แชร์

4 การเดิมพันอันแสนเท่าเทียม (1)

ผู้เขียน: มายุมายูมายา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-20 19:28:18

วันธรรมดาของเฟยเมี่ยวที่ไม่มีอันใดน่าตื่นเต้นตื่นตาใจก็เป็นเยี่ยงวันนี้ หลังจากไปเข้าเฝ้าคุยเล่นกันฮองเฮาแล้ว นางก็ต้องมาร่วมเรียนวิชาต่าง ๆ กับเหล่าองค์ชาย องค์หญิง และลูกหลานขุนนางคนอื่น ๆ ที่ได้รับสิทธิ์มาเรียนร่วมด้วย ที่ตำหนักศึกษานี้มีหลายห้องเลย วันนี้ถึงคราววิชาเขียนอักษรที่

เฟยเมี่ยวไม่อยากเรียนที่สุดนั่นเอง

นางนั่งเรียนหลังห้องสุดริมสุด โดยทั้งข้างหน้าและข้าง ๆ โต๊ะเขียนหนังสือว่างอย่างที่เห็นได้ประจำ องค์รัชทายาทหวงลู่นั้นนั่งแถวหน้าสุดนู่นน่ะ ส่วนเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็นั่งกระจายกันออกไปตามความต้องการของตนมีลูกหลานขุนนางที่ขอเข้าพวกเรียบร้อยไปนั่งตามกลุ่มของเจ้านายตน ส่วนเฟยเมี่ยวจะมาช้าก่อนเริ่มเรียนเสมอ เพื่อหาที่นั่งไกลจากผู้คนหน่อยและสำหรับวิชานี้นางมักจะแอบหลับนั่นเอง

เชื้อพระวงศ์ที่มาร่วมเรียนในชั้นนี้ครอบคลุมอายุตั้งแต่อายุสิบปีถึงจนกว่าจะสอบจบได้เลยล่ะ ในห้องเรียนนี้นอกจากหวงลู่ที่เฟยเมี่ยวพอสนิทด้วยแล้ว ก็มีคุณหนูไป๋ ไป๋หนิงอันที่หลังจากถูกองค์หญิงสามแกล้งไปแล้ว เฟยเมี่ยวจึงบอกให้นางไปหาเชื่อพระวงศ์ติดตามเถิด ซึ่งหนิงอันก็เลือกอยู่รวมกับท่านหญิงเจียวจิง แม้ไม่ใช่องค์หญิง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลย ท่านหญิงคนนี้เป็นบุตรีขององค์หญิงสามจ้าวรุ่นถิงในราชวงศ์ก่อนกับท่านเสนาบดีหลิง สตรีผู้นี้วางตัวดี มีนิสัยรอบครอบยิ่ง ไม่ดีไม่ร้าย เป็นที่นับถือจากเหล่าองค์หญิงองค์ชายที่อายุน้อยกว่าพอตัว

เมื่อถึงเวลาหงไท่ฝูก็เข้ามา เขาเป็นบุรุษวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบขึ้นไป มีเครายาวชอบสวมชุดสีขาวทั้งตัว และมีนิสัยเอ็นดูเด็กที่ฉลาดเป็นพิเศษ ซึ่งเฟยเมี่ยวนั้นกลายเป็นเด็กคนโปรดของหงไท่ฝูในการเรียกถามตอบเลยล่ะ มิใช่เพราะนางฉลาดรอบรู้นะ แต่เป็นเพราะเรียกถามนางทีไรเฟยเมี่ยวเป็นตอบไม่ได้เสียทุกครา หรือไม่ก็คำตอบแปลกประหลาดจนห่างไกลคำตอบถูกไปไกลนั่นล่ะ สร้างเสียงหัวเราะได้ดี ถูกใจทั้งตัวเขาเองและเหล่าสหายร่วมชั้น

หงไท่ฝูผู้นี้เป็นรูปแบบอาจารย์ที่นางเกลียดที่สุดตั้งแต่เรียนในชาติก่อนเลย

...ยึดติดในตำราเกินไปและเป็นตัวสร้างค่านิยมว่าเด็กฉลาด คือเด็กที่จดจำเนื้อหาในหนังสือเรียนได้ ส่วนคนที่จำไม่ได้หรือมีความคิดต่างออกไปก็จะถูกดูถูกเหยียดหยาม

มายุคนี้นางยังต้องเจออีกไม่จบไม่สิ้น...

“อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนต่อไปนี้จะมีการสอบวัดผลแล้ว หวังว่านับแต่วันนี้ ทุกท่านจะตั้งใจอ่านตำรา ทบทวนเนื้อหาที่เรียน และฝึกฝนทักษะที่ต้องสอบอย่างขะมักเขม้นเล่า... โดยเฉพาะคุณหนูซุน ที่เหล่าไท่ฝูเป็นกังวลมากที่สุด”

นั่นอย่างไร นั่งเงียบอยู่เฉย ๆ ก็เอาอุจจาระมาปาใส่หัวนางได้ เฮ้อ

“รบกวนหงไท่ฝูเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้านี้ยังไม่กังวลเลย ไท่ฝูก็มิต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ สอบคราวนี้ก็มิต่างจากคราวก่อน ๆ หรอก”

นางหมายถึงก็ง่ายไม่ต่างจากคราวอื่นน่ะนะ สอบครั้งที่ผ่านมาเฟยเมี่ยวก็ทำคะแนนอยู่ในระดังกลาง ๆ มาตลอด ไยเขาไม่ไปกังวลเหล่าองค์หญิงองค์ชายบางคนที่คะแนนใกล้จะตกเล่า

“ท่านอาจารย์มิต้องใส่ใจนางหรอก ขนาดท่านแม่ทัพใหญ่ซุนบิดาของนางยังไม่กังวลอันใดเลย ฮะ หึ”

เป็นน้ำเสียงติดเล่นขององค์ชายสี่นามลู่เจ๋อ โอรสของฮ่องเต้กับพระสนมเอกเสียนเฟย ตามเคย คนผู้นี้ไม่มีอันใดดีนอกจากปาก เรื่องเรียนก็แทบตกทุกคราที่สอบวัดผล อีกทั้งยังโดดเรียนไปอยู่ตามแหล่งบันเทิงจนเป็นที่โจษจันไปทั่วเมืองหลวง ว่าเป็นองค์ชายเสเพล คนผู้นี้ไม่ชอบหน้าเฟยเมี่ยวเพราะว่านางเคยทำเขาขายขี้หน้าในคราวแรกที่เจอกัน องค์ชายสี่เข้ามาเกี้ยวพานางและถูกปฏิเสธต่อหน้านางกำนัลรับใช้ นับแต่นั้นเขาก็หาเรื่องเฟยเมี่ยวในห้องเรียนไม่เว้นวัน

“องค์ชายสี่ช่างรอบรู้ยิ่งนัก รู้ได้แม้กระทั่งว่าบิดาของหม่อมฉันไม่กังวลเลย สอบวัดผลครานี้คงผ่านทุกวิชาไม่เสียหน้าเช่นเคยเป็นแน่นะเพคะ”

แม้นางจะเป็นเพียงลูกขุนนางแต่ก็มีฮองเฮาคอยดันหลังให้ นอกจากเรื่องที่ต้องทำความเคารพเหล่าเชื้อพระวงศ์แล้ว เฟยเมี่ยวก็ไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้งง่าย ๆ อยู่แล้ว

“เจ้า!! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาวิจารณ์คะแนนสอบของข้า”

เป็นองค์ชายที่เสียชาติเกิดเสียจริง ดูเอาเถอะเขาเป็นคนสร้างขึ้นมาแท้ ๆ ถูกโต้กลับเพียงน้อยนิดก็หน้าดำหน้าแดงเพียงนี้เสียแล้ว

“ขออภัยเพคะ หม่อมฉันเพียงพูดตามจริง หรือว่าในห้องเรียนแห่งนี้ห้ามพูดความจริงหรือเพคะ”

“เอาเถอะ ๆ พอแล้ว องค์ชายสี่โปรดพระทัยเย็นก่อน

พะยะค่ะ คุณหนูซุนนางพูดไม่คิดพระองค์อย่าได้ใส่พระทัยเลย”

