ในยามบ่ายหลังจากที่ทำงานทุกอย่างเสร็จ ขวัญอุษานั่งพักอยู่ในห้องเล็ก ๆ ของเธอ ความเงียบสงบของบ้านใหญ่ในตอนนี้ทำให้เธอมีเวลาได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน แต่ในใจของเด็กสาว เธอยังคงคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านต่างจังหวัดเสมอ
ร่างผอมบางหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของเธอขึ้นมา มันเป็นของที่เธอใช้ติดตัวมาตลอด แม้จะไม่ใช่โทรศัพท์รุ่นใหม่ทันสมัยอะไร แต่ก็พอใช้โทรออกติดต่อกับพ่อเธอได้ ขวัญอุษานั่งลงบนเตียงก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์ที่เธอจำได้ขึ้นใจ และรอสายด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความคิดถึง
เสียงรอสายดังก้องอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเสียงที่คุ้นเคยของพ่อดังขึ้นที่ปลายสาย
“ฮัลโหล ขวัญหรือเปล่าลูก” เสียงของพ่อดูเหนื่อยล้า แต่ก็แฝงด้วยความดีใจที่ได้ยินเสียงลูกสาว
“ใช่ค่ะพ่อ ขวัญเองค่ะ” ขวัญอุษาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอ เมื่อได้ยินเสียงของพ่อ ความคิดถึงที่เก็บไว้เริ่มเอ่อล้น
“เป็นยังไงบ้างลูก สบายดีไหม ทำงานเหนื่อยหรือเปล่า” พ่อถามด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรักและห่วงใย
“หนูสบายดีค่ะพ่อ งานที่นี่ก็โอเค หนูทำงานบ้านแล้วก็ช่วยจัดดอกไม้ คุณหญิงธัญญาท่านใจดีกับขวัญมากค่ะ ทุกคนในบ้านก็ดีกับหนูทุกคนเลย” เด็กสาวพยายามเล่าให้พ่อฟังด้วยน้ำเสียงสดใส แม้ในใจเธอจะรู้สึกถึงความเหนื่อยล้า แต่เธอก็ไม่อยากให้คนเป็นพ่อเป็นห่วง
“พ่อสบายดีไหมคะ” คนเป็นลูกสาวถามต่อ รู้สึกเป็นกังวลใจเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ของพ่อ
ผู้เป็นพ่อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “พ่อก็โอเคลูก ไม่ต้องห่วงเรื่องพ่อนะ พ่อดีใจที่หนูได้ทำงานดี ๆ แล้ว ได้ยินเสียงหนูพ่อก็พอใจแล้ว”
ขวัญอุษายิ้มบาง ๆ แม้พ่อจะพูดแบบนั้น แต่เธอรู้ดีว่าพ่อยังคงต้องเผชิญกับหนี้สินและความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนัก เธอสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานให้เต็มที่และเก็บเงินส่งกลับไปช่วยพ่อให้ได้มากที่สุด
“พ่อจ๋า ถ้าขวัญได้เงินแล้วขวัญจะส่งเงินกลับไปให้พ่อทุกเดือนนะคะ พ่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก หนูสัญญาว่าจะช่วยพ่อให้ได้” ขวัญอุษาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ในใจจะรู้ว่ายังมีอุปสรรคมากมายรออยู่
พ่อเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ไม่ต้องห่วงหรอกลูก ทำเท่าที่ทำได้นะ พ่อไม่อยากให้หนูต้องลำบากมากเกินไป แค่หนูสบายดี พ่อก็ดีใจแล้ว พ่อขอโทษนะที่ทำให้หนูต้องลำบาก”
คำพูดของพ่อทำให้ขวัญน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอรู้สึกทั้งตื้นตันและเศร้าในเวลาเดียวกัน แต่เธอเช็ดน้ำตาออกและยิ้มให้กับตัวเอง พยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้ภายใน
“ค่ะพ่อ ขวัญจะดูแลตัวเองดี ๆ พ่อก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันนะคะ ขวัญรักพ่อค่ะ” ขวัญอุษาบอกลาและยิ้มแม้ว่าพ่อจะมองไม่เห็น
“พ่อก็รักหนู ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก” พ่อกล่าวก่อนที่จะวางสาย
หลังจากวางสาย ขวัญอุษานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จิตใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความคิดถึง ความห่วงใย และความมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น เธอรู้ว่าหนทางยังอีกยาวไกล แต่เธอจะไม่ยอมแพ้
ร่างผอมบางลุกขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองจากแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ชีวิตของเธออาจจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าความพยายามและความรักของเธอจะนำพาเธอไปสู่วันที่ดีขึ้น
หลังจากที่ขวัญอุษาวางสายโทรศัพท์ เธอยังคงนั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ ของตัวเอง มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ความคิดถึงพ่อและความกดดันที่สะสมมา ทำให้หัวใจของเธอหนักอึ้งกว่าที่เคย เด็กสาวรู้ว่าชีวิตของเธอยังต้องดิ้นรนต่อไป แต่เธอก็ไม่อาจทิ้งความหวังที่เก็บไว้ในใจ
ในขณะที่ขวัญอุษานั่งอยู่เงียบ ๆ คุณหญิงธัญญาบังเอิญเดินผ่านมา เธอตั้งใจจะมาหาขวัญเพื่อพูดคุยบางอย่าง แต่เมื่อได้ยินเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ คุณหญิงหยุดฟังโดยไม่ตั้งใจ ความจริงใจและความรักที่ขวัญอุษาแสดงออกผ่านบทสนทนากับพ่อ ทำให้คุณหญิงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและความกตัญญูที่อยู่ลึกในใจของเด็กสาวคนนี้
คุณหญิงธัญญาถอยกลับมายืนอยู่ที่ประตู รอให้เด็กสาวพูดคุยกับพ่อจนเสร็จ เธอรู้สึกสะท้อนใจและประทับใจในความมุ่งมั่นของขวัญอุษา การที่เด็กสาวต้องทำงานหนักเพียงเพื่อจะช่วยพ่อและครอบครัว ทำให้คุณหญิงเริ่มคิดว่าตัวเองควรช่วยเหลือขวัญอุษาให้มากกว่านี้
หลังจากขวัญวางสายไปแล้ว คุณหญิงธัญญาเคาะประตูเบา ๆ ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้นมาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“คุณหญิงป้า มีอะไรให้หนูรับใช้หรือเปล่าคะ” ขวัญอุษาถามด้วยความสุภาพ
คุณหญิงธัญญายิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเล็ก ๆ และนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้เตียง ขวัญอุษารู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคุณหญิงต้องการพูดอะไร
“ขวัญ ฉันได้ยินหนูคุยกับพ่อของหนูเมื่อกี้นี้” คุณหญิงเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เด็กสาวตื่นตกใจเล็กน้อยและหน้าเริ่มซีดลงเล็กน้อย เพราะเธอไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน
“ไม่ต้องกังวลไปนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่สิ่งที่ฉันได้ยินทำให้ฉันคิดอะไรบางอย่างได้”คุณหญิงกล่าวต่อ
ขวัญอุษาก้มหน้าลงเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงด้วยความกังวล เธอกลัวว่าคุณหญิงจะมองเธอในแง่ลบ หรือรู้สึกว่าเธอเป็นภาระ
“หนูไม่ต้องกังวลนะ ฉันเข้าใจดีว่าชีวิตของหนูไม่ได้ง่ายเลย การที่หนูต้องมาทำงานไกลบ้านเพื่อหาเงินไปช่วยพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแค่นี้ ถือเป็นสิ่งที่ฉันควรชื่นชมในตัวหนูมากกว่า หนูเป็นเด็กที่กตัญญูและขยันขันแข็ง ฉันเห็นมาตลอดเวลาที่หนูอยู่ที่นี่” คุณหญิงพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ขณะที่สายตาแสดงความเมตตาอย่างแท้จริง
ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตากับคุณหญิง ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอ ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอไม่เคยคิดว่าคุณหญิงจะเห็นคุณค่าในตัวเธอขนาดนี้
“ขอบคุณมากค่ะคุณหญิงป้า หนูแค่พยายามทำให้ดีที่สุด หนูไม่อยากให้พ่อเหนื่อยอีกต่อไปแล้ว” ขวัญอุษาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ แต่ยังคงยิ้มบาง ๆ
คุณหญิงธัญญายิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือขวัญอุษาอย่างอ่อนโยน “ฉันอยากช่วยหนูนะขวัญ หนูไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นภาระอะไร ฉันมีความสุขที่ได้ช่วยคนที่ตั้งใจทำงานอย่างหนู ฉันจะเพิ่มเงินเดือนให้หนูอีก และถ้าหนูต้องการส่งเงินกลับไปช่วยพ่อ ฉันก็จะช่วยเป็นบางส่วนเอง”
ขวัญอุษาตกใจและน้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เธอไม่เคยคิดว่าจะได้รับความช่วยเหลือเช่นนี้ ความรู้สึกตื้นตันใจทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก
“หนูไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีค่ะ หนู หนูซาบซึ้งมาก ๆ ค่ะ” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา มือของเธอที่กุมมือคุณหญิงไว้สั่นไหวเล็กน้อยด้วยความซาบซึ้งใจ
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกจ้ะ แค่หนูทำงานของหนูให้ดีที่สุด ฉันก็พอใจแล้ว” คุณหญิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และยิ้มอย่างจริงใจ
หลังจากการสนทนาจบลง ขวัญอุษารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เธอได้รับการช่วยเหลือที่เกินความคาดหวัง และมันทำให้เธอรู้สึกขอบคุณต่อคุณหญิงธัญญามากกว่าเดิม ความกังวลในใจที่เคยแบกรับไว้เริ่มเบาบางลง ร่างบางรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้เดินลำพังอีกต่อไป
หลังจากที่ปกรณ์รู้ความจริงว่า คุณหญิงธัญญาแอบไปหาขวัญที่เชียงรายและได้เจอเธอพร้อมลูกในท้อง ปกรณ์ตัดสินใจว่าจะยังไม่เผชิญหน้ากับแม่ทันที แต่เขาต้องการดูว่าคุณหญิงจะพูดอะไรกับเขาหรือไม่ เขาจึงคิดแผนการแกล้งโทรหาคุณหญิง เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของแม่และหาทางให้คุณหญิงบอกความจริงด้วยตัวเอง ขณะที่คุณหญิงกำลังนั่งคุยกับขวัญอุษาอยู่ในสวน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณหญิงหันมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะ เห็นชื่อปกรณ์ปรากฏบนหน้าจอ เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบกดรับสายด้วยความเป็นกังวล “ตากรณ์ ลูกโทรมามีอะไรเหรอ” คุณหญิงถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะฟังดูเป็นปกติ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ปกรณ์ที่อยู่ปลายสายแกล้งทำเสียงร่าเริงเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร “คุณแม่ครับ คุณแม่จะกลับบ้านวันไหนครับ” “แม่ยังไม่กลับตอนนี้ลูก มีอะไรหรือเปล่า หรือที่บริษัทมีปัญหา” “เปล่าหรอกครับทุกอย่างเรียบร้อยดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมแค่อยากถามว่าช่วงนี้แม่หายไปไหนบ่อย ๆ เหรอ We ผมสังเกตว่าแม่ออกจากบ้านหลายวันแล้วนะ ไปทำธุระอะไรอยู่หรือครับ ไม่ส่งข่าวลูกชายบ้างเลย ผมเป็นห่วงเลยโทรมา” คุณหญิงนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามหาคำตอบอย่างรวด
