หลังจากที่ขวัญอุษาได้รับมอบหมายงานจากคุณหญิงธัญญา เธอก็เริ่มต้นวันแรกด้วยความมุ่งมั่น แม้ว่าบ้านหลังใหญ่จะดูเงียบสงบและหรูหรา แต่เด็กสาวก็รู้ดีว่ามีคนทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อรักษาความเรียบร้อยของทุกสิ่ง เธอจึงตั้งใจจะทำความรู้จักกับคนในบ้าน เพื่อที่จะได้เรียนรู้วิธีการทำงานและปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ที่นี่
คุณหญิงธัญญาให้ป้าอิ่มหัวหน้าแม่บ้านพาขวัญอุษาไปแนะนำกับคนรับใช้คนอื่น เมื่อเดินออกมาจากห้องโถงและตรงไปที่ห้องครัวหลังบ้าน ซึ่งมักเป็นที่รวมตัวของคนรับใช้ในบ้านใหญ่ เสียงหัวเราะและบทสนทนาเบา ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เธอยืนอยู่ที่ประตูแล้วค่อย ๆ ผลักบานประตูเข้าไปเดินตามหลังป้าอิ่มอย่างเงียบ ๆ แต่ท่าทางขี้อายของเธอกลับทำให้ทุกคนในห้องครัวหันมามองพร้อมกัน
“สวัสดีค่ะ” ขวัญอุษากล่าวทักทายทุกคนเบา ๆ พลางยิ้มอาย ๆ
“หนูชื่อขวัญอุษา เพิ่งมาทำงานที่นี่วันแรกค่ะ”
คนในครัวที่กำลังเตรียมอาหารหยุดมือกันชั่วครู่ และหนึ่งในนั้นคือหญิงวัยกลางคนที่ท่าทางใจดี รีบเดินเข้ามาทักทายขวัญอุษาก่อน เธอคือ สายใจหัวหน้าแม่ครัวของที่นี่ เธอมีท่าทางที่อบอุ่นและน่าไว้วางใจ
“อ้าว นี่หรือขวัญ ที่คุณหญิงธัญญาพูดถึงอยู่เมื่อวาน” พี่สายใจพูดพลางยิ้มกว้าง “พี่ชื่อสายใจนะ เป็นหัวหน้าแม่ครัวที่นี่ ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามพี่ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
ขวัญอุษารู้สึกโล่งใจขึ้นทันทีที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เธอยกมือไหว้ขอบคุณพี่สายใจที่ดูแลเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
ถัดจากพี่สายใจ ก็มีอีกสองคนที่เข้ามาทักทาย หนึ่งคือ แป้ง สาวใช้วัยรุ่นที่ดูร่าเริง เธอเป็นคนขยันและพูดเก่ง แป้งเป็นคนแรกที่รีบเข้ามาจับมือขวัญด้วยความเป็นกันเอง
“ดีใจที่ได้เจอพี่ขวัญนะคะ หนูชื่อแป้งค่ะ ทำงานที่นี่มาเกือบสองปีแล้ว พี่ขวัญจะชอบที่นี่แน่ ๆ เลยค่ะ ทุกคนใจดีมาก ๆ เลย”
เด็กสาวผู้มาใหม่ยิ้มตอบอย่างอบอุ่น แป้งดูเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย และขวัญอุษาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นทันทีที่ได้พูดคุยกับเธอ
คนสุดท้ายที่เข้ามาคือ ลุงคำ คนสวนผู้สูงวัยที่ทำงานที่นี่มาเป็นเวลานาน เขายิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักนะหนูขวัญ ลุงดูแลสวนที่นี่มานานแล้ว ถ้าหนูอยากจะเรียนรู้เรื่องการจัดสวนเพิ่มเติม มาถามลุงได้เสมอ”
ขวัญอุษายกมือไหว้ลุงคำด้วยความเคารพ รู้สึกดีใจที่ทุกคนดูเป็นกันเองและพร้อมจะช่วยเหลือ
ขณะที่บทสนทนาไหลลื่นและทุกคนเริ่มพูดคุยกันเรื่องการทำงานในบ้าน สมาชิกใหม่รู้สึกเหมือนว่าเธอไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่บ้านของเธอ แต่การได้รับการต้อนรับจากคนในบ้านใหญ่ทำให้เด็กสาวรู้สึกถึงความอบอุ่น และความเป็นมิตรที่เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อน
