Home / โรแมนติก / สายลมรักเมขลา / ตอนที่ 2 ไล่ล่า

Share

ตอนที่ 2 ไล่ล่า

last update Last Updated: 2025-12-16 21:18:23

วายุและเมขลาขับรถลงมาจากยอดดอยได้สักพักแล้ว บรรยากาศภายในรถเริ่มเงียบลงหลังจากที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจในการกลับมาคืนดีกันของเมฆินทร์และจารวี แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดของหุบเขาที่คืบคลานเข้ามาพร้อมความเงียบสงัด

“พี่วายุ... เราทิ้งพวกเขาไว้แบบนี้จะดีเหรอคะ” เมขลาถามขึ้นอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าวายุทำไปเพื่อพี่ชายและเพื่อนรัก แต่ในใจเธอก็ยังกังวล

“ดีกว่าเยอะ” วายุตอบพร้อมกับหันมายักคิ้วให้ “ปล่อยให้เขาได้คุยกันบ้างเถอะน่า ตั้งหลายเดือน กว่าพวกนั้นจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ซักที เมย์ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกน่า... มาอยู่กับพี่แล้วต้องผ่อนคลายสิครับ”

เธอส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความกะล่อนของเขา แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงมีความคิดมากอย่างเห็นได้ชัด

“เมย์ไม่ได้เครียดเรื่องนั้นค่ะ เมย์คิดเรื่องที่พี่เมฆเล่าเรื่องชายชุดดำต่างหาก พี่เมฆบอกว่ามันพูดกับจี๊ดว่า ‘จำฉันไม่ได้เหรอ’ ถ้าเป็นพวกโรคจิตตามติดผลงานจะพูดแบบนี้เหรอคะ”

วายุเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจังขึ้นเล็กน้อย “พี่ก็ว่าไอ้เมฆคิดถูกนะ ลักษณะการจู่โจมมันไม่เหมือนพวกคลั่งไคล้ แต่มันเหมือนคนที่ต้องการแก้แค้นมากกว่า...หรือเราลืมอะไร หรือพลาดตรงไหนไปหรือเปล่า”

“ลืม? ใครกันคะที่พี่เมฆและจี๊ดอาจจะลืมไปได้” เมย์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอหันไปสบตากับวายุเพื่อรอคำตอบ

วายุเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมกวาดมองไปที่กระจกมองหลังอย่างระแวดระวัง แม้แสงอาทิตย์จะกำลังลับขอบฟ้า แต่บริเวณถนนยังคงมีแสงสีส้มอ่อนๆ ทำให้มองเห็นได้ไม่ยาก

“พี่ไม่แน่ใจ” วายุตอบเสียงเบาลง “แต่มันฟังดูเหมือนเป็นคนที่เคยรู้จักกับทั้งสองคนมาก่อน

“หมายถึงใครคะ!?” เมย์เร่งเร้า

“ยังก่อนน่าเมย์ อย่าเพิ่งคิดมาก” วายุปัดมือเบา ๆ ที่ไหล่ของเธอ พยายามทำตัวให้ผ่อนคลาย แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเครียด “ตอนนี้เราแค่ต้องลงจากเขาไปให้ได้ก่อน เดี๋ยวมันจะมืดซะก่อน”

 

ทันใดนั้น!

<ปัง!>

เสียงดังสนั่นเหมือนเหล็กปะทะกับเหล็กพุ่งเข้าปะทะกับยางล้อหลังด้านซ้ายของรถอย่างจัง ตามมาด้วยเสียงยางที่ฉีกขาดและรถที่เริ่มเสียการควบคุม!

“เฮ้ย!” วายุสบถด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาซีดเผือด “เสียงปืน!”

เขาไม่รอช้า เหยียบเบรกสุดแรงและพยายามหักพวงมาลัยเพื่อประคองรถที่เริ่มไถลไปด้านข้าง แต่ถนนที่คดเคี้ยวและแรงเหวี่ยงทำให้รถของเขากระแทกเข้ากับขอบทางอย่างรุนแรง

<ปัง!>

เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ใกล้กว่าเดิมมาก วายุเห็นเงาของรถยนต์คันหนึ่งที่กำลังเร่งเครื่องตามมาอย่างรวดเร็วจากกระจกมองหลัง คนขับกำลังถือปืนพกเล็งมาที่พวกเขา!

