Home / โรแมนติก / สายลมรักเมขลา / ตอนที่ 5 ไปปฏิบัติธรรม

Share

ตอนที่ 5 ไปปฏิบัติธรรม

last update Last Updated: 2025-12-16 21:18:49

หมู่บ้านชนเผ่า

ในความเงียบสงบที่เหลืออยู่ มีเพียงเสียงลมพัดกระทบหน้าต่างไม้เบา ๆ เมขลาจัดการจัดท่านอนให้วายุอย่างสบายที่สุด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างฟูก เธอถือถ้วยยาต้มสีดำเข้มที่หมอจัดเตรียมไว้ ความหอมฉุนของสมุนไพรทำเอาใจคอไม่ดี

“พี่วายุ... ลืมตาหน่อยนะคะ... ถึงเวลาต้องกินยาแล้ว”

“ทำยังไงดี! ไม่ได้สติแบบนี้...จะกินยาได้ยังไง ถ้าเป็นพล๊อตนิยายหรือในซีรีย์จีน...นางเอกต้องยกถ้วยยาซด แล้วก็...หยี...ไม่ได้ ๆ สิ เราไม่ใช่นางเอกหนิ” เธอพึมพำกับตัวเอง

ขณะนั้นวายุพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่ยังคงพร่ามัวมองมาที่เมขลา ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดเซียวและอ่อนแรงกว่าที่เธอเคยเห็น แต่แววตาที่มองกลับมานั้นกลับจริงจังอย่างน่าประหลาด เขาพยายามจะยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“พี่...ฟื้นแล้ว! ทานยาหน่อยนะคะ” เมขลาน้ำเสียงรู้สึกโล่งใจ

“อื้อ!...ขมชะมัด... ไม่มีลูกอมแก้ขมบ้างเหรอ?” เขาเอ่ยเสียงออดอ้อนติดแหบพร่าคล้ายเด็กน้อยที่ไม่อยากกินยา

หัวใจของเมขลาเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เธอวางช้อนลงชั่วครู่ ยกศีรษะของวายุขึ้นอย่างระมัดระวังที่สุด แล้วใช้ช้อนตักยาค่อย ๆ ป้อนเข้าสู่ริมฝีปากเขาจนหมดถ้วย ในช่วงเวลานั้น สายตาของพวกเขาประสานกันอย่างแนบแน่น จนความประหม่าเริ่มก่อตัวในอกของหญิงสาว

“โตแล้ว... ยังต้องให้ป้อนอีกนะคะ” เมขลาพยายามพูดติดตลก เพื่อคลายความรู้สึกที่กำลังก่อตัว

“เราอยู่ที่ไหนตอนนี้...” เขาถามด้วยความงุนงง เมขลาจึงค่อย ๆ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างใจเย็น

“แล้วเมย์...เจ็บตรงไหน... พี่หลับไปนานแค่ไหน?”

“ไม่นานค่ะ แค่เมื่อคืน...แล้วก็มาถึงตอนนี้” เมขลาตอบ

วายุถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “แบบนี้ต้องมีคนเป็นห่วงเมย์สิ... โชคดีหน่อย เพราะถ้าเป็นพี่คงไม่มีใครตามหาแน่ในสองสามอาทิตย์นี้”

“ทะ...ทำไมคะ...ทำไมพี่พูดแบบนั้น!” เมขลาอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ

“ก็พี่บอกทุกคนว่าจะไปต่างประเทศ กะเล่นให้เนียนที่ทิ้งพวกนั้นมา จะได้ไม่ต้องโทรมาถาม”

“ซะ...ซวยแล้ว...พี่วายุ!”

“ทำไม!...ซวยอะไรครับ”

“ก็เมย์บอกทุกคนว่าจะไปปฏิบัติธรรม”

“ฮ๊ะ!...อะไรนะ พูดเป็นเล่นไป...ใครจะเชื่อ”

“ทุกคนค่ะ...ทุกคนเชื่อ เมย์ทำแบบนี้ประจำเวลาหนีเที่ยว”

วายุข่มความเจ็บปวดแล้วกัดฟันพูด “เมย์!... บอกไปว่ากี่วัน!... สองสามวันเข้าใจได้ครับ...”