“พี่ขวัญจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่ก็บอกหนูได้นะคะ เดี๋ยวหนูจะช่วยพาไปแนะนำวิธีทำงานในบ้านนี้” แป้งพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้น
ขวัญอุษายิ้มรับ “ขอบคุณมากนะจ๊ะ แป้ง พี่คงต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
พี่สายใจยิ้มพร้อมกล่าวสรุป “ไม่ต้องห่วงหรอกนะขวัญ ที่นี่ถึงจะงานเยอะ แต่พวกเราก็ช่วยกัน ทุกคนที่นี่เหมือนครอบครัว”
ในวันแรกของการทำงาน ขวัญได้พบเพื่อนใหม่ที่อบอุ่นและพร้อมจะสนับสนุนเธอ ความกังวลและความเหงาในใจเริ่มจางหายไปทีละน้อย ขวัญสัญญากับตัวเองว่า เธอจะทำงานที่นี่อย่างเต็มที่ และจะไม่ทำให้คุณหญิงธัญญาและทุกคนในบ้านนี้ผิดหวัง
ตั้งแต่วันแรกที่ขวัญอุษาเริ่มงานในบ้านใหญ่ เธอทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและขยันขันแข็ง ไม่ว่าจะเป็นงานดูแลห้องโถงใหญ่ จัดดอกไม้ตามมุมต่าง ๆ หรือการทำความสะอาด เด็กสาวไม่เคยอิดออดหรือปริปากบ่นสักครั้งเลย แม้บางงานจะเหน็ดเหนื่อยกว่าที่เธอคาดคิด
ยามเช้า ขวัญอุษามักจะตื่นก่อนใครในบ้าน เธอเดินเข้าสวนดอกไม้หลังบ้านเพื่อเก็บดอกไม้สด ๆ มาจัดแจกันในห้องรับแขก เด็กสาวมักจะเลือกดอกกุหลาบและดอกมะลิ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่คุณหญิงธัญญาชอบเป็นพิเศษ เธอจัดดอกไม้ด้วยความพิถีพิถัน ราวกับดอกไม้เหล่านั้นเป็นผลงานชิ้นเอกของเธอเอง
ขวัญอุษาไม่เคยปล่อยให้วันหนึ่งผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากงานจัดดอกไม้และดูแลสวน ขวัญยังช่วยพี่สายใจและแป้งในงานครัว และงานทำความสะอาดในบ้าน แม้ว่างานจะหนักและมีมากมายในบ้านใหญ่หลังนี้ แต่ขวัญก็ไม่เคยรู้สึกท้อแท้
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่ร่างผอมบางกำลังถูพื้นห้องโถงอยู่ คุณหญิงธัญญาเดินเข้ามาและเห็นขวัญอุษาทำงานด้วยความขยัน เธอยืนมองอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาเห็นคุณหญิง เธอรีบลุกขึ้นยืนและยิ้มด้วยความสุภาพ
“ขวัญ ฉันได้ข่าวป้าอิ่มบอกว่าหนูทำงานเก่งและขยันดูน่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ เลยนะแน่” คุณหญิงธัญญาพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ฉันเห็นหนูทำงานตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่เคยเห็นหนูบ่นเหนื่อยเลยสักครั้ง”
คำชมจากปากผู้มีพระคุณทำให้ขวัญอุษายิ้มเขินเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า หนูแค่อยากทำให้ดีที่สุดค่ะ เพราะหนูรู้สึกว่าได้รับโอกาสดี ๆ มากมายจากที่นี่”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าอย่างพอใจ เธอรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นและซื่อสัตย์ในตัวขวัญอุษา ตั้งแต่รับเด็กสาวเข้ามาทำงานในบ้านใหญ่ ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น และความรู้สึกของความอบอุ่นในบ้านก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง
“ถ้ามีอะไรที่หนูต้องการหรืออยากขอ ฉันยินดีช่วยเสมอนะ ไม่ต้องเกรงใจ” คุณหญิงธัญญากล่าวด้วยน้ำเสียงใจดี
ขวัญอุษายกมือไหว้ขอบคุณอย่างตื้นตัน “ขอบคุณค่ะคุณป้า หนูจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดต่อไป”