“จับไว้แน่นนะเมย์!” วายุตะโกนเสียงดังสุดเสียง

รถของวายุเสียหลักอย่างสมบูรณ์ ล้อรถหมุนฟรีบนพื้นถนนที่เป็นกรวดและดินอ่อนๆ ก่อนที่รถทั้งคันจะหลุดออกจากถนน ลงสู่ไหล่ทางที่มีความลาดชันสูง

รถไถลลงไปอย่างรวดเร็ว กลิ้งไปตามก้อนหินและพุ่มไม้ เมย์กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

<โครมมมมม!>

ในเสี้ยววินาทีที่ดูเหมือนจะตกลงสู่หุบเหว... รถของเขากลับไปหยุดแน่นิ่งอยู่ตรงพุ่มไม้ทึบขนาดใหญ่ที่คอยยึดตัวมันไว้ไม่ให้ร่วงลงไปในช่องเขาที่ลึกกว่านั้น ทั้งสองถูกแรงกระแทกอัดเข้ากับเข็มขัดนิรภัยอย่างแรงจนจุก แต่ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

ความเงียบเข้าปกคลุม... ตามมาด้วยเสียงเครื่องยนต์ของรถที่ไล่ตามมาที่หยุดอยู่บนถนน

วายุรู้สึกเหมือนร่างกายแหลกสลายไปทั้งตัว แต่สัญชาตญาณของการเอาตัวรอดทำให้เขารีบปรับเบาะนั่งให้ตั้งตรงและหันไปมองที่เมขลาทันที

“เมย์! เป็นอะไรไหม!?”

เมขลาตัวสั่นเทา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก แต่เธอก็พยักหน้าเล็กน้อย

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ”

วายุรีบปลดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดให้หญิงสาวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระชากประตูรถที่บุบเบี้ยวให้เปิดออก

“เร็วเข้าเมย์! วิ่ง!” เขาเรียกเธอพร้อมกับคว้ามือถือที่วางอยู่ช่องใส่ของ

วายุคว้าข้อมือเมขลาไว้แน่น แล้วกระโดดออกจากซากรถที่พังยับเยินอย่างไม่คิดชีวิต เขาได้ยินเสียงคนเปิดประตูรถและเสียงฝีเท้าที่กำลังย่ำลงมาบนกรวด

“หนีไปแล้วเหรอ! มึงจะหนีไปไหนได้วะ! กลับมาให้กูจัดการให้จบ ๆ ซะ!” เสียงตะโกนดังตามหลังมาพร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้นอีกครั้ง

<ปัง! ปัง!>

กระสุนเฉียดผ่านกิ่งไม้ใกล้ๆ กับศีรษะของพวกเขา

วายุไม่รอช้า เขาพาเมขลาวิ่งลัดเลาะเข้าไปในป่าทึบอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เลือกลงจากไหล่ทางที่สูงชัน เพื่อให้พวกที่ตามมาหาได้ยากในยามพลบค่ำ

“ไปทางนี้เมย์! อย่าหยุด!”

เมขลาพยายามวิ่งตามวายุอย่างสุดกำลัง แม้ขาจะอ่อนแรงและหัวใจเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกมาก็ตาม พวกเขาไม่สนใจกิ่งไม้ที่บาดตามแขนขา ไม่สนใจความเจ็บปวดใดๆ มุ่งหน้าวิ่งหนีเข้าไปในความมืดที่รออยู่เบื้องหน้า หวังเพียงแค่ความหนาทึบของผืนป่าจะช่วยซ่อนชีวิตของพวกเขาไว้ได้

“เมย์! เราแยกกันแล้วหนี พี่จะล่อมันไปทางอื่น! รีบโทรหาไอ้เมฆทันที! เข้าใจไหม!”

“ไม่ค่ะ! เมย์ไม่ทิ้งพี่!” เมขลาตอบกลับอย่างหนักแน่น

<แคร่ก!>

เท้าของวายุสะดุดกับรากไม้ขนาดใหญ่ทำให้เขาล้มลง แต่เมขลาดึงเขาขึ้นมาทันที และช่วยประคองให้เขาวิ่งต่อไปได้

ใครกันที่ตามฆ่าพวกเรา? นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน! วายุคิดในใจ

วายุพยายามฟังเสียงเครื่องยนต์หรือเสียงฝีเท้าจากด้านบนถนน เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินคือเสียงตะโกนด่าทออย่างเกรี้ยวโกรธของคนร้าย จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว

 

ตัดภาพไปที่ฝั่งคนร้าย

คนร้ายที่สวมชุดดำกำลังกระชากประตูรถยนต์ที่บุบยับของวายุอย่างแรงหวังจะจัดการอะไรบางอย่าง แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น... แสงไฟสว่างวาบของรถยนต์อีกคันก็พุ่งเข้ามาใกล้

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ!?” เสียงพลเมืองดีคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความเป็นห่วง

คนร้ายรีบเก็บปืนและปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ควบคุมให้เป็นมิตรที่สุด

“เปล่าครับ! พอดีขับรถลงมาแล้วเสียหลักตกข้างทางนิดหน่อย โชคดีไม่เป็นอะไรมากครับ! ผมโทรเรียกกู้ภัยแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ!”

พลเมืองดีชะลอรถมองด้วยความสงสัยแต่เมื่อเห็นว่ารถพังและมีคนบอกว่าเรียกกู้ภัยแล้วจึงขับผ่านไป

คนร้ายมองตามรถคันนั้นไปจนลับตา ก่อนจะหันกลับมายังบริเวณที่วายุและเมขลาวิ่งหนีลงไป และพึมพำด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง! ถือว่ามึงโชคดีไปครั้งนี้!” เขารีบถอยห่างออกจากบริเวณนี้ เพราะเกรงว่าจะโดนจับได้

 

วายุและเมขลาในป่า

“พี่วายุ... หยุดวิ่งได้แล้วค่ะ” เมขลาหอบเหนื่อยจนตัวโยน แต่ยังคงพยายามกระซิบเสียงเบา “เหมือนเสียงไปแล้วจริง ๆ นะคะ”

วายุพิงกับต้นไม้ใหญ่ พยายามกลั้นเสียงหอบของตัวเอง “อืม... น่าจะไปแล้ว” เขาก้มมองที่แขนตัวเอง มีรอยฉีกขาดของเนื้อผ้าและเลือดสีแดงฉานกำลังไหลซึมออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

“พี่วายุ!... เลือด!” เมขลาร้องเสียงหลงเล็กน้อยอย่างตกใจ

“น่าจะโดนแค่ถากๆ ... คงไม่ถึงตายหรอก” วายุพยายามพูดติดตลกเพื่อคลายความกังวล

เมขลาไม่รอช้า เธอฉีกแขนเสื้อด้านซ้ายของตัวเองออกอย่างไม่ลังเล ทั้งที่ตัวเธอยังสั่นเทาด้วยความกลัว

“เมย์ทำอะไร!” วายุถามอย่างประหลาดใจ

“ก็ห้ามเลือดไงคะ!” เธอใช้ผ้าที่ฉีกได้พันทับไปที่แขนของวายุอย่างประณีตและรวดเร็ว ก่อนจะผูกเงื่อนแน่น

“ว้าววว...เท่ห์จัง..”

“ยังจะมีอารมณ์มาพูดเล่นอีกนะคะ”

“พี่ว่าเรารีบโทรหาไอ้เมฆไม่ก็ไอ้ธนาเถอะ... เมย์รีบโทรเลย”

เมขลากัดริมฝีปากอย่างกังวล “มือถืออยู่ในรถค่ะ!... พี่โทรดีกว่า”

“ของพี่ก็น่าจะหายตอนที่วิ่งเมื่อกี้!”

