ร่างสูงเดินหอบหัวใจที่บอบช้ำ ออกมาจากร้านอาหาร สิ้นสุดกันแล้วสินะความรักที่มีต่อกัน เขารู้ว่าพริมาเองก็เจ็บไม่ต่างจากเขา เลิกกันตอนนี้ก็ดีแล้ว ถ้าขืนยังยื้อกันต่อไป ก็จะมีแต่เจ็บปวด เพราะความรักของเขากับเธอมันไม่มีทางออก ความรักก็แบบนี้เมื่อสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง
ลมทะเลพัดมากระทบผิวหน้า ตาคู่คมมองไปยังผืนน้ำที่กว้างจนสุดลูกตา สองขาก้าวเดิน เมื่อรู้สึกเหมือนมีใครสักคนรอเขาอยู่ในนั้น ท้องทะเลยามค่ำคืนสวยงามและมีมนต์เสน่ห์ ร่างสูงหลับตาลงเมื่อทิ้งตัวลงใต้ผิวน้ำ ก็แค่นี้แค่หลับตา แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป อกหักเรื่องเล็ก คงเป็นคำพูดของคนที่ต้องการให้กำลังใจกันและกัน คำว่าอกหักสำหรับน่านนทีแล้ว มันหนักจนเขาไม่อยากจะนึกถึงวันพรุ่งนี้ ชีวิตที่ไม่มีพริมา มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายทั้งเป็น เพราะเธอเป็นทุกอย่างของเขา
"คุณธาร! จะไปไหนคะ"นารีร้องถาม เมื่อเห็นนายสาวเดินไปที่ชายหาด
"ไปเดินเล่นค่ะ"สายธารตะโกนตอบ เมื่อพี่เลี้ยงร้องถาม นานๆเธอจะได้มาทะเลสักครั้ง นี่แค่สองทุ่มจะให้เข้านอนก็คงนอนไม่หลับ
"ขออนุญาตคุณปู่หรือยังคะ"นารีถาม พร้อมกับวิ่งตามมาด้วยความห่วงใย
"เบาๆสิคะพี่นิ่ม เดี๋ยวคุณปู่ก็ทราบพอดีว่าธารหนีออกมา"หญิงสาวหันมาดุพี่เลี้ยง
"ไม่ได้ขอคุณปู่จริงๆด้วย"นารีทำท่าทางรู้ทัน
"ไปเดินเล่นแค่นี้เอง อย่าโวยวายสิคะ"
"แต่..."นารีทำท่าทางลังเล ในขณะที่สายธารเดินห่างออกไป
"คุณธารรอพี่ด้วยค่ะ!"
"ตามมาค่ะ!"สายธารตะโกนตอบ ก่อนจะวิ่งหนี เมื่อเห็นนารีวิ่งตามมา ก็แค่นี้ทำมาเป็นห้าม ที่แท้ก็อยากมาด้วย
สองสาวจูงมือกันเดินเล่นไปตามชายหาด อากาศยามค่ำคืนเงียบสงบและเย็นสบาย ถึงแม้จะมาจากต่างถิ่น แต่สายธารกลับไม่รู้สึกกลัว ผิดกับนารีที่กลัวจนเดินเหลียวหน้าเหลียวหลัง แต่เพราะความห่วงใยที่มีต่อนายสาว ถึงแม้จะกลัวจนใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก็ต้องทำใจแข็งเดินตามมา
"อะไรอยู่ในน้ำคะพี่นิ่ม!"สายธารถาม เมื่อเห็นเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลอยอยู่เหนือน้ำ แล้วจมหายเมื่อถูกคลื่นซัด ตากลมโตเพ่งมองเพื่อให้แน่ใจ
"ไหนคะ ไม่เห็นมีเลย พี่ว่าเรากลับกันเถอะคะ เดินมาไกลแล้วนะคะ"
"แต่ธารเห็นค่ะ นั่นไงคะ! น่าจะเป็นคน"สายธารยืนยัน พร้อมกับชี้มือให้นารีดู เมื่อแน่ใจว่าสิ่งที่ลอยอยู่ในน้ำคือคน แต่จะมีชีวิตหรือไม่ เธอก็ไม่แน่ใจ