หลังจากนั้น ขวัญยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งในทุก ๆ วัน แต่เธอไม่เคยปล่อยให้ความเหน็ดเหนื่อยมาทำให้ใจเธอถดถอย แม้บางครั้งเธอจะคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ แต่เด็กสาวรู้ว่าเธอมีหน้าที่ที่ต้องทำ และหากเธอขยันและอดทนเพียงพอ สักวันหนึ่งเธอจะสามารถกลับไปช่วยพ่อได้
งานในบ้านใหญ่ไม่ใช่เพียงแค่การทำงานเพื่อหาเงินเท่านั้น แต่มันเป็นโอกาสให้ขวัญได้พิสูจน์ตัวเอง ได้แสดงให้เห็นถึงความขยันและความตั้งใจที่เธอมี ชีวิตใหม่ของเธอที่เริ่มต้นในบ้านหลังนี้คือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง
หลังจากที่ปกรณ์รู้ความจริงว่า คุณหญิงธัญญาแอบไปหาขวัญที่เชียงรายและได้เจอเธอพร้อมลูกในท้อง ปกรณ์ตัดสินใจว่าจะยังไม่เผชิญหน้ากับแม่ทันที แต่เขาต้องการดูว่าคุณหญิงจะพูดอะไรกับเขาหรือไม่ เขาจึงคิดแผนการแกล้งโทรหาคุณหญิง เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของแม่และหาทางให้คุณหญิงบอกความจริงด้วยตัวเอง ขณะที่คุณหญิงกำลังนั่งคุยกับขวัญอุษาอยู่ในสวน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณหญิงหันมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะ เห็นชื่อปกรณ์ปรากฏบนหน้าจอ เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบกดรับสายด้วยความเป็นกังวล “ตากรณ์ ลูกโทรมามีอะไรเหรอ” คุณหญิงถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะฟังดูเป็นปกติ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ปกรณ์ที่อยู่ปลายสายแกล้งทำเสียงร่าเริงเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร “คุณแม่ครับ คุณแม่จะกลับบ้านวันไหนครับ” “แม่ยังไม่กลับตอนนี้ลูก มีอะไรหรือเปล่า หรือที่บริษัทมีปัญหา” “เปล่าหรอกครับทุกอย่างเรียบร้อยดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมแค่อยากถามว่าช่วงนี้แม่หายไปไหนบ่อย ๆ เหรอ We ผมสังเกตว่าแม่ออกจากบ้านหลายวันแล้วนะ ไปทำธุระอะไรอยู่หรือครับ ไม่ส่งข่าวลูกชายบ้างเลย ผมเป็นห่วงเลยโทรมา” คุณหญิงนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามหาคำตอบอย่างรวด
หลังจากที่ปกรณ์ได้รู้ความจริงว่าขวัญอุษากำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจทำให้เขาตัดสินใจทันทีว่าจะเริ่มเตรียมตัวเป็นพ่อที่ดี เขารู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดกับขวัญอุษาในอดีต แต่ตอนนี้เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่ และส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความรับผิดชอบนั้นคือการเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยปกรณ์เดินไปที่ห้องว่างห้องหนึ่งในบ้าน เขาจ้องมองไปทั่วห้องที่ยังคงว่างเปล่า แต่ในจินตนาการของเขา มันเริ่มเต็มไปด้วยภาพของอนาคตที่สดใส เขาเห็นภาพของลูกชายตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภาพของเตียงเด็กเล็กที่วางไว้ตรงมุมห้อง ของเล่นวางเรียงราย และผนังที่ทาสีอย่างสดใส“ฉันจะเตรียมห้องนี้ไว้ให้ลูก