ว่ายังไงนะ? ทันทีที่เชอริลพูดจบประโยคและหันหน้ากลับไป น้ำเสียงสุดกังวลของอเล็กซ์พลันดังขึ้น "โดโรธี! โดโรธี! ฮัลโหล! ฟังฉันก่อนสิ! มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ! คือว่าฉัน... ฮัลโหล! ฮัลโหล! ฮัลโหล..." เสียงกวนที่น่าดึงดูดของเชอริลทำลายความหวังของอเล็กซ์ไปแทบจะทันที ไม่ต้องพูดถึงการไปนั่งดูหนังตอนเที่ยงคืนกับโดโรธีเลย ตอนนี้อเล็กซ์กลัวว่าเธอจะไม่ยอมให้เขาเข้าบ้านมากกว่า โดโรธีจะรู้สึกดีได้ยังไงกันหากได้ยินเสียงอันทรงสเน่ห์ของเชอริลทางโทรศัพท์ในยามค่ำคืนเช่นนี้? ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรู้สึกโกรธจัดและวางสายทันที ทว่า ทันใดนั้น อเล็กซ์ก็กดเบอร์เพื่อโทรกลับไปอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่รับโทรศัพท์ หลังจากนั้น เขาก็โทรอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะปิดเครื่องไปแล้ว ในตอนนี้ อเล็กซ์ทำได้เพียงแค่ส่งข้อความและอธิบายให้โดโรธีฟังว่าตนได้รับคำเชิญจากดร.เจมส์ โคนีย์ให้ไปงานงานเฉลิมฉลองวันเกิดเท่านั้น โดยลืมบอกความจริงที่ว่าเขาเป็นเพียงแค่คนนอกเพียงคนเดียว อีกทั้ง ยังเป็นคนที่แสร้งเป็นแฟนของเชอริลด้วย ดวงจันทร์พลันหมุนเวียนครบรอบคืน เช้าวันรุ่งขึ้น อเล็กซ์โทรหาโดโรธีอีกครั้งในทันที ในฐานะผู้จัดการข
“ฉันจะกลับตอนบ่ายนะ เดี๋ยวเอาแตงโมมาให้ด้วย พี่ก็ทำตัวดี ๆ ด้วยล่ะ!” ในตอนนี้ มีเพียงแค่อเล็กซ์เท่านั้นที่รู้ว่าวอลทซ์มีหน้าที่การงานที่ถูกกฎหมาย เธอเป็นถึงหัวหน้านักธุรกิจหญิงของธุรกิจเดินเรือในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทันทีที่เข็มนาฬิกาตีชี้ไปที่เลขเก้า อเล็กซ์ก็ลงไปยังห้องใต้ดินเพื่อเริ่มทำยาเม็ด แล้วทำไมเขาถึงต้องใช้หม้อต้มยักษ์เพื่อทำยาเม็ดด้วยล่ะ? นั่นเป็นเพราะการทำยาเม็ดนั้นแตกต่างจากการปรุงยา การปรุงยาที่เพียงแค่โยนสมุนไพรลงไปในหม้อก็เป็นอันเสร็จ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นแค่ยา ดังนั้น ผลของมันจึงเทียบไม่ได้กับยาเม็ดปรุงสำเร็จเลย เนื่องจากสมุนไพรแต่ละส่วนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จุดประสงค์ของการปรุงยาเม็ดคือการกำจัดส่วนที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดของสมุนไพรออกไป เหลือเพียงส่วนที่จำเป็นเท่านั้น จากนั้น ส่วนที่จำเป็นจะถูกเสริมด้วยพลังฉีเพื่อควบแน่นให้เป็นเม็ดเดียวดังนั้น หม้อต้มทั่วไปจึงไม่สามารถนำมาใช้ปรุงยาเม็ดได้ เพราะมันอาจจะแตกเป็นเสี่ยงทันทีที่มีการใส่พลังฉีเข้าไปในตัวยา สามชั่วโมงต่อมา ในที่สุด อเล็กซ์ก็ทำโอสถแห่งพลังจักระชุดแรกเสร็จ ถึงแม้ว่าความพยายามสองครั้งแรกจะล้มเหลว
