ตอนที่ 3 สายฝนกับการรอคอย
วันศุกร์ สุดสัปดาห์ของใครหลายมาถึงวันนี้ท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจสำหรับคนที่ออกไปทำกิจกรรมเท่าไหร่นักเพราะเมฆฝนกำลังก่อตัวขึ้นอีกแล้ว หลังจากสอนนักศึกษาในวิชาประจำของตนเสร็จเรียบร้อย น่านฟ้ารีบเดินกลับมายังห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคาเอาไว้ส่งกับภาควิชาที่สังกัดอยู่พร้อมจิตใจกำลังจดจ่อไปยังสวนและค่าเฟ่เพื่อหวังจะพบเจอกับคนตัวเล็กอีกครั้ง “เสร็จเรียบร้อย”น่านฟ้ามองผลงานของตนก่อนจะส่งอีเมล์ให้กับทางหัวหน้าภาควิชาพร้อมเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเลิกงาน “อาจารย์น่านฟ้า รีบไปไหนครับเนี่ย เย็นนี้พวกผมไปร้านอาหารย่านบรรทัดทองกัน กะจะชวนอาจารย์ไปด้วย”เสียงของเพื่อนร่วมงานทัก “พอดีผมรีบไปทำธุระน่ะครับ ไว้วันหลังนะ”น่านฟ้าพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องทำงานทิ้งไว้แต่เพื่อนร่วมงานที่มองมาอย่างงุนงง พักหลังมานี้ชวนไปไหนน่านฟ้าก็ไม่ได้ไปกับพวกเขาเลย แต่สำหรับน่านฟ้านั้นเขาไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมงานจะมองยังไงเพราะสุดท้ายคนสำคัญคงเป็นนับดาวคนที่เขาเฝ้าคิดถึงนานนับอาทิตย์และอยากถามไถ่อีกคนว่าหายไปไหน ทำงานเหนื่อยไหม ได้ตากฝนบ้างหรือเปล่า เมื่อมาถึงก็เจอคาเฟ่ที่กำลังจัดโปรโมชั่นเค้กสูตรพิเศษจากทางร้าน น่านฟ้าไม่รอช้ารีบไปต่อคิวเพื่อซื้อเค้กรสส้มซึ่งเป็นรสชาติโปรดนับดาวชอบซื้อ และอีกอย่างเขาเป็นคนชอบทางเค้กรสชาตินี้ด้วยเพราะฉะนั้นนับดาวกับเขามีอะไรที่คล้ายๆ กันจึงไม่แปลกหากน่านฟ้าอยากทำความรู้จักให้มากกว่านี้ 1 ชั่วโมงผ่านไป จากฟ้าสว่างเปลี่ยนเป็นท้องฟ้ามืดครึ้มนอกจากถึงเวลาพระอาทตย์ตกแล้วก็ถึงเวลาฝนที่กำลังจะเทลงมาด้วยและก็ไร้วี่แววคนที่น่านฟ้ารอคอยเช่นเคย “เห่อ”เสียงถอนหายใจของน่านฟ้าดังขึ้นก่อนจะถอดใจและเตรียมตัวกลับบ้านเพราะพายุฝนใกล้มาแล้ว ท้องถนนในกรุงเทพมหานครในวันธรรมดารถก็ติดเยอะอยู่แล้วถ้าหากฝนตกอีกรถบนท้องถนนมีสภาพการจารจรที่แย่มาก เมื่อน่านฟ้าเดินจากไปแล้วร่างเล็กจึงปรากฏตัวและช่างน่าเสียดายที่น่านฟ้าไม่ได้หันหลังกลับมามองคนเฝ้ารอมาหลายวัน Part นับดาว ความจริงแล้วผมมาที่สวนทุกวันเพียงแต่กำลังหลบหน้าอีกคนเท่านั้นเองครับ เพราะการรู้จักกับน่านฟ้านั้นอาจทำให้ผมและเขามีเรื่องเสียใจก็เป็นไปได้ ผมยอมรับตามตรงว่าค่อนข้างกลัวความรักและกลัวการเริ่มต้นใหม่และยิ่งผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยแล้วนั้นไม่อยากให้ความหวังใครเลยสักคน อยากให้น่านฟ้าไปพบเจอกับคนที่ดี ไม่อยากให้มาจมกับคนไร้อนาคตเช่นผม “อกหักอีกแล้วสินะไอ้ดาว”ถึงแม้ความรักยังไม่ทันเริ่มแต่ความรู้สึกมันแล่นไปไกลแล้วทางเดียวที่ผมทำได้คือการหยุดมันแล้วไม่เจออีกคนเลยจะดีกว่า หลายคนอาจจะสงสัยทำไมผมถึงไม่ยอมเปิดใจให้กับน่านฟ้า นั่นก็เพราะผมมีเหตุผลบางอย่างไม่สามารถบอกได้ อีกทั้งครอบครัวของน่านฟ้าเป็นคนมีหน้าตาในสังคมโดยเฉพาะคุณหญิงท่านของน่านฟ้าหรือภรรยาท่านรัฐมนตรี ตัดภาพมาที่เขาเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่งไม่มีอนาคตที่แน่นอนเลยสักนิด “ทางที่ดีเราสองคนอย่าเจอกันเลยดีกว่า ขอโทษนะครับน่านฟ้า”ผมเดินกลับมานั่งตรงเก้าอี้ตัวเดิมที่เคยนั่งถกเถียงกับน่านฟ้าก่อนจะทำหน้าเซ็งเล็กน้อยเพราะอาการเหล่านี้กำลังกลับมาเยือนผมอีกครั้งแล้วล่ะครับ “ในที่สุดคุณก็มา นับดาว”ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยทักทายผม “คุณ! กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ”ผมถามเสียงหลงเพราะอุตส่าห์ตั้งใจจะไม่เห็นหน้าแต่สุดท้ายก็หลงกลอาจารย์หน้าหล่อตรงหน้าได้ “หลบหน้าผมจริงๆ ด้วย”น่านฟ้าไม่ตอบคำถามแต่กลับกันส่งคำถามมาให้ตอบ “ผมมีเหตุผลของผม”ผมตอบกลับอย่างไร้เยื่อใยแม้จะสงสารอีกคนก็ตาม “นับดาว ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้จริงๆ ถึงแม้คุณไม่เปิดโอกาสให้ผมชอบหรือสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน แต่เราเป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องกันได้ไหม” “ทำไมคุณถึงไม่ยอมแพ้กันนะ ทั้งที่ผมใจร้ายขนาดนี้” “เพราะผมเจอคุณครั้งแรกก็รู้สึกว่าถูกชะตาและอยากรู้จักให้มากกว่านี้”น่านฟ้าพูดก่อนจะก้มหน้ามองพื้นพร้อมถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “อีกอย่างผมเจอคุณแล้วผมสบายใจเหมือนเราสองคนเคยรู้จักกันมาก่อน” “ผมอาจจะเหมือนแฟนเก่าคุณก็ได้มั้ง เลยถูกชะตา” “แฟนเก่าผมเหรอ ไม่มีหรอกผมจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ” “ยังไงครับ”ผมถามอีกคนกลับด้วยความสงสัยเพราะพูดถึงแฟนเก่าน่านฟ้ามีใบหน้าที่นิ่งเฉย “เขาทิ้งผมไปล่ะมั้ง”น่านฟ้าพูดและหยุดไว้เพียงเท่านั้นแต่ผมก็ไม่ได้ถามหรือต้องการรู้ต่อ เพราะสุดท้ายรู้ไปก็เท่านั้น “เราไปหลบฝนไหม เหมือนละอองฝนเริ่มเทลงมาแล้วนะ” “อื้ม ไปกันเถอะ”ถึงแม้ในใจผมอยากจะวิ่งหนีอีกคนไปให้ไกลแต่สุดท้ายก็ต้องวิ่งมาหลบสายฝนด้วยกันอยู่ดี ทำไมการกระทำผมถึงสวนทางกับคำพูดอีกแล้วนะ “หนาวไหมครับ”น่านฟ้าถาม “ไม่เท่าไหร่ครับผมไม่มีความรู้สึกหรอก” “นับดาวนี่ตลกดีนะ อำผมเล่นเหรอ”น่านฟ้าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดแต่ก็เอาเถอะถึงรู้ไปก็เท่านั้นอยู่ดี “ปกติเลิกงานแล้วคุณมาที่นี่ทุกวันเหรอครับ” “ก็ไม่เชิงครับ ปกติผมก็กลับไปที่ห้องพักผ่อนเลย”ผมตอบตามความจริง เพราะเรื่องราวแต่ละวันที่พบเจอก็เหนื่อยจนไม่อยากจะไปไหนสิ่งที่สำคัญและเยียวยาใจสำหรับคนวัยทำงานคือเตียงนอนนุ่มๆ เท่านั้น “แล้ว...ทานแต่เค้กส้มกับโกโก้แบบนี้ ได้ทานข้าวบ้างไหม” “เวลาปกติของผมทานข้าวก็ยังยากเลย เพราะงานที่ไม่เป็นระบบนั่น ช่างเถอะเราเปลี่ยนเรื่องคุยได้ไหม ผมไม่อยากเอาเรื่องงานเข้ามายุ่งมันนอกเวลางานแล้ว” “ขอโทษนะครับผมเป็นคนชวนคุยไม่เก่งยิ่งอยู่ใกล้ๆ คนที่รู้สึกดีด้วย” “หยุดวกกลับมาเรื่องนี้ด้วย เปลี่ยนเรื่องเลย”เผลอไม่ได้เลยจริงๆ น่านฟ้าก็วนกลับมาเรื่องความรู้สึกระหว่างเขาและผม “ทำไมคุณถึงไม่เปิดโอกาสให้ผมเลย เราสองคนยังไม่ได้รู้จักกันมากกว่านี้คุณก็เอาแต่บอกว่าจะมีเรื่องเสียใจ” “….”ผมเอาแต่นิ่งไม่ยอมตอบน่านฟ้าไป การกระทำทุกอย่างย่อมมีเหตุผลอยู่ที่ว่าจะพูดมันออกมาหรือเปล่า และแน่นอนเหตุผลของผมเลือกที่จะเก็บเงียบไปเลยดีกว่าครับ “ไม่เป็นไร นั้นเรามารู้จักแบบพี่น้องหรือเพื่อนกันได้ไหม”น่านฟ้าไม่ยอมแพ้ถึงแม้จะไม่ได้รักกันในสถานะคนรักแต่เป็นเพื่อนที่อยู่ในชีวิตจริงกันก็เพียงพอแล้ว “อ้าว อาจารย์น่านฟ้า มาทำอะไรตรงนี้ครับ”เสียงของเพื่อนร่วมงานน่านฟ้าทักทายและรู้สึกประหลาดใจที่เจอในเวลานี้ทั้งที่น่านฟ้าควรจะอยู่บ้านตามที่เจ้าตัวเคยพูดไว้ก่อนเลิกงาน “ผมมาคุยธุระกับคนรู้จักครับ” “ใครเหรอครับ ผมไม่เห็นมีใครเลยตรงนี้เลย มีแต่เราสองคน”เมื่อได้ยินดังนั้นน่านฟ้ารีบหันกลับไปมองคนที่เคยยืนข้างกายอย่างนับดาวเมื่อกี้ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเพราะตอนนี้ไร้วี่แววของอีกคน “ก็ผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่กับผมเมื่อกี้ ไปไหนของเขานะ” “ผมเดินเข้ามาไม่เห็นอาจารย์ยืนอยู่กับใครเลยนะครับ หรือผมตาฝาดไปเอง ฮ่าๆ”เพื่อนของน่านฟ้าพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะขอตัวเพื่อไปตามนัดกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ย่านบรรทัดทองทิ้งไว้แต่น่านฟ้าที่กำลังงุนงงว่านับดาวหายตัวไปไหนในเพียงระยะเวลาไม่กี่นาทีเขาหันไปคุยกับเพื่อน คำตอบของเขายังไม่ได้รับเลยด้วยซ้ำเรื่องที่ขอเป็นเพื่อนกับอีกคน “เห่ออ ทิ้งผมอีกแล้วสินะนับดาว”น่านฟ้าถอนหายใจเล็กน้อยเพราะคนตัวเล็กได้ทิ้งเขาไปอีกแล้ว “เอาเถอะ ผมได้เป็นเพื่อนคุณก็ยังดี ถึงแม้ไม่อยากได้เพื่อนเพิ่มก็ตาม”เมื่อพูดจบก็เดินออกจากที่หลบฝนไปขึ้นรถที่จอดเอาไว้ สายฝนกำลังเทลงมาอย่างไม่ขาดสายแต่ไม่เท่าความหน่วงที่เกิดขึ้นภายในใจของน่านฟ้าเลยสักนิดเดียว เขาไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีกับนับดาวมากขนาดนั้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนเลยนับประสาอะไรกับใจของคนที่ปลอบบางยิ่งกว่าใบไม้แห้งเสียอีก TBCตอนที่ 9 ความทรงจำย้อนคืนอากาศยามเช้าของวันใหม่ไม่ได้สดใสเหมือนอย่างที่เคยเป็น เนื่องจากสภาพฝนฟ้าอากาศที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยตั้งแต่เมื่อคืน ในช่วงเวลานี้หลายผู้คนต่างเร่งรีบออกไปทำงานหรืออยู่ระหว่างการเดินทางไปยังที่ทำงานแค่คิดก็เป็นสิ่งน่าเบื่อสำหรับมนุษย์เงินเดือน เช่นเดียวกับผมหลังจากตื่นนอนได้สักพักแล้วแต่ไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียงนอนพร้อมใบหน้าหวานของผมกำลังมองน่านฟ้าที่กำลังหลับตาราวกับไม่อยากตื่นจากความฝัน ก้านนิ้วเรียวได้สัมผัสจมูกสวยและไต่ระดับไปจนถึงขนตาที่ถูกประดับด้วยเส้นขนเป็นแพหนาชวนมองอย่างละสายตาไม่ได้“……” ทำไมเราสองคนต้องอยู่ในสถานะแบบนี้ด้วยนะ ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ไม่สามารถบอกได้มันช่างอึดอัดจนแทบระเบิดออกมา ถ้าหากวันพรุ่งนี้ไม่สามารถอยู่เคียงข้างน่านฟ้าได้อีกแล้วผมต้องทำอย่างไร และน่านฟ้าจะอยู่ได้ไหมหากไม่มีเขา เวลาของเราสองคนในตอนนี้ช่างน้อยเหลือเกิน ความจริงแสนเจ็บปวดหากน่านฟ้ารับรู้ต่อจากนี้จะทำใจได้หรือเปล่าภายในใจของผมเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือเกิน“ถ้าไม่มีดาวอยู่ ฟ้าจะคิดถึงกันบ้างไหม จะลืมเรื่องของเราสองคนหรือเปล่า” น้ำตาเม็ดใสได้ไหลอ
ตอนที่ 8 สัมผัสที่ไม่เคยลืมมหาวิทยาลัย“ยิ้มหน้าแป้นมาเชียวอาจารย์น่านฟ้าคร้าบบ” เสียงทุ้มของกรีนเอ่ยปากแซวเมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเพื่อนสนิทในยามเช้าเช่นนี้คงเป็นเรื่องอื่นไม่ได้แน่นอนนอกจากเรื่องคนคุยที่เลื่อนขั้นเป็นคนรัก“อือ อารมณ์ดี” น่านฟ้าตอบกลับพร้อมเดินไปยังโต๊ะทำงานประจำก่อนจะเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเคลียร์งานที่ทำค้างไว้“นัดเจอบ้างดิอยากเห็นแฟนเพื่อนบ้าง”“อืม ไว้ว่างๆ กูก็คงพาไปรู้จักพ่อแม่ก่อน” น่านฟ้าพูด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่เห็นโทรศัพท์ของนับดาวเลยเวลาที่อยู่ด้วยกัน“แต่น่าแปลกที่เขาไม่พกโทรศัพท์ติดตัวเลย” ทั้งที่นอนในห้องเดียวกันทั้งคืนแต่น่านฟ้าก็ไม่เจอโทรศัพท์ของนับดาวตื่นเช้ามาก็เจอเพียงกระดาษโน้ตแปะไว้ตรงหมอนถูกเขียนจากนับดาวด้วยข้อความสั้นๆ ว่ารีบออกไปทำงานไม่กล้าปลุกและไว้เจอกันตอนเย็นที่คอนโดเช่นเดิม“เขาคงไม่อยากสนใจแหละ เพราะอยากให้ความสำคัญกับมึงมากกว่า มีอะไรค่อยคุยนะมีสอนช่วงเก้าโมง” กรีนตบไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนจะขอตัวไปสอนนักศึกษาประจำวิชาของตน ปล่อยให้น่านฟ้านั่งขบคิดคำพูดของกรีนรวมถึงการกระทำของนับดาวเมื่ออยู่กับตนไม่ได้มีอะไรผิดปกติกลับกัน
ตอนที่ 7 เรื่องราววุ่นวายของพนักงานบริษัท“นับดาว! เธอทำแบบนั้นในที่ประชุมทำไม รู้ไหมว่ามันฉีกหน้าพี่ที่เป็นหัวหน้าเธอ”เสียงของพี่ออมหัวหน้าแผนกที่กำลังต่อว่าผมเนื่องจากการประชุมที่ผ่านมานั้นเธอไม่ได้เตรียมข้อมูลรายงานไปและให้ลูกน้องอย่างผลเตรียมเร่งด่วนจึงมีบางส่วนที่เธอต้องด้นสดเองแต่ข้อมูลไม่ตรง ผมจึงอดไม่ได้ที่จะพูดช่วยแต่ไม่คิดว่าพี่ออมจะมองตีความหมายเป็นการฉีกหน้าเสียงั้น“ผมช่วยพี่ออมอยู่นะครับ บอสใหญ่เขาก็ไม่ได้พูดว่าอะไรสักหน่อย” หากการถอนหายใจของผมนับเป็นกีฬาคงได้เหรียญทองแล้วล่ะครับ เป็นอีกวันที่ผมเข้างานมาก็เบื่อหน่ายกับหัวหน้าแผนก ทั้งที่รู้ว่าวันจันทร์มีประชุมสรุปงานประจำสัปดาห์แต่เหตุใดหัวหน้าผมถึงไม่เตรียมรายงานข้อมูลหรือสั่งให้ผมทำไว้ตั้งแต่วันศุกร์ และมาสั่งหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าประชุมแบบนี้ผมสามารถร้องเรียนบอสใหญ่อีกทีได้ไหม“เธอเป็นลูกน้องฉัน เธอไม่มีสิทธิ์จะพูดแทนฉันในที่ประชุม จำเอาไว้ด้วย”ตรรกะแบบหัวหน้าเช่นนี้อีกกี่สิบปีผมก็คงไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ“ครับ เข้าใจแล้วครับ” ผมได้แต่ตอบกลับไปเพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คือหัวหน้า ผมที่เป็นลูกน้องไม่มีสิทธิ์ถกเถียงใดๆ อยู่แล้
ตอนที่ 6 เดทแรกของเราสอง (?)วันเสาร์ 09.00“รีบไปไหนน่ะลูก”เสียงคุณแม่เอ่ยปากทักลูกชายที่ดูรีบร้อนคล้ายจะออกไปด้านนอก“พอดีมีนัดน่ะครับ วันนี้ผมกลับช้านะ”น่านฟ้าพูดพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปยังรถที่ถูกเตรียมเอาไว้โดยคนรับใช้พร้อมขับออกไป ปล่อยให้คุณพ่อและคุณแม่ยืนมองด้วยความงุนงงเช้าวันนี้คงเป็นวันที่สดใสมากกว่าที่ผ่านมาเพราะน่านฟ้าได้ไปตามนัดหมายคนสำคัญที่เฝ้ารอมานานนับเดือน กว่าจะมีวันนี้ได้เขาเองก็ทรมานไม่น้อย หลายคนอาจจะงงว่าทำไมน่านฟ้าไม่คิดจะตามหาคนรักเก่าและเลือกจะเชื่อคำพูดของแม่ น่านฟ้าเองก็อยากจะตามหาแต่ในเมื่อเขาเลือกจะทิ้งช่วงนอนป่วยติดเตียงเพื่อไปมีชีวิตที่สบายไม่ต้องมาดูแลเขาเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้น่านฟ้าไม่หันกลับไปมองรักเก่า และอีกอย่างชีวิตในตอนนี้เขาได้พบเจอความรักอย่างนับดาวจึงคิดว่าควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า หากวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบเจอกับคนเก่าก็คงได้แต่แสดงความยินดีที่ไปมีชีวิตใหม่และก็ขอบคุณที่ทิ้งกันไป ทำให้เขาได้เจอความรักครั้งใหม่อย่างนับดาว“รออยู่ตรงที่เดิมสินะ”น่านฟ้าสลัดความคิดในอดีตทิ้งก่อนจะพูดเบาๆ กับตนเองเมื่อเดินมาแล้วมาเจอนับดาวซ
ตอนที่ 5 แฟนเก่าที่หายตัวไปของนับดาววันศุกร์ 10:00วันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนน่าเบื่อสำหรับคนทำงานเพราะอากาศที่ไม่เป็นใจสายฝนเทลงมาตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลย น่านฟ้าต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพราะเขามีคลาสสอนนักศึกษา ด้วยสภาพแวดล้อมฝนตกหนักแบบนี้ทำให้นักเรียนของตนหลายคนมาสายหรือเลือกจะลาหยุด เขาเข้าใจดีเพราะสมัยเขายังเป็นเด็กก็เคยทำเช่นนั้นมาก่อน“วันนี้ฝนตกผมไม่เช็คชื่อก็แล้วกัน แต่รอบหน้าต้องเข้าเรียนให้ครบกันด้วยนะครับ”น่านฟ้าเริ่มสอนและนักเรียนกลับชอบวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะบางครั้งการใช้จิตวิทยาในการสื่อสารย่อมเป็นผลดีและอีกทั้งการเดาใจมนุษย์เป็นสิ่งที่ท้าทายในความสามารถมากจริงๆและมันก็ช่างแปลกเพราะน่านฟ้ามีทักษะการสื่อสารเป็นอย่างดีแต่ทำไมเวลาอยู่กับนับดาวถึงใช้ไม่ได้ผลกันนะ สงสัยเจอกันรอบหน้าต้องใช้หัวใจสื่อสารกันเสียแล้วแต่อีกคนจะยอมให้เขาเจอหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่อง“อาจารย์คะ สไลด์สอนหมดแล้ว อาจารย์จะปล่อยเลยไหมคะ”นักศึกษาถาม“เหลือเวลาอีก 20 นาทีพวกคุณอยากรู้เรื่องไหนบ้างล่ะ หรือหิวข้าวอยากเลิกเร็ว?”“หิวข้าวครับ อาจารย์”และเสียงส่วนมากลงมติกันว่าขอเลิกเ
ตอนที่ 4 แฟนเก่าที่ทิ้งไปเช้าวันต่อมา8.30 น.เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่แสนหนักหน่วงสำหรับนักศึกษาทุกคนเนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคก่อนจะปิดการศึกษา และน่านฟ้าต้องมาคุมสอบแต่ระหว่างทางที่เดินไปห้องสอบนั้นได้เจอกับนักศึกษาภาควิชาของตน“อาจารย์คะ ข้อสอบยากไหม”นักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ยังคงเหลือเวลาก่อนจะเข้าห้องสอบ“ตามที่ผมสอนนอกจากพวกคุณหลับและแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบผมจึงทำไม่ได้”“โหห จาร พวกผมนิสัยดีสุดแล้วคร้าบ”นักศึกษาผู้ชายอีกคนพูดขึ้น“อ้อ มึงๆ รู้หรือเปล่า รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวะ ที่มาเรียนกับพวกเราเขาเสียชีวิตแล้วนะ”เสียงนักศึกษาพูดกันทำให้น่านฟ้าสนใจเป็นอย่างมาก“คนไหนเหรอ”น่านฟ้าถาม“คนนั้นที่ชอบนั่งหลบมุมอ่ะค่ะอาจารย์ ที่เขามาเรียนได้สองคาบแล้วก็ถอนวิชานี้ไป”เพราะวิชาของน่านฟ้าเป็นวิชาทั่วไปสำหรับเก็บหน่วยกิตวิชาเสรีจึงมีนักศึกษาต่างคณะมาเรียนบ่อย“ครับ เข้าห้องสอบกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว”น่านฟ้าพูด ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตนเองต่อและพยายามไม่คิดมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนักศึกษาต่างก็ทยอยส่งข้อสอบเพราะหมดเวลาแล้ว อาจารย์หนุ่มเก็บข้อส