ตอนที่ 4 แฟนเก่าที่ทิ้งไป
เช้าวันต่อมา 8.30 น. เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่แสนหนักหน่วงสำหรับนักศึกษาทุกคนเนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคก่อนจะปิดการศึกษา และน่านฟ้าต้องมาคุมสอบแต่ระหว่างทางที่เดินไปห้องสอบนั้นได้เจอกับนักศึกษาภาควิชาของตน “อาจารย์คะ ข้อสอบยากไหม”นักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ยังคงเหลือเวลาก่อนจะเข้าห้องสอบ “ตามที่ผมสอนนอกจากพวกคุณหลับและแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบผมจึงทำไม่ได้” “โหห จาร พวกผมนิสัยดีสุดแล้วคร้าบ”นักศึกษาผู้ชายอีกคนพูดขึ้น “อ้อ มึงๆ รู้หรือเปล่า รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวะ ที่มาเรียนกับพวกเราเขาเสียชีวิตแล้วนะ”เสียงนักศึกษาพูดกันทำให้น่านฟ้าสนใจเป็นอย่างมาก “คนไหนเหรอ”น่านฟ้าถาม “คนนั้นที่ชอบนั่งหลบมุมอ่ะค่ะอาจารย์ ที่เขามาเรียนได้สองคาบแล้วก็ถอนวิชานี้ไป”เพราะวิชาของน่านฟ้าเป็นวิชาทั่วไปสำหรับเก็บหน่วยกิตวิชาเสรีจึงมีนักศึกษาต่างคณะมาเรียนบ่อย “ครับ เข้าห้องสอบกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว”น่านฟ้าพูด ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตนเองต่อและพยายามไม่คิดมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนักศึกษาต่างก็ทยอยส่งข้อสอบเพราะหมดเวลาแล้ว อาจารย์หนุ่มเก็บข้อสอบของนักศึกษาก่อนจะใส่ซองเอกสารแล้วนำส่งให้กับส่วนกลางของคณะเพื่อตรวจคะแนน “ขอเป็นชาเขียวนมหวานน้อย 1 แก้วครับ”เมื่อเวลาพักเที่ยงมาถึงน่านฟ้าได้เดินมายังคาเฟ่ในมหาลัยที่เจอกับนับดาวบ่อยครั้งแต่การมาเวลานี้เขาไม่ได้หวังว่าจะเจอกับอีกคนหรอกเพราะต้องทำงานที่บริษัท แต่ใครจะคาดคิดกันล่ะว่านับดาวกำลังนั่งทานเครื่องดื่มโกโก้พร้อมเค้กส้มอยู่ตรงมุมร้าน “นับดาว คุณจริงๆ ด้วย”น่านฟ้าเดินเข้าไปทักทายด้วยความดีใจที่ได้เจออีกคน “อาจารย์น่านฟ้า ไม่มีสอนเหรอครับ”นับดาวถามด้วยความสงสัย “ไม่ครับ วันนี้สอบปลายภาคของมหาลัยผมคุมสอบในช่วงเช้า”น่านฟ้าตอบ “เมื่อวานคุณกลับไปตอนไหนครับ”น่านฟ้าถามในสิ่งที่ค้างคาใจจากเหตุการณ์เมื่อวาน “ก็ตอนที่อาจารย์หันไปคุยกับเพื่อนครับ พอดีผมมีธุระต้องไปจัดการด่วนเลยไปโดยไม่ได้บอกขอโทษนะครับ” “ครับ ผมไม่โกรธคุณเลย” “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”นับดาวถามเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ จากคนตรงหน้า “ผมไม่อยากให้คุณหายไปไหนอีก ขอไลน์ หรือ ไอจีได้ไหมครับ” “แย่เลย ผมไม่ได้เล่นของพวกนี้ ปกติเวลาทำงานก็ใช้ email ในการส่งงานกัน”นับดาวตอบกลับ “ผมสมัครให้ได้ไหม ผมไม่อยากห่างจากคุณอีก ไหนๆ เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว เผื่อได้ติดต่อกันไงครับ” “ผมไม่ค่อยใช้โทรศัพท์หรืออะไรพวกนี้เลย ขอโทษนะครับ” “ไม่เป็นไร ผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง นั้นคุณเอาเครื่องนี้ไปใช้แล้วกันนะครับ”น่านฟ้าไม่ยอมแพ้ได้ยื่นข้อเสนอให้อีก “เอาแบบนี้ได้ไหมครับ เรามาเล่นพรหมลิขิตกันได้ไหม ถ้าหากเราสองคนมาเจอกันตรงนี้หรือเจอกันตรงเก้าอี้ในสวนอีก รอบหน้า ผมจะยอมคบกับคุณอาจารย์” “คบ? ผมไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหมครับ”น่านฟ้าถามย้ำเพราะเขาไม่เห็นท่าทีของนับดาวที่จะรู้สึกดีกับเขาเลย “คนคุยก็ได้ ถ้าครั้งหน้าเราสองคนมาเจอกันอีกในสถานที่นี้ ผมจะยอมเล่าหนึ่งเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับตัวผม”นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยของนับดาวแลดูสนุกกับข้อเสนอที่ได้พูดไป ซึ่งต่างจากน่านฟ้ากำลังงุนงงกับคำพูด “ว่ายังไงครับ”นับดาวถามย้ำอีกครั้ง “ตกลง ถ้าเราสองคนเจอกันโดยบังเอิญแบบที่ผ่านๆ มา ผมจะถือว่าเราคุยเปิดใจกันนะครับ”ถึงแม้แปลกใจการใช้ชีวิตประจำวันของนับดาวแต่เขาก็ตกลงที่จะเล่นเกมพรหมลิขิตของคนตรงหน้า แม้ไม่ได้ช่องทางการติดต่อที่สะดวกแต่ถ้าหากเขากับนับดาวมีวาสนาต่อกันยังไงโลกก็เหวี่ยงทั้งสองให้มาเจอกันอยู่ดี “นั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”นับดาวส่งรอยยิ้มสดใสให้กับน่านฟ้าก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้าน ทุกคนเชื่อเรื่องพรหมลิขิตกันไหมครับ ผมตัดสินใจสร้างข้อตกลงนี้ขึ้นมาเพื่อให้น่านฟ้าได้ลองเล่นมัน ความจริงผมไม่ควรเอาใจของตัวเองลงไปเล่นเพราะในเมื่อสุดท้ายผมอาจจะเจ็บเอง และในครั้งนี้ผมกลับฟังเสียงของหัวใจมากกว่าสมองสั่งการถ้าหากเกิดอะไรขึ้นในภายหลังผมก็ต้องยอมรับมันเพราะเป็นสิ่งที่ผมเลือกทางเอง ทุกคนอ่านถึงตอนนี้อาจจะงุนงงว่าผมกำลังทำอะไรอยู่และเป็นใครทำไมทำตัวซับซ้อนขนาดนี้ แต่ถ้าหากทุกคนได้รู้เรื่องเกี่ยวกับผมก็คงสงสารไม่น้อยเลยล่ะครับ เอาเป็นว่าทั้งหมดที่ทำลงไปย่อมมีเหตุและผลในการกระทำนั้นๆ เสมอหวังว่าจะเข้าใจกันนะครับ เช้าวันต่อมา 08:00 น. ยังเป็นอีกวันที่น่านฟ้าเลือกมุ่งตรงมายังคาเฟ่เพื่อที่จะได้เจอกับเจ้าของเกมอย่างนับดาวแต่ก็คงจะเร็วเกินไปเพราะไร้วี่แววของอีกคน “บ้าจริงนะเราสามสิบกว่าแล้วทำไมทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นกัน”น่านฟ้าบ่นกับตนเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปสั่งกาแฟเพื่อดื่มให้สดชื่นในเช้าของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ไม่ว่าจะดื่มกาแฟไปเยอะเท่าไหร่ก็ไม่มีความสดชื่นเลยสักนิดเดียวเพราะภายในจิตใจของน่านฟ้ากลับนึกถึงใบหน้าหวานของอีกคนอยู่ตลอดเวลา “ไอ้ฟ้าเป็นอะไร”กรีน เพื่อนสนิทของน่านฟ้าที่พึ่งบรรจุเป็นอาจารย์ประจำคณะและเริ่มงานวันนี้วันแรกได้เอ่ยปากทัก “ไม่เป็นอะไร”น่านฟ้าตอบกลับ พร้อมส่ายใบหน้าเล็กน้อย “สอนวันแรกเป็นไงบ้าง”น่านฟ้าถามเพื่อนของตนกลับไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องของเขา “ก็ดี กูสอบนักศึกษาภาคพิเศษส่วนใหญ่มีแต่รุ่นทำงานไม่ค่อยดื้อเท่าไหร่”กรีนอาจารย์หนุ่มไฟแรงอีกคนซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของน่านฟ้าและเป็นเพื่อนสนิทอยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ได้มาทำงานที่มหาลัยเดียวกันกับน่านฟ้าแต่เขาเริ่มงานในช่วงเวลาที่เด็กนักศึกษาส่วนใหญ่จะปิดเทอมปลายภาคเรียน หัวหน้าภาควิชาจึงให้ไปช่วยสอนภาคพิเศษแทน “มึงเคยเจอเรื่องลี้ลับไหม”น่านฟ้าถามอีกเรื่องหนึ่งที่ค้างคาในจิตใจของเขามาตั้งแต่เมื่อวันก่อน “อะไร ผีเหรอ เป็นอาจารย์วิทย์แต่เชื่อผี?”กรีนเลิกคิ้วถามอย่างงุนงง สำหรับตัวเขาแล้วไม่เคยมีความเชื่อเรื่องผีส่วนใหญ่ที่ใครพบเจอนั่นเรียกว่าพวกไม่มีที่ไปหรือหาทางกลับร่างตัวเองไม่ได้ต่างหาก “อืม หลายวันก่อนสอนนักศึกษาแล้วเจอเด็กคนนึงนั่งมุมห้องเจอประมาณสองคาบแล้วหลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็ถอนวิชากูไป แต่เมื่อเช้าได้รู้จากเด็กในชั้นว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่อาจจะหลังจากเด็กถอนวิชาของกูไปแล้วก็ได้ กูคงคิดมากเอง”น่านฟ้าเล่าพร้อมตัดจบจนกรีนมองด้วยความงงและตามอารมณ์เพื่อนหน้าหล่อไม่ทัน “อะไรของมึงวะ ถามเองตอบเอง”กรีนบ่นเล็กน้อย “ไม่ต้องคิดมากหรอกมึง เด็กคนนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุหลังจากถอนรายวิชาของมึงไปแล้วก็ได้ ว่าแต่ได้ไปร่วมงานศพของเขาไหม” “ทางมหาลัยส่งเงินเยียวยาไปให้เพราะน้องเกิดอุบัติเหตุตอนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด”น่านฟ้าสอบถามจากฝ่ายบุคคลของทางมหาลัยและได้คำตอบมาเช่นนี้ “อืม มึงก็ไปทำบุญให้เด็กนักศึกษาคนนั้น อย่างน้อยๆ ก็เคยเป็นเด็กที่มึงสอน”กรีนพูด “เออ กูไปคุมสอบก่อนแล้วกัน”น่านฟ้าออกจากร้านไปเพื่อทำหน้าที่ของตนเองต่อ ส่วนกรีนก็ได้สั่งเครื่องดื่มและกลับไปเคลียร์งานเอกสารที่เขาต้องช่วยหัวหน้าภาค 12:00 น. “เอาล่ะครับนักศึกษาทุกคน อาจารย์ขอกล่าวจบภาคการศึกษาของพวกเราไว้เพียงเท่านี้ หวังว่าคะแนนที่พวกคุณทำออกมาจะได้ 100 เต็มกันทุกคนนะครับ แล้วเจอกันใหม่ภาคเรียนหน้า โชคดีนะครับ”น่านฟ้ากล่าวปิดสนามสอบเพราะวันนี้เป็นการอบวันสุดท้ายแล้วและนักศึกษาที่เขาคุมในวันนี้เป็นนักศึกษาประจำวิชาของตัวเองสอนด้วย “อาจารย์ ปีหน้าพวกหนูขึ้นปี 3 แล้ว อาจารย์มีเปิดวิชาเลือกอีกไหมคะ” “มีครับ อาจารย์เปิดรับเพียง 30 ที่นั่งเท่านั้นเป็นวิชาเลือกเสรี อาจารย์วางโครงสร้างไว้เกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาไม่มีทดลองหรือเรียนแล็บใดๆ ถ้าพวกคุณสนใจก็ลงเรียนกับให้ทันนะครับ” “โหห 30 คนเองน้อยจังเลยค่ะ”เพราะน่านฟ้าเป็นที่รักของนักศึกษาแทบจะทุกคนรวมถึงเหล่าอาจารย์ด้วยกันเองต่างชื่นชนในความเก่งของน่านฟ้าด้วย “ไว้ผมจะพิจารณาอีกทีถ้าหากสมัครกันเยอะผมจะเปิดสองคาบต่อ 1 สัปดาห์” น่านฟ้าพูดเพราะวิชาของเขามักจะเป็นที่นิยมและมีนักศึกษาต่างคณะมาลงเรียนกันหลายคนเพราะเป็นวิชาที่ไม่มีคำนวณและไม่มีทดลอง เป็นเพียงทฤษฎีให้ศึกษาเท่านั้น ที่เขาเลือกเปิดวิชานี้ขึ้นมาก็เพราะเขาเข้าใจนักศึกษาทุกคนที่อยากได้เกรดดีๆ และไม่กดดัน “ไว้เจอกันค่ะอาจารย์ หนูจะลงทะเบียนให้ทัน”น่านฟ้าพูดคุยกับนักศึกษาอีกเล็กน้อยก่อนจะขอตัวมาทำงานของตนเองต่อ เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงคู่เพื่อนรักอย่างน่านฟ้ากับกรีนได้เดินมาร้านอาหารที่มีคาเฟ่ให้สั่งเครื่องดื่มกับขนม “ร้านนี้อร่อยเหรอวะ อาจารย์ในภาคพูดบ่อยๆ ว่ามึงมาร้านนี้ประจำ”กรีนถามด้วยความสงสัย “อืม มันพิเศษตรงที่มีใครบางคนให้กูเจอ”น่านฟ้าพูดพร้อมชะเง้อมองหาเจ้าของเกมพรหมลิขิตแต่ก็ไม่เจอ “มองหาใครวะ”กรีนถาม “เขาชื่อนับดาว คนพิเศษที่กูพูดถึง” “นับดาว หื้ม?”กรีนขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อ “ทำไมวะ” “กูไม่ได้เจอมึงสามปีเพราะไปเรียนต่างประเทศ แฟนเก่ามึงชื่อไรนะ”กรีนรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้มากจริงๆ “กูเกิดอุบัติเหตุจำอะไรไม่ได้ สามปีก่อนแม่กูบอกว่าแฟนเก่าทิ้งกูไป”เพราะน่านฟ้าจำอะไรไม่ได้เลยและเขามั่นใจว่าแม่ของตนย่อมไม่โกหกอยู่แล้ว “เออ ดาว ใช่ๆ แฟนเก่ามึงชื่อดาว มึงเคยส่งรูปมาอวดกูอยู่นะ แต่เสียดายกูทำโทรศัพท์เครื่องเก่าพังรูปหายหมดเลยจะเอาให้ดูว่าคนเดียวกันเปล่า” “อ่าา ถ้าได้คบกับคนนี้ต้องห้ามบอกชื่อแฟนเก่าสินะเดี๋ยวเป็นเรื่อง” “หึหึ เขาจะตกลงคบกับมึงไหม เท่าที่กูเห็นมึงเหม่อลอยแบบนี้ น่าจะยังไม่มีใจให้มึงเลยมั้ง” “ถ้าไม่ติดว่าต้องรักษาภาพลักษณ์ กูต่อยมึงแน่”น่านฟ้าพูด “เออๆ มึงลองถามแม่สิว่าแฟนเก่าชื่ออะไรพอมีรูปไหม จะได้มาเทียบกับคนนี้ เพราะกูว่าบังเอิญเกินไปนะที่ชื่อจะเหมือนกัน” “ถ้าคนเดียวกันทำไมเขาไม่บอกกูล่ะ” “มันก็จริง”น่านฟ้าเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจเพราะเขาเองก็สงสัยเช่นเดียวกัน คนที่รู้เรื่องดีที่สุดคือแม่ของตนเองเพราะครั้งสุดท้ายที่แฟนเก่าทิ้งน่านฟ้าไปและมีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ของตนเพียงคนเดียว “ในโทรศัพท์มึงไม่มีรูปคู่หรือข้อความอะไรเกี่ยวกับคนเก่าเลยเหรอ” “ไม่ว่ะ เครื่องเก่าเละ แตกละเอียดเลยซื้อเครื่องใหม่ ข้อมูลทั้งหมดก็กู้ไม่ได้ของดูต่างหน้าก็ไม่มี แม่กูบอกว่าแฟนเก่าสั่งให้ทิ้งทั้งหมด เลยไม่เหลืออะไรไว้ให้กูดู” “ใจร้ายจังเลยวะ มึงนอนเป็นผักขนาดนั้นทิ้งกันได้ลงคอ คนคบกันตั้งสามปี จะไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ” “อืม นั่นสิ แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้กูเจอคนพิเศษของใจแล้ว เขามีอิทธิพลกับใจกูมาก ไม่อยากจดจำคนเก่าได้แล้วล่ะ”น่านฟ้าบอกปัด อันที่จริงการที่คนรักเก่าทิ้งเขาไปแล้วมีโอกาสมาเจอนับดาว อาจจะเป็นสิ่งที่ลิขิตมาแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเขาไม่ขอจดจำคนเก่าเสียดีกว่า คนที่ใจร้ายทิ้งกันไปตอนที่ชีวิตเขาแขวนบนเส้นด้ายแบบนั้น “อืม รีบสั่งข้าวเถอะ ได้กลับไปเคลียร์งานต่อ”สองอาจารย์หนุ่มได้ทานมื้อกลางวันและซื้อเครื่องดื่มในยามบ่ายก่อนจะกลับไปทำงานภาควิชาที่ได้รับมอบหมายมารวมถึงตรวจข้อสอบวิชาของตนเองก่อนจะตัดคะแนนเพื่อออกเกรดให้กับนักศึกษา ช่วงเวลาอาทิตย์ต่อจากนี้ไม่มีวันไหนไม่วุ่นวายเลยสักวัน น่านฟ้าใช้ชีวิตผ่านพ้นไปแต่ละวันด้วยความยากลำบากและรู้สึกทรมานจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าเช้า สาย บ่าย หรือเย็นเขาได้มาที่คาเฟ่สถานที่เล่นเกมพรหมลิขิตของนับดาวกลับไร้วี่แววว่าจะเจออีกคนเลยจากเวลาหนึ่งอาทิตย์ แปรเปลี่ยนไปเป็นเดือนจนนักศึกษากลับมาเปิดเทอมหรือภาคการศึกษาใหม่ น่านฟ้าไม่พบเจอกับนับดาวเลยสักครั้ง “ตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้วนะคะ เส้นทางจารจรในเมืองหลวงยังคงรถติดเช่นเคย ผู้ใช้ถนนโปรดระวังถนนลื่นกันด้วยนะคะ เอาล่ะค่ะ เรามาเข้าสู่ช่วงต่อไป เป็นช่วงที่ใครหลายคนรอคอยนั่นคือ Top 10 อันดับของเพลงยอดฮิตประจำวันนี้กันค่ะ”เสียงวิทยุออนไลน์ดังขึ้น ภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบสงบจากเจ้าของรถ นานเท่าไหร่แล้วนะที่น่านฟ้าไม่ได้เจอกับนับดาวและเขาก็แอบทึ่งในการรอคอยใครสักคนเช่นเดียวกัน ยอมรับว่านับดาวมีผลต่อใจเขากจริงๆ ตอนนั้นการตกลงเล่นเกมของอีกฝ่ายนึกว่าวันถัดมาจะได้เจอเลยแต่ใครจะคาดคิดกันล่ะว่าเวลาผ่านไปนานแรมเดือนขนาดนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย หรือวาสนาของเขากับนับดาวคือเส้นขนานกันนะ “คุณอยู่ที่ไหนนะ ผมอยากเจอคุณอีกครั้ง ได้ไหม?”