ยิ่งหนีก็ยิ่งใกล้ ยิ่งไกลก็ยิ่งคิดถึง อภัสราต้องออกจากมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเทอมแรกด้วยซ้ำ เมื่อไปมีความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ สาวน้อยอายุ18แบกหัวใจที่บอบช้ำพร้อมกับลูกในท้อง หนีไปถึง 6 ปีเต็ม
View More“แอ๊ะ” เสียงที่ดังมาจากเปลที่อยู่มุมห้องปลุกคนที่ กำลังง่วนอยู่กับผ้ากองโตให้เงยหน้าขึ้น อภัสรากลอกตาเมื่อ เจ้าตัวเล็กในเปลส่งเสียงร้อง หลังจากนอนหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คุณแม่ยังสาวลุกขึ้น บิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ แล้วเดินไปที่เปล เมื่อคนตัวเล็กเปลี่ยนจากเสียงทักทายเป็นร้องจ้าเมื่อไม่ได้ดังใจ
“มาแล้วครับ มาแล้ว” ร่างบางส่งเสียงไปก่อนตัวเมื่อคน ตัวเล็กยังร้องไม่หยุด ให้มันได้อย่างนี้สิ... ตื่นมาก็ร้องเลย คุณแม่ ยังสาวบ่นในใจ
“อุแว้ ๆ ๆ” เด็กชายแทนรักวัยสองเดือนเศษส่งเสียงร้องดังขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อคนเป็นแม่ยังชักช้า
“เนยมัวทำอะไรอยู่ลูก น้องไทม์ร้องใหญ่แล้ว”
เสียงแม่ที่ดังมาจากอีกฝากของบ้าน ทำให้รู้ว่าแทนรักร้องดังแค่ไหน เอาให้แตกตื่นกันทั้งบ้านไปเลย อภัสรานึกอ่อนใจกับการงอแงของคนตัวเล็ก
“รีบแล้วค่ะแม่” ร้องตอบมารดาก่อนจะช้อนอุ้มคนงอแงขึ้นมาจากเปล จะให้เธอคล่องแคล่วเหมือนคนปกติได้ยังไง เธอเพิ่งจะ ผ่าคลอดเจ้าอ้วนในเปลนี่มาได้แค่สองเดือน
“อุแว้ ๆ ๆ ๆ”
“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะ แม่มาแล้ว” ร่างบางนั่งลงกับพื้น ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดรอบหัวนม ก่อนจะจับเต้าอวบยัดเข้าไปในปากเล็ก ๆ ที่ยังร้องไม่หยุด
“อุแว้ ๆ อุบ...จ๊วบ ๆ” ทันทีที่หัวนมอุ่นที่คุ้นเคยสัมผัสริมฝีปาก เด็กน้อยก็หยุดร้อง แล้วงับดูดตามสัญชาตญาณ ต่อให้ไม่หิวก็ต้องดูดไว้ก่อน
อภัสรายิ้มอย่างเอ็นดู เมื่อมองหน้าคนในอ้อมแขนที่ดูดเอา ๆ จนน้ำนมไหลออกจากปากเพราะกลืนไม่ทัน
“เบา ๆ สิลูก เดี๋ยวก็สำลักหรอก” หยอกล้อลูกน้อย ทั้ง ๆ ที่เจ็บระบมไปทั้งเต้า เพราะคนตัวเล็กปากหนักและดูดไม่ถูกวิธี เรื่องลูกเป็นอะไรที่ยังใหม่กับเธอมาก อายุยังไม่เต็มยี่สิบต้องมาเป็นคุณแม่ คิดถึงเรื่องนี้ทีไรใจก็เจ็บทุกที แต่จะให้ทำอย่างไร อดีตมันผ่านมาแล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อภัสราแน่ใจว่าเธอจะไม่ทำตัวแบบนี้
ความรักที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันมาพร้อมกับเซ็กซ์ที่ขาดการป้องกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเจ้าอ้วนในอ้อมแขน เรื่องนี้เธอไม่โทษใคร เพราะทำตัวเองทั้งนั้น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนแผลเป็นเปื้อนใหญ่ที่ติดค้างอยู่ในใจ ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตา เมื่อความเสียใจตีกลับเข้ามาอีกครั้ง
“เนยลูก... ร้องไห้อีกแล้ว” เสียงของแม่มาพร้อมกับมือที่ลูบ ลงมาบนศีรษะ ทำให้คนที่กำลังบังคับน้ำตาไม่ให้ไหลปล่อยก้อนสะอื้นออกมา
“แม่คะ... เนยขอโทษ”
“ขอโทษแม่ทำไมลูก ไม่เอา... อย่าคิดมาก เป็นแม่คนแล้ว ต้องไม่อ่อนแอสิ เห็นไหมน้องไทม์มองใหญ่เลย”
“เนยเสียใจ เนย...”