หงไท่ฝูเอ่ยจบก็ถลึงตามาทางเฟยเมี่ยวเล็กน้อยและจบด้วยการหันไปกล่าวปลอบประโลมเชื้อพระองค์จนองค์ชายสี่เย็นลงได้ ห้องเรียนจึงกลับมาสงบอีกครา ส่วนเฟยเมี่ยวนั้นก็นั่งนิ่งทำท่าทีเหมือนฟังแต่จิตใจนางนั้นเตลิดไปไกลแล้ว รู้ตัวอีกทีก็จบวิชาที่เรียนวันนี้นั่นล่ะ

นางรอให้เหล่าเชื้อพระวงศ์เสด็จออกไปกันหมดก่อนจะได้ไม่ต้องปะทะกัน

อา แต่คนมันอยากปะทะทำอย่างไรก็หลบไม่พ้นอ่ะนะ

“สอบวัดผลคราวนี้เจ้ามาเดิมพันกับข้าหรือไม่ หากเจ้าทำคะแนนรวมได้น้อยกว่าข้า จะต้องมาเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวให้ข้านับแต่นั้น !”

องค์หญิงสามนั้นถือว่ามีคะแนนสอบติดสามลำดับแรกทุกครา การที่มาเดิมพันเยี่ยงนี้กับคนที่ได้คะแนนกลาง ๆ อย่างเฟยเมี่ยว ย่อมคือการจงใจให้นางไปเป็นบ่าวรับใช้มิใช่หรือ

“น้องหญิงไยมาหาเรื่องเฟยเมี่ยวอีกแล้ว เจ้ามิใช่บอกว่าอยากให้ข้าสอนขี่ม้าหรอกหรือ ไปกันเถิด”

องค์รัชทายาทหวงลู่รีบเข้ามาห้ามก่อนเกิดศึกขนาดย่อมขึ้น เขามองสบตาเฟยเมี่ยวอย่างแฝงความนัยว่าให้นางใจเย็นไว้ก่อนเดี๋ยวเขาจัดการต่อเอง

แต่เฟยเมี่ยวไหนเลยจะไม่รู้นิสัยชอบเอาชนะของลู่เอิน

“ท่านพี่อย่าเข้าข้างนางต่อหน้าน้องนะเพคะ ท่านพี่ยืนอยู่เฉย ๆ เลย มิเช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องมาคุยกับข้าอีก!”

คนรักน้องสาวอย่างหวงลู่ย่อมไม่เสี่ยงเข้ามายุ่งอีกนั่นล่ะ เฟยเมี่ยวบอกแล้วไงว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เขาไม่ยอมผิดใจกับน้องสาวสุดที่รักเพื่อสหายอย่างนางหรอก

“องค์หญิงมีนางกำนัลรับใช้ไม่พอหรือเพคะ ถึงอยากให้หม่อมฉันไปรับใช้พระองค์อีก...”

“เจ้าอย่าได้เล่นลิ้น ตกลงเดิมพันกับข้าบัดเดี๋ยวนี้!!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย“ถวายพระพรชินอ๋องพะยะค่ะ”คนตระกูลซุนที่ออกมาต้อนรับยังไม่ทันลงไปทำความเคารพที่พื้นก็ต้องชะงักลงก่อนเพราะคำพูดแปลกประหลาดผู้สูงศักดิ์ที่มาใหม่นั่นเอง“ไม่ต้องเคารพถึงเพียงนั้นหรอกท่านว่าที่พ่อตา...”เฟยเมี่ยวอึ้งเช่นเดียวกันกับคนอื่น เพราะเขาไม่เห็นบอกนางล่วงหน้าให้ทำใจก่อนเล่า ใครจะคิดว่าอยู่ที่ดีก็ยกขบวนหมั้นหมายมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า“ท่านอ๋องหมายความอันใดหรือ ? กระหม่อมไม่เข้าใจ”ขนาดไม่เข้าใจของบิดานางนะเนี่ย น้ำเสียงยังแข็งกร้าวขึ้นเปลี่ยนไปจากตอนแรกมากเลยดูท่าการเป็นอริอย่างเช่นข่าวลือบิดาของนางจะอินเกินจนเข้ากระแสเลือดไปแล้วกระมัง“ก็วันนี้ข้ามาสู่ขอเมี่ยวเมี่ยวไปเป็นพระชายาเอกอย่างไรเล่า เดี๋ยวก็คงจะได้เรียกพ่อตาแล้วในอนาคต”เฟยเมี่ยวเห็นประกายไฟระหว่างสองสายตาที่จ้องกันอยู่ตอนนี้ของแม่ทัพใหญ่ซุนเหวินเชาและชินอ๋องขึ้นมาลาง ๆ แล้ว ดีที่มารดาของนางรีบเข้ามายืนขวางหน้าซุนเหวินเชาเสียก่อน“ท่านอ๋องมาแล้วก็เชิญข้างในจวนก่อนเถอะเพคะ เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกยาว...”“ไม่ให้แต่ง อย่างไรก็ไม่ให้แต่ง !!!”“ใช่ขอรับ ลูกไม่ให้แต่งเช่นกัน!!”สองพ่อลูกตระกูลซุนตะโกนแทบจะพร้อมกันต่อ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   24 ตัดขาด