ห้องสำหรับเด็กน้อยของฉัน” ปกรณ์พึมพำกับตัวเองด้วยความตั้งใจเขาเดินไปรอบ ๆ ห้อง วัดขนาดพื้นที่ด้วยสายตาและเริ่มคิดถึงการจัดแต่งห้อง ทุกมุม ทุกเฟอร์นิเจอร์ เขาต้องการให้ห้องนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นสำหรับลูกน้อยของเขาวันต่อมาปกรณ์เริ่มลงมือจัดการเรื่องการตกแต่งห้องสำหรับลูกน้อยอย่างจริงจัง เขาเริ่มหาซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก ทั้งเตียงนอนเด็ก ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ และชั้นวางของเล่น เขาเลือกเตียง
หลังจากที่คุณหญิงธัญญาตัดสินใจอยู่กับขวัญอุษาที่เชียงรายโดยไม่บอกใคร ปกรณ์เริ่มสังเกตว่าคุณหญิงหายไปหลายวันอย่างผิดปกติ แม้คุณหญิงจะบอกว่าไปทัวร์ต่างประเทศกับเพื่อน แต่บังเอิญปกรณ์เจอกับเพื่อนของคุณหญิงที่คุณหญิงอ้างว่าไปด้วยกันทำให้ปกรณ์ได้รู้ว่าโดนคนเป็นแม่หลอก ปกรณ์เริ่มสงสัยว่าคุณหญิงผู้เป็นแม่มีบางอย่างซ่อนอยู่ ทำให้เขาต้องค้นหาความจริง เขาจึงตัดสินใจวางแผนซ้อนแผนเพื่อสะกดรอยตามคุณหญิงโดยที่แม่ของเขาไม่รู้ หลังจากครบกำหนดวันเที่ยวรอบโลกที่คุณหญิงบอก คุณหญิงก็กลับมาที่บ้านอีก แต่อยู่อีกไม่กี่วันคุณหญิงก็มีทริปไปภาคใต้กับเพื่อนและปฏิบัติธรรมอีก เมื่อปกรณ์สังเกตว่าคุณหญิงกำลังเตรียมตัวออกจากบ้านอีกครั้ง เขาจึงเฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ จากมุมหนึ่งของบ้าน ขณะที่คุณหญิงเก็บของลงกระเป๋าเล็ก ๆ และสั่งให้คนขับรถเตรียมรถไว้ “แม่จะไปไหนอีก” ปกรณ์คิดในใจ เขาตัดสินใจจะตามแม่ไปดูว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อคุณหญิงขึ้นรถออกไปจากบ้าน ปกรณ์ขับรถส่วนตัวสะกดรอยตามไปอย่างเงียบ ๆ รักษาระยะห่างไว้ให้พอดีเพื่อไม่ให้คุณหญิงหรือคนขับรถรู้ตัว หลังจากที่ขับตามไปได้หลายชั่วโมง ปกรณ์สังเกตเห็นว่ารถของคุณหญิงมุ่
หลังจากที่คุณหญิงธัญญาได้ข่าวว่าขวัญอุษาย้ายไปอยู่ที่เชียงราย และรู้ว่า ปกรณ์ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง คุณหญิงก็รู้สึกว่าต้องทำบางอย่างเพื่อติดต่อกับขวัญอุษาก่อน เธอต้องการแน่ใจว่าหญิงสาวสบายดี และบางทีอาจจะพูดคุยเพื่อหาทางคลี่คลายเรื่องที่เกิดขึ้นคุณหญิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปหาขวัญอุษาที่เชียงราย แต่เธอไม่อยากให้ปกรณ์รู้ เพราะกลัวว่าลูกชายจะตามมาโดยไม่ทันคิดและทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น เธอจึงวางแผนอย่างเงียบ ๆ เตรียมตัวออกเดินทางโดยไม่บอกใครเมื่อถึงเชียงราย คุณหญิงหารถขับไปส่งยังสวนผลไม้ที่ขวัญอุษาและพ่อของเธออาศัยอยู่ หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็มาถึงบ้านหลังเล็ก ๆ กลางสวน บรรยากาศร่มรื่นและสงบเงียบ แตกต่างจากชีวิตในกรุงเทพฯ อย่างสิ้นเชิงคุณหญิงลงจากรถและมองไปรอบ ๆ เห็นต้นไม้และผลไม้ที่ปลูกอยู่ทั่วสวน เธอรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าขวัญอุษากำลังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และดูเหมือนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ขณะที่คุณหญิงธัญญาเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้าน ขวัญอุษาที่กำลังจัดผลไม้อยู่บนโต๊ะในสวน เหลือบเห็นหญิงสูงวัยที่คุ้นเคยเดินเข้ามา เธอชะงักไปทันทีด้วยความตกใจ“ค
