ความเสียใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นอกจากจะ เป็นแผลแล้ว มันยังเป็นเหมือนตะกอนที่ขุ่นอยู่ในใจ อภัสราเหมือนเป็นโรคซึมเศร้า ทุกครั้งที่เห็นใครใส่ชุดนักศึกษา เธอก็จะเก็บเอามาคิดและเสียใจทุกครั้ง
“สักวันต้องข้ามผ่านมันไปได้” คุณแม่ยังสาวบอกตัวเอง เมื่ออุ้มลูกน้อยขึ้นพาดบ่าหลังจากกินนมอิ่ม วันนี้หมอนัดแทนรัก ฉีดวัคซีน และคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีดันมีธุระแถวหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอจึงติดรถพี่ชายมาด้วย จนมาเห็นภาพ บาดตา ผู้หญิงวัยเดียวกับเธอใส่ชุดนักศึกษารัดรูป ในขณะที่เธอใส่เสื้อยืดตัวใหญ่เพื่อสะดวกกับการให้นมลูก
เสียงสะอึกที่ดังมาพร้อมอาการกระตุกของก้อนกลมบนบ่า ปลุกคุณแม่ยังสาวออกจากภวังค์ความคิด อดีตคือสิ่งที่กลับไปแก้ไขไม่ได้ ปัจจุบันกับอนาคตต่างหากที่เธอต้องคิดถึง
“สะอึกเหรอคะ น้องไทม์สะอึกเหรอลูก”
ล้อเล่นกับลูกแล้วอุ้มแทนรักนั่งบนตัก มือบางลูบไปบนหลังเล็กเบา ๆ ก่อนจะหยิบขวดนมขนาดเล็กที่บรรจุน้ำใส่ปากลูกน้อย คุณหมอหลายท่านสั่งว่าห้ามให้ลูกดื่มน้ำจนกว่าจะครบหกเดือน แต่แม่ของเธอจะสั่งให้เธอป้อนน้ำน้องไทม์ทุกครั้งที่กินนมอิ่ม เพื่อล้างปาก คุณแม่มือใหม่จึงสับสนกับวิธีการเลี้ยงลูก ตกลงต้องให้ดื่มน้ำหรือไม่ให้ดื่ม เธอจะเชื่อใครดีระหว่างแม่กับหมอ
“ถามน้องไทม์ได้ไหมคะ หนูดื่มน้ำได้ไหมคะ”
เมื่อไม่มีคำตอบ สุดท้ายก็คุยกับลูกน้อยเพื่อฆ่าเวลา อภิวัฒน์คุยธุระนานเกินไปแล้ว อย่าบอกนะว่ามาจีบสาว แล้วให้เธอกับลูกรออยู่ในรถ
“พี่วัฒน์นะพี่วัฒน์ ลืมไปหรือเปล่าว่าเอาน้องมาด้วย”
บ่นให้พี่ชายเมื่อกล่อมลูกให้หลับ น้องไทม์ฉีดวัคซีนมา สองเข็ม เป็นธรรมดาที่เด็กวัยนี้ต้องเป็นไข้ อภัสราเริ่มโมโหเมื่อลูกเริ่มตัวรุม ๆ
ไม่นานคนที่กำลังทำให้คุณแม่ยังสาวโมโหก็เปิดประตูรถ เข้ามา ชายหนุ่มยิ้มให้น้องอย่างขอลุแก่โทษที่ทำให้รอนาน เมื่อเห็นน้องหน้าบึ้งจึงใช้ไม้เด็ด มือหนาชูถุงที่ใส่ขนมหวานและชานมไข่มุกของโปรดของหญิงสาวขึ้น
อภัสราตาโต ก่อนจะเปลี่ยนเป็นบึ้งตามเดิม เมื่อนึกได้ว่า เธอเพิ่งคลอดลูกมา และหมอสั่งให้งดของเย็น
“ทานนิดเดียวไม่เป็นไรหรอกมั้ง” พี่ชายที่แสนดีปะเหลาะน้องสาวเมื่อเห็นอาการของเธอ
“จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ” ถามพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ
“นิดเดียวน่า อึกสองอึก” อภิวัฒน์ยุส่ง เพราะรู้ว่าสิ่งนี้คือ ของโปรดของเธอ
“ชานมมันมีคาเฟอีน น้องไทม์จะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอคะ”
ถามเพราะยังตัดสินใจไม่ได้
“กว่าจะไปเป็นน้ำนม คงสลายไปหมดแล้วแหละ เอาเถอะ พี่ไม่บอกคุณแม่หรอก”
“พี่วัฒน์น่ะ ขอบคุณนะคะ” คนอยากกินชาไข่มุกเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะดูดของโปรดลงคออึกใหญ่ รสชาติหอมหวานละมุนลิ้น ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาจริง ๆ
“ไงเจ้าอ้วน... รอลุงนานไหม ขอโทษนะ ลุงคุยธุระนาน ไปหน่อย” บอกกับหลานแล้วเอื้อมมือไปเขี่ยแก้มยุ้ย ๆ ของคน ตัวเล็ก
“จะหลับแล้วค่ะ”
ชาไข่มุกทำให้คนแสนงอนอารมณ์ดีขึ้นจริง ๆ ยิ่งเห็นพี่ชายหยอกล้อหลานก็พาให้มีความสุขไปด้วย นาทีนี้เจ้าอ้วนในอกเธอ คงมีความสุขที่สุด เพราะตอนนี้ทุกคนในบ้านต่างก็รุมรัก
“แอ๊ะ” ขนาดจะหลับยังอารมณ์ดี
“ตัวรุม ๆ นะเนย” อภิวัฒน์บอกกับน้อง เมื่อสัมผัสถึงไอร้อนที่ออกมาจากคนตัวเล็ก
“น่าจะมีไข้ค่ะ คงแพ้วัคซีน”
“เหนื่อยอีกแล้วสิคุณแม่” มือแกร่งขยี้ลงบนกลุ่มผมสลวยของคนเป็นน้อง
“มีพี่วัฒน์คอยช่วย ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ” คำตอบที่ประจบพี่ชาย ทำให้อภิวัฒน์อยากแกล้ง
“เสียใจ คืนนี้พี่มีปาร์ตี้” อภิวัฒน์บอกแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย เมื่อรอยยิ้มของคนหน้าบานหุบลง เพราะคำว่าปาร์ตี้ของเขา อภิวัฒน์รู้ดีว่าตั้งแต่มีลูกชีวิตของอภัสราก็เปลี่ยนไป จากที่เคยได้เที่ยวเล่นสนุกสนาน ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นก็ต้องเลิก เพราะมีลูกก่อน วัยอันควร
“ขอโทษนะครับ พี่ปากไวไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“คืนนี้พี่อยู่บ้านครับ ใครจะทิ้งเจ้าอ้วนได้ลงคอ คืนนี้ขอลุงนอนด้วยคนนะครับ”
“พี่วัฒน์น่ะ ไม่ต้องมาเอาใจเนยหรอกค่ะ เนยไม่เป็นอะไร จริง ๆ”
“ไว้รอให้น้องไทม์โตกว่านี้อีกหน่อย เราไปอยู่อังกฤษกันนะ เนยไปเรียนต่อให้จบ พี่จะเลี้ยงหลานเอง”
อภิวัฒน์บอกกับน้อง เขาไม่อยากให้อภัสราคิดมาก พาเธอมาใกล้กับมหาวิทยาลัย ก็ทำให้เขารู้สึกผิดไม่น้อย
“ขอบคุณนะคะพี่วัฒน์”
หญิงสาวไหว้พี่ชาย เธอรู้ว่าหลายครั้งที่อภิวัฒน์ยอมทิ้งความสุขส่วนตัวเพื่อมาดูแลเธอกับลูก อภิวัฒน์พยายามเติมเต็มส่วนที่ขาดให้เธอกับน้องไทม์ ต่อให้ลูกไม่มีพ่อ แต่น้องไทม์ก็จะโตมาด้วยความรักและความอบอุ่น
ตากลมโตมองไปยังร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดนักศึกษาเดินอยู่ ข้างทาง แล้วคิดถึงใครบางคน อธิปจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขามีลูกกับเธอ
หลังจากถูกส่งตัวให้มาอยู่ในห้องหอตามลำพัง อภัสรากับอธิปก็ยิ้มให้กัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง หลังจากที่คืนดีกัน อธิปก็ย้ายเข้ามาอยู่กับเธอ ที่แต่งงานให้ถูกต้องเพราะสงสารฝ่ายหญิง ตลอดชีวิตของอภัสรายอมเขามาโดยตลอด เขาเข้ามาอยู่ด้วยเธอก็ให้อยู่ ทางพ่อแม่ก็ไม่ขัดข้องเพราะลูกโตแล้ว อธิปขอเธอแต่งงานตั้งแต่เธอกลับมา แต่หญิงสาวก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้เธอท้องลูกของเขาอีกคน เลยไม่มีข้ออ้าง ที่จะไม่แต่ง ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่ยอมแต่งงาน คงมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม” ถามเมื่อล้มตัวลงนอนบนตักของหญิงสาว“ไม่ค่ะ” ตอบพร้อมกับลูบมือไปบนใบหน้าหล่อเหลา“ถ้าแต่งตั้งแต่ยังไม่ท้องก็ไม่เหนื่อยแบบนี้หรอก” อธิปพูดด้วยความน้อยใจ เมื่อเขาต้องขอเมียแต่งงานถึงสามครั้ง“ก็แต่งแล้วไงคะ”“ถ้าไม่ท้องก็ไม่แต่ง”“พักนี้ทำไมขี้ใจน้อยจังเลย แต่งแล้วนี่คะ ไม่งอนนะคะ”“เนยรักพี่หรือเปล่า”“หืม... ถามทำไมคะ”“ไม่รู้ แต่เหมือนเนยไม่รักพี่”“พี่ธามนี่ยิ่งแก่ยิ่งงอแง ถ้าเนยไม่รัก เนยจะอยู่ด้วยไหมล่ะ”“เหมือนจำใจอยู่”“ไปกันใหญ่แล้ว งานก็ไม่ได้ไปทำ ให้อยู่บ้
“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววววว” เสียงโห่ขันหมากที่ดัง มาจากด้านล่าง ทำให้เจ้าสาวในชุดไทยสีชมพูอมม่วงนั่งไม่ติดพื้น ร่างบางพาตัวเองมายืนแอบดูขบวนขันหมากที่ยกกันมายาวจน สุดทางด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นหนุ่ม ๆ ที่แต่งตัวด้วยชุดไทยหล่อเหลา เต้นกันไปมาตามจังหวะเพลงที่เปิดลั่นมาตามทางตากลมโตมองเลยไปยังผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดไทยสวยงาม ก่อนจะมองไปยังคนตัวเล็กที่เดินนำขบวนมาข้างหน้า แทนรักแต่งตัวเหมือนพ่อ เดินอุ้มขันหมากคู่มากับมดยิ้ม ยิ้มให้กับตัวเอง คงมีไม่กี่คู่หรอกที่ให้ลูกมาอุ้มขันหมากงานแต่งพ่อแม่ เธอกับอธิปข้ามขั้นตอนกันไปจนเลยเถิด งานแต่งมีลูกมาร่วมงานด้วยก็ดีไป อีกแบบ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามลูก ว่าตอนพ่อกับแม่แต่งงาน หนูอยู่ที่ไหน“ดูน้องไทม์สิ ยิ้มไม่หุบเลย” คุณปราณีเดินเข้ามาในห้อง แล้วมายืนข้างลูกก่อนจะมองไปข้างล่างเช่นกัน“หนุ่ม ๆ สาว ๆ เขาเล่นกันสนุกดีนะ”คุณปราณีพูดขึ้น เมื่อเห็นประตูเงินประตูทองแต่ละด่าน ทำโทษเจ้าบ่าวสารพัดวิธี ทั้งวิดพื้น ทั้งเต้น และยังมีอย่างอื่นอีก สมัยที่นางแต่งงานไม่เคยมีแบบนี้“ผู้ชายพวกนี้บ้าพลังค่ะ” บอกกับ
“มาคุยกันหน่อยสิ” ทันทีที่ก้าวขาลงจากรถ เสียงขู่คำรามก็ดังขึ้น ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า อธิปมายืนรอที่โรงจอดรถ มืดค่ำป่านนี้ยังมารอเธออีก ไม่มีอะไรให้ทำหรือไง“ไปไหนมา แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”อภัสรามองบนไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี“ไปคุยรายละเอียดเรื่องงานมาค่ะ”ตอบเมื่อมายืนข้างหน้าเขา น่าแปลกที่วันนี้เธอกลับไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนเมื่อก่อน ตาคมเข้มแดงก่ำสบกับตากลมโตของเธอ นึกโมโหกับท่าทางนิ่งเฉยของหญิงสาว ปล่อยให้เขาพล่านเป็น หมาบ้า แต่เธอกลับเฉย มันน่าจับฟาดก้นสักที“แล้วทำไมไม่รับสาย”“ประชุมยาวเลยค่ะ เนยว่าจะโทร. กลับก็ลืมไปเลย”“ประชุมยาวตั้งแต่แปดโมงถึงสองทุ่ม ไม่พักเบรกให้ขี้เยี่ยวเลย” พูดพร้อมกับพยักหน้าให้ตัวเอง ทำท่าทางเข้าใจเพื่อประชดเธอ อภัสรากลอกตา มันไม่มีที่ไหนหรอกที่จะประชุมยาวขนาดนั้น อธิปประชดเธอ ที่เธอไม่โทร. กลับเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเขา ก็โทร. หาเธอแค่ครั้งเดียว คงไม่มีธุระอะไรสำคัญ“พักค่ะ เขาก็มีพักเบรกนั่นแหละ”“แต่ไม่โทร. กลับ”“เนยคิดว่าไม่น่าจะมีธุระอะไร พี่ธามโทร. หาแค่ครั้งเดียว นี่คะ” อภัสราอธิบายเหตุผล“ชอบให้โทร. จิก ชอบให้ส่งข้อความ
อภัสรามาถึงสถานที่ประชุมตั้งแต่เช้า เธอสมัครเข้า ร่วมโครงการนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ และดีใจมากที่ทางทีมงาน เรียกตัวเธอมาร่วมงาน เธอแค่อยากพิสูจน์ให้หลาย ๆ คนเห็นว่า เธอมีความสามารถ ไม่ได้ต้องการทำประชดใครทั้งนั้น อธิปคง ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะงานเขากับงานที่เธอกำลังทำมันคนละส่วนกัน เธอทำงานให้ภาครัฐ ส่วนเขารับงานของเอกชนเป็นหลัก อภิวัฒน์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังสนับสนุนอีกด้วย เธอแค่อยากยืนด้วยขาของตัวเอง ใช้ความรู้ความสามารถที่มีมาทำให้เกิดประโยชน์ให้ มากที่สุดครืด~ครืด~มือถือในกระเป๋าสั่นขึ้น เธอทำแค่เพียงหยิบขึ้นมาดู เพราะใกล้ถึงเวลาเข้าประชุม อธิปคงโทร. มาเรื่องลูก วันนี้เป็นหยุดเขาคงอยากพาแทนรักไปเที่ยว คิดก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าตามเดิม เมื่อรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกันเดินเข้ามาทักทาย หากาแฟดื่มสักแก้วก่อนเข้าประชุมคงทำให้สดชื่นขึ้น เพราะเมื่อคืนเธอนอนไม่หลับ ทั้งแปลกที่และตื่นเต้นดีใจที่อธิปมาขอคืนดีกับเธอ“ห่าเอ๊ย!”ร่างสูงสบถลั่นเมื่ออภัสราไม่รับโทรศัพท์ ไอ้โครงการที่เธอไปทำนั่น มันมีระยะสัญญายาวเป็นสิบ ๆ ปี ถ้าเธอเซ็นสัญญาก็ไม่ต่างจากอุทิศตัวให้การกุศล เพรา
“นอนไม่หลับเหรอ” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้คนที่กำลังเทน้ำดื่มใส่แก้วต้องหันไปมอง“ค่ะ”“แปลกที่น่ะสิ ไปอยู่อังกฤษมานาน”“พี่วัฒน์จะดื่มอะไรไหมคะ”“ไม่เอา พี่เห็นเรายังไม่นอนเลยเดินมาหา ว่าจะมาคุยด้วยหน่อย” อภิวัฒน์บอกกับน้อง เมื่อพากันมานั่งที่โต๊ะในห้องอาหาร“เรื่องวันนี้ใช่ไหมคะ” อภัสราถามพี่ชาย พร้อมกับหลบตาเมื่อรู้ว่าตัวเองมีความผิด“ไปเรียนอังกฤษสองปี ได้อะไรมาบ้าง”“ได้ความรู้ค่ะ เนยจะเอากลับมาทำงานใช้หนี้พี่วัฒน์”บอกเสียงใสเมื่อต้องการประจบพี่ชาย“แล้วความเข้มแข็งล่ะ ได้มาบ้างไหม” ตาคมเข้มมองหน้าน้อง เมื่อเห็นแววตาไหววูบในดวงตากลมโตก็ได้แต่ถอนหายใจ“พี่วัฒน์... พี่วัฒน์โกรธเนยเหรอคะ” ใบหน้าสวยซีดเผือด เมื่อพี่ชายถามมาแบบนี้“หน้าซีดเชียว ทำไมถึงคิดว่าพี่จะโกรธ”แม้จะสงสารแต่อภิวัฒน์ก็ยังเฉย ปั้นหน้าให้ดูไร้อารมณ์ที่สุด เพื่อรอดูอาการของน้อง“เนยไปหาเขา เนยให้เขาหอมแก้ม แล้ว... เนยก็”“พอเถอะ นั่นมันเรื่องของเรา สิ่งที่พี่จะบอกก็คือน้องสาวพี่ เก่งมากที่เรียนจบกลับมาตามกำหนด พี่ส่งเราไปเรียนวิศวะ ไม่ได้ให้ไปเรียนพละ ไม่อยากได้หรอกความเข้มแข็งอะไรนั่น สองปีที่เนยไม่กลับมาเม
ปาร์ตี้เล็ก ๆ จัดขึ้นท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่มาร่วมงาน เพื่อน ๆ ที่มาร่วมงานต่างก็พากันแซวอธิป บางคนถึงกับโห่ร้องเมื่อสุดท้ายอธิปก็กลืนน้ำลายตัวเอง หลายครั้ง ที่มีการวิ่งไล่จับกัน เมื่อบางคนเผาอธิปให้อภัสราฟัง หญิงสาวขำกับพฤติกรรมพ่อของลูก อาจมีน้อยใจบ้างเมื่อเพื่อนย้ำให้รู้ว่าอธิปเคยประกาศไว้ว่าจะไม่มีวันคืนดีกับเธอ หลายครั้งที่อธิปจะอธิบายเพราะกลัวเธอเข้าใจผิด แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะเฉยเพราะอธิปก็เคยพูดแบบนี้กับเธอ“พวกมึงนี่เลี้ยงเสียเหล้าจริง ๆ ถ้าจะมาเพื่อเผากูกลับกันไปเลยนะ” อธิปชี้หน้าเพื่อน เมื่อถูกเผาแรง“ทำมาหัวร้อน ที่กูพูดมาเรื่องจริงทั้งนั้น”ใครคนหนึ่งที่อภัสราจำชื่อไม่ได้ตะโกนตอบ และก็ได้ไก่ทอดในจานเป็นของแถม เมื่ออธิปปามันใส่เขาเต็มแรง เรียกเสียงหัวเราะในเพื่อนได้อีกชุดใหญ่“พี่เต้ย มึงจำได้ไหมวันที่เนยไปอังกฤษ วันนั้นมีหมาเศร้า นะโว้ย”“อยู่ภูเก็ตเสือกรู้อีกนะมึง”“ก็มึงนอนตั้งแต่สองทุ่ม ใคร ๆ ก็คิดว่าอกหักทั้งนั้น” ภพธรพูดขึ้นเพราะเขาเป็นคนโทร. หาอธิป“เมื่ออาทิตย์ก่อนใครไปหากูนะ บอกกลัวเนยเอาลูกหนีไปอยู่อังกฤษ หน้างี้เศร้าเหมือนหมาหงอย วันนี้นั่