LOGIN“พอแล้ว เดี๋ยวอดใจไม่ไหว ลัลยังต้องใช้เวลาปรับตัว” เขาบอกกับหญิงสาวด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะจูบหน้าผากของเธอแผ่วเบา
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังใช้เวลาอยู่ด้วยกันพลันมีเสียงกดรหัสดังมาจากประตู ลลัลนาหันไปมอง เธอเดาว่าน่าจะเป็นบิดามารดาของเธอ เพราะถ้าเป็นฟางข้าวเธอจะโทรมาหาก่อนทุกครั้ง
ไม่ถึงนาทีบานประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างบิดามารของหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง ศรัญกับกานดาชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า ลลัลนาที่กำลังนั่งอยู่บนตักแกร่งของนัทธีหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของมารดา ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกออกจากตักแกร่ง
“แม่มารบกวนหรืออเปล่า เหมือนแม่จะมาผิดเวลานะ” กานดาแซวบุตรสาวกับบุตรเขยยิ้มๆ
“เปล่าค่ะ ทำไมไม่บอกลัลก่อนล่ะคะว่าจะมา ลัลจะได้เตรียมของทานเล่นไว้ให้” หญิงสาวพูดพลางเดินเข้าไปกอดมารดา
“ไม่เป็นไร แม่กะว่าจะมาชวนลูกไปทานข้าวกันเนี่ยแหละ” กานดาตอบก่อนจะอ้าแขนรับกอดจากบุตรสาว
“ไปมื้อเย็นนะคะ ลัลเพิ่งทานมื้อเที่ยงมาจากข้างนอกค่ะ” ลลัลนาบอกก่อนจะโอบเอวมารดาเดินไปนั่งที่โซฟา โดยมีบิดาของเธอเดินตามมานั่งข้างๆ
นัทธีทักทายบิดามารดาของหญิงสาวก่อนจะเงียบเสียงลง โดยที่เขานั่งอยู่ข้างเธอเงียบๆ ศรัญหันมาชวนนัทธีคุยเบาๆ ปล่อยให้กานดาเป็นคนพูดคุยกับลลัลนาเอง
“แม่จองโต๊ะที่โรงแรมไว้ เลยว่าจะมาชวนไปทานมื้อเย็น ลุงชลิตก็ไปด้วยนะ”
“ลัลยังไงก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ลัลหยุดอีกวัน”
“นัทล่ะลูก”
“ผมแล้วแต่ลัลครับ” ชายหนุ่มตอบมารดาของลลัลนาก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบผมเธอเล่นเบาๆ
“แหม หวานกันจริง” กานดาหัวเราะด้วยความชอบใจ
หลังจากนั่งคุยกันสักพักใหญ่ก็เตรียมตัวออกไปทานอาหารกัน นัทธีขอตัวไปเอากุญแจรถ กับกระเป๋าสตางค์ ก่อนที่ร่างหนาจะลุกขึ้นเต็มความสูงเดินออกจากห้องไป
“อะไรยังไงเนี่ยลัล ทำไมตานัทบอกว่าไปเอาของ”
“ก็พี่นัทอยู่ห้องฝั่งนู้นไงคะ อีกห้องหนึ่งที่เคยว่างตอนนี้มีคนซื้อแล้วค่ะ พี่นัทเป็นคนซื้อ”
“ตายจริง บังเอิญขนาดนั้นเลยหรอ” กานดาอุทานด้วยความแปลกใจ
“ลัลก็ไม่ทราบนะคะว่าบังเอิญหรือเปล่า” เธอบอกมารดาไปตามตรง
หญิงสาวนั่งคุยกับบิดามารดาเพียงไม่นาน นัทธีก็กลับเข้ามาพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อย ลลัลนาจึงเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง เพราะเธอยังอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวหลวมโคร่ง ปล่อยให้นัทธีอยู่กับบิดามารดาของเธอ
เมื่อหญิงสาวแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องนอน เธอใส่กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อชีฟองเปิดไหล่สีขาว ผมยาวสลวยถูกรวบมัดขึ้นสูงตามสไตล์สาวมั่นแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนหวาน
เมื่อเห็นว่ามากันพร้อมแล้วก็พากันทยอยออกจากห้อง นัทธีหันมาปิดแอร์พร้อมกับสายตาคมที่มองกวาดไปทั่วห้องเพื่อสำรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องตามหลังทุกคนไป
“รถลัลล่ะลูก” ทันทีที่มาถึงที่จอดรถ กานดามองไปรอบๆแต่ไม่เห็นรถของบุตรสาวจึงหันมาถาม
“อยู่กับยัยข้าวค่ะ ยัยข้าวเป็นคนขับกลับไป วันจันทร์ถึงจะขับมาให้ลัลค่ะ”
“อ๋อ จ้ะ ไปกันเถอะ” กานดาเดินตามสามีไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ลลัลนาขึ้นรถไปกับนัทธี ก่อนจะขับตามกันไปยังร้านอาหาร
“คุณลุงสวัสดีค่ะ” ลลัลนาโผเข้าไปกอดชายวัยกลางคนอย่างดีใจที่ได้เจอ หลังจากเปิดประตูห้องส่วนตัวแล้วเจอชลิตนั่งรออยู่
“คุณลุงอะไร เรียกพ่อได้แล้ว” ชลิตบอกกับลูกสะใภ้เพียงคนเดียวด้วยน้ำเสียงใจดี
“ลัลไม่ชินเลยค่ะ” ลลัลนาตอบเขินๆก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆที่นัทธีขยับให้เธอ
หลังจากมากันพร้อมจึงเริ่มสั่งอาหาร นัทธีกับลลัลนานั่งคุยกันเบาๆสร้างความแปลกใจให้กับชลิตไม่น้อย
“หนูลัลกับเจ้านัทสนิทกันแล้วหรือ” ชลิตถามออกมาด้วยความแปลกใจ เธอกับเขายิ้มตอบบางๆ
“เอาน่า เด็กๆคืบหน้ากันก็ดีแล้วไง แล้วจะจัดงานฉลองเมื่อไหร่ดี” ศรัญแกล้งปรามชลิตเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกมา
“ขอลัลทำวิทยานิพนธ์จบก่อนนะคะ”
“ผมแล้วแต่ลัลครับ”
“เออ ดีจริงๆ แล้วแต่น้องทุกอย่างเลย อนาคตกลัวเมียนะเนี่ย” ศรัญเอ่ยแซวนัทธีอย่างชอบใจ
“เขาเรียกให้เกียรติค่ะ” กานดาเอ่ยขัดสามี สายตาส่งค้อนให้เบาๆ
ไม่นานนักอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ทุกคนจึงลงมือรับประทานอาหารกัน หลังจากตกลงกันได้ว่าจะจัดงานฉลองสมรสเมื่อไหร่ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ







