้ตกเตียงตายหรอก ข้าขอนอนคนเดียวดีกว่า”

“อะ เอ่อ”

มู่อิงเถาหันไปมองใบหน้าของชายหนุ่ม เดิมทีนึกว่าเขาจะต่อต้านหรือปฎิเสธอะไรออกไปบ้างแต่เขากลับเอาแต่นิ่งเงียบแล้วก็กินข้าวต่อเหมือนไม่ได้ยินที่ซ่งหงอี้พูดเมื่อครู่นี้เลย

‘อะไรกันเนี่ย’

มู่อิงเถาจึงปิดปากไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีกนางลงมือกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เพราะความหิวอีกทั้งความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้ทำให้นางลืมเรื่ิองที่ซ่งหงอี้หงพูดไปเมื่อครู่ทั้งหมด

“ถ้าอิ่มแล้วเอาจานไปวางไว้ที่ห้องครัวเลยนะเจ้าคะ ข้าจะล้างเอง”

"อืม"

“หงเอ๋อก็จะช่วยอาสะใภ้ด้วย”

“ได้จ๊ะเด็กดีไปกันเถอะ”

“ขอรับ”

คืนวันนั้นมู่อิงเถานอนไม่หลับนางออกมานั่งหน้าบ้านเพียงลำพังจ้องมองท้องฟ้าที่เวลานี้มีเพียงดวงจันทร์กลมโตดวงหนึ่ง และดวงดวงที่ส่องแสงประกายระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า สายลมที่เย็นยะเยือกพัดผ่านมาพานทำให้คนที่พลัดหลงบ้านรู้สึกใจหายขึ้นมาดื้อๆ

นางมาอยู่ที่นี่ในที่ที่ไม่รู้จักไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยายได้อย่างไร แล้วนางจะใช้ชีวิตอย่างไรให้อยู่รอดไปจนกว่าจะได้กลับบ้านของตนเองดีเล่า

ในนิยายเล่มนั้นนางอ่านถึงตอนที่มู่อิงเถาสิ้นใจตายในเรือนท้ายจวนของเขาเท่านั้น ตายด้วยสาเหตุอะไรก็ยังไม่รู้

‘ให้ตายสินางไม่อยากตายไปทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจเช่นนี้เลยนะ ไม่ได้แล้วนางต้องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนาง เอาตัวเองออกจากวงจรชีวิตของพวกเขาให้เร็วที่สุด’

ใช่แล้ว! มู่อิงเถาไม่มีลูกกับเขานั่นก็หมายความว่านางสามารถปลีกตัวออกจากครอบครัวนี้ไปได้อย่างง่ายดาย

“ฮ่าๆๆ ใช่ๆ เหตุใดไม่คิดถึงจุดนี้เลยนะ”

“เจ้าหัวเราะอะไร”

“เอ๋ท่านพี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าคะ”

“มาทันที่จะได้ยินเจ้าหัวเราะเมื่อครู่ เป็นอะไร? หรือว่าหัวเจ้ากระทบกระเทือนไปแล้วให้ข้าพาไปหาหมอหรือไม่”

“ท่านแช่งข้าอยู่งั้นหรือ”

“เจ้าเป็นภรรยาข้า หากเจ้าตาย…”

“ก็จะไม่มีใครอยู่ดูแลครอบครัวของท่านงั้นสินะ”

“ข้าไม่ได้…”

“ข้าได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สัญญากับข้าสิว่าวันข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากท่านเบื่อข้าแล้วก็ขอเพียงหย่าร้างและส่งข้ากลับบ้านเท่านั้น”

“เจ้ายังมีบ้านให้กลับไปอยู่อีกงั้นหรือ”

“ก็ไม่แน่ ข้าจะไปนอนแล้ว”

“อ้อท่านพี่ ท่านนอนเตียงเดียวกับหงเอ๋อเถอะนะเจ้าคะ ข้าจะนอนเตียงเล็กเอง”

“อืม”

แม้บุรุษตรงหน้าจะหล่อเหลาไม่เบาแต่นางเองก็ไม่คิดอยากจะเข้าใกล้เขามากเท่าใดนัก ยังคงนึกหวาดกลัวความโหดร้ายที่บรรยายเอาไว้ในหนังสือมิจางหาย

'ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วข้าต้องรีบวางแผนการเอาชีวิตรอดไว้ตั้งแต่ตอนนี้เสียแล้ว'

-เช้าวันรุ่งขึ้น-

เพราะความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์เมื่อวานทำให้เช้านี้นางนอนตื่นสายไปหน่อยจึงทำให้คลาดกันกับซ่งอวี่ถง ได้ยินซ่งหงอี้บอกว่าเขาขึ้นหุบเขาไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะกลับลงเขามาทันหรือไม่ ดังนั้นนางจึงรีบเอาผ้าห่มไปซักที่คลองท้ายหมู่บ้านเผื่อได้ใช้ทันการนั่นเอง

ตอนที่อยู่คลองน้ำนั้นนางได้ยินสะใภ้หยวนพูดคุยกับสะใภ้บ้านอื่นๆ ว่าสามีของพวกนางเคยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ได้ยินแว่วๆ ว่าที่หุบเขานั้นมีสมุนไพรล้ำค่าอีกด้วย

เพราะความที่เป็นนักศึกษาแพทย์จากยุคที่จากมาจึงทำให้มู่อิงเถารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยิน ดังนั้นนางรีบซักผ้าแล้วกลับไปที่บ้านอย่างรวดเร็ว ใจก็หวังอยากให้ซ่งอวี่ถงกลับมาไวๆ นางอยากรู้ว่าที่หุบเขามีสมุนไพรเหล่านั้นจริงๆ หรือไม่

เมื่อนางกลับมาจากคลองท้ายหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายเล็ดลอดเข้ามาจากทางหน้าบ้าน ทั้งยังมีเสียงสิ่งของแตกหักและเสียงร้องไห้ระงมของเด็กชายผู้ที่น่าจะเป็นหลานชายของสามีนางนั่นเอง

มู่อิงเถารีบวิ่งไปหน้าบ้านด้วยความรวดเร็วเมื่อมาถึงก็พบว่าคนที่เข้ามาทำลายข้าวของเป็นใครไม่ได้เลยนั่นก็คือสะใภ้ใหญ่ซ่งและลูกสาวตัวดีของนางนั่นเอง

“พวกเจ้าเข้ามาในบ้านของข้าทำไม”

“ฮ่าๆๆ พูดมาได้เต็มปากว่าเป็นบ้านของเจ้า ที่นี่มันบ้านร้างใช่ของพวกเจ้าเสียที่ไหนกัน ขอทานเช่นเจ้าอย่ามายุ่งถอยไป”

“ถ้ากล้าก็เข้ามา”

สะใภ้ใหญ่ซ่งเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้มู่อิงเถาก็ใช้หมัดซัดเข้าไปที่ใบหน้าของนางเต็มแรงจนเลือดกำเดาไหลออกมาทันที

สะใภ้ใหญ่ซ่งคงจะคิดไม่ถึงว่ามู่อิงเถานั้นจะสู้คนไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

“กรี๊ด! เจ้ากล้าทำร้ายข้าได้อย่างไรนังอัปลักษณ์!”

นางกรีดร้องโวยวายจนชาวบ้านละแวกนั้นต่างก็เข้ามามุงดูทีละคนสองคนจนเกือบเต็มลานบ้าน

มู่อิงเถาไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น นางก้าวเดินไปข้างหน้าสองแม่ลูกนั่นจึงเป็นฝ่ายถอยออกไปแทน

“เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ”

“!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 48 ชีวิตที่สงบสุข

    เพราะที่ผ่านเซี่ยอิงอิงต้องไปเรียนปักผ้าตามที่มารดาเลี้ยงของนางต้องการจึงไม่มีเวลามาพบปะสนทนากับมู่อิงเถานั่นเอง วันนี้ทั้งวันนางจึงมาอยู่เฝ้าพูดคุยกับมู่อิงเถาจนเวลาล่วงเลยไปถึงยามเย็น เมื่อถึงเวลากลับบ้านดูสาวน้อยผู้นั้นจะอาลัยอาวรณ์นางอยู่ไม่น้อยมู่อิงเถาออกมาส่งนางที่หน้าประตูจวนทั้งยังโบกมือลาให้เด็กสาวเมื่อรถม้าของนางพ้นจากระยะสายตาแล้วก็ได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งพูดขึ้นมาว่า“นั่นแม่นางเซี่ยนี่นา นางมาทำไมหรือขอรับอาสะใภ้”“หืม หงเอ๋อเจ้าเองหรอกหรือหายไปไหนมาข้าไม่เจอเจ้าเลยตั้งแต่ที่เข้าเมืองหลวง”“ข้าไปฝึกเรียนวรยุทธ์มาน่ะขอรับอาสะใภ้ ไม่ใช่สิพระชายา”“เรียกข้าว่าอาสะใภ้แบบเดิมน่ะดีแล้ว”“ไม่ได้หรอกขอรับตอนนี้ท่านเป็นถึงพระชายาแล้วจะให้เรียกแบบเดิมได้อย่างไรกัน”“ตามใจเจ้าเถอะ แล้ววันนี้ไม่มีเรียนงั้นหรือ”“ท่านอาจารย์ให้ข้าหยุดได้สิบวันขอรับ ข้าจึงรีบเดินทางมาหาพวกท่าน”“ดีเลยเช่นนั้นช่วงเวลาสิบวันนี้ก็ทำตัวให้ว่างล่ะพวกเราจะไปเที่ยวกัน”“เที่ยว?”“อืม”“ไปไหนขอรับ”หมู่บ้านต้าไห่ เมืองเป่ยเย่-บ้านตระกูลซ่ง-“ท่านแม่ท่านรู้มานานแล้วเช่นนั้นหรือ ที่ท่านไม่อยากให้ข้าไป

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 47 พานพบอีกครั้ง

    -เจ็ดวันผ่านไป-เมื่องานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของพระชายารัชทายาทและองค์ชายน้อยมาถึงในวังหลวงก็ดูจะครึกครื้นกันยิ่งนักบรรดาเหล่าขุนนางและฮูหยินของพวกเขาต่างก็ทยอยเดินเข้ามาในงานกันเรื่อยๆขณะที่มู่อิงเถาเดินอยู่เคียงข้างกับเยี่ยอ๋องอยู่นั้นก็ได้ยินขุนนางที่ยืนจับกลุ่มกันกำลังซุบซิบนินทานางอยู่แม้จะพูดคุยกันด้วยเสียงอันเบาแต่กับคนที่มีวรยุทธ์แล้วนั้นย่อมได้ยินชัดทุกถ้อยคำ“ท่านอ๋องผู้นี้ช่างเก่งกาจและมีบุญบารมีมากเหลือเกินแต่น่าเสียดายที่ชายาของเขานั้นกลับเป็นหน้าเป็นตาให้เขาไม่ได้”“จริงดังที่ใต้เท้ากล่าวสตรีผู้นั้นเป็นเพียงคนธรรมดาไหนเลยจะส่งเสริมท่านอ๋องได้กัน”“บุตรสาวของใต้เท้าซู ‘ซูม่านอวี้’ ผู้นั้นท่านว่าเป็นอย่างไรนางพึ่งผ่านวัยปิ่นปักไปได้ไม่นานทั้งยังไม่มีคู่ครองอีกด้วยดูเหมือนว่า….”เยี่ยอ๋องที่หยุดเดินกะทันหันก็ทำให้มู่อิงเถางุนงงไปไม่น้อย“มีอะไรหรือเจ้าคะ”เยี่ยอ๋องไม่ตอบนาง เขาหันหลังกลับไปจ้องมองขุนนางกลุ่มนั้นก่อนจะชำเลืองมองไปด้วยแววตาที่น่ากลัวยิ่งนักทำเอาใจของคนที่พบเห็นใจสั่นไหวไม่น้อย“ใต้เท้าผู้นี้พูดถึงชายาของข้าอยู่กระนั้นหรือ”“อะ เอ่อกระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะท

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 46 ปรับความเข้าใจ

    มู่อิงเถาไม่มีอารมณ์เดินเที่ยวเล่นต่อแล้วนางเลือกที่จะกลับจวนก่อนจะเดินหนีเขาเพื่อกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว“เจ้าเดินช้าๆ หน่อยสิเดี๋ยวก็หกล้มหรอก”“ข้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”มู่อิงเถาไม่หยุดฟังเขาพูด นางเดินต่อไปด้วยย่างก้าวที่เร็วขึ้นเหมือนไม่ต้องการที่จะเดินอยู่เคียงข้างเขาอย่างไรอย่างนั้น จนซ่งอวี่ถงต้องเร่งฝีเท้าขึ้นไปประชิดจนถึงตัวของนางก่อนจะคว้าแขนเล็กนั้นเอาไว้มั่น“อิงเอ๋อข้าบอกว่าอย่าเดินเร็วอย่างไรเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก”“ท่านสนใจด้วยหรือ”“เป็นอะไร”มู่อิงเถาหลับตาลงก่อนจะพยายามสงบจิตใจที่ว้าวุ่นของนาง‘ใช่นางเป็นอะไรไป พักนี้ก็ยังไม่เข้าใจตนเองเท่าใดนักก็แค่สตรีคนนั้นคนเดียวนางจะคิดอะไรมากกัน’“ท่านมีอะไรจะพูดกับข้า”“เข้าไปข้างในกันเถอะ”“พูดตรงนี้ก็ได้”ซ่งอวี่ถงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านางมืออีกข้างของเขาล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบบางอย่างออกมาก่อนจะจับไปมือของนาง มู่อิงเถาคิดอยากจะสะบัดออกแต่ซ่งอวี่ถงกับจับมือของนางเอาไว้แน่น“อยู่นิ่งๆ สิ”“ท่านจะทำอะไร”ซ่งอวี่ถงไม่ตอบเขาชำเลืองมองนางเล็กน้อยก่อนจะหยิบของสิ่งนั้นมาสวมที่นิ้วมือของนาง‘นี่มันแหวนที่ข้าไปจำน

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 45 แยกย้าย

    -ท้องพระโรง-มู่อิงหลันเคยเป็นหนึ่งในกุ้ยเหรินของฮ่องเต้มู่หรงฉีนางเคยร่วมมือกับเสียนเฟยมารดาขององค์ชายใหญ่ลอบทำร้ายอดีตฮองเฮา แต่ถูกเสียนเฟยโยนความผิดให้นางทั้งหมดจึงถูกขับไล่ออกจากวังหลวงนางจึงได้คิดการก่อเรื่องราวใหญ่โตจนนำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เสียนเฟยที่ก่อนหน้านี้ถูกลดอำนาจกักขังเพียงในตำหนักของตนแต่เมื่อถูกเยี่ยอ๋องรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาและปรากฎว่าเป็นนางที่เป็นคนบงการให้สังหารอดีตฮองเฮาจึงได้ถูกฮ่องเต้ตัดสินให้จองจำในตำหนักเย็นจากนั้นเป็นต้นมาซูเฟยพระมารดาของรุ่ยอ๋องเองก็มีความผิดฐานยุยงส่งเสริมและเคยมอบกองกำลังของสกุลซูแก่องค์ชายใหญ่นางจึงถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่เมืองเล่อซีแดนตะวันตกกับรุ่ยอ๋องโอรสของนางที่เดินทางไปก่อนหน้านี้แล้วนั่นเองฮ่องเต้น่าจะระแคะระคายเรื่องนี้มาบ้างแล้วถึงได้ส่งองค์ชายสามรุ่ยอ๋องไปก่อนแล้วจึงส่งซูเฟยให้ตามเขาไปทีหลัง นับว่าเขายังมีคุณธรรมมากพอไม่คิดสังหารลูกเมียไปจนหมดสิ้นเรื่องราวในราชวงศ์ซับซ้อนและน่ากลัวดังที่เยี่ยอ๋องหรือก็คือซ่งอวี่ถงเคยพูดเอาไว้นั่นเอง เขาจึงไม่มีความคิดอยากที่จะมาเหยียบที่แห่งนี้เลยสักเพียงนิดหากไม่ใช่เพราะอยากเรียกร้องที่มารด