“สามค่ะ...สามอาทิตย์... เมย์บอกทุกคนว่าสามอาทิตย์ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ยัยริสากับยัยจี๊ดต้องพยายามโทรหาเมย์แน่นอน พอติดต่อไม่ พวกนั้นก็ต้องรู้ว่าเราหายไป...”

วายุแทบจะสำลักความขมของยาออกมาอีกครั้งกับความหวังอันน้อยนิดของน้องเธอ

บนดอยอ่างขาง

ตัดภาพไปยังริสากับจารวีที่กำลังกางเต็นท์พักผ่อนอยู่บนดอย ทั้งสองสาวกำลังนั่งจิบชาอุ่น ๆ พร้อมกับแทะเม็ดเกาลัดคั่วอย่างสบายอารมณ์

“ยัยริสา...แกว่ายัยเมย์จะหนีเที่ยวไหนรอบนี้ ต่างประเทศอีกไหม” จารวีถามขึ้น พลางเอนตัวพิงเก้าอี้สนาม

ริสาเหลือบตามองเพื่อนสนิทพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่รู้สิ แต่เล่นแอบไปแบบนี้ นางคงอยากให้เรามาพักผ่อนกับผู้ชายของเราแหละ งั้นเราก็อย่าไปทำลายความหวังดีเลยเน๊อะ... เราก็เที่ยวให้สนุก ส่วนนางเราก็รอให้นางโทรมาหาเองเน๊อะ”

ทั้งสองสบตากัน ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับความเข้าใจอันดี โดยไม่รู้เลยว่า "ความหวังดี" ของเมขลานั้นได้ส่งผลให้พวกเขาต้องไปอยู่ในหมู่บ้านในหุบเขา

หมู่บ้านชนเผ่า

ภาพตัดกลับมายังบ้านไม้ที่เชิงเขา ณ ช่วงเวลาใกล้ค่ำของวันต่อมา วายุที่พยายามลุกขึ้นนั่งพิงฝาบ้าน ได้เห็นชายหนุ่มอายุราวๆ 19 ปี ในชุดชนเผ่าที่ทะมัดทะแมง เดินเข้ามาพร้อมถ้วยยาต้มอีกใบ “พ่อบอกว่าให้เอามาให้พี่ดื่ม... ผมชื่ออี้ฝาน เรียกว่าฝานเฉย ๆ ก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่นอบน้อม

วายุมองสำรวจเขาด้วยแววตาซาบซึ้ง “ขอบใจนายมากนะฝาน... พี่รู้มาว่านายเป็นคนแบกพี่มา... ถ้านายไม่ช่วยไว้ พี่คงแย่”

อี้ฝานยิ้มเล็กน้อยด้วยความภูมิใจ “ไม่เป็นไรครับ... ผมเดินป่าตั้งแต่เด็ก การแบกคนหนักแค่นี้สบายมาก ถ้าพี่มีอะไรให้ช่วยอีก บอกได้เลยนะครับ”

วายุพยักหน้าอย่างจริงใจ “พี่จำบุญคุณนายไว้แล้ว... ถ้านายต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องด่วนเกิดขึ้น... ก็บอกพี่ได้นะ

“ครับ...พักผ่อนนะครับ ผมไปล่ะ” อี้ฝานกล่าวลาด้วยใบหน้าใสซื่อ

หลังจากได้รับความเมตตาจากครอบครัวจ๋ายทั้งเรื่องอาหารและที่พัก แต่ความสบายใจนั้นอยู่ได้ไม่นาน เมื่อสองสามีภรรยาเจ้าบ้านได้กลับมาทวงถามถึงสถานะความสัมพันธ์ของคนทั้งสองอีกครั้ง

“สองคน... เป็นอะไรกันแน่?” คำปองถามอย่างตรงไปตรงมา แต่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

เมขลาตอบเสียงแข็งทันทีเพื่อป้องกันตัว “เป็นพี่น้องกันค่ะ”

คำปองเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลางถามย้ำอย่างรู้ทันตามความเชื่อดั้งเดิม “พี่น้องพ่อแม่เดียวกันไหม?”

