Share

บทที่ 9

Penulis: เอเวอร์กรีน ฉิน
เกิดความเงียบสงบขึ้น!

ทุกคนในห้องอาหารส่วนตัวนั้นกำลังตกตะลึง

แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงหัวเราะก็ดังลั่นทำลายความเงียบสงบนั้น

ทุกคนหัวเราะ

มีเพียงโดโรธีเท่านั้นที่รู้สึกผิดหวังอย่างมากหลังจากการตกใจนั้น

คุณนายแคลร์จึงพูดขึ้นว่า “แกสามารถซื้อสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ มูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์ได้จริง ๆ หรือ? เมื่อคืนนี้แกนอนข้างถนนหรือเปล่า? แกคงยังหลับอยู่ และยังคงฝันถึงมันอยู่ใช่ไหมล่ะฮะ? ถ้าแกสามารถซื้อสร้อยคอนี้ได้จริง ๆ ฉันจะแทะโต๊ะนี้เลย"

อเล็กซ์ตอบกลับอย่างนิ่ง ๆ ว่า “คุณแม่ คุณไม่ต้องแทะโต๊ะนี้หรอก ฟันของคุณไม่แข็งแรงพอที่จะกัดมันได้”

คุณนายแคลร์เลิกคิ้วและจ้องเขม็ง "คุณแม่หรอ? ใครคือแม่ของแก? แม่ของแกยังนอนพะงาบ ๆ ในโรงพยาบาลโน่น! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายน้อยสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ จะเป็นลูกเขยเพียงคนเดียวของฉัน และเขาเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ที่จะเรียกฉันว่าเป็นแม่ยาย แกต้องหย่ากับโดโรธีในตอนบ่ายนี้เลย”

อเล็กซ์จ้องมองและกำหมัดแน่น

“ทำไม? แกโกรธมากเลยเหรอ? ขยะอย่างแกกล้าดียังไงถึงมาเกรี้ยวกราดใส่ฉัน?” คุณนายแคลร์ชี้ไปที่หัวของเธอเอง “มานี่สิ ทุบหัวฉัน ถ้าแกกล้าทุบตีฉัน ฉันจะยอมแพ้!”

อเล็กซ์ไม่สามารถใส่ใจที่จะจัดการกับหญิงปากร้ายคนนี้ได้

เขามองไปยังโดโรธีและพูดขึ้นว่า “โดโรธี ผมบอกคุณว่าผมไม่ใช่คนที่ฉันเคยเป็นอีกแล้ว ตอนนี้ผมสามารถปกป้องคุณและทุกคนรอบตัวผมได้ สร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ ภายในกล่องเครื่องประดับนี้เป็นข้อพิสูจน์! แอลจี บัลโฟร์ มีสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์เพียงอันเดียว อันเดียวในโลกที่ผมซื้อคือของจริง ที่เหลือมนเป็นของปลอม!"

“และนอกจากนี้ ผมไปเอาแหวนแต่งงานของเราคืนมาแล้ว และมันก็อยู่ภายในกล่องนี้”

ทันทีที่เขาหยุดพูด เขาก็ได้ยินคุณนายแคลร์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฟังนะ โดโรธี ฟังดี ๆ นะ เขาพล่ามบ้าอะไรแบบนั้น ช่างไร้ยางอายเสียจริง เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ! เขากล้าดียังไงที่บอกว่าสร้อยคอ รักเเห่งเมืองปฏิหาริย์ของนายน้อยสปาร์คเป็นของปลอม ถ้าอย่างนั้นสร้อยคอของแกก็คงจะเป็นของปลอมด้วย"

สปาร์คพูดขึ้นว่า "ใช่! อเล็กซ์ นี่มันช่างเปิดหูเปิดตาเสียจริง ๆ ไร้สาระมาก ด้วยสถานะปัจจุบันของฉันในฐานะ สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ นายคิดว่าฉันจะใช้สร้อยคอปลอมเพื่อหลอกลวงผู้คนหรือไง? สามสิบล้านดอลลาร์ไม่มีความหมายสำหรับฉัน แต่ แล้วสำหรับนายล่ะ? นายเพิ่งจะคุกเข่าให้คุณแม่เพื่อขอเงินครึ่งล้านเมื่อวานนี้ ไม่มีใครเชื่อในตัวนายหรอกนะ”

อเล็กซ์ได้ยินสปาร์คเรียกคุณหญิงแคลร์ว่าแม่ของเขา

เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เขามองไปที่โดโรธี “โดโรธี คุณเชื่อในตัวผมไหม?”

โดโรธีไม่เชื่อในตัวเขา

เธอจึงเอ่ยถามว่า "ฉันขอถามคุณหน่อยเถอะ คุณบอกว่าคุณมีวิธีแก้ปัญหาจากกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ไมล์ แล้วตอนนี้คุณทำสำเร็จแล้วหรือยัง?"

อเล็กซ์กล่าวว่า "คนของผมกำลังดำเนินการอยู่ เขาจะส่งข่าวกลับมาเร็ว ๆ นี้"

สปาร์คหัวเราะและพูดว่า "นายโกหก นายจะไปรู้จักใครจากกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์? แม้ว่านายจะคุกเข่าลงที่หน้าทางเข้าของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ เป็นเวลาสามวันสามคืนก็ไม่มีใครช่วยนายได้หรอก นายกำลังพร่ามถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่"

โดโรธีถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีกเลย

เธอรู้ว่าเธอไม่ควรที่จะฝากความหวังอะไรไว้กับเขาเลย

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของอเล็กซ์ก็ดังขึ้น

เขามองไปที่หมายเลขผู้โทรเข้าบนหน้าจอมือถือ และนั่นคือเจ้านายใหญ่ของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ นั่นเอง ท่านเล็กซ์ กันเธอร์

เขากดรับสาย

ท่านเล็กซ์ กันเธอร์ พูดขึ้นจากปลายสายว่า “นายท่าน ผมได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และพบบุคคลนั้นแล้ว คุณต้องการให้ผมกำจัดบุคคลนี้เลยหรือไม่?

อเล็กซ์ดีใจมากและมองไปที่สปาร์ค

เขาจำได้ว่า โดโรธีบอกเขาเมื่อวานนี้ว่าเธอต้องการแก้แค้นด้วยมือของเธอเอง

เขาจึงพูดขึ้นทันทีว่า “นั่นมันง่ายเกินไปสำหรับเขา ผมจะจัดการกับเขาเอง”

ท่านเล็กซ์ กันเธอร์ กล่าวตอบกลับว่า "ครับ นายท่านอยู่ที่ไหน? ผมจะไปรับ"

อเล็กซ์รีบตอบกลับ "ไม่ต้องลำบากหรอก ผมจะไปที