“ไม่เอาลูก ไม่รื้อฟื้นเรื่องเก่านะ อะไรที่มันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป พ่อแม่และทุกคนดีใจมากที่มีน้องไทม์เพิ่มเข้ามาครอบครัวของเรา” คุณปราณีปลอบเมื่อลูกสาวคิดมากอีกแล้ว
คุณแม่หลังคลอดก็แบบนี้ จิตใจอ่อนไหว พอมีเรื่องมากระทบจิตใจ ก็มักจะมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย ยิ่งอภัสรามีเรื่องที่เป็นเหมือนแผลในใจจึงทำให้อ่อนไหวง่ายขึ้น
“เนยขอบคุณนะคะที่แม่ให้อภัยเนย และรักน้องไทม์ เนยสัญญาว่าต่อไปนี้จะเป็นลูกที่ดี จะเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เนยจะตั้งใจเรียน เนยจะไม่ทำตัวแบบนี้ เนยเสียใจ”
อภัสรายกมือไหว้คนเป็นแม่ เมื่อซาบซึ้งใจกับคำพูดของท่าน เธอทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวง แต่ครอบครัวยังให้อภัยและอยู่ เคียงข้าง ต่อให้ลูกของเธอไม่มีพ่อ หญิงสาวก็มั่นใจว่าแทนรักจะมีชีวิตที่สมบูรณ์และมีความสุข เพราะใคร ๆ ต่างก็รักและให้ความเมตตา
“อย่าคิดมากนะลูก เรื่องเรียนรอให้น้องไทม์โตกว่านี้อีกนิด เนยค่อยกลับไปเรียนต่อ ตอนนี้เนยต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียดอย่าคิดมาก เดี๋ยวไม่มีน้ำนมให้ลูกกินนะ เห็นไหมว่าน้องไทม์กินเก่ง ถ้าเนยเครียดแล้วไม่มีน้ำนม น้องไทม์จะเอาอะไรกิน”
ปลอบลูกไม่ให้คิดมาก แต่ท้ายประโยคล้อเล่นกับหลาน ที่ตอนนี้ยังดูดนมคนเป็นแม่ไม่หยุด อภัสรายิ้มทั้งน้ำตาเมื่อคิดได้ว่าคนในอ้อมแขนนี่ต่างหากที่เธอต้องห่วง ถ้าเธอไม่มีน้ำนมแล้วลูกจะกินอะไร นมผสมมีมากมายหลายยี่ห้อ แต่เธออยากเลี้ยงลูกด้วย นมแม่มากกว่าเพราะมีประโยชน์ เธอต้องเลี้ยงลูกเองอยู่แล้ว ให้ลูกกินนมเธอนี่แหละประหยัดและมีประโยชน์ที่สุด
“ปวดท้องหรือเปล่า ยังเจ็บแผลอยู่ไหมลูก” ถามด้วยน้ำเสียงอาทร
“ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยค่ะ”
“พักผ่อนเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ ป้อนนมลูกให้อิ่ม จะได้นอนนาน ๆ เนยก็อย่าเพิ่งลุกมาทำอะไร รอให้แผลหายดีก่อนค่อยทำ แผลข้างในเรามองไม่เห็น ถ้าอักเสบขึ้นมาจะลำบากนะลูก”
“ขอบคุณนะคะแม่ เนยรักแม่ที่สุดเลยค่ะ”
“แม่ก็รักเนยมากนะลูก เป็นแม่แล้วต้องเข้มแข็งให้มากที่สุด อย่าคิดมาก”
คุณปราณีปลอบพร้อมกับลูบมือลงบนกลุ่มผมนุ่มสลวย อภัสรายังเด็กเหลือเกิน วัยนี้ควรได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเหมือนกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ แต่ลูกนางเลือกเดินทางผิด สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น เมื่อลูกทำพลาดไปแล้ว คนเป็นแม่ก็ได้แต่ทำใจ และให้กำลังใจ เพราะนางรู้ว่ากำลังใจสำคัญที่สุด อภัสราและลูกจะไปต่อได้ และมีชีวิตที่สวยงามถ้าได้กำลังใจจากคนใกล้ตัว
เสียงพูดคุยของคนงานที่มาพร้อมเสียงเครื่องจักรปลุกให้คนที่เพิ่งงีบหลับไปเมื่อตอนเช้ามืดให้ตื่นขึ้น ร่างบางขยับตัวนั่งบนเตียงนอน แต้วคงออกไปนานแล้ว เพราะเวลานี้สายมากแล้ว หญิงสาวไล่เลียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะยิ้มให้ตัวเอง ขยับลงจากเตียงนอน ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีอะไรต้องอายเพราะมันคือเรื่องจริง เธอมีลูกกับอธิป และถ้าใครนินทาหรืออยากรู้อะไร เธอก็พร้อมจะตอบทุกคำถาม ความอายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเพราะเธอผ่านจุดนั้นมาแล้ว‘พักผ่อนนะคะ พี่จะบอกช่างใหญ่ให้’ยิ้มเมื่ออ่านโน้ตของมินตรา อย่างน้อยพี่แต้วก็เป็นห่วงเธอ หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วหาอะไรรองท้อง สำรวจตัวเองหน้ากระจก สูดลมหายใจเข้าปอด ต่อให้เธอหลบอยู่ในห้องนี่ทั้งวัน ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเพราะหนีความจริงไม่พ้น“สู้สิเนย เป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะคะ” พูดกับรูปลูกชายใน มือถือ ลูกคือกำลังใจที่ดีที่สุดที่เธออยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะเขาร่างบางก้าวออกมาจากห้อง แล้วเดินไปยังจุดที่ปกรณ์กับมินตราทำงานอยู่ ระหว่างทางเธอต้องสู้กับสายตาของทุกคน หญิงสาวทำเพียงส่งยิ้มบาง ๆ กลับไปเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน“ขอโทษนะคะ เนยมาสายไปหน่
อภัสราล้มทั้งยืนเมื่ออธิปหันหลังเดินจากไป แต้วกับเพื่อน ๆ ที่ยืนดูเหตุการณ์รีบเข้ามาประคอง หญิงสาวยังนั่งสะอื้นอยู่ที่เดิม ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาเป็นสาย คนที่อยู่ในห้องมองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน เพราะต่างก็ตกใจกับเรื่องใหม่ ที่ได้รับรู้ อภัสรากับอธิปเคยรู้จักกันมาก่อน และอธิปก็เป็นพ่อของลูกเธอ“เป็นไงบ้างคะน้องเนย” แต้วถามเมื่ออภัสราดีขึ้น หลังจากปล่อยให้เธออยู่กับตัวเองมาพักใหญ่ ๆ“เนยไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” บอกพร้อมกับกลั้นก้อนสะอื้น พยายามทำตัวให้เข้มแข็งที่สุด“อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่วัฒน์นะคะ เนยไม่อยากให้พี่วัฒน์ ไม่สบายใจ” นอกจากลูกแล้วสิ่งที่นึกได้อีกอย่างก็คืองานของพี่ชาย มือบางปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองหน้าทุกคนด้วยสายตาขอร้อง ปกรณ์และทีมงานพยักหน้ารับ เพราะเข้าใจความรู้สึกของเธอดี“คืนนี้ให้พี่นอนเป็นเพื่อนนะคะ” แต้วอาสาหลังจากสั่งให้ ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน“ขอโทษนะคะที่เนยทำให้ทุกคนเดือดร้อน” บอกอย่างรู้สึกผิด เมื่อคิดไปว่าเธอกำลังเป็นสาเหตุให้ทุกคนทำงานยากขึ้น“อย่าคิดมากนะคะ เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมันเป็นคนละส่วนกัน น้องเนยทำใจให้สบาย ถ้ามันอึดอัดเล่