ทั้งคู่ส่ายหน้าพร้อมกัน “ไม่ค่ะ/ครับ”

คำปองถอนหายใจแผ่วเบาด้วยความหนักใจ ตามความเชื่อของหมู่บ้าน การให้ชายหญิงแปลกหน้าที่ไม่ใช่ญาติสนิทมาพักรวมกันในบ้านหลังเดียวถือเป็นอาเพท “เอางี้ให้ป้อจายไปพักที่เรือนชาวบ้านหลังอื่นได้ไหม...”

เมขลาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอรีบตอบ “ไม่ค่ะ! ไม่เอา! ตอนนี้เมย์กลัว เมย์ไม่ไว้ใจใครนอกจากพี่วายุ... แถมเขายังบาดเจ็บอยู่ด้วย!”

ทั้งสองคนหันไปสบตากันด้วยความสับสนและกังวล เมขลาแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความหวาดกลัว และความไม่ไว้วางใจต่อโลกภายนอก ส่วนวายุก็เป็นห่วงความปลอดภัยของหญิงสาวไม่ต่างกัน ในสถานการณ์ที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้ พวกเขาเหลือกันแค่สองคน

วายุตัดสินใจทันที พร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้เมขลาอึ้งไป

“เรากำลังจะแต่งงานกันเดือนหน้าครับ... เลยไม่อยากใช้คำว่าสามีภรรยาให้ดูสนิทกันเกินไปก่อนถึงเวลาอันควร”

คำปองมองทั้งสองคนสลับกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ เธอพยักหน้าอย่างโล่งใจ... ตอนนี้ทั้งคู่ก็มีสถานะที่ชัดเจนพอที่จะปกป้องตัวเองจากความเชื่อของชาวบ้านได้แล้ว

กลางดึก

ลมเย็นยามค่ำพัดผ่าน ทำให้เสียงไม้ที่สร้างบ้านดังแคร่ก... แคร่ก เสียดสีกันอย่างน่าขนลุก เมขลาตัวสั่นเทาอยู่บนเสื่อ

“พี่วายุ...พี่ว่าที่นี่มี ผ...ผีไหม!”

วายุพยายามข่มความเจ็บปวดแล้วยิ้มขำ “อย่าบอกนะว่ากลัว...”

<ตุ๊กๆๆๆๆๆ ....ตุ๊กแก!> เสียงร้องอันแสบแก้วหูดังก้องขึ้นมาทันที

“แหก!!!... แม่ร่วง!” เมขลาหวีดร้องอย่างลืมตัว และกระโดดเข้าเกาะแขนวายุข้างที่บาดเจ็บอย่างแรง

“โอ้ย!” วายุร้องออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บปวดที่พุ่งขึ้นมาถึงขั้วสมอง

“ขอโทษค่ะ... เมย์ตกใจไปหน่อย!” เธอรีบปล่อยแขนเขาด้วยความสำนึกผิด

“นอนเถอะครับ... พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว... ค่อยหาวิธีออกไปจากที่นี่” วายุพูด พลางสูดหายใจลึกๆ เพื่อระงับความเจ็บปวด

“นอนตรงนี้น่ะเหรอ!” เมขลาพูดด้วยความกังวล

“งั้นเมย์มานอนบนเสื่อ... เดี๋ยวพี่ไปนอนตรงนั้น” วายุชี้ไปยังพื้นกระดานข้าง ๆ

“กระดานไม้มันเย็นนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ตอนไปเรียนต่อต่างประเทศ หนาวกว่านี้อีก”

“งั้นก็ได้ค่ะ...”