น่านฟ้าถอนหายใจอีกครั้ง และวันนี้เป็นวันที่แสนน่าเบื่อ นอกจากจิตใจว้าวุ่นแล้วยังมีการจารจรติดขัดเพราะฝนเทลงมาอย่างหนักรถแทบไม่เคลื่อนตัวไปไหนเลย กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ใช้เวลาไปแล้วสองชั่วโมง “ฟ้ากลับมาแล้วเหรอลูก ตากฝนมาหรือเปล่า”แม่อรถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ครับ วันนี้ฟ้าเอารถจอดใกล้ตึกคณะเลยไม่เปียกฝน” “มีอะไรในใจหรือเปล่าลูก แม่เห็นฟ้าทำหน้าเศร้าแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว หรือเจ็บแผลเก่าหรือเปล่าไปหาอาหมอไหม?”อรพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอกลัวการสูญเสียลูกอีกครั้ง “ไม่ครับแม่”น่านฟ้ามองใบหน้าสวยของแม่เล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องที่ค้างคาอีกครั้งเพราะที่ผ่านมาเขาถามถึงแฟนเก่าแม่อรบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ “แฟนเก่าของฟ้าเขาชื่ออะไรเหรอครับ” “เอ๋ อยู่ๆ ไมถามล่ะ” “แม่ตอบฟ้าหน่อยเถอะครับ เพราะฟ้าค้างคาใจ” “เอาล่ะ แม่ยอมแพ้แล้ว แม่จะเล่าให้ฟังทุกอย่างที่ฟ้าอยากรู้ ดีไหมจ๊ะ”แม่อรลูบกลุ่มผมหนาของลูกชายก่อนทั้งคู่จะพากันไปนั่งที่โซฟากลางห้องรับแขก “แฟนของฟ้าชื่อ นับดาว เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักคนหนึ่งเลยแหละ ตอนที่ฟ้าพาเขามาแนะนำตัวที่บ้าน พ่อเขาไม่พอใจเล็กน้อยที่ฟ้าคบกับผู้ชาย แต่แม่ก็ลำบากใจกล่อมพ่อเขาอยู่นานเลยล่ะกว่าจะยอมรับเรื่องนี้ได้”น่านฟ้านตั้งใจฟังเรื่องราวจากแม่เป็นอย่างดี “อีกอย่าง ลูกทั้งสองคนพิสูจน์ในความรักให้พ่อเขาเห็นและเปิดใจ จนคบกันได้สามปี ฟ้าก็มาเกิดอุบัติเหตุนี่แหละ” “วันที่ผมไม่ได้สติตอนนั้นเขาอยู่ที่ไหนเหรอครับแม่”น่านฟ้าถาม “ก็อยู่เฝ้ารอลูกฟื้น”แม่อรพูดและชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “แต่อาหมอบอกว่าลูกมีโอกาสรอดเพียง 50% เท่านั้น และถ้าหากรอดมาได้ก็นอนเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ที่ลูกรอดมาและกลับมาเป็นฟ้าให้แม่นับเป็นปาฏิหาริย์ที่ดีที่สุดเลยรู้ไหม” “แล้วทำไมเขาถึงทิ้งผมไปตอนนั้นล่ะครับ เขารักผมไม่ใช่เหรอ”น่านฟ้าก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่แฟนเก่าตนทำไว้อยู่ดี “พออาหมอพูดแบบนั้น ช่วงแรกๆ เขาก็มาเยี่ยมทุกวันและอยู่เฝ้าลูกแทบจะทุกคืน แต่ลูกอาการทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด เขาก็เอาแต่ร้องไห้ แม่เลยพูดกับเขาไปว่า…..”แม่อรขบเม้มริมฝีปากเล็กน้อยเพราะเธอกลัวลูกชายโกรธในสิ่งที่พูดออกไป “ยังไงครับแม่” “เห่ออ แม่พูดกับเขาว่า ให้ทิ้งน่านฟ้าไปเถอะเพราะไม่ว่ายังไงดาวก็มีชีวิตที่กำลังไปได้ดี ถ้ายังรอน่านฟ้าอยู่คงไม่ดีกับตัวดาวแน่ๆ ทุกอย่างที่แม่พูดก็เพื่อพิสูจน์ว่าดาวเขารักฟ้าจริงๆ ไหม พร้อมจะรอลูกแม่ฟื้นขึ้นมาหรือเปล่า แต่คำตอบที่แม่ได้รับกลับทำให้แม่ใจแทบสลาย เพราะดาวเขาบอกว่า เขาไม่อยากเอาอนาคตตัวเองมารอน่านฟ้า เพราะได้ทุนของบริษัทที่ทำงานอยู่ไปเรียนต่อต่างประเทศ” “…..” “ตอนนั้นแม่ทั้งเสียใจและโกรธดาวมากเลยล่ะ เพราะมองเห็นเป็นลูกอีกคน แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่ได้รั้งเขาเอาไว้ วันสุดท้ายที่เขามาหาลูก เขาบอกแม่ว่า ให้เก็บภาพถ่ายหรือของแทนใจที่เคยให้ไว้แก่กันทิ้งหรือเผาไปให้หมดทุกอย่าง” “กล่องเหล็กที่พบเห็นนั่นคือของเขาถูกไหมครับ” “ใช่แล้วล่ะ กล่องเหล็กนั่นเป็นของครบรอบที่คบกันและฟ้าคุกเขาขอเขาแต่งงาน โดยมีแม่และพ่อเป็นสักขีพยานในรักครั้งนั้นด้วย แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องเสียก่อน” “ครับ ผมเข้าใจมันแล้ว”น่านฟ้าได้ฟังเรื่องราวจากปากคนเป็นแม่ก็รู้สึกจุกในอกไม่น้อย ถึงแม้เขาจะจำแฟนเก่าตนเองไม่ได้แต่ก็ไม่เคยคิดจะตามหาและหาสาเหตุในการทิ้งเขาไป “ฟ้า ตอนนี้เจอคนของใจหรือเปล่า ทำไมถึงถามแม่เรื่องนี้” “เมื่อสองเดือนก่อน ฟ้าเจอกับผู้ชายคนนึงเขาเป็นคนที่สดใสแต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าหมองชอบมานั่งตรงเก้าอี้ในสวนข้างๆ คาเฟ่ร้านในมหาลัยที่ฟ้าทำงาน เจอกันทีไรก็เห็นเขานั่งอยู่ตรงที่เดิมตลอดเลยมีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน และสุดท้ายฟ้าก็รู้สึกดีกับเขาไปแล้วครับ” “แล้วเขาว่ายังไงบ้าง”อรถาม “ฟ้าไม่เจอเขาอีกแล้วครับแม่ เขาบอกว่าถ้าเจอกันอีกก็เป็นพรหมลิขิตสองคน ตอนนี้ผ่านไปสองเดือนแล้ว ผมก็ไม่เจอเขาอีกเลย” “แม่ซักจะอยากเห็นหน้าหนุ่มคนนั้นแล้วสิ เขาชื่ออะไรทำงานที่ไหน เผื่อแม่ให้คนช่วยตามหา” “ชื่อนับดาว ผมรู้เท่านี้จริงๆ ครับ” “รูปร่างหน้าตาล่ะลูก” “สูงโปร่ง ประมาณ 175 สมส่วน รอยยิ้มของเขาสดใสมากเลยครับ” “เอาเป็นว่าแม่จะพยายามให้คนของแม่ตามสืบดู เขาคงทำงานแถวมหาลัยของฟ้า เอาเถอะหิวหรือยัง วันนี้เราทานข้าวกันสองคนนะเพราะพ่อเขาไปงานเลี้ยงของคุณหญิงฤดี”พ่อของน่านฟ้าเป็นคนมีหน้าตาในสังคมพอสมควรจึงไม่แปลกที่ไม่ได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่ “ครับ”น่านฟ้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะช่วยแม่อรจัดโต๊ะอาหารทานมื้อเย็นร่วมกันซึ่งเป็นกิจวัตประจำในทุกๆ วัน TBC พรหมลิขิตอะไรกันนับดาววววตอนที่ 7 เรื่องราววุ่นวายของพนักงานบริษัท“นับดาว! เธอทำแบบนั้นในที่ประชุมทำไม รู้ไหมว่ามันฉีกหน้าพี่ที่เป็นหัวหน้าเธอ”เสียงของพี่ออมหัวหน้าแผนกที่กำลังต่อว่าผมเนื่องจากการประชุมที่ผ่านมานั้นเธอไม่ได้เตรียมข้อมูลรายงานไปและให้ลูกน้องอย่างผลเตรียมเร่งด่วนจึงมีบางส่วนที่เธอต้องด้นสดเองแต่ข้อมูลไม่ตรง ผมจึงอดไม่ได้ที่จะพูดช่วยแต่ไม่คิดว่าพี่ออมจะมองตีความหมายเป็นการฉีกหน้าเสียงั้น“ผมช่วยพี่ออมอยู่นะครับ บอสใหญ่เขาก็ไม่ได้พูดว่าอะไรสักหน่อย” หากการถอนหายใจของผมนับเป็นกีฬาคงได้เหรียญทองแล้วล่ะครับ เป็นอีกวันที่ผมเข้างานมาก็เบื่อหน่ายกับหัวหน้าแผนก ทั้งที่รู้ว่าวันจันทร์มีประชุมสรุปงานประจำสัปดาห์แต่เหตุใดหัวหน้าผมถึงไม่เตรียมรายงานข้อมูลหรือสั่งให้ผมทำไว้ตั้งแต่วันศุกร์ และมาสั่งหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าประชุมแบบนี้ผมสามารถร้องเรียนบอสใหญ่อีกทีได้ไหม“เธอเป็นลูกน้องฉัน เธอไม่มีสิทธิ์จะพูดแทนฉันในที่ประชุม จำเอาไว้ด้วย”ตรรกะแบบหัวหน้าเช่นนี้อีกกี่สิบปีผมก็คงไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ“ครับ เข้าใจแล้วครับ” ผมได้แต่ตอบกลับไปเพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คือหัวหน้า ผมที่เป็นลูกน้องไม่มีสิทธิ์ถกเถียงใดๆ อยู่แล้