อธิปขอร้อง เขามาเพราะอยากคุยเรื่องลูกของเธอ ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนและคำตอบจะเป็นอย่างไร เขาอยากหาคำตอบให้กับสิ่งที่ค้างอยู่ในใจ ไม่ว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นแบบไหน เขาก็ยินดีรับมันร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอด เรียกสติให้ตัวเอง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ความลับไม่มีในโลก เธอปิดปังเรื่องลูกกับเขา แต่เมื่อทุกอย่างมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง เขามีสิทธิ์รู้มือบางที่สั่นเทายื่นมากำลูกบิดประตูอีกครั้ง นับหนึ่งถึงสามในใจ กลั้นใจแล้วเปิดมันออกรู้สึกเหมือนอากาศที่อยู่บริเวณนั้นน้อยนิดจนหายใจไม่ออก โลกเหมือนหยุดหมุน เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าชัดเจน มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาเมื่อมันพากันไหลออกมา เพียงแค่สบตากับเขา ความรู้สึกที่เก็บกดเอาไว้ในใจก็ถูกเปิดเผย เธอรักเขามากและยังรักตลอดมา“พี่ธาม...” เสียงสั่นเครือเอ่ยชื่อเขา กลืนก้อนสะอื้นลงคอ ก่อนจะถามประโยคถัดมา “มีอะไรคะ”ไม่มีคำตอบออกมาจากปากหยัก มีเพียงตาคู่คมที่มองนิ่งมาที่เธอ ใช่เธอจริง ๆ อภัสรา... ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเข้ามาในหัวใจเขา สิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะไม่ใช่แค่ความใคร่ แต่เธอก็ทำให้เขาลืมเลือนเธอไป“
กว่าอมรพงษ์จะกลับมาห้องพักก็กินเวลาหลายชั่วโมง จนคนรอสูบบุหรี่หมดไปเป็นซอง ๆ อธิปให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขา มีงานที่ต้องบอกให้อมรพงษ์รับรู้ จึงนั่งรออย่างใจเย็น ทั้งที่ความ เป็นจริงมันกลับตรงกันข้าม ข้อมูลที่ได้มาจากคิงต่างหากที่ทำให้ เขาต้องมานั่งตากยุงรอ ก้นบุหรี่ถูกปาลงพื้นเมื่อคิดถึงอภัสราคิงบอกว่าอมรพงษ์รักจริงหวังแต่ง ทั้ง ๆ ที่เธอมีลูกติด เขาจะไม่ติดใจเลยสักนิด ถ้าไม่สงสัยว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา“แม่ง!” ด่าตัวเองเมื่อเริ่มคิดฟุ้งซ่าน เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเด็กนั่นเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่“อ้าว !ยังไม่นอนเหรอพี่” อมรพงษ์ถามเมื่อเห็นอธิปนั่งอยู่หน้าห้องพัก อธิปเลือกที่จะเมินเฉยกับคำถาม อมรพงษ์ยกมือ เกาหัว เมื่อเห็นท่าทางของลูกพี่ ปกติถ้าเขาถามแบบนี้ ถ้าอธิป ไม่ตอบก็ด่ากลับ“กูนึกว่ามึงจะค้างกับแฟนเสียอีก” อธิปถาม คำถามของเขาทำให้อมรพงษ์ตาโต หน้าแดงจนลามไปถึงใบหู“เอาอะไรมาพูดวะพี่ ฟงแฟนอะไรกัน”ตอบก่อนจะเดินขึ้นบันไดมานั่งตรงข้ามกับลูกพี่ ไม่ต้องเสียเวลาถามอมรพงษ์เป็นคนขี้อวด ปากบอกไม่ใช่แฟน แต่ก็พร้อมจะเล่าเรื่องหัวใจตัวเองให้เขาฟัง ถ้าไม่กลัวเสียแผนละก็ อยากจะ ยั