กลางดึก เสียงไม้เสียดสีและเสียงตุ๊กแกทำให้หญิงสาวนอนไม่หลับ เธอค่อยๆ คลานกระดึบๆ ไปบนแผ่นไม้เย็น ๆ เพื่อไปนอนขดตัวข้างๆ วายุ จนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด

รุ่งเช้าที่สดใส... ร่างเล็กของเมขลาอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโตด้วยความอบอุ่น ศีรษะเล็กหนุนอยู่บนแขนข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บของวายุ แขนเรียวโอบกอดเอวแกร่งไว้แน่น ส่วนขาพาดทับร่างเขาไว้ราวกับตุ๊กตาหมีตัวโปรด

วายุค่อยๆ ลืมตาอย่างเชื่องช้า เขาก้มมอง ก็พบใบหน้าหวานกำลังหลับตาพริ้ม แหงนขึ้นจนหน้าผากไปชนปลายจมูกโด่งของเขา วายุเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นสาวน้อยที่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งกำลังหลับใหลอย่างไร้เดียงสา

เขาค่อยๆ ยกแขนข้างที่เจ็บมาปัดผมที่ปิดหน้าสวยของเธออย่างนุ่มนวล

“น่ารักจัง... โตแล้วนะ ทำไมยังชอบทำตัวเป็นเด็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนอยู่ได้นะ” เขาพึมพำกับตัวเอง

มือหนาลูบไปที่กลุ่มผม แล้วใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ปลายจมูกเล็กด้วยความเอ็นดู ในจังหวะนั้น เขาเผลอก้มลง ใช้ปลายจมูกโด่งสูดดมไปที่กลุ่มผมของเธอเบา ๆ

<ฮา...ฮา..ฮัดชิ้ว!>

“กลิ่นนี่... ไม่ได้สระมากี่วันแล้วเนี่ย!”

หญิงสาวสะดุ้งขึ้นทันทีพร้อมกับเกาไปที่มุมปากและใช้หลังมือเช็ดน้ำลาย

“ฮะ...ฮือ... ตื่นแล้วเหรอ” เธอสะลึมสะลือ ตาปรือมองซ้ายมองขวา แล้วทิ้งตัวคลานกลับไปยังเสื่อแล้วหลับต่อทันที

วายุระเบิดเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอเมื่อเห็นสภาพที่ดูตลกและน่ารักของเธอ... แต่จังหวะนั้น รอยยิ้มของเขาก็ค่อย ๆ หายไป เขาพยายามก้มลงดูเสื้อตรงแผงอกที่ตอนนี้รู้สึกชื้น ๆ เย็น ๆ

“เชี้ยะ!!!... นี่มัน... น้ำลายเหรอ!” วายุเบิกตากว้างพร้อมกับความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งอุ่นซ่านและสยองขวัญปนกันไปหมด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 5 ไปปฏิบัติธรรม

    หมู่บ้านชนเผ่า ในความเงียบสงบที่เหลืออยู่ มีเพียงเสียงลมพัดกระทบหน้าต่างไม้เบา ๆ เมขลาจัดการจัดท่านอนให้วายุอย่างสบายที่สุด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างฟูก เธอถือถ้วยยาต้มสีดำเข้มที่หมอจัดเตรียมไว้ ความหอมฉุนของสมุนไพรทำเอาใจคอไม่ดี “พี่วายุ... ลืมตาหน่อยนะคะ... ถึงเวลาต้องกินยาแล้ว” “ทำยังไงดี! ไม่ได้สติแบบนี้...จะกินยาได้ยังไง ถ้าเป็นพล๊อตนิยายหรือในซีรีย์จีน...นางเอกต้องยกถ้วยยาซด แล้วก็...หยี...ไม่ได้ ๆ สิ เราไม่ใช่นางเอกหนิ” เธอพึมพำกับตัวเอง ขณะนั้นวายุพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่ยังคงพร่ามัวมองมาที่เมขลา ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดเซียวและอ่อนแรงกว่าที่เธอเคยเห็น แต่แววตาที่มองกลับมานั้นกลับจริงจังอย่างน่าประหลาด เขาพยายามจะยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “พี่...ฟื้นแล้ว! ทานยาหน่อยนะคะ” เมขลาน้ำเสียงรู้สึกโล่งใจ “อื้อ!...ขมชะมัด... ไม่มีลูกอมแก้ขมบ้างเหรอ?” เขาเอ่ยเสียงออดอ้อนติดแหบพร่าคล้ายเด็กน้อยที่ไม่อยากกินยา หัวใจของเมขลาเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เธอวางช้อนลงชั่วครู่ ยกศีรษะของวายุขึ้นอย่างระมัดระวังที่สุด แล้วใช้ช้อนตักยาค่อย ๆ ป้อนเข้าสู่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 4 ห้วงนิทราของอดีต