หลังจากที่ปกรณ์ได้รู้ความจริงว่าขวัญอุษากำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจทำให้เขาตัดสินใจทันทีว่าจะเริ่มเตรียมตัวเป็นพ่อที่ดี เขารู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดกับขวัญอุษาในอดีต แต่ตอนนี้เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่ และส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความรับผิดชอบนั้นคือการเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยปกรณ์เดินไปที่ห้องว่างห้องหนึ่งในบ้าน เขาจ้องมองไปทั่วห้องที่ยังคงว่างเปล่า แต่ในจินตนาการของเขา มันเริ่มเต็มไปด้วยภาพของอนาคตที่สดใส เขาเห็นภาพของลูกชายตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภาพของเตียงเด็กเล็กที่วางไว้ตรงมุมห้อง ของเล่นวางเรียงราย และผนังที่ทาสีอย่างสดใส“ฉันจะเตรียมห้องนี้ไว้ให้ลูก ห้องสำหรับเด็กน้อยของฉัน” ปกรณ์พึมพำกับตัวเองด้วยความตั้งใจเขาเดินไปรอบ ๆ ห้อง วัดขนาดพื้นที่ด้วยสายตาและเริ่มคิดถึงการจัดแต่งห้อง ทุกมุม ทุกเฟอร์นิเจอร์ เขาต้องการให้ห้องนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นสำหรับลูกน้อยของเขาวันต่อมาปกรณ์เริ่มลงมือจัดการเรื่องการตกแต่งห้องสำหรับลูกน้อยอย่างจริงจัง เขาเริ่มหาซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก ทั้งเตียงนอนเด็ก ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ และชั้นวางของเล่น เขาเลือกเตียง
หลังจากที่คุณหญิงธัญญาตัดสินใจอยู่กับขวัญอุษาที่เชียงรายโดยไม่บอกใคร ปกรณ์เริ่มสังเกตว่าคุณหญิงหายไปหลายวันอย่างผิดปกติ แม้คุณหญิงจะบอกว่าไปทัวร์ต่างประเทศกับเพื่อน แต่บังเอิญปกรณ์เจอกับเพื่อนของคุณหญิงที่คุณหญิงอ้างว่าไปด้วยกันทำให้ปกรณ์ได้รู้ว่าโดนคนเป็นแม่หลอก ปกรณ์เริ่มสงสัยว่าคุณหญิงผู้เป็นแม่มีบางอย่างซ่อนอยู่ ทำให้เขาต้องค้นหาความจริง เขาจึงตัดสินใจวางแผนซ้อนแผนเพื่อสะกดรอยตามคุณหญิงโดยที่แม่ของเขาไม่รู้ หลังจากครบกำหนดวันเที่ยวรอบโลกที่คุณหญิงบอก คุณหญิงก็กลับมาที่บ้านอีก แต่อยู่อีกไม่กี่วันคุณหญิงก็มีทริปไปภาคใต้กับเพื่อนและปฏิบัติธรรมอีก เมื่อปกรณ์สังเกตว่าคุณหญิงกำลังเตรียมตัวออกจากบ้านอีกครั้ง เขาจึงเฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ จากมุมหนึ่งของบ้าน ขณะที่คุณหญิงเก็บของลงกระเป๋าเล็ก ๆ และสั่งให้คนขับรถเตรียมรถไว้ “แม่จะไปไหนอีก” ปกรณ์คิดในใจ เขาตัดสินใจจะตามแม่ไปดูว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อคุณหญิงขึ้นรถออกไปจากบ้าน ปกรณ์ขับรถส่วนตัวสะกดรอยตามไปอย่างเงียบ ๆ รักษาระยะห่างไว้ให้พอดีเพื่อไม่ให้คุณหญิงหรือคนขับรถรู้ตัว หลังจากที่ขับตามไปได้หลายชั่วโมง ปกรณ์สังเกตเห็นว่ารถของคุณหญิงมุ่
หลังจากที่คุณหญิงธัญญาได้ข่าวว่าขวัญอุษาย้ายไปอยู่ที่เชียงราย และรู้ว่า ปกรณ์ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง คุณหญิงก็รู้สึกว่าต้องทำบางอย่างเพื่อติดต่อกับขวัญอุษาก่อน เธอต้องการแน่ใจว่าหญิงสาวสบายดี และบางทีอาจจะพูดคุยเพื่อหาทางคลี่คลายเรื่องที่เกิดขึ้นคุณหญิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปหาขวัญอุษาที่เชียงราย แต่เธอไม่อยากให้ปกรณ์รู้ เพราะกลัวว่าลูกชายจะตามมาโดยไม่ทันคิดและทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น เธอจึงวางแผนอย่างเงียบ ๆ เตรียมตัวออกเดินทางโดยไม่บอกใครเมื่อถึงเชียงราย คุณหญิงหารถขับไปส่งยังสวนผลไม้ที่ขวัญอุษาและพ่อของเธออาศัยอยู่ หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็มาถึงบ้านหลังเล็ก ๆ กลางสวน บรรยากาศร่มรื่นและสงบเงียบ แตกต่างจากชีวิตในกรุงเทพฯ อย่างสิ้นเชิงคุณหญิงลงจากรถและมองไปรอบ ๆ เห็นต้นไม้และผลไม้ที่ปลูกอยู่ทั่วสวน เธอรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าขวัญอุษากำลังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และดูเหมือนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ขณะที่คุณหญิงธัญญาเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้าน ขวัญอุษาที่กำลังจัดผลไม้อยู่บนโต๊ะในสวน เหลือบเห็นหญิงสูงวัยที่คุ้นเคยเดินเข้ามา เธอชะงักไปทันทีด้วยความตกใจ“ค