ทำไมมิเชลล์ถึงอยากให้อเล็กซ์เข้าร่วมประมูลสมุนไพรกับเธอด้วยล่ะ? มันเป็นเพราะในช่วงนั้น ตระกูลโยเวลได้ระดมลิ่วล้อเพื่อรวบรวมสมุนไพรที่อเล็กซ์ต้องการ แต่ทว่า ก็ยังมีสมุนไพรล้ำค่าอยู่สองสามชนิดที่หลุดมือไป อันที่จริง มิเชลล์ได้ยินมาว่าสมุนไพรอายุร้อยปีจำนวนมากจะถูกนำมาประมูลในครั้งนี้ เพราะเหตุนั้น เธอจึงต้องการลองไปเช็คดู สำหรับประสิทธิภาพของสมุนไพร ก็มีเพียงอเล็กซ์คนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด อเล็กซ์เนื้อเต้นในทันที เมื่อไม่นานมานี้ วอลทซ์ก็เคยบอกเอาไว้ว่าเป็ปเปอร์ กิมมิชจะมาเข้าร่วมการประมูลสมุนไพร และในตอนนี้ มิเชลล์ก็ได้เชิญตนไปที่งานด้วย ทุกอย่างเป็นไปตามความปรารถนาของอเล็กซ์อย่างที่บอก… “มีแค่เธองั้นเหรอ? ทำไมตระกูลโยเวลถึงส่งเธอที่เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไปที่นั่นด้วยล่ะ?” อเล็กซ์ตอบกลับอย่างเฉยเมย "ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ? ฉันไม่ได้ตัวเล็กสักหน่อย!” “อ่า ก็จริงแหละ” อเล็กซ์เห็นด้วยกับมิเชลล์ในเรื่องนี้ เขารู้ดีว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าที่อ่อนวัยและหน้าอกสุดสะบึม อีกทั้ง หากสาวสวยอย่างเชอริลมายืนอยู่ข้างมิเชลล์ ความแตกต่างทางกายภาพนั้นจะถูกสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนตั
“ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ฉันก็เกือบจะถึงระดับนั้นแล้วแหละ” เธอกระโดดโลดเต้นไปมาราวกับคนบ้า พร้อมกับวิ่งไปหาอเล็กซ์และจูบเขาทันที คุณนายบริตทานีซึ่งอยู่ในห้องชั้นสองตั้งแต่ตอนแรกเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงของวอลทซ์ เธอพลันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่อหน้าต่อตา จากนั้น เธอก็มองต่ำไปที่บันไดวน ไม่นานนัก คุณนายบริตทานีส่ายหัวและเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ... อเล็กซ์เดินทางไปยังงานประมูลสมุนไพรสุดล้ำค่าด้วยตนเองตอนห้าโมงครึ่ง การประมูลถูกจัดขึ้นในรูปแบบของงานเลี้ยงค็อกเทลที่ชั้นบนสุดของศูนย์การค้าสเพลนเดอร์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย อเล็กซ์สามารถเดินเข้าไปในห้องประมูลได้เลยเพียงเอ่ยชื่อมิเชลล์ที่ทางเข้า ในตอนนี้ ณ ทางเข้าของศูนย์การค้าสเพลนเดอร์ กลุ่มชายหนุ่มและหญิงสาวต่างก็กำลังพูดคุยกันระหว่างที่เดินเข้าไปยังตัวอาคาร ท่ามกลางคนเหล่านั้น หญิงสาวในชุดสีขาวคนหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์ เบียทริซ แอสเส็กซ์ นอกจากนี้ อีกสามคนที่เหลือก็คือคนที่อเล็กซ์รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นโมนา ไวส์ วิลสัน จอร์แดน และแซม คัลเวอร์ ทั้งสี่คนเดินอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆวิลสันสวมชุดสูทสุดเท่ เขามองดูเบียทริซอย