    24ตัดขาดภายในห้องรับรองตระกูลซุนสายรอง มีเจ้าของจวนนั่งเรียงหน้าเครียด โดยเฉพาะซุนเหวินเชา แม่ทัพไร้พ่ายที่หน้านิ่งแผ่รังสีความไม่พอใจ จนทำให้เหล่าแขกของจวนที่นั่งรวมกันอยู่ฝั่งที่นั่งแขกพากันนั่งเกร็งจนเฟยเมี่ยวที่มองอยู่แทบกลั้นขำไม่ไหวเหล่าแขกที่ว่าคือ พวกตระกูลซุนสายหลักนั่นเอง มีท่านลุงซุนโหว ท่านป้าสะใภ้ซูเม่ย และท่านย่า พวกเขามาคราวนี้เพื่อมาขอขมา ให้สายรองให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น“อาเหวิน เจ้าก็ให้อภัยพี่ชายเจ้าหน่อยเถอะ อย่างไรก็คนตระกูลซุนเช่นเดียวกัน”ท่านย่าเอ่ยเสียงอ่อน รอยยิ้มเหี่ยวย่นของหญิงชราผู้นี้จืดเจื่อนยิ่งนัก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเอ่ยทั้งที่น้ำเสียงติดสั่นระริกจากรังสีกดดันของแม่ทัพไร้พ่าย“ท่านแม่มิคิดหรือเจ้าคะ หากอาเมี่ยวรักษาไม่ทันจะเป็นเช่นไร ท่านพี่สะใภ้นั้นอาจถูกหลอกใช้ก็จริง แต่ว่าอย่างไรเสียเมื่อไม่รู้แหล่งที่มาดีดีไยต้องเสี่ยงให้บุตรสาวของข้ากินด้วย หรือว่าเพราะไม่ใช่บุตรสาวของตนจึงจะให้กินอันใดก็ได้”“ไม่เลย ๆ น้องสะใภ้อย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใครทั้งสิ้น เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้น ทว่าอย่างไรบุตรสาวเจ้าก็ไม่เป็นอันใดนี่ เจ้าสบายดีใช่ไหมอาเ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   23 ไปหาหลักฐาน