    "เมาอะไรขนาดนี้ ใครอุ้มไปไหนจะรู้ไหม... เด็กดื้อเอ๊ย" เขาบ่นเบา ๆ อย่างเอ็นดู ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น... "ลม!... อยู่กับเมย์ก่อนสิ อย่าเพิ่งไป" แขนเรียวคว้าคอแกร่ง ดึงโน้มร่างเขาลงมาประทับจูบอย่างจู่โจม... วายุเบิกตากว้าง รีบกระชากผลักหญิงสาวให้นอนราบลงบนโซฟา "เมย์! เราเมามากนะ รู้ตัวไหม!" เมขลาค่อย ๆ ลืมตาที่ปรือปรอย "ทำไม! ทีกับคนอื่นพี่ทำไมทำได้... กับเมย์ทำไม ๆ" เสียงเธออ้อแอ้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เมย์... นี่พี่วา...เองนะ พี่ชายหมายเลขสองของน้องเมย์ไง ตั้งสติหน่อย!" "ทำไม... คิดว่าเมย์เมาจนจำหน้าพี่ไม่ได้เหรอ!" "เมย์! พักผ่อนก่อนนะ สร่างเมาแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน" เขาพูดพร้อมกับจะลุกอีกครั้ง มือเล็กดึงขอบกางเกงรอบเอวของชายหนุ่ม กระชากเขากลับมาจนร่างเขามาพิงตรงโซฟา เธอรีบคุกเข่าคร่อมเอวแกร่งของเขาไว้ทันที แขนเรียวโอบคอแกร่งล็อกไว้ให้สบตากัน "ไหน... ขอดูหน้าชัด ๆ ซิ... อืออออ... ก็ใช่นี่... ใช่แล้วไม่ผิดอย่างแน่นอน" "อะไร!... เมย์! ตั้งสติหน่อยสิ" เสียงวายุเริ่มแหบพร่าเมื่อถูกล็อกในระยะประชิด "ทำไมคะ... กับคนอื่นพี่ยังกะล่อนใส่... เมย์อยากให้พี่กะล่อนใส่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 3 กระต่ายสาว

    “พี่... ตอนนั้นพี่ไม่รู้จะคิดยังไงดี” วายุสารภาพ “ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงไปหมด ทั้งคำพูดของไอ้กรณ์ ทั้งที่พี่ก็เห็นพวกน้องสนิทกันขนาดไหน...” “เอาสมองส่วนไหนคิดคะ ถามจริง!...” ทันใดนั้น... ว้ายย...! เมขลากรีดร้องออกมาขณะที่เท้าของเธอเหยียบพลาดบนก้อนหินขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้แห้ง ด้วยน้ำหนักที่กำลังแบกรับร่างของวายุอยู่ ทำให้แรงเหวี่ยงเสียศูนย์ไปอย่างรวดเร็ว วายุที่แม้จะบาดเจ็บและอ่อนแรง แต่สัญชาตญาณก็ทำงานทันทีที่รู้สึกว่าร่างกายกำลังจะตกลงไป เขารีบออกแรงกอดเมย์ไว้แน่นสุดกำลัง พลิกตัวให้ร่างของเขาทับอยู่ด้านบนเพื่อรับแรงกระแทกทั้งหมด ทั้งคู่กลิ้งลงไปตามทางลาดชันของไหล่เขาอีกครั้ง ร่างกายปะทะกับพุ่มไม้ ก้อนหิน และรากไม้ที่ยื่นออกมาอย่างจัง วายุได้ยินเสียงเมขลาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพียงแวบเดียว ก่อนที่เขาจะใช้ความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อเป็นเกราะกำบังให้เธออย่างเต็มที่ เขากอดศีรษะเธอซบเข้ากับหน้าอกของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเธอไปกระแทกกับโขดหินที่ขรุขระ การกลิ้งตกลงเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง... จนกระทั่งเสียงทุกอย่างเงียบลง พวกเขามาห