อเล็กซ์พลันมองไปยังเบียทริซอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้น เขาก็ยังคงหยิบเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์อีกชิ้น เข้าปาก อเล็กซ์ยังคงกินกุ้งล็อบสเตอร์ต่อไปพร้อมกับสีหน้าสุดมีความสุข ราวกับว่าเบียทริซไม่มีตัว ตนอยู่เลยด้วยซ้ำ เบียทริซพลันรู้สึกโมโห เธอครุ่นคิด “หมายความว่ายังไง? หมอนี่เห็นเราเป็นอะไรกัน?” เบียทริซเผยหน้าแดงและเบิกตามกว้าง “ร็อคกี้เฟลเลอร์! ไอ้คนตะกละ! นายหูหนวกหรือยังไง กัน? ฉันกําลังพูดกับนายอยู่นะ! ทําไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? เข้ามาได้ยังไงกัน?” ในสายตาของเบียทริซ อเล็กซ์ยังคงเป็นผู้ชายไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถทําอะไรเองได้ นอกจากพึ่งพาพี่สาวของเบียทริซ อีกทั้ง เบียทริซก็มักจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา โดยเฉพาะความไม่สบอารมณ์จากเหตุการณ์ก่อนหน้าที่อเล็กซ์ทําร้ายเธอ ทว่า อเล็กซ์กล่าวคําพูดอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ล่ะ? เลิกกวนอารมณ์ฉันสักที" อะไรกัน? เบียทริซรู้สึกโกรธจัดและตกใจกับคําพูดของอเล็กซ์ เธอครุ่นคิด “ไอ้คนไร้ประโยชน์ที่ เอาแต่กดขี่ข่มเหงคนในบ้านเอ๊ย อีกทั้ง ยังชอบมาขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของฉันอีก อีกอย่าง นี่ขนาดเรา
ในตอนนี้ เบียทริซตัดสินใจว่าเธอควรอยู่ให้ห่างจากปัญหานี้ ไม่นานนัก ลุงแดเนียลก็มาถึง “วิลสัน แขกคนนั้นอยู่ที่ไหนกัน?” “นั่นครับลุง” วิลสันพลันชี้นิ้วไปยังอเล็กซ์ แดเนียลพลันมองตาม เขาพลันจ้องมองไปยังอเล็กซ์ ผู้ซึ่งสวมเสื้อผ้าลำลองราคาถูกและกำลังกินปูตัวใหญ่อยู่ “คุณครับ ผมเป็นผู้จัดการสถานที่สำหรับการประมูลในค่ำคืนนี้ แดเนียล จอร์แดน ขอดูคำเชิญของคุณหน่อยสิครับ” อเล็กซ์พลันคายเนื้อปูออกจากปาก ทันทีที่ดึงทิชชูเปียกจากด้านข้างออกมาเช็คปาก เขาก็พลันกล่าวคำพูดขึ้น “ปูตัวนี้น่าจะปรุงนานเกินไปหน่อยนะครับ เสียรสสัมผัสไปหมด ไม่ค่อยอร่อยเลย อีกอย่าง กุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลียก็น้อยเกินไปด้วย ยังไงก็เถอะ ผมขอกุ้งล็อบสเตอร์อีกจานด้วยก็แล้วกัน แล้วก็อย่าลืมใส่ขิงและน้ำส้มสายชูลงไปด้วยล่ะ” เบียทริซซึ่งยืนอยู่ห่างจากอเล็กซ์ประมาณห้าเมตรแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เธอครุ่นคิด “ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ตัวเลยหรือยังไงว่าตัวเองกำลังซวย? เขาคิดว่าตัวเองอยู่ไหนกัน? สวนหลังบ้านหรือไง?” แม้แต่วิลสันก็ยังตกใจ เขาเองก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน แดเนียลยืนรอคำตอบจากอเล็กซ์ประมาณสามสิบวินาที ถึ
