/ รักโบราณ / สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ / บทที่ 3 ท่านรอข้าก่อนเถอะ! (1/2)

공유

บทที่ 3 ท่านรอข้าก่อนเถอะ! (1/2)

last update 최신 업데이트: 2025-06-29 17:56:46

ยามนี้ฝนซาลงแล้ว ทว่าจ้าวหลิงหลิงยังคงหลับใหลไร้สติ ริมฝีปากซีดขาวพร่ำรำพันด้วยเสียงแผ่วโผย ร่างระหงนอนเหยียดกายอยู่บนผ้าปูผืนบางท่ามกลางผืนป่าอันเงียบสงัด 

"ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ หลิงหวิน...จะไปไหนกัน รอข้าด้วย รอหลิงหลิงด้วย" จ้าวหลิงหลิงควานมือท่ามกลางอากาศสะเปะสะปะ เริ่นเหมยนั่งเฝ้าคุณหนูสามอยู่ไม่ห่าง ผู้เป็นแม่นมเลี้ยงดูอีกฝ่ายมาแต่อ้อนแต่ออกเห็นนางทุกข์ระทมเพียงนี้ก็พลันน้ำตาคลอหน่วย กระทั่งหลั่งรินอาบแก้มอีกหน นางจับมือน้อย ๆ อันเย็นเยียบขึ้นแนบแก้มของตน  

"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ทุกคนไม่อยู่แล้ว แต่คุณหนูยังมีข้านะเจ้าคะ คุณหนู ฮื่อ..." 

ซางจี้หยวนนั่งอยู่อีกด้านของกองไฟมองภาพสองนายบ่าวด้วยความรู้สึกอันยากอธิบาย เขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง จากนั้นเยื้องย่างเข้าใกล้ร่างของสตรีที่ยังนอนละเมอพร่ำเพ้อไม่ขาดปาก 

"แม่นมเริ่น ท่านไปพักบ้างเถิด เดี๋ยวข้าดูแลนางต่อให้เอง" 

เริ่นเหมยเหลียวมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงก่ำ "ตะ...แต่..." 

"ท่านไปเถิด ไม่ต้องเป็นกังวล เฉินหลินเป็นสหายข้า หลิงหลิงและหลิงหวินก็เปรียบดั่งน้องสาวของข้าเช่นเดียวกัน" เอ่ยถึงสองพี่น้องที่เพิ่งจากไปไม่มีวันหวนกลับ ความอดทนของบุรุษอกสามศอกเช่นเขาก็มิอาจต้านทานอาการย่ำแย่ในจิตใจไว้ได้เช่นกัน นัยน์ตาคมเข้มร้อนผ่าว เขาเร่งสลัดหยาดน้ำที่กำลังตั้งท่าหลั่งรินทิ้งไป หากเขาเอาแต่ร้องไห้โวยวายอีกคนต่อไปใครจะดูแลปกป้องพวกนาง 

เริ่นเหมยหยัดกายอันไร้เรี่ยวแรงยืนขึ้น ดูเหมือนนางลำบากอยู่ไม่น้อย ซางจี้หยวนจึงช่วยประคองผู้อาวุโสเพียงหนึ่งเดียวไปส่งอีกฝั่ง จากนั้นยื่นปลาย่างให้แก่นาง เริ่นเหมยมองอาหารในมือของเขาแล้วจึงส่ายศีรษะ นางไม่อาจฝืนกินได้เลยจริง ๆ 

"แม่นม ท่านต้องทานเสียหน่อย หากเป็นอันใดขึ้นมาอีกคน แล้วหลิงหลิงจะอยู่กับใคร" 

หญิงวัยกลางคนสลดลง ชั่งใจชั่วประเดี๋ยว นางจึงเอื้อมรับปลาย่างกลิ่นหอมกรุ่นซึ่งใช้ใบบัวแทนภาชนะด้วยฝ่ามือสั่นเทา เริ่นเหมยพยายามข่มกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา พลางก้มหน้าก้มตาละเลียดชิมเนื้อปลาสีขาวนวลทั้งน้ำตา รสชาติของอาหารดูเหมือนขมปร่าไปทั่วโพรงปาก  

ซางจี้หยวนผ่อนหายใจแผ่ว "แม่นม พวกท่านจะไปที่ไหนกันหรือ" 

เริ่นเหมยแหงนหน้าขึ้น เอ่ยตอบเสียงแหบแห้ง "พวกเรากำลังจะไปสำนักซูเซียวเจ้าค่ะ ฮูหยินตั้งใจส่งคุณหนูสามไปที่นั่น คาดไม่ถึง นางเกิดลืมของขึ้นมา หลังจากหวนกลับไปทุกอย่างก็..." 

เสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นอีกหน ซางจี้หยวนไม่อยากรบเร้าต่อ "ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพักผ่อนเถิด" 

เริ่นเหมยยกมือขึ้นปาดน้ำตา จากนั้นพยายามกลืนเนื้อปลาสีขาวเนียนด้วยความลำบากยากยิ่ง 

ฮูหยิน ข้าจะปกป้องคุณหนูได้จริงหรือ ไยทุกอย่างจึงรวดเร็วเพียงนี้...

.

.

ยามนี้ซางจี้หยวนพาทั้งสองมาพักยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เพราะร่างกายที่อ่อนแอของจ้าวหลิงหลิงทำให้ไม่อาจเร่งเดินทางไปยังสำนักซูเซียวได้ทันที สองสามวันแล้วที่จ้าวหลิงหลิงไม่กินไม่ดื่มเสียจนร่างกายซูบผอม ไม่ว่าเริ่นเหมยและซางจี้หยวนพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรนางก็เอาแต่เพรียกหาคนในครอบครัวด้วยคำเดิมซ้ำ ๆ ใบหน้าที่เคยงดงามตอบลึกเสียจนกระดูกผุดโผล่ 

"หลิงหลิง หากเจ้าไม่ทานอะไรเลยจะหายป่วยได้อย่างไร" ซางจี้หยวนยื่นช้อนที่มีโจ๊กเกินครึ่งส่งเข้าใกล้ริมฝีปากเล็กซึ่งแห้งผากเสียจนแตกยับเยิน  

เสียงที่เคยสดใสแหบโหยดั่งใกล้สิ้นลม "ข้าไม่กิน ตายไปได้ยิ่งดี ทำไมทุกคนทำกับข้าเช่นนี้ ให้ข้าตายไปด้วยยังดีเสียกว่า ข้าเจ็บ ข้าทรมานเหลือเกิน..." 

น้ำสีใสอาบย้อมลงตรงหางตา ดวงตาที่เคยเปล่งประกายหมองเศร้าอับแสง ไหล่บางสะท้านน้อย ๆ เพราะนางร้องไห้หลายวันติด น้ำตาที่มีเริ่มเหือดแห้งดุจบ่อน้ำร้าง ซางจี้หยวนเข้าใจความเจ็บนี้ดี นางเจ็บเขาเองก็เจ็บด้วย ใช่ว่าจ้าวหลิงหลิงเป็นเพียงน้องของสหายสนิทที่ตนต้องดูแล ทว่านางกลับเป็นหญิงสาวที่ขโมยดวงใจเขาไปตั้งแต่ตนยังเยาว์ กระนั้นอีกฝ่ายกลับไม่เคยรับรู้ถึงความในใจของเขาสักนิดจวบจนทุกวันนี้ 

"หลิงหลิง เจ้าลองคิดให้ดี เจ้าจะยอมให้ผู้คนตราหน้าตระกูลจ้าวว่าเป็นกบฏ เช่นนี้หรือ หากเจ้ามั่นใจว่าท่านพ่อของเจ้ามิได้ทำผิด เช่นนั้นจะไม่คิดลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมหน่อยหรือ หรือเจ้าอยากให้โอกาสที่ตนมีชีวิตต้องสูญเปล่ากันเล่า" 

จ้าวหลิงหลิงเหลือบตามองบุรุษเบื้องหน้า "ท่านจะไปเข้าใจอะไร ท่านไม่ได้สูญเสียเช่นข้า ท่านก็พูดได้" 

"ผู้ใดบอกว่าข้าไม่สูญเสีย พี่ชายของเจ้าคือสหายที่แสนดีเพียงหนึ่งเดียวของข้า เจ้าและหลิงหวินก็เปรียบดั่งน้องสาวของข้า ท่านพ่อและท่านแม่ของเจ้าล้วนเคยยื่นมือช่วยเหลือสกุลซาง เจ้าเจ็บข้าเองก็เจ็บไม่ต่างกัน" 

จ้าวหลิงหลิงยิ้มบาง "ท่านพี่จี้หยวน ขอบคุณท่านมาก แต่ท่านไม่ต้องลำบากแล้วล่ะ ข้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว ไม่นานข้าจะตามทุกคนไป" 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 4 โรคประหลาดหรือบุรุษตัดแขนเสื้อ (1/2)

    สามปีผันผ่าน แคว้นเฉินเป่ยอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงรัชศกใหม่ รัชทายาทหมายช่วงชิงตำแหน่งฮ่องเต้จากบิดาของตน ทว่าองค์ชายรองกลับเป็นผู้ปกป้องบัลลังก์มังกรเอาไว้ กระนั้นฮ่องเต้เวินเจียเหลียงกลับทนพิษบาดแผลจากคมดาบอาบยาพิษได้ไม่กี่วันก็สิ้นพระชนม์ลง เมื่อรัชทายาทไม่เถรตรงต่อตำแหน่งหน้าที่ การก่อกบฏหนนี้จึงถูกลงทัณฑ์ด้วยโทษสูงสุด คือประหารเท่านั้น ตำแหน่งฮ่องเต้คนถัดไปจึงมิมีผู้ใดเหมาะสมมากไปกว่าองค์ชายรองอีกแม้องค์ชายรองยืนกรานไม่ขอขึ้นครองบัลลังก์และต้องการส่งมอบแด่องค์ชายสาม ทว่าบรรดาขุนนางกลับคัดค้านหัวชนฝา เช่นนั้นแล้วผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่งอย่างองค์ชายรองจึงจำใจต้องแบกภาระอันหนักอึ้งนี้ไว้บนบ่ากาลเวลามิเคยคอยท่า องค์ชายสามเกิดประชวรโดยไร้สาเหตุท้ายที่สุดก็สิ้นพระชนม์ตามบิดาเวินเยี่ยนเฉินทุกข์ระทมอย่างหนักหน่วง เขาสูญเสียคนที่ตนรักไปทั้งหมด แทบนับได้ว่าเหลือตัวคนเดียวเวินเยี่ยนเฉินมักใช้โอกาสจากกรณีสวรรคตของฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นข้ออ้างในการแต่งตั้งฮองเฮาและรับสนม ทว่าเป็นเวลาไว้ทุกข์อันเหมาะสมแล้ว ครั้นจะหยิบยกเอาเรื่ององค์ชายสามมากล่าวอ้างก็มิอาจประ

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 3 ท่านรอข้าก่อนเถอะ! (2/2)

    จ้าวหลิงหลิงยิ้มบาง "ท่านพี่จี้หยวน ขอบคุณท่านมาก แต่ท่านไม่ต้องลำบากแล้วล่ะ ข้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว ไม่นานข้าจะตามทุกคนไป"เริ่นเหมยถลาเข้ามา พลางร้องไห้โฮ "คุณหนู อย่าเอ่ยเช่นนี้เจ้าค่ะ ฮึก ฮื่อ...หากท่านไม่อยู่แล้วข้าเล่า ข้าจะอยู่กับใคร"จ้าวหลิงหลิงยกมือขึ้นลูบแก้มแม่นมของตน "แม่นม ท่านสามารถกลับไปที่บ้านเดิมของท่านได้ กลับไปใช้บั้นปลายชีวิตของท่าน ส่วนข้าอย่าได้ใส่ใจอีกเลย"เริ่นเหมยส่ายหน้าพัลวัน "ไม่เจ้าค่ะ หากคุณหนูจะไปที่ใด ข้าจะไปกับท่าน"ซางจี้หยวนถอนหายใจ เขาไม่รู้ควรทำเช่นไรแล้วจริง ๆ "เจ้าแน่ใจหรือหลิงหลิง เจ้าจะให้ครอบครัวของเจ้าถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏทั้งที่ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลยอย่างนั้นหรือ เจ้ากำลังทำให้ฮูหยินจ้าวและท่านแม่ทัพใหญ่ผิดหวัง ไยไม่ลองตรึกตรองดูดี ๆ หากเป็นข้า ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้โดยที่ยังไม่ได้ทำสิ่งใดเลยเป็นอันขาด"จ้าวหลิงหลิงใจสั่นหวิว นางปิดเปลือกตาลงเนิบนาบ ทำราวกับสิ่งที่ซางจี้หยวนเอ่ยเปรียบดั่งอากาศธาตุ ทว่านางกำลังใคร่ครวญบางอย่างก็เพียงเท่านั้น ดูเหมือนคนทั้งสองถอยห่างจากนางแล้ว กระนั้นเมื่อจ้าว