ทั้งสองสบตากันด้วยความอับจนหนทาง

“เอาไงดีคะ เราลองกลับไปที่รถไหม” เมขลาเสนอ “ถ้าพวกมันไปแล้วจริงๆ เราน่าจะโทรหาคนได้”

“อื้ม... มันน่าจะไปแล้ว” วายุพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “งั้นไปกัน”

“มาค่ะ เมย์ช่วย” หญิงสาวค่อยๆ ประคองชายหนุ่มให้เดินย้อนขึ้นไปตามไหล่ทางที่สูงชัน

วายุพยายามเดินให้มั่นคงที่สุด แม้ว่าความเจ็บปวดจะแล่นวาบไปทั่วแขนของเขา และร่างกายจะร้าวไปหมด

“พี่นี่... ตัวหนักจังเลยนะคะ... ทำอะไรได้บ้างเนี่ยะ” เมขลาบ่นอุบอิบขณะที่พยายามแบกรับน้ำหนักของเขา

“ทำไมต้องให้เมย์ปกป้องเนี่ยะ... โตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน ไหนบอกว่า โตมาจะเป็นคนปกป้องเมย์...”

ความในใจวายุ: พี่ก็ปกป้องอยู่นี่ไง ยัยโง่เอ้ย! ที่พี่ล้มไปก็เพราะโดนลูกกระสุนตะกี้เฉย ๆ หรอก...

วายุยิ้มฝืนๆ “ก็น้องเมย์ของพี่เก่งนี่นา เห็นไหม เตะต่อยก็เก่ง... เก่งจนไอ้เมฆเข้าใจผิดเรื่องจี๊ดกับเมย์เลย”

สีหน้าของเมขลาเปลี่ยนเป็นเรียบตึงทันทีที่ได้ยินคำนั้น “เงียบเลยนะพี่วา... อย่าบอกนะว่าตอนนั้น... เชื่อที่พี่กรณ์พูด...”

วายุชะงักไปเล็กน้อย คำถามนั้นเหมือนการย้อนกลับในคืนที่เต็มไปด้วยความมืดมิดของเมฆินทร์และตัวเขาเองในตอนนั้น

วายุไม่ได้ตอบคำถามของเมย์ แต่ดวงตาของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกผิด

“พี่วายุ!” เมย์ยืนยันคำถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง

“พี่... ตอนนั้นพี่ไม่รู้จะคิดยังไงดี” วายุสารภาพ “ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงไปหมด ทั้งคำพูดของไอ้กรณ์ ทั้งที่พี่ก็เห็นพวกน้องสนิทกันขนาดไหน...”

“เอาสมองส่วนไหนคิดคะ ถามจริง!...”

<พรึ่บ>

“ว้ายย...!”

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 5 ไปปฏิบัติธรรม

    หมู่บ้านชนเผ่า ในความเงียบสงบที่เหลืออยู่ มีเพียงเสียงลมพัดกระทบหน้าต่างไม้เบา ๆ เมขลาจัดการจัดท่านอนให้วายุอย่างสบายที่สุด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างฟูก เธอถือถ้วยยาต้มสีดำเข้มที่หมอจัดเตรียมไว้ ความหอมฉุนของสมุนไพรทำเอาใจคอไม่ดี “พี่วายุ... ลืมตาหน่อยนะคะ... ถึงเวลาต้องกินยาแล้ว” “ทำยังไงดี! ไม่ได้สติแบบนี้...จะกินยาได้ยังไง ถ้าเป็นพล๊อตนิยายหรือในซีรีย์จีน...นางเอกต้องยกถ้วยยาซด แล้วก็...หยี...ไม่ได้ ๆ สิ เราไม่ใช่นางเอกหนิ” เธอพึมพำกับตัวเอง ขณะนั้นวายุพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่ยังคงพร่ามัวมองมาที่เมขลา ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดเซียวและอ่อนแรงกว่าที่เธอเคยเห็น แต่แววตาที่มองกลับมานั้นกลับจริงจังอย่างน่าประหลาด เขาพยายามจะยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “พี่...ฟื้นแล้ว! ทานยาหน่อยนะคะ” เมขลาน้ำเสียงรู้สึกโล่งใจ “อื้อ!...ขมชะมัด... ไม่มีลูกอมแก้ขมบ้างเหรอ?” เขาเอ่ยเสียงออดอ้อนติดแหบพร่าคล้ายเด็กน้อยที่ไม่อยากกินยา หัวใจของเมขลาเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เธอวางช้อนลงชั่วครู่ ยกศีรษะของวายุขึ้นอย่างระมัดระวังที่สุด แล้วใช้ช้อนตักยาค่อย ๆ ป้อนเข้าสู่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 4 ห้วงนิทราของอดีต