“มันชื่อไอ้เจ๋งครับ เป็นคนงานที่เข้ามาตอกปั้นจั่นกับช่างเชิดชาย” ศราวุธบอกกับอธิปเมื่อถูกเรียกประชุมด่วน คนที่ ศราวุธพูดถึงตอนนี้คงนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในคุก ในขณะที่ เชิดชายหัวหมุนเมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น“ผมขอโทษครับ”“รับคนเข้าทำงาน ตรวจสอบประวัติหน่อย” อธิปพูด ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก ตาคู่คมมองกลุ่มควันสีเทาที่ค่อย ๆ จางไปกับอากาศถ้าอมรพงษ์ไม่ตามไป อภัสราจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้อมรพงษ์ ว่าแต่มันไปทำอะไรตรงนั้น คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ภาพที่มันกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน ก็พอจะเดาได้ว่าอมรพงษ์รู้สึกยังไงกับเธอ สองคนนี้ไปสนิทสนมกันตอนไหน มีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกไหม“เอาไงต่อดีครับ ให้ส่งคุณเนยกลับหรือเปล่า” ศราวุธถามเมื่อเห็นอธิปเงียบไป“เรื่องนั้นผมจะคิดอีกที ตอนนี้ต้องระวังให้มาก ถ้าคนงานกล้าทำขนาดนี้ แสดงว่าความปลอดภัยของเราหละหลวม ฝากพวกคุณช่วยเป็นหูเป็นตา และเพิ่มความระมัดระวังด้วยก็แล้วกัน” อธิปสั่งแล้วให้ทุกคนแยกย้ายกลับไป ปกรณ์ขอบคุณที่เขาไม่ส่งอภัสรากลับ เพราะไม่อย่างนั้นคงมีปัญหากับอภิวัฒน์แน่นอน อธิปดูแลงานทั้งหมดก็จริง แต่ถ้า
ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกายเมื่อถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ร่างบางดิ้นหนีเมื่อร่างหนาของเดนมนุษย์ทาบทับลงมา มือของมันยังกดอยู่ที่ปาก ลำคอขมปร่าเมื่อกลิ่นตัวของมันลอยมาเข้าจมูก เหม็นจนแทบอาเจียน ถึงแม้มันจะใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า แต่อภัสราก็รู้ว่ามันคือคนงานในไซต์งานร่างบางดิ้นสุดชีวิตเมื่อมันเริ่มแกะกระดุมกางเกงของเธอออก เจ็บจนพูดไม่ออก เมื่อกำปั้นหนัก ๆ ฟาดลงมาบนหน้าท้องและ ชายโครงติด ๆ กัน มันตั้งใจมาทำร้ายเธอ น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย หมดทางช่วยเหลือตัวเอง แรงจะกรีดร้องก็ไม่มี ความเจ็บปวดกระจายไปทุกขุมขน เสื้อเชิ้ตถูกกระชากจนขาดวิ่น กระดุมกางเกงเม็ดแรกหลุดออกจากกันหน้าน้องไทม์ลอยเข้ามาในหัว หญิงสาวหลับตาลงเมื่อกางเกงยีนส์เลื่อนออกจากเอว เธอต้องรักษาชีวิตเอาไว้เพื่อลูก โลกใบนี้ยังมีเรื่องที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย หกปีที่เธอใช้ชีวิตอยู่แต่ในรั้วบ้าน วันแรกที่ออกมาเผชิญกับโลกภายนอก มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ใครจะคิดว่าไซต์งานที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มันคงจ้องเอาเธอไว้แล้วมือหยาบกร้านบีบขยำลงบนอกอวบ หญิงสาวนอนนิ่งเป็นหุ่น น้ำตาไหลลงมาเป็นสายเมื่อหมดทางช่วยเหลือตัว
Comments