"คนที่ไหนจะมาเล่นน้ำตอนนี้ พี่ว่าเรากลับเถอะค่ะ"นารียังยืนยันคำเดิม รู้สึกกลัวเมื่อเห็นบางอย่างลอยในน้ำ ผิดกับสายธารที่รีบวิ่งลงไป เมื่อแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือคน ร่างบางว่ายไปยังจุดที่ร่างนั้นลอยอยู่ ก่อนจะลากเข้าฝั่ง โดยมีนารีลงไปช่วยอีกแรง
"เอาไงดีคะพี่นิ่ม"สายธารถาม เมื่อลากร่างนั้นขึ้นมาบนหาดทราย ตากลมโตมองไปยังคนที่นอนนิ่ง ก่อนจะก้มลงไปฟังเสียงหัวใจของเขา
"ผู้ชายค่ะคุณธาร! ตายไหมคะ!"นารีร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจ
"ยังค่ะ ตามตัวไม่มีแผล น่าจะแค่จมน้ำ"สายธารเงยหน้าขึ้นมาบอก พร้อมกับทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตามขั้นตอนที่เคยเรียนมา ปากบางตัดสินใจประกบลงไปบนปากหนา เพื่อแบ่งปันออกซิเจนให้เขา นารียกมือปิดปาก ตกตะลึงกับการกระทำของนายสาว ก่อนจะช่วยบีบนวดแขนขาเขาอีกแรง อยากให้เขารู้สึกตัวเร็วๆ เพราะอยากไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
"แค่กๆ"ไม่นานคนที่นอนนิ่งก็รู้สึกตัว ร่างสูงขยับไปมา ได้ยินเสียงเรียกให้ตื่น เสียงคนคุยกัน แต่ตาก็หนักจนลืมขึ้นไม่ไหว
"ไปเถอะค่ะคุณธาร"นารียังเร่ง เพราะไม่อยากให้นายสาวอยู่ตรงนี้นานๆ มันมืดและน่ากลัวเกินไป ยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ นารียิ่งใจเสียในหัวคิดไปต่างๆนานา
"แล้วเขาล่ะคะ"สายธารยังลังเล รู้สึกห่วงใยคนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น
"ทิ้งไว้ตรงนี้แหละค่ะ เขารู้สึกตัวแล้ว เรากลับกันนะคะ ถ้าคุณปู่ตื่นมาแล้วหาคุณธารไม่เจอ ครั้งหน้าเราไม่ได้ออกจากบ้านแน่ๆ นะคะคุณธารเชื่อพี่นะคะ"นารีพยายามเกลี้ยกล่อม เมื่อเห็นเขาคนนั้นรู้สึกตัวแล้ว
สายธารมองคนที่นอนอยู่บนหาดทราย รู้สึกตัวแล้วก็น่าจะปลอดภัย มองใบหน้าที่ซีดเซียว เกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ลอยอยู่ในน้ำ ตากลมโตมองหน้าเขาอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึงของพี่เลี้ยงสาว เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ทำไมนะถึงได้มาจมน้ำ หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้ในใจ รอให้ถึงบ้านพักค่อยโทรแจ้งมูลนิธิ 'สาธุขอให้พระคุ้มครองให้เขาปลอดภัยด้วยเทอญ' หญิงสาวภาวนาในใจ เมื่ออยู่ๆก็รู้สึกห่วงใยเขาขึ้นมา