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 3 ท่านรอข้าก่อนเถอะ! (1/2)

    ยามนี้ฝนซาลงแล้ว ทว่าจ้าวหลิงหลิงยังคงหลับใหลไร้สติ ริมฝีปากซีดขาวพร่ำรำพันด้วยเสียงแผ่วโผย ร่างระหงนอนเหยียดกายอยู่บนผ้าปูผืนบางท่ามกลางผืนป่าอันเงียบสงัด "ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่ใหญ่ หลิงหวิน...จะไปไหนกัน รอข้าด้วย รอหลิงหลิงด้วย" จ้าวหลิงหลิงควานมือท่ามกลางอากาศสะเปะสะปะ เริ่นเหมยนั่งเฝ้าคุณหนูสามอยู่ไม่ห่าง ผู้เป็นแม่นมเลี้ยงดูอีกฝ่ายมาแต่อ้อนแต่ออกเห็นนางทุกข์ระทมเพียงนี้ก็พลันน้ำตาคลอหน่วย กระทั่งหลั่งรินอาบแก้มอีกหน นางจับมือน้อย ๆ อันเย็นเยียบขึ้นแนบแก้มของตน "คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ทุกคนไม่อยู่แล้ว แต่คุณหนูยังมีข้านะเจ้าคะ คุณหนู ฮื่อ..." ซางจี้หยวนนั่งอยู่อีกด้านของกองไฟมองภาพสองนายบ่าวด้วยความรู้สึกอันยากอธิบาย เขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน ชายหนุ่มลุกยืนเต็มความสูง จากนั้นเยื้องย่างเข้าใกล้ร่างของสตรีที่ยังนอนละเมอพร่ำเพ้อไม่ขาดปาก "แม่นมเริ่น ท่านไปพักบ้างเถิด เดี๋ยวข้าดูแลนางต่อให้เอง" เริ่นเหมยเหลียวมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงก่ำ "ตะ...แต่..." "ท่านไปเถิด ไม่ต้องเป็นกังวล เฉินหลินเป็นสหายข้า หลิงหลิงและหลิงหวินก็เปรียบดั่งน้องสาวของข้าเช่นเดียวกัน" เอ่ยถึงสองพี่น้องที่เพิ่งจาก

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 2 หญิงเสียสติ (2/2)

    ผู้ใด!? ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้าจะไปหาท่านแม่และท่านพี่ ปล่อยข้า!ชายผู้นั้นรัดเอวคอดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ผู้คนล้วนแตกฮือด้วยความงุนงงนางเป็นใครงั้นหรือ ไยมาเอะอะอยู่ตรงนี้คงมิใช่ญาติตระกูลจ้าวกระมัง หากนางเข้าไปมีหวังคอขาดอีกคนแน่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอึงอลไปหมด บุรุษซึ่งยืนอยู่หน้าประตูผินหน้ากลับเชื่องช้า จ้าวหลิงหลิงสบดวงตาของเขาผ่านช่องว่างระหว่างผ้าแพรครู่หนึ่ง นางลดสายตามองของบางอย่างที่อยู่ในมืออีกฝ่าย พลางแดดิ้นดุจปลาขาดน้ำ ร่างระหงพยายามดิ้นรนทว่าไม่เป็นผลของสิ่งนั้น ของนั่น! คือของแม่ข้า ของพี่สาวข้า พี่ใหญ่ ๆ ท่านอยู่ที่ใด ฮื่อ สวรรค์ได้โปรดอย่าล้อเล่นกับข้า!...จ้าวหลิงหลิงทำได้เพียงตะโกนร่ำร้องภายในใจ เพราะริมฝีปากของนางถูกปิดเอาไว้ อยู่ ๆ ท้ายทอยของนางก็เกิดอาการเจ็บแปลบดั่งถูกตีกระหน่ำฮึก!...ทะ...ท่านแม่ ท่านพี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันภาพที่นางเห็นคือแววตาเย็นชาของบุรุษผู้นั้น เขาสวมกวานทองคำลายมังกรไว้บนศีรษะ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาทว่าแววตาช่างเศร้าหมอง จ้าวหลิงหลิงกลับไม่คิดเช่นนั้น ประกายตาของเขาช่างเย็นชายิ่ง! นางจดจำใบหน้าหล่อเหลานี้ไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ จู่ ๆ สติสั

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 2 หญิงเสียสติ (1/2)