    23ไปหาหลักฐานเมื่อเป็นเรื่องความเป็นไประดับแคว้น พอเฟยเมี่ยวไปปรึกษากับชินอ๋องนางก็เพิ่งได้รู้ว่าเขากำลังติดตามเรื่องมีคนลักลอบจำหน่ายฝิ่นอยู่เช่นเดียวกัน พอเฟยเมี่ยวเอาสิ่งที่นางสืบมาโดยตลอดผนวกเข้ากับความจริงจากปากมารดามันทำให้เฟยเมี่ยวสงสัยไปที่ตระกูลซุนสายหลักโดยเฉพาะท่านป้าซูเม่ยทันที พอเอ่ยขอให้ชินอ๋องไปติดตามและสืบเชิงลึกที่ตระกูลหลิงก็พบเบาะแสบางอย่างที่พุ่งไปว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบค้าฝิ่นจริง โดยประมุขตระกูลหลิงที่เป็นถึงหัวหน้ากรมตุลาการหากลักลอบขายฝิ่นย่อมสะเทือนต่อแคว้นมากแน่ตอนนี้ขอเพียงหาหลักฐานมาก็สามารถจับกุมตัวการหลักแล้ว สิ่งที่ชินอ๋องกำลังทำอยู่ตอนนี้คือติดตามคนของตระกูลหลิงที่มีการเดินทางไปมาที่ชายแดนกับเมืองต่าง ๆ โดยแน่นอนว่าเฟยเมี่ยวขอติดตามมาด้วยซึ่งตอนแรกบิดานางจะไม่ให้ไปแต่เพราะชินอ๋องเอ่ยปากและบอกว่าให้พี่ใหญ่ตามมาด้วยได้ เฟยเมี่ยวจึงมีโอกาสได้ติดตามไปชายแดนเยี่ยงตอนนี้“อาเมี่ยวไหวหรือไม่อีกไม่ไกลก็ได้เข้าเมืองแล้ว”พี่ใหญ่เอ่ยถามนางมาตลอดทางทุก ๆ ครึ่งชั่วยาม เขาเป็นห่วงนางเกินไปจนเฟยเมี่ยวเหนื่อยจะตอบแล้ว คงเพราะการเดินทางครานี้รีบเร่งจนมิอ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   22 ไหน้ำส้มใครแตกกันนะ

    22ไหน้ำส้มใครแตกกันนะวันนี้เฟยเมี่ยวออกจากจวนไปร่วมงานชมดอกไม่ที่ตระกูลไป๋จัดขึ้น นางมาถึงก็มีเหล่าคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนมาบ้างแล้ว พอเลี่ยงเหลียงซูเห็นเฟยเมี่ยวเข้างานมาก็รีบมาเดินด้วยกันทันที ทำให้เฟยเมี่ยวไม่เดินเหงาคนเดียวอีกต่อไปรอเวลาผ่านไปจนเริ่มงานชมดอกไม้แล้ว บ่าวตระกูลไป๋จึงมาเชิญเหล่าคุณหนูไปยังลานนั่งล้อมโต๊ะที่มีชาดอกไม้กลิ่นหอมกรุ่นวางตรงหน้า เป็นการให้ลิ้มรสชาก่อนที่จะไปยังสวนเพื่อชมดอกไม้นั่นล่ะ“ชาดีทีเดียว หนิงอันยังมีรสนิยมดีเยี่ยงเดิมนะ”ท่านหญิงเจียวจินเอ่ยชมเป็นคนแรก แล้วคุณหนูคนอื่น ๆ ก็เอ่ยชมตามมาอีกไม่ขาดส่วนเฟยเมี่ยวนั้นมิได้มางานชมดอกไม้เพียงหาสหาย แต่นางต้องการมารับข่าวสารจากวงสตรีด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่พี่ใหญ่สงสัยว่าตระกูลซุนสายหลักกำลังสู่ขอท่านหญิงตรงหน้านี้อยู่“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านหญิงถูกใจข้าน้อยก็เบาใจลงมากเลยเจ้าค่ะ”หนิงอันยิ้มหวานน้อมรับคำชม บทสนทนาของเหล่าสตรีลื่นไหลอย่างหยุดไม่อยู่ ส่วนเฟยเมี่ยวนั้นก็มีคุยบ้างเป็นครั้งคราวไม่ให้เงียบและแปลกพวกเกินไป แต่ไม่มีใครเอ่ยเข้าประเด็นที่เฟยเมี่ยวอยากรู้เลย“ว่าแต่ท่านหญิงเจียวจินผ่านวัยปักปิ่นมาแล้ว ค

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   21 ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่

    21ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่จากการที่มีข่าวลือในวันต่อมาว่ามีกลุ่มโจรซุ่มทำร้ายซุนฮูหยินที่ขอบเมืองหลวง สิ่งที่ชาวเมืองเดาไปต่าง ๆ นานา ก็คือกลุ่มโจรนั้นอาจเป็นคนของชินอ๋องก็ได้ เหตุเพราะการที่สองฝ่ายไม่ลงรอยกันนั่นเองเฟยเมี่ยวที่คุ้นชินกลยุทธ์การสร้างข่าวเท็จนี้มองออกทันที นางอยากไขข้อสงสัยมากจนตัดสินใจว่าจะไปสอบถามความจริงจากตัวการใหญ่ ทำให้ดึกคืนนั้นเองเฟยเมี่ยวในชุดดำล้วนอาศัยทางลับที่ตนสร้างไว้สมัยอยู่ในวังเข้ามาได้ในที่สุด นางพุ่งตรงไปยังตำหนักเฮยลู่ อันเป็นตำหนักที่มีเวรยามรัดกุมที่สุดจนนางไม่สามารถมีคนของตนในตำหนักแห่งนี้ได้เลยที่น่าแปลกคือ ตอนนี้เฟยเมี่ยวแอบเข้ามาจนจะถึงตำหนักหลักส่วนในแล้ว นางยังไม่เจอทหารเฝ้ายามเลยสักคน เฟยเมี่ยวคิดว่าตนเองอาจกำลังหลงกลไกการเฝ้ายามซับซ้อนอยู่นางจึงรีบหมุนตัวรีบกลับกลังทางเดิมเสียก่อนที่จะถูกจับได้ทันที“เมี่ยวเมี่ยวจะหนีอีกแล้ว เข้ามาไม่ใช่เพราะคิดถึงข้าหรือ ยังไม่ทันเจอก็จะกลับเสียแล้ว...”นั่นอย่างไร ที่แท้ชินอ๋องผู้นี้ก็คิดว่านางต้องมาหาเขาอยู่แล้ว ทหารเฝ้ายามจึงหายไปหมดเช่นนี้เมื่อเจอตัวการที่นางต้องการเจอแล้ว อันใดคือต้องหนีกันเล่า !“ทห

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   20 อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีก

    20อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีกงืม ๆ“เช้าแล้วหรือ?...”“ใช่ เช้าแล้ว เมี่ยวเมี่ยวตื่นแล้ว ขี้เซายิ่งนัก”หืม นางไม่ได้นอนอยู่ในห้องคนเดียวหรือไร ไยรู้สึกเหมือนเสียงพูดเมื่อครู่เกิดขึ้นที่ข้างหูนางนี้เองกันนะ ลมที่พัดผ่านใบหูมันชวนให้จั๊กกะจี้จนต้องย่นคอหนีทั้งที่ยังหลับตา ไหนจะสัมผัสบางอย่างที่คลอเคลียแก้มจนทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นดูแล้วค่อยหลับอีกคราก็แล้วกัน“ท่านอ๋องมาอยู่นี่ได้อย่างไร ! โอ๊ะ”ไม่สิ ตอนนี้นางนอนอยู่ในป่านี่นา นางลืมไปเสียได้ คงเพราะเมื่อวานเหนื่อยมากจนหลับไม่รู้เรื่องแน่เลย“แล้วไยถึงถูกท่านกอดได้ !! ปล่อยนะ”ได้สติแล้วเฟยเมี่ยวก็สังเกตว่าตนเองถูกเต๋อรุ่ยกอดอยู่ แก้มของนางแนบคางของเขาจนรู้สึกประหลาดไปหมด แต่แรงกอดรัดของคนที่บาดเจ็บนั้นเฟยเมี่ยวสู้ไม่ไหวจริง นี่ขนาดเขาบาดเจ็บนะแรงยังมากเพียงนี้เลย ไม่อยากจะคิดยามปรกติจะแรงเยอะเพียงใด แต่ที่แน่นอนคือแรงสตรีตัวเล็กอย่างนางสู้เขาไม่ได้แน่นอน“เมี่ยว ๆ กอดข้าเองนะ อีกทั้งยังกอดไม่ปล่อยอีกด้วย ข้าเลยต้องนอนรออยู่เยี่ยงนี้อย่างไรล่ะ”“แต่เมื่อคืนหม่อมฉันไม่ได้นอนท่านี้ หม่อมฉันเพียงให้ความอบอุ่นแก่พระองค์ผ่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status