หลังจากที่ปกรณ์เริ่มแสดงความกังวลและตัดสินใจที่จะออกตามหาขวัญอุษาคุณหญิงธัญญาก็เริ่มคิดมากขึ้นเกี่ยวกับหญิงสาวและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ แม้คุณหญิงจะไม่พูดอะไรมากกับลูกชาย แต่เธอรู้ดีว่าขวัญอุษาอาจกำลังเผชิญกับเรื่องใหญ่ที่ปกรณ์ไม่รู้ ความรู้สึกห่วงใยและความรักที่คุณหญิงมีต่อขวัญอุษา ทำให้เธอตัดสินใจที่จะสืบหาหญิงสาวด้วยตัวเอง แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ปกรณ์รู้ เพราะเธอไม่อยากให้ลูกชายต้องกังวลหรือหุนหันพลันแล่นเกินไป คุณหญิงเริ่มแผนการสืบหาขวัญอุษาอย่างเงียบ ๆ เธอใช้คนที่เธอไว้ใจได้ในการตามหาหญิงสาว โดยให้คนของเธอตามร่องรอยจากบ้านเก่า และตรวจสอบว่าพ่อของขวัญอุษาย้ายไปอยู่ที่ไหนหลังจากหนีไป “คุณหญิงครับ ผมได้ข่าวว่าคุณขวัญย้ายไปอยู่เชียงราย” คนของคุณหญิงรายงานเมื่อหนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มสืบหา “เธอไปอยู่กับพ่อของเธอที่สวนผลไม้ในเขตอำเภอแม่ลาวครับ” คุณหญิงที่ได้ยินข่าวนั้นถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง เชียงรายอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ มาก การที่ขวัญอุษาเลือกไปอยู่ที่นั่นทำให้คุณหญิงเข้าใจว่าหญิงสาวต้องการหลีกหนีจากชีวิตเดิมจริง ๆ “เธอเป็นยังไงบ้าง” คุณหญิงถามด้วยความห่วงใย “เธอดูแลตัวเองดีค
หลังจากที่ขวัญอุษาย้ายมาอยู่ที่เชียงรายและตั้งหลักชีวิตใหม่ในสวนผลไม้ที่เธอกับพ่อซื้อไว้ ชีวิตของเธอเริ่มดีขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่เพียงแต่เธอจะดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์ได้ดี แต่รายได้จากการทำงานออนไลน์และการแปลเอกสารก็เพิ่มมากขึ้นอย่างที่เธอคาดไม่ถึง นอกจากงานออนไลน์ที่เธอทำเป็นหลัก ขวัญอุษาและพ่อยังได้เริ่มต้นทำสวนผลไม้เต็มรูปแบบ ผลไม้ในสวนของนายสาธิตก็เริ่มเติบโตและให้ผลผลิตมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง ส้ม และลำไย ที่พวกเขาปลูกไว้เพื่อขาย ขวัญอุษาใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้การตลาดออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อช่วยขายผลผลิตจากสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกวันขวัญอุษามักจะสลับเวลาในการทำงานทั้งงานแปลเอกสารและดูแลสวนผลไม้ เธอเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นทั้งด้านการจัดการและการสร้างรายได้จากงานหลายช่องทาง นอกจากนี้เธอยังเปิดช่องทางการตลาดออนไลน์สำหรับการขายผลผลิตในสวนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งทำให้เธอสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น “ลูกค้าเริ่มสั่งซื้อมากขึ้นทุกวัน” ขวัญอุษาบอกกับพ่ออย่างตื่นเต้น ขณะนั่งดูการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน “โชคดีที่เราได้ผลผลิตดีปีนี้ พ่อไม่ต้องกังวลเรื่องการขายเลย”