    "เมาอะไรขนาดนี้ ใครอุ้มไปไหนจะรู้ไหม... เด็กดื้อเอ๊ย" เขาบ่นเบา ๆ อย่างเอ็นดู ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น... "ลม!... อยู่กับเมย์ก่อนสิ อย่าเพิ่งไป" แขนเรียวคว้าคอแกร่ง ดึงโน้มร่างเขาลงมาประทับจูบอย่างจู่โจม... วายุเบิกตากว้าง รีบกระชากผลักหญิงสาวให้นอนราบลงบนโซฟา "เมย์! เราเมามากนะ รู้ตัวไหม!" เมขลาค่อย ๆ ลืมตาที่ปรือปรอย "ทำไม! ทีกับคนอื่นพี่ทำไมทำได้... กับเมย์ทำไม ๆ" เสียงเธออ้อแอ้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เมย์... นี่พี่วา...เองนะ พี่ชายหมายเลขสองของน้องเมย์ไง ตั้งสติหน่อย!" "ทำไม... คิดว่าเมย์เมาจนจำหน้าพี่ไม่ได้เหรอ!" "เมย์! พักผ่อนก่อนนะ สร่างเมาแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน" เขาพูดพร้อมกับจะลุกอีกครั้ง มือเล็กดึงขอบกางเกงรอบเอวของชายหนุ่ม กระชากเขากลับมาจนร่างเขามาพิงตรงโซฟา เธอรีบคุกเข่าคร่อมเอวแกร่งของเขาไว้ทันที แขนเรียวโอบคอแกร่งล็อกไว้ให้สบตากัน "ไหน... ขอดูหน้าชัด ๆ ซิ... อืออออ... ก็ใช่นี่... ใช่แล้วไม่ผิดอย่างแน่นอน" "อะไร!... เมย์! ตั้งสติหน่อยสิ" เสียงวายุเริ่มแหบพร่าเมื่อถูกล็อกในระยะประชิด "ทำไมคะ... กับคนอื่นพี่ยังกะล่อนใส่... เมย์อยากให้พี่กะล่อนใส่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 3 กระต่ายสาว

    “พี่... ตอนนั้นพี่ไม่รู้จะคิดยังไงดี” วายุสารภาพ “ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงไปหมด ทั้งคำพูดของไอ้กรณ์ ทั้งที่พี่ก็เห็นพวกน้องสนิทกันขนาดไหน...” “เอาสมองส่วนไหนคิดคะ ถามจริง!...” ทันใดนั้น... ว้ายย...! เมขลากรีดร้องออกมาขณะที่เท้าของเธอเหยียบพลาดบนก้อนหินขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้แห้ง ด้วยน้ำหนักที่กำลังแบกรับร่างของวายุอยู่ ทำให้แรงเหวี่ยงเสียศูนย์ไปอย่างรวดเร็ว วายุที่แม้จะบาดเจ็บและอ่อนแรง แต่สัญชาตญาณก็ทำงานทันทีที่รู้สึกว่าร่างกายกำลังจะตกลงไป เขารีบออกแรงกอดเมย์ไว้แน่นสุดกำลัง พลิกตัวให้ร่างของเขาทับอยู่ด้านบนเพื่อรับแรงกระแทกทั้งหมด ทั้งคู่กลิ้งลงไปตามทางลาดชันของไหล่เขาอีกครั้ง ร่างกายปะทะกับพุ่มไม้ ก้อนหิน และรากไม้ที่ยื่นออกมาอย่างจัง วายุได้ยินเสียงเมขลาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพียงแวบเดียว ก่อนที่เขาจะใช้ความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อเป็นเกราะกำบังให้เธออย่างเต็มที่ เขากอดศีรษะเธอซบเข้ากับหน้าอกของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเธอไปกระแทกกับโขดหินที่ขรุขระ การกลิ้งตกลงเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง... จนกระทั่งเสียงทุกอย่างเงียบลง พวกเขามาห