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 2 ไล่ล่า

    วายุและเมขลาขับรถลงมาจากยอดดอยได้สักพักแล้ว บรรยากาศภายในรถเริ่มเงียบลงหลังจากที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจในการกลับมาคืนดีกันของเมฆินทร์และจารวี แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดของหุบเขาที่คืบคลานเข้ามาพร้อมความเงียบสงัด “พี่วายุ... เราทิ้งพวกเขาไว้แบบนี้จะดีเหรอคะ” เมขลาถามขึ้นอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าวายุทำไปเพื่อพี่ชายและเพื่อนรัก แต่ในใจเธอก็ยังกังวล “ดีกว่าเยอะ” วายุตอบพร้อมกับหันมายักคิ้วให้ “ปล่อยให้เขาได้คุยกันบ้างเถอะน่า ตั้งหลายเดือน กว่าพวกนั้นจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ซักที เมย์ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกน่า... มาอยู่กับพี่แล้วต้องผ่อนคลายสิครับ” เธอส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความกะล่อนของเขา แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงมีความคิดมากอย่างเห็นได้ชัด “เมย์ไม่ได้เครียดเรื่องนั้นค่ะ เมย์คิดเรื่องที่พี่เมฆเล่าเรื่องชายชุดดำต่างหาก พี่เมฆบอกว่ามันพูดกับจี๊ดว่า ‘จำฉันไม่ได้เหรอ’ ถ้าเป็นพวกโรคจิตตามติดผลงานจะพูดแบบนี้เหรอคะ” วายุเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจังขึ้นเล็กน้อย “พี่ก็ว่าไอ้เมฆคิดถูกนะ ลักษณะการจู่โจมมันไม่เหมือนพวกคลั่งไคล้ แต่มันเหมือนคนที่

  • สายลมรักเมขลา   ตอนที่ 1 ความเดิมตอนที่แล้ว

    เรื่องราวเลวร้ายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อววายุและเมขลาตามเมฆินทร์ไปช่วยเหลือจารวี คนรักของเมฆินทร์และเป็นเพื่อนสนิทของเมขลาที่เกาะล้าน (จากเรื่อง พลาดรักเมฆินททร์) เบียร์ที่เป็นผู้ที่ทำการทำร้ายจารวีจนหมดสติบนเตียง เมื่อเมฆินทร์เห็นเหตุการณ์ ก็โกรธแค้นจนขาดสติ พุ่งเข้ากระชากและทำร้ายเบียร์อย่างบ้าคลั่งไม่ยั้งมือ ปล่อยให้เบียร์นอนแน่นิ่งหมดสภาพอยู่บนพื้นห้องอย่างน่าสมเพช ก่อนออกจากห้อง เมขลาที่ทนเห็นเพื่อนรักถูกทำร้ายไม่ได้ ได้รวบรวมความแค้นทั้งหมด เตะเสยปลายคางของเบียร์ เข้าอย่างจัง ทำให้เบียร์ฟุบหลับไปพร้อมกับศีรษะที่กระแทกพื้น นี่คือสิ่งที่คนร้ายจดจำและกลายเป็น ปมแค้นที่่พุ่งเป้าไปที่เมฆินทร์เป็นหลัก การแก้แค้นครั้งแรกที่ไม่สำเร็จ หลังจากที่เบียร์หลบหนีการจับกุมไปได้ เขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะ "ชายชุดดำ" เพื่อตามทำร้ายจารวีที่หน้าคอนโด ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเมฆินทร์ ชายชุดดำได้พูดกับจารวีว่า "จำฉันไม่ได้เหรอ!" ซึ่งเมฆินทร์ตั้งข้อสังเกตว่านี่ไม่ใช่คำพูดของสตอล์กเกอร์ แต่เหมือนการทวงความจำหรือความแค้นในอดีต เมฆินทร์ตามมาช่วยจารวีได้ทันเวลา พยายามดึงหมวกเพื่อเปิดเผยใบหน้าคนร้าย แต่ชาย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status