ตอนที่ 6 เดทแรกของเราสอง (?)วันเสาร์ 09.00“รีบไปไหนน่ะลูก”เสียงคุณแม่เอ่ยปากทักลูกชายที่ดูรีบร้อนคล้ายจะออกไปด้านนอก“พอดีมีนัดน่ะครับ วันนี้ผมกลับช้านะ”น่านฟ้าพูดพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปยังรถที่ถูกเตรียมเอาไว้โดยคนรับใช้พร้อมขับออกไป ปล่อยให้คุณพ่อและคุณแม่ยืนมองด้วยความงุนงงเช้าวันนี้คงเป็นวันที่สดใสมากกว่าที่ผ่านมาเพราะน่านฟ้าได้ไปตามนัดหมายคนสำคัญที่เฝ้ารอมานานนับเดือน กว่าจะมีวันนี้ได้เขาเองก็ทรมานไม่น้อย หลายคนอาจจะงงว่าทำไมน่านฟ้าไม่คิดจะตามหาคนรักเก่าและเลือกจะเชื่อคำพูดของแม่ น่านฟ้าเองก็อยากจะตามหาแต่ในเมื่อเขาเลือกจะทิ้งช่วงนอนป่วยติดเตียงเพื่อไปมีชีวิตที่สบายไม่ต้องมาดูแลเขาเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้น่านฟ้าไม่หันกลับไปมองรักเก่า และอีกอย่างชีวิตในตอนนี้เขาได้พบเจอความรักอย่างนับดาวจึงคิดว่าควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า หากวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบเจอกับคนเก่าก็คงได้แต่แสดงความยินดีที่ไปมีชีวิตใหม่และก็ขอบคุณที่ทิ้งกันไป ทำให้เขาได้เจอความรักครั้งใหม่อย่างนับดาว“รออยู่ตรงที่เดิมสินะ”น่านฟ้าสลัดความคิดในอดีตทิ้งก่อนจะพูดเบาๆ กับตนเองเมื่อเดินมาแล้วมาเจอนับดาวซ
ตอนที่ 5 แฟนเก่าที่หายตัวไปของนับดาววันศุกร์ 10:00วันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนน่าเบื่อสำหรับคนทำงานเพราะอากาศที่ไม่เป็นใจสายฝนเทลงมาตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลย น่านฟ้าต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพราะเขามีคลาสสอนนักศึกษา ด้วยสภาพแวดล้อมฝนตกหนักแบบนี้ทำให้นักเรียนของตนหลายคนมาสายหรือเลือกจะลาหยุด เขาเข้าใจดีเพราะสมัยเขายังเป็นเด็กก็เคยทำเช่นนั้นมาก่อน“วันนี้ฝนตกผมไม่เช็คชื่อก็แล้วกัน แต่รอบหน้าต้องเข้าเรียนให้ครบกันด้วยนะครับ”น่านฟ้าเริ่มสอนและนักเรียนกลับชอบวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะบางครั้งการใช้จิตวิทยาในการสื่อสารย่อมเป็นผลดีและอีกทั้งการเดาใจมนุษย์เป็นสิ่งที่ท้าทายในความสามารถมากจริงๆและมันก็ช่างแปลกเพราะน่านฟ้ามีทักษะการสื่อสารเป็นอย่างดีแต่ทำไมเวลาอยู่กับนับดาวถึงใช้ไม่ได้ผลกันนะ สงสัยเจอกันรอบหน้าต้องใช้หัวใจสื่อสารกันเสียแล้วแต่อีกคนจะยอมให้เขาเจอหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่อง“อาจารย์คะ สไลด์สอนหมดแล้ว อาจารย์จะปล่อยเลยไหมคะ”นักศึกษาถาม“เหลือเวลาอีก 20 นาทีพวกคุณอยากรู้เรื่องไหนบ้างล่ะ หรือหิวข้าวอยากเลิกเร็ว?”“หิวข้าวครับ อาจารย์”และเสียงส่วนมากลงมติกันว่าขอเลิกเ
ตอนที่ 4 แฟนเก่าที่ทิ้งไปเช้าวันต่อมา8.30 น.เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่แสนหนักหน่วงสำหรับนักศึกษาทุกคนเนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคก่อนจะปิดการศึกษา และน่านฟ้าต้องมาคุมสอบแต่ระหว่างทางที่เดินไปห้องสอบนั้นได้เจอกับนักศึกษาภาควิชาของตน“อาจารย์คะ ข้อสอบยากไหม”นักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ยังคงเหลือเวลาก่อนจะเข้าห้องสอบ“ตามที่ผมสอนนอกจากพวกคุณหลับและแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบผมจึงทำไม่ได้”“โหห จาร พวกผมนิสัยดีสุดแล้วคร้าบ”นักศึกษาผู้ชายอีกคนพูดขึ้น“อ้อ มึงๆ รู้หรือเปล่า รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวะ ที่มาเรียนกับพวกเราเขาเสียชีวิตแล้วนะ”เสียงนักศึกษาพูดกันทำให้น่านฟ้าสนใจเป็นอย่างมาก“คนไหนเหรอ”น่านฟ้าถาม“คนนั้นที่ชอบนั่งหลบมุมอ่ะค่ะอาจารย์ ที่เขามาเรียนได้สองคาบแล้วก็ถอนวิชานี้ไป”เพราะวิชาของน่านฟ้าเป็นวิชาทั่วไปสำหรับเก็บหน่วยกิตวิชาเสรีจึงมีนักศึกษาต่างคณะมาเรียนบ่อย“ครับ เข้าห้องสอบกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว”น่านฟ้าพูด ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตนเองต่อและพยายามไม่คิดมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนักศึกษาต่างก็ทยอยส่งข้อสอบเพราะหมดเวลาแล้ว อาจารย์หนุ่มเก็บข้อส
ตอนที่ 3 สายฝนกับการรอคอยวันศุกร์สุดสัปดาห์ของใครหลายมาถึงวันนี้ท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจสำหรับคนที่ออกไปทำกิจกรรมเท่าไหร่นักเพราะเมฆฝนกำลังก่อตัวขึ้นอีกแล้ว หลังจากสอนนักศึกษาในวิชาประจำของตนเสร็จเรียบร้อย น่านฟ้ารีบเดินกลับมายังห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคาเอาไว้ส่งกับภาควิชาที่สังกัดอยู่พร้อมจิตใจกำลังจดจ่อไปยังสวนและค่าเฟ่เพื่อหวังจะพบเจอกับคนตัวเล็กอีกครั้ง“เสร็จเรียบร้อย”น่านฟ้ามองผลงานของตนก่อนจะส่งอีเมล์ให้กับทางหัวหน้าภาควิชาพร้อมเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเลิกงาน“อาจารย์น่านฟ้า รีบไปไหนครับเนี่ย เย็นนี้พวกผมไปร้านอาหารย่านบรรทัดทองกัน กะจะชวนอาจารย์ไปด้วย”เสียงของเพื่อนร่วมงานทัก“พอดีผมรีบไปทำธุระน่ะครับ ไว้วันหลังนะ”น่านฟ้าพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องทำงานทิ้งไว้แต่เพื่อนร่วมงานที่มองมาอย่างงุนงง พักหลังมานี้ชวนไปไหนน่านฟ้าก็ไม่ได้ไปกับพวกเขาเลยแต่สำหรับน่านฟ้านั้นเขาไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมงานจะมองยังไงเพราะสุดท้ายคนสำคัญคงเป็นนับดาวคนที่เขาเฝ้าคิดถึงนานนับอาทิตย์และอยากถามไถ่อีกคนว่าหายไปไหน ทำงานเหนื่อยไหม ได้ตากฝนบ้างหรือเปล่าเมื่อมาถึงก็เจอคาเฟ่ที่กำลังจัดโปรโมชั่นเค้กสูตรพ
ตอนที่ 2 อดีตของอาจารย์หนุ่มบริษัท“เช้าวันจันทร์ผ่านไป เมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์สักที”เสียงของหนึ่งเดียวบ่นข้างๆจนแอบรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิ่งที่มันพูดคือเรื่องจริง ผมเองก็รอวันศุกร์เพราะเป็นวันแห่งสุดสัปดาห์ที่ชอบที่สุด “ดาว มึงไปไหนต่อ”“กูน่าจะลับหอเลย”ผมตอบหนึ่งเดียวไป แต่ความจริงวันนี้ผมไม่มีแผนจะไปไหนหรอกครับอาจจะไม่มีที่ไปก็ว่าได้“เออๆ อีก 20 นาทีก็เลิกงานละ งานมึงเสร็จแล้วใช่ไหม”หนึ่งดียวถามพร้อมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม“วันนี้พี่ออมลา กูเลยสบายหน่อยไม่มีงาน ไม่วุ่นวาย”การทำงานมันไม่ได้ยากหรอกหากเราเข้าใจจุดงานตนแต่สำหรับผมสิ่งที่มันยากคือหัวหน้านั่นแหละครับวุ่นวายรายวันจนผมรู้สึกปวดหัวและอยากถึงเวลาเลิกงานเร็วๆ“อือ กูคงไปโรงพยาบาล”“หือ ไปหาใคร”ผมเอียงคอถามเพื่อนสนิทเพราะสงสัยว่ามีใครป่วยหรือเปล่าแต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะหนึ่งเดียวมีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของมันก่อนและเดินออกไปจากโต๊ะทำงานผมทำเหมือนการพูดคุยเมื่อครู่มีผมเป็นอากาษเท่านั้น17:00 น.มหาวิทยาลัย“เอาล่ะเด็กๆ ท้ายคาบตามสัญญาจะมีสอบเก็บคะแนน”สิ้นเสียงอาจารย์ประจำวิชานักศึกษาต่างพากันร้องอย่างคร่ำคร