    รถม้าเคลื่อนมาหยุดหน้าจวนสกุลจ้าว แต่ทว่ากลับมีบรรดาชาวบ้านกำลังยืนรายล้อมเบียดเสียดกันแน่นขนัดไปหมด จ้าวหลิงหลิงสาวเท้าลงจากบันไดคับแคบพลางกวาดสายตาสำรวจด้วยความงุนงง "คุณหนู รอก่อนเจ้าค่ะ ฝนตกเดี๋ยวเป็นหวัดเอาได้นะเจ้าคะ" เริ่นเหมยหยิบหมวกสานซึ่งมีผ้าแพรผืนบางปิดล้อมโดยรอบพลางสวมลงบนศีรษะของจ้าวหลิงหลิง จากนั้นกางร่มเพื่อป้องกันละอองฝนอีกครั้ง "ขอบคุณแม่นม" จ้าวหลิงหลิงยิ้มตอบ "แล้วไยผู้คนจึงมายืนบังหน้าจวนของเราอย่างนี้เล่า" สกุลจ้าวน่าเวทนาเสียจริง เดิมทีท่านแม่ทัพทำผลงานมากมายไม่น่าคิดกบฏบ้านเมืองเลยเสียงจากสตรีนางหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนที่แออัด คนขายบ้านเมืองกินก็สมควรแล้วมิใช่หรือ ว่าแต่นั่นชายหนุ่มผู้นั้น...ชายหนุ่มอันใด เจ้าอยากหัวขาดรึ นั่นองค์ชายรองเชียวนะ เกรงว่าคงนำราชโองการลงทัณฑ์มาด้วยตนเอง ว่ากันว่าองค์ชายรองทั้งเคร่งขรึมเหี้ยมโหด คาดไม่ถึง พระองค์จะสามารถสังหารคนทั้งตระกูลจ้าวได้อย่างเลือดเย็นเพียงนี้ ช่างน่ากลัวโดยแท้ พวกเจ้า! พูดจาส่งเดชยิ่ง หากพระองค์ได้ยินจะได้หัวหลุดจากบ่า! หญิงชรานางหนึ่งเอ่ยสำทับ หนึ่งสตรีหนึ่งบุรุษต่างก้มหน้างุดพลันหุบปากลงเดี๋ยวนั้

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 1 กบฎตระกูลจ้าว

    "ตระกูลจ้าวรับราชโองการ" เสียงขันทีประกาศก้องพร้อมกองทหารนับร้อยวิ่งกรูเข้ามาปิดล้อมเรือนสกุลจ้าว ขณะเดียวกันรถม้าคันหนึ่งก็เพิ่งเคลื่อนตัวออกจากจวนโดยมิทันสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ฮูหยินจ้าวหรือจ้าวหว่านถงพร้อมทั้งบุตรทั้งสองเร่งรุดออกมาหน้าลานกว้าง บ่าวไพร่วางงานในมือลงจ้าละหวั่น อกซ้ายของทุกคนต่างกระเพื่อมไหว เหงื่อเม็ดละเอียดผุดซึมขึ้นบนกรอบหน้ายามนี้แม่ทัพใหญ่จ้าวตงหยวนไม่อยู่เรือน เพราะบ้านเมืองเข้าสู่ช่วงเพลิงสงคราม เขาจึงเป็นทัพหน้ากรีธาเพื่อปกป้องแว่นแคว้น แล้วเหตุใดจู่ ๆ จึงมีราชโองการมาจ่อถึงหน้าประตูจวนได้กันเล่า หลังจากทุกคนมารวมตัวกันโดยพร้อมเพรียง ขันทีจึงเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงกึ่งเล็กแหลม "ฮูหยินเจ้า ไม่ทราบว่ามาครบทุกคนแล้วหรือไม่" จ้าวหว่านถงสัมผัสได้ถึงสังหรไม่ดี ความรู้สึกประหลาดใจเริ่มหนักหน่วงกลายเป็นหวาดระแวง จ้าวหว่านถงเป็นหญิงวัยกลางคนทว่าใบหน้ายังคงสะสวยเฉกเช่นดรุณีแรกแย้ม มิแปลกใจที่บุตรสาวทั้งสองจะหน้าตางดงามอนึ่งนางเซียนแดนสวรรค์นางเหลียวมองบุตรีข้างกาย และบุตรชายคนโตแช่มช้า แววตากระจ่างใสดุจไข่มุกราตรีสะท้อนความเจ็บปวดดั่งล่วงรู้ว่ากำลังจะเกิดอั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status