ตั้งแต่วันนั้นที่กลับมาจากศาลกงผิง ป๋อเหวินก็พานางไปหาหมอ หลังจากตรวจดูก็พบว่านางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว อีกสามวันจะมีการประหารถานลี่หลิน หลังจากนั้นพี่ชายของนางก็จะเดินทางกลับเมืองหลวงเพื่อปิดคดียามโฉ่ว เจ้าหน้าที่สองคนถูกล็อคคอจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงดังกร๊อบ โจวเยี่ยนเฉิงกับสือหลางลากสองคนเข้าไปมุมหนึ่ง ก่อนจะสวมชุดของเจ้าหน้าที่ออกมา พากันเดินเข้าไปในคุก จุดไฟรมควันสลบ ไม่นานเจ้าหน้าที่สิบคนก็หมดสติ โจวเยี่ยนเฉิงรีบเอากุญแจจากเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่เก้าอี้ รีบไปไขประตูให้ถานลี่หลิน นางเห็นโจวเยี่ยนเฉิงก็ดีใจ รู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องมาช่วยนางพอประตูเปิดออกนางก็โผเข้ากอดเขา เขาดันตัวนางออก" รีบไป"" เฮ้ เดี๋ยวก่อน ช่วยข้าด้วยสิ นะ ขอร้องหล่ะข้ายินดีเป็นทาสรับใช้ ให้ข้าทำอะไรก็ยอมช่วยข้าออกไปที ข้าไม่อยากถูกประหาร"โจวเยี่ยนเฉิงลังเล ก่อนจะโยนกุญแจให้" เจ้าเปิดออกมาเองเถอะ จะหนีรอดหรือไม่ก็แล้วแต่โชคชะตาของเจ้า"พูดจบก็จูงมือถานลี่หลินวิ่งออกไป แสงแดดเช้าวันใหม่สาดแสงเจิดจ้า โจวเยี่ยนเฉิงบังคับม้าให้หยุดเเล้วลงจากหลังม้า สือหลางที่ขับรถม้าก็บังคับม้าให้หยุดเช่นกัน ถานลี่หลินเ
" บังอาจ เจ้ากล้าลบหลู่พวกข้า เห็นทีว่าต้องจับเจ้าเข้าเครื่องทรมาน เจ้าถึงจะยอมสารภาพ"หม่าซิวหยวนตะคอกเสียงดัง ถานลี่หลินสะดุ้งตกใจ ตราบใดที่นางไม่ยอมรับ พวกเขาก็เอาผิดนางไม่ได้หรอก" จริงหรือเท็จเจ้ารู้ดีแก่ใจ ถุงเงินกับจดหมายนั่นข้าค้นเจอในห้องพักสมุนโจรคนหนึ่ง โชคดีที่แม้ผ่านมาหลายปีก็ยังอยู่ ต้องขอบคุณเจ้าด้วยนะ ที่เป็นคนชอบสะสมของเก่า โดยเฉพาะจดหมายนัดพบและสิ่งของอื่นๆ ทำให้ข้าสาวไปถึงตัวผู้บงการได้อีกหลายคนเลยทีเดียว"ซูตงหยางมองไปที่เซียวหมิง ถานลี่หลินหันควับไปมองด้วยสายตาเคียดแค้น ก็ว่าอยู่ว่าหลักฐานมาจากไหน โง่เขลาที่สุด ทำไมหยางไป๋ถึงได้มีลูกน้องโง่ๆแบบนี้ สะสมอะไรไม่สะสม ดันสะสมหลักฐานไว้ฆ่าตัวเอง" มาถึงขนาดนี้แล้วยอมรับผิดเถอะ ยังไงเจ้าก็หนีไม่พ้น""ยอมรับอะไรข้าไม่ผิด เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้า"" ข้าใส้ร้ายเจ้ารึ เจ้าก็รู้ดีว่าข้าพูดความจริงข้ายังจำได้ว่าพี่ใหญ่ถามเจ้า ว่ามีความแค้นอะไรกับพวกเขาถึงต้องฆ่าทิ้งให้หมดด้วยทั้งที่แค่ปล้นอย่างเดียวก็พอ เจ้าบอกว่าสองคนนั้นดูถูกเหยียดหยามเจ้า เห็นว่าเจ้าเป็นแค่สาวใช้ต่ำต้อย จึงขัดขวางความรักของเจ้ากับบุตรชายของเขา หากพวกเขาตายไปเจ้
หม่าซิวหยวนพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่นำกระดาษกับพู่กันไปให้นาง" เจ้าเขียนตัวหนังสืออะไรก็ได้ซักสองสามตัว ข้าจะดูเองว่าใช่ลายมือเดียวกันหรือไม่"ถานลี่หลินมองหน้าโจวเยี่ยนเฉิง ก่อนจะหยิบพู่กันมาเขียนอักษรลงไป นางจงใจเขียนบิดๆเบี้ยวๆ เจ้าหน้าที่เอาไปให้หม่าซิวหยวนดูเทียบกับจดหมาย ก็เห็นว่าลายมือไม่เหมือนกัน เขาส่งให้ซูตงหยางดู ซูตงหยางกระตุกยิ้มมุมปาก" เจ้าจงใจเขียนบิดเบี้ยวเพื่อให้แตกต่างจากในจดหมายสินะ"" ลายมือข้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ข้าเป็นเพียงสาวใช้ไม่มีความรู้อะไร ได้พี่ ได้นายท่านโจวเยี่ยนเฉิงช่วยสอนข้าให้เขียนหนังสือ ตอนที่เขาสอนข้าก็เขียนได้ดีอยู่ แต่พอนานไปข้าห่างเหินไม่ได้หยิบพู่กันนาน พอเขียนอีกทีก็เลยเป็นอย่างที่เห็น อีกอย่างเนื้อความในจดหมายก็แค่บอกสถานที่นัดเจอกัน บอกว่ามีงานให้ทำ ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่างานนั้นคืองานอะไร"โจวเยี่ยนเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย" นางพูดถูก หลักฐานแค่นี้อย่าคิดจะใส่ร้ายนางเลย"" ในเมื่อไม่ยอมรับในหลักฐานงั้นก็เบิกพยานเถอะ"ซูตงหยางบอกหม่าซิวหยวน หม่าซิวหยวนให้สัญญาณ เจ้าหน้าที่ก็พาคนเข้ามา วันก่อนทหารกลุ่มที่เมิ่งกุ้ยเฟยส่งมา ส่งข่าวจากนกพิราบส
" เจ้าอยากกลับเมืองหลวง"" ก็ใช่หน่ะสิ""แต่ข้าคิดว่าแค่เมืองซู่โจวนี้ก็พอแล้ว ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ลงโทษได้เลย ไม่จำเป็นต้องกลับเมืองหลวง"ถานลี่หลินตกใจ นางไม่เข้าใจว่าซูตงหยางพูดเรื่องอะไร โจวเยี่ยนเฉิงกับสือหลางก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ โจวเยี่ยนเฉิงออกมาขวางหน้านาง" เจ้าพูดอะไร ลงโทษอะไร ข้ารู้ว่าเมิ่งกุ้ยเฟยโปรดปรานเหยียนเอ๋อเหมือนบุตรสาว แต่ที่นางถูกน้ำป่าพัดไปก็ไม่ใช่ความผิดของหลินเอ๋อ นางเองก็ตกน้ำเหมือนกันหากจะโทษก็โทษข้าที่ช่วยเหยียนเอ๋อไว้ไม่ได้ "" เรื่องน้ำป่าพัดคิดเสียว่าน้องสาวข้าโชคร้ายเอง"" ถ้าอย่างงั้น"" หลายเดือนก่อนเจ้าคงจำได้ว่าข้าไปสืบคดี ไม่อยากรู้หรือว่าข้าไปสืบเรื่องอะไร"" ข้าไม่อยากรู้เรื่องงานของเจ้า แต่ถ้าเจ้าอยากเล่าก็เล่ามาข้าจะฟังให้ก็ได้"ซูตงหยางส่งเสียงหึในลำคอ ซูซินเหยียนไม่สนใจสักเท่าไหร่ มองเห็นผลมู่กวาก็ตาลุกวาว ป๋อเหวินมองตามก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บมาให้" เจ้าไม่อยากฟังก็ต้องฟัง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าโดยตรง"" เจ้าหมายความว่ายังไง"" ข้าไปสืบคดีโจรภูเขาที่ทางการยังตามจับตัวไม่ได้ โจรพวกนั้นออกอาละวาดทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ฝ่าบาทเลยมีคำสั่งให้ข้าไป
" ท่านพูดจบแล้วใช่ไหม พูดจบแล้วก็กลับไปได้แล้ว ป่านนี้นางคงกำลังรอท่านอยู่ ท่านรบกวนเวลาส่วนตัวของข้ากับสามีมานานแล้ว"" สามี เหยียนเอ๋อเจ้ากล้าเรียกคนอัปลักษณ์คนนี้ว่าสามีเต็มปากได้ยังไง "" ทำไมจะเรียกไม่ได้ ก็เขาคือสามีของข้าข้าจะเรียกเขาสามี สามี สามี จะทำไม เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย"" เหยียนเอ๋อ เขาสู้ข้าได้ตรงไหน เจ้าดูสิหน้าก็บากตาก็บอดข้างหนึ่ง แผลเป็นเต็มตัวไปหมด"โจวเยี่ยนเฉิงเห็นรอยแผลเป็นที่แขนและช่วงอกที่โผล่พ้นเสื้อออกมา ก็เดาว่าป๋อเหวินคงจะมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดเต็มตัวแน่ๆ" เขาไม่มีอะไรดีสู้ข้าได้เลย เจ้าก็เห็นใช่ไหม ข้ารูปงามราวเทพเซียน ผิวก็ขาวราวหิมะ ดูเขาสิ ดำก็ดำ หน้าก็บาก ตาก็ยังบอดข้างนึง โอ้ย ยิ่งมองก็ยิ่งหน้าเกลียด"ซูซินเหยียนไม่พอใจจะลุกขึ้นตอบโต้ แต่ป๋อเหวินจับแขนนางไว้ ส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นอะไร" เขาอยากพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป"ซูซินเหยียนจ้องมองโจวเยี่ยนเฉิงด้วยสายตารังเกียจ" ข้าไม่รู้ว่าก่อนว่านอกจากท่านจะปากสุนัขแล้ว ยังหลงตัวเองได้ถึงเพียงนี้"" เจ้าจะทำอะไร"ซูตงหยางรีบร้องถาม เมื่อเห็นโจวเยี่ยนเฉิงถอดเสื้อออก ป๋อเหวินก็ลุกขึ้นเตรียมตั้งรับ" ข้าจะให้นางดูใ
เสียงไก่ป่าขันบอกเวลาว่าเช้าแล้ว ป๋อเหวินลุกขึ้นมากระชับผ้าห่มให้ซูซินเหยียนก่อนจะเดินออกไป ช่วงนี้นางบ่นว่าคลื่นไส้ เขาเลยคิดว่าหากได้ผลไม้เปรี้ยวๆมาให้นางได้กินน่าจะดี จึงออกจากบ้านแต่เช้าจะไปบ้านฉู่กัง หน้าบ้านฉู่กังมีต้นหยางเหมยอยู่ ไม่คิดว่าพอเปิดประตูบ้านมา จะเจอกับโจวเยี่ยนเฉิงที่ยืนเก๊กท่าพิงต้นไม้อยู่ เขาไม่สนใจเดินผ่านไป" หยุดก่อน"ป๋อเหวินไม่หยุดแต่สาวเท้าเดินต่อ โจวเยี่ยนเฉิงไม่พอใจเข้าไปกระชากแขนแต่ถูกสะบัดออกจนเซ" เจ้า เจ้าอยากได้เท่าไหร่ว่ามา แต่ต้องพอควรอย่าให้มันมากไปนัก"ป๋อเหวินขมวดคิ้วไม่เข้าใจ หันไปมองหน้าโจวเยี่ยนเฉิง" ข้ารู้ว่าเจ้าช่วยชีวิตของเหยียนเอ๋อไว้ แต่ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรหลอกให้นางแต่งงานด้วย นี่เจ้าคงไม่คิดจริงๆหรอกนะ ว่าที่นางยอมแต่งงานกับเจ้าเพราะนางรักเจ้าจริงๆ ฮ่าฮ่า เจ้าดูสารรูปตัวเองสิ หญิงสาวที่ไหนจะอยากมอง นางแต่งงานกับเจ้าก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเท่านั้นแหละ อีกอย่างนางต้องการประชดข้า เพื่อให้ข้าสนใจนาง ตอนนี้ข้าตามหานางเจอแล้ว ข้ากำลังง้อนางอยู่ ในเมื่อตัวจริงมาแล้วตัวสำรองอย่างเจ้าก็ควรหลบไปซะ"โจวเยี่ยนเฉิงลอยหน้าลอยตาพูด พลา