สิงห์ถอนหายใจเมื่อความซวยมาเยือน จะเดินหนีก็ใช่ที่ ไหนๆก็เป็นคนพาพวกเธอมา ช่วยสักครั้งจะเป็นไรไป เพิ่งเจอกันครั้งแรก ไอ้ธงชัยคงไม่พิศวาสถึงขนาดฆ่าเขาทิ้งหรอกมั้ง ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปใกล้วงล้อมอีกนิด โดยมีน่านนทีตามไปอีกคนสายธารเหมือนโดนมนต์สะกด ตากลมโตไม่ล่ะจากใบหน้าคมเข้ม เธอแน่ใจแล้วว่าเขาคือผู้ชายที่ทะเลจริงๆ โลกกลมจนน่าตกใจ"ไอ้สิงห์! ไอ้น่าน!"ธงชัยเอ่ยชื่อคนมาใหม่ ก่อนจะกัดกรามด้วยความโมโห หมูกำลังจะหามดันเอาคานมาสอด"ฉันบอกให้รอที่รถ เดินมาทำอะไรตรงนี้"น่านนทีเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อต้องเล่นไปตามบท สองคนนี้บ้านอยู่ท้ายไร่เขา ไม่แปลกถ้าเธอจะติดรถเขามาตลาดด้วย"มึงพาสองสาวนี้มาเหรอ"ธงชัยถาม เขาเองก็สังเกตเห็นอาการของเธอที่ดีใจเมื่อเห็นหน้าน่านนที จนออกนอกหน้า"ใช่ ขอติดรถกูมาซื้อของ ถ้ารู้ว่าวุ่นวายขนาดนี้ กูไม่พามาหรอก"น่านนทีพูดขึ้น สองสาวหน้าตึง "ฉันมากินก๋วยเตี๋ยว"สายธารตอบ "ไม่ต้องกิน ฉันจะกลับแล้ว"น่านนทีพูดเสียงเย็น สายธารกลืนน้ำลายลงคอ เข้าใจว่าเขากำลังช่วย แต่จำเป็นต้องโหดและนิ่งขนาดนี้เลยหรือ ดูก็รู้ว่าเขาไม่พอใจ และรำคาญพวกเธอ"หลีกทางให้น้องเขาสิ แล้วพี่จะไปหาที่ไร่นะคร
"หลานตาชุบ มัคนายกที่บ้านอยู่ท้ายไร่ไอ้น่านนะเหรอ"ภูชิตถามต่อ เมื่อสองสาวเดินผ่านไป"เออ...ก็มีอยู่ชุบเดียวนั่นแหละ""สวยเนอะมึงว่าไหม""ก็งั้นๆ"คำพูดนี้น่านนทีเป็นคนตอบ จะว่าสวยก็สวย แต่จะดูให้ธรรมดาก็ธรรมดา เขาเคยเห็นคนสวยมาเยอะ ระดับนางงามก็เคยเจอมาแล้ว"มากันสองคน กล้าหาญจริงๆ""หน้าตาแบบนี้ ถ้าไอ้ธงชัยเห็นคงไม่รอด"คำว่าธงชัยทำให้คิ้วเข้มกระตุก มือแกร่งยกแก้วสาดเหล้าลงคอ ใครจะชอบไม่ชอบใคร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสองสาวกลายเป็นหัวข้อสนทนาของสี่หนุ่ม เมื่อยิ่งพูดก็ยิ่งสนุกปาก จะมีก็แต่น่านนทีคนเดียวที่นั่งฟังเงียบๆ เพราะผู้หญิงกลายเป็นของแสลงสำหรับเขาไปแล้วอีกด้านของตลาด ธงชัยกับพรรคพวก ก็สนใจคนแปลกหน้าเช่นกัน ข้อมูลที่ได้มาจากลูกน้อง ทำให้รู้ว่า สาวแปลกหน้าเป็นหลานตาชุบ "สวยนะพี่"ลูกน้องคนสนิทกระซิบที่หูเจ้านาย เมื่อสองสาวเดินมาทางนี้"อืม..."ธงชัยขานรับในลำคอ สายตาจับจ้องไปยังใบหน้าของผู้หญิงทั้งสอง ก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าขาวเนียน ของคนที่ผิวขาวกว่า"คนหลังน่าจะอ่อนหวานเอาใจเก่ง"เหล้าในมือ ถูกกลืนลงคอ เมื่อเลือกคนที่ถูกใจได้แล้ว"ไปทำความรู้จักกันหน่อย"ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ เมื