หลังจากที่ปกรณ์เริ่มแสดงความกังวลและตัดสินใจที่จะออกตามหาขวัญอุษาคุณหญิงธัญญาก็เริ่มคิดมากขึ้นเกี่ยวกับหญิงสาวและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ แม้คุณหญิงจะไม่พูดอะไรมากกับลูกชาย แต่เธอรู้ดีว่าขวัญอุษาอาจกำลังเผชิญกับเรื่องใหญ่ที่ปกรณ์ไม่รู้ ความรู้สึกห่วงใยและความรักที่คุณหญิงมีต่อขวัญอุษา ทำให้เธอตัดสินใจที่จะสืบหาหญิงสาวด้วยตัวเอง แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ปกรณ์รู้ เพราะเธอไม่อยากให้ลูกชายต้องกังวลหรือหุนหันพลันแล่นเกินไป คุณหญิงเริ่มแผนการสืบหาขวัญอุษาอย่างเงียบ ๆ เธอใช้คนที่เธอไว้ใจได้ในการตามหาหญิงสาว โดยให้คนของเธอตามร่องรอยจากบ้านเก่า และตรวจสอบว่าพ่อของขวัญอุษาย้ายไปอยู่ที่ไหนหลังจากหนีไป “คุณหญิงครับ ผมได้ข่าวว่าคุณขวัญย้ายไปอยู่เชียงราย” คนของคุณหญิงรายงานเมื่อหนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มสืบหา “เธอไปอยู่กับพ่อของเธอที่สวนผลไม้ในเขตอำเภอแม่ลาวครับ” คุณหญิงที่ได้ยินข่าวนั้นถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง เชียงรายอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มาก การที่ขวัญอุษาเลือกไปอยู่ที่นั่นทำให้คุณหญิงเข้าใจว่าหญิงสาวต้องการหลีกหนีจากชีวิตเดิมจริง ๆ “เธอเป็นยังไงบ้าง” คุณหญิงถามด้วยความห่วงใย “เธอดูแลตัวเองดีค
หลังจากที่ขวัญอุษาย้ายมาอยู่ที่เชียงรายและตั้งหลักชีวิตใหม่ในสวนผลไม้ที่เธอกับพ่อซื้อไว้ ชีวิตของเธอเริ่มดีขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่เพียงแต่เธอจะดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์ได้ดี แต่รายได้จากการทำงานออนไลน์และการแปลเอกสารก็เพิ่มมากขึ้นอย่างที่เธอคาดไม่ถึง นอกจากงานออนไลน์ที่เธอทำเป็นหลัก ขวัญอุษาและพ่อยังได้เริ่มต้นทำสวนผลไม้เต็มรูปแบบ ผลไม้ในสวนของนายสาธิตก็เริ่มเติบโตและให้ผลผลิตมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง ส้ม และลำไย ที่พวกเขาปลูกไว้เพื่อขาย ขวัญอุษาใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้การตลาดออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อช่วยขายผลผลิตจากสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกวันขวัญอุษามักจะสลับเวลาในการทำงานทั้งงานแปลเอกสารและดูแลสวนผลไม้ เธอเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นทั้งด้านการจัดการและการสร้างรายได้จากงานหลายช่องทาง นอกจากนี้เธอยังเปิดช่องทางการตลาดออนไลน์สำหรับการขายผลผลิตในสวนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งทำให้เธอสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น “ลูกค้าเริ่มสั่งซื้อมากขึ้นทุกวัน” ขวัญอุษาบอกกับพ่ออย่างตื่นเต้น ขณะนั่งดูการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน “โชคดีที่เราได้ผลผลิตดีปีนี้ พ่อไม่ต้องกังวลเรื่องการขายเลย”