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 44 ความกังวลใจ

    การเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงนั้นใช้เวลาถึงสิบวันเต็มเมื่อครั้งที่นางหนีจากเมืองเป่ยเย่ไปยังเมืองฉางอันใช้วิธีล่องเรือไปนั่นก็ทรมานปวดมวนท้องไปตลอดเส้นทางแล้ว มาครั้งนี้การที่ต้องมานั่งอยู่บนรถม้าก็ยิ่งทำให้นางปวดระบมไปทั้งตัวจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว“อดทนหน่อยนะอีกไม่กี่ลี้ก็ถึงเมืองหลวงแล้ว”“ข้าทนได้”“ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าอย่าเพิ่งกลับมาก็ไม่เชื่อเห็นหรือไม่ว่าตอนนี้ร่างกายของเจ้ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่”“ที่ข้าปวดเนื้อปวดตัวนั่นไม่ใช่เพราะท่านหรอกหรือ”“พูดอะไร”เขาจ้องมองนางเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางพูดหรือเขาแค่คิดไม่ทันกันแน่ ชายหนุ่มได้แต่บีบๆ นวดๆ ให้นางเพื่อให้อาการปวดเกร็งนั้นผ่อนคลายลงแต่นั่นกลับยิ่งทำให้นางเจ็บปวดมากขึ้น“พอแล้วๆ น้ำหนักมือของท่านมากเกินไปมันทำให้ข้าเจ็บมากกว่าเดิมเสียอีก”“ข้าทำเบามือสุดๆ แล้วนะ”มู่อิงเถาหันขวับไปจ้องมองใบหน้าใสซื่อของคนด้านข้าง“เบากระนั้นหรือเมื่อคืนวานไม่ใช่ท่านเป็นคนบอกข้าเองหรอกหรือว่าจะทะนุถนอมข้า แต่เหตุไฉนถึงได้เอาแต่ใจตนเองเช่นนั้นเห็นร่องรอยบนตัวข้าหรือไม่ยังดีที่เย่หยุนฟางเอาแต่ตามติดคุณชายเซี่ยนางถึงไม่ทันได้สังเกตมิเช่นนั้นข้าคงได้

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 43 กลับเมืองหลวง

    สวนไผ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบของนางนั้นเต็มไปด้วยต้นไผ่เขียวชอุ่มที่สั่นไหวไปตามแรงลมเสียงใบไผ่เสียดสีกันดังเป็นจังหวะ เมื่อก่อนนางมักมาเดินเล่นและพักผ่อนในที่แห่งนี้เป็นประจำหลังอาหารมื้อบ่ายมู่อิงเถาตั้งใจจะนอนพักสักงีบแต่ไม่ว่าอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อาจหลับตาลงได้จึงออกมาเดินเล่นรับลมในที่แห่งนี้ก่อนที่สองเท้าจะพาตนเองเดินทอดน่องไปจนถึงทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านนักมู่อิงเถาเข้าไปนั่งเล่นที่ศาลาไม้มองเห็นเรือไม้ลำเล็กที่ถูกผูกเอาไว้ที่ท่าน้ำ น่าจะเป็นเรือที่ซ่งอวี่ถงจัดหามานั่นเอง“อากาศเย็นเพียงนี้ยังออกมาเดินเล่นอีกเดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอก เหตุใดถึงไม่ใส่เสื้อหนาๆ มาด้วยนะ”‘ตะ ตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย’ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออกก่อนจะคลุมไปที่ไหล่บางของนาง ความอบอุ่นของเสื้อคลุมที่เพิ่งถอดออกจากตัวของเขาและกลิ่นกายที่คุ้นเคยนั้นทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเสียอย่างนั้นปากของเขาก็เอาแต่พร่ำบ่นไม่มีหยุด‘บ่นเป็นตาแก่ไปได้’“เมื่อก่อนท่านไม่เห็นบ่นเช่นนี้เลยนะ”“นั่นมันเมื่อก่อน”พูดจบก็นั่งลงข้างๆ นางจ้องมองใบหน้าหวานนั้นไม่วางตา“เมื่อก่อนข้านั้นโง่เขลายิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status