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 2 ไล่ล่า

    วายุและเมขลาขับรถลงมาจากยอดดอยได้สักพักแล้ว บรรยากาศภายในรถเริ่มเงียบลงหลังจากที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจในการกลับมาคืนดีกันของเมฆินทร์และจารวี แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดของหุบเขาที่คืบคลานเข้ามาพร้อมความเงียบสงัด “พี่วายุ... เราทิ้งพวกเขาไว้แบบนี้จะดีเหรอคะ” เมขลาถามขึ้นอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าวายุทำไปเพื่อพี่ชายและเพื่อนรัก แต่ในใจเธอก็ยังกังวล “ดีกว่าเยอะ” วายุตอบพร้อมกับหันมายักคิ้วให้ “ปล่อยให้เขาได้คุยกันบ้างเถอะน่า ตั้งหลายเดือน กว่าพวกนั้นจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ซักที เมย์ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกน่า... มาอยู่กับพี่แล้วต้องผ่อนคลายสิครับ” เธอส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความกะล่อนของเขา แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงมีความคิดมากอย่างเห็นได้ชัด “เมย์ไม่ได้เครียดเรื่องนั้นค่ะ เมย์คิดเรื่องที่พี่เมฆเล่าเรื่องชายชุดดำต่างหาก พี่เมฆบอกว่ามันพูดกับจี๊ดว่า ‘จำฉันไม่ได้เหรอ’ ถ้าเป็นพวกโรคจิตตามติดผลงานจะพูดแบบนี้เหรอคะ” วายุเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจังขึ้นเล็กน้อย “พี่ก็ว่าไอ้เมฆคิดถูกนะ ลักษณะการจู่โจมมันไม่เหมือนพวกคลั่งไคล้ แต่มันเหมือนคนที่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 1 ความเดิมตอนที่แล้ว

    เรื่องราวเลวร้ายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อววายุและเมขลาตามเมฆินทร์ไปช่วยเหลือจารวี คนรักของเมฆินทร์และเป็นเพื่อนสนิทของเมขลาที่เกาะล้าน (จากเรื่อง พลาดรักเมฆินททร์) เบียร์ที่เป็นผู้ที่ทำการทำร้ายจารวีจนหมดสติบนเตียง เมื่อเมฆินทร์เห็นเหตุการณ์ ก็โกรธแค้นจนขาดสติ พุ่งเข้ากระชากและทำร้ายเบียร์อย่างบ้าคลั่งไม่ยั้งมือ ปล่อยให้เบียร์นอนแน่นิ่งหมดสภาพอยู่บนพื้นห้องอย่างน่าสมเพช ก่อนออกจากห้อง เมขลาที่ทนเห็นเพื่อนรักถูกทำร้ายไม่ได้ ได้รวบรวมความแค้นทั้งหมด เตะเสยปลายคางของเบียร์ เข้าอย่างจัง ทำให้เบียร์ฟุบหลับไปพร้อมกับศีรษะที่กระแทกพื้น นี่คือสิ่งที่คนร้ายจดจำและกลายเป็น ปมแค้นที่่พุ่งเป้าไปที่เมฆินทร์เป็นหลัก การแก้แค้นครั้งแรกที่ไม่สำเร็จ หลังจากที่เบียร์หลบหนีการจับกุมไปได้ เขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะ "ชายชุดดำ" เพื่อตามทำร้ายจารวีที่หน้าคอนโด ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเมฆินทร์ ชายชุดดำได้พูดกับจารวีว่า "จำฉันไม่ได้เหรอ!" ซึ่งเมฆินทร์ตั้งข้อสังเกตว่านี่ไม่ใช่คำพูดของสตอล์กเกอร์ แต่เหมือนการทวงความจำหรือความแค้นในอดีต เมฆินทร์ตามมาช่วยจารวีได้ทันเวลา พยายามดึงหมวกเพื่อเปิดเผยใบหน้าคนร้าย แต่ชาย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status