ฝูงชนพลันจ้องมองมาตามทิศทางของเสียง มันเป็นเสียงที่มาจากเด็กสาวหน้าอกสะบึมในคราบชุดนักเรียนสีม่วง เธอรีบเดินเข้ามาหาอเล็กซ์อย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชลล์ โยเวล สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร พวกเขาต่างก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง พวกเขาคิดว่ามันน่าตลกไม่น้อยที่อเล็กซ์มีเพื่อนนักเรียนสาวมาหนุนหลัง ในระหว่างนั้น พวกช่างพูดบางคนก็เผลอหลุดสิ่งที่คิดออกมา “เด็กคนนี้มาจากไหนกัน? เธอต้องเหมือนพวกหนอนหนังสือ และมาที่นี่เพื่ออวดดีแน่เลย” “ทุกคนที่นี่ต่างก็เป็นแขกผู้มีเกียรติชนชั้นสูงทั้งนั้น แม่หญิงสาวคนนี้ต้องโผล่มาที่นี่เพื่อโอ้อวดอิทธิพลของตัวเองแน่เลย” ถึงกระนั้น คนที่กำลังพูดอยู่ก็ถูกเพื่อนข้างกายปิดปาก และกระซิบเตือนข้างหู "นายพูดบ้าอะไรออกมาน่ะ? เธอคนนี้คือปีศาจตัวน้อยของตระกูลโยเวลไง แค่เห็นสายตาของเธอที่จ้องมองมาทางนี้ ก็เสียวสันหลังแล้ว" ว่ายังไงนะ? ชายคนนั้นตัวสั่นและรู้สึกกลัวไม่น้อย ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งพูดออกไปว่าผู้หญิงตรงหน้าโผล่มาเพื่อโอ้อวดอิทธิพลของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขานี่แหละที่กำลังพยายามพูดจาโอ้อวดอยู่! ชายคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกและรีบถอยกลั
“แต่ว่าเขา...” ก่อนที่ดาเนียลจะได้เปิดปากพูดจนจบ มิเชลล์ที่กำลังหัวร้อนก็พลันเตะเขาอีกครั้งและกล่าวคำพูด “ไปให้พ้นเลยนะ นายถูกไล่ออก!” “อ๊าก!” แดเนียลพแน่นิ่งไป ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดราวกับผ้าผืนหนึ่ง แดเนียลใช้เวลามาตั้งหลายปี และพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการของศูนย์การค้าแห่งนี้ แต่ทว่า ความเข้าใจผิดเล็กน้อยกลับทำให้เขาต้องสูญเสียงานที่ตัวเองทุ่มเทมาทั้งหมดไป ในตอนนี้ แดเนียลจ้องไปยังวิลสันด้วยแรงอาฆาตอันแรงกล้า และอยากที่จะบีบคอหลานชายตัวเองไม่น้อย วิลสันรู้สึกตกใจไม่น้อย ไม่เพียงแค่นั้น ทั้งโมนา แซม และคนอื่นๆ ต่างก็ตะลึงเช่นกัน เบียทริซเองก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน ไอ้คนไร้ค่าอย่างอเล็กซ์เข้ามาเกี่ยวพันกับมิเชลล์และกลายเป็นแขก VIP ของเธอไปได้อย่างไรกัน? มันเป็นไปไม่ได้! “เป็นไปได้ไหมที่ชายคนนี้จะนอกใจพี่สาวของเราและไปมีอะไรกับมิเชลล์?” ทั้งนี้ นั่นอาจจะเป็นคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดเพียงหนึ่งเดียว ไม่ช้า แดเนียลถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยลากออกไปตามคำสั่งของมิเชลล์ หลังจากนั้น เธอก็เหลือบมองไปยังวิลสันและเดินเข้าไปตบห