เสียงไก่ขันที่ลอยมาตามลม ปลุกคนที่เพิ่งงีบหลับไปเมื่อตอนค่อนคืนให้ตื่นขึ้น สายธารลืมตา เมื่อคนที่นอนข้างๆขยับตัว "ไปไหนคะ""คุณธาร พี่ทำให้คุณธารตื่นหรือเปล่า"นารีพูดอย่างสำนึกผิด"พี่นิ่ม!"สายธารเสียงดัง เมื่อนารียังใช้ถ้อยคำเดิมๆพูดกับเธอ"ขอโทษค่ะ พี่ลืม""แล้วจะไปไหนคะ""พี่จะไปดักรถกับข้าวค่ะ ลุงแกว่ารถจะมาตีสี่ จะได้ถามชาวบ้านด้วยว่าตลาดไปทางไหน ธารนอนต่อนะ เดี๋ยวพี่มา""ธารไปด้วยค่ะ"สายธารพูด พร้อมกับมุดมุ้งตามออกมานารีขี่จักรยานโดยมีสายธารนั่งซ้อนท้าย โชคดีที่ลุงชุบทิ้งไฟฉายไว้ให้ เธอจึงมีไฟส่องทาง ตากลมโตมองไปรอบๆบริเวณ ที่มีดวงไฟสีส้มเป็นจุดๆ "ตรงที่มีไฟน่าจะเป็นบ้านคนนะ"สายธารพูด เมื่อสังเกตรอบๆ"นั่นสิพี่ก็ว่าใช่"นารีเห็นด้วย ลมหนาวพัดมากระทบผิว ทำให้สายธารคิดถึงบ้าน ที่บ้านอากาศตอนเช้าก็หนาวแบบนี้ แต่เธอไม่เคยออกจากบ้านในสภาพนี้เลยสักครั้ง ถ้าจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ก็จะมีคนขับรถไปส่งเสมอ "นั่นใช่ไหมรถกับข้าวที่ว่า"นารีชี้มือไปด้านหน้า ที่มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมุงรถกระบะ"น่าจะใช่นะ"สองสาวปั่นจักรยาน มาจอดบริเวณที่รถขายกับข้าวจอดอยู่ แล้วพากันไปเลือกซื้อกับข้
เมื่อความมืดโรยตัว ความเหงาก็เข้าเกาะกุมหัวใจ ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่หน้าบ้าน ตากลมโตมองดวงดาวบนท้องฟ้า น้ำตาพากันไหลลงมาเป็นสาย "คุณปู่ขาธารคิดถึงคุณปู่"หญิงสาวพูดกับตัวเอง เมื่อตระหนักได้ว่า ที่พึ่งเดียวในชีวิตได้จากเธอไปแล้ว "คุณธารมานอนได้แล้วค่ะ พี่นิ่มผูกมุ้งให้แล้ว โชคดีนะคะหนูไม่กัดพวกผ้าห่ม เหม็นสาบหน่อยแต่ใช้ได้"นารีเดินออกมาจากตัวเรือน หญิงสาวหยุดอยู่กับที่ เมื่อเห็นนายสาวกอดเข่าร้องไห้"คุณธาร ร้องไห้อีกแล้ว"นารีนั่งลงข้างๆ "พี่นิ่ม ธารคิดถึงคุณปู่ คิดถึงบ้าน"สายธารบอกกับนารี เมื่อซบลงบนไหล่พี่เลี้ยงสาว"พี่เข้าใจ ร้องออกมาเถอะค่ะ ร้องออกมาให้หมด""ธารพยายามจะเข้มแข็งแล้ว แต่ธารทำไม่ได้ ขอให้ธารร้องอีกครั้งนะคะ ธารสัญญาว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย""ไม่ต้องสัญญาค่ะ น้ำตาคือเพื่อนที่ดีที่สุด คุณธารอยากร้องก็ร้อง ร้องออกมา คนเข้มแข็งก็ร้องไห้ได้ค่ะ""ทำไมธารต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยคะ เวรกรรมอะไรของธาร""ไม่ใช่เวรกรรมหรอกค่ะ ไอ้สนิทมันเลว ต่อให้เราไม่เป็นหนี้มัน สักวันมันก็ต้องหาเรื่องมาเอาตัวคุณธารไปอยู่ดี"นารีกำหมัดแน่น เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พ่อเลี้ยงสนิทจ้องสายธารมาตั้งแต่อายุ 15
ทองชุบที่ป้านวลแนะนำมา แท้จริงแล้วเป็นพี่ชายของป้านวล และก็ไม่ได้เป็นสัปเหร่ออย่างที่ผู้ชายคนนั้นบอก ลุงทองชุบเป็นมัคนายกวัดอย่างที่สองสาวเดาไว้ตั้งแต่ตอนแรก เมื่อแนะนำตัวและบอกที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ลำปาง ทองชุบก็ถอนหายใจ แล้วมองหน้าสองสาวที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แล้วคิดหนัก ทุกวันนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีอาชีพอะไร อาศัยทำงานในวัด เพื่อแลกข้าวก้นบาตรไปวันๆ กินนอนที่วัด จะรับสองคนนี้ไว้ก็ไม่สะดวก ครั้นจะปล่อยไปก็ไม่ได้ เมื่ออ่านจดหมายที่ป้านวลฝากมา ก็เข้าใจความจำเป็นทั้งหมดทั้งมวล"ธารกับพี่นิ่มไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอบคุณลุงมากนะคะ"สายธารพูดขึ้น เมื่อเห็นความลำบากใจในดวงตาของชายวัยกลางคนที่มองมาที่เธอ การที่จะรับคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องคิดมาก "ใช่จ้ะแค่นี้ก็รบกวนลุงมากแล้ว"นารีเห็นด้วยกับสายธาร แค่ทองชุบรับฟังเรื่องราว หาข้าวหาน้ำให้พวกเธอกิน ก็มากพอแล้ว เธอคงไม่รบกวนไปมากกว่านี้"แล้วพวกเอ็งจะไปไหนกัน"ทองชุบถาม อดรู้สึกห่วงไม่ได้ ผู้หญิงมากันตามลำพังย่อมไม่ปลอดภัย"พวกฉันก็ยังไม่รู้จ้ะ"นารีตอบไปตามความจริง ตอนนี้พวกเธอสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีที่ไหนให้พึ่งพา บ้านที่
นารีปัดสิ่งที่กวนใจออกจากไหล่ เมื่อมันรบกวนเวลานอนของเธอ มือบางฟาดหนักๆลงไปบนสิ่งนั้น เมื่อมันยังกวนเธอไม่เลิก"นี่เธอสองคนน่ะ ตกลงจะนอนใช่ไหม"สิงห์เรียกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเรียกสองสาวมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะตื่น "เสียเวลาฉิบ!"พูดอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเบื่อหน่ายสองคนนี้เต็มทน"นี่ยายขี้เซา ตื่นได้แล้ว!"ชายหนุ่มตะโกนใส่หูหญิงสาวคนที่นั่งใกล้เขา ไม่ได้ผล แทนที่เธอจะตื่น กลับผลักหน้าเขาออก แล้วหันไปอีกทาง เพื่อหนีจากสิ่งรบกวน คนที่นั่งข้างประตูก็เช่นกัน หัวที่พิงบานประตูหมุนกลับมาพิงกับหัวคนที่ขยับหนีเขา เป็นตำแหน่งที่เหมาะจริงๆ สองสาวหันหัวมาชนกัน แล้วหลับต่ออย่างสบายอารมณ์"ซ้อมหรือตายไงวะ"สิงห์บ่นอย่างหัวเสียปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊นเสียงแตรรถที่ขับสวนมา ดึงความสนใจของสิงห์ไปจากสองสาว เมื่อชายหนุ่มหันไปคุยกับคนที่ตะโกนมาจากรถคันนั้น"กลับมาแล้วเหรอ ได้ของครบไหม!"น่านนทีตะโกนถาม เมื่อเห็นรถสิงห์ ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่เห็นสิงห์จอดรถอยู่หน้าวัด"ครบ มึงจะไปไหน!"สิงห์ตะโกนตอบ แล้วถามกลับ"ไปเอาต้นกาแฟที่ไร่ไอ้เพชร ไปไหม!""เดี๋ยวตามไป!"สายธารปรือตาขึ้น เมื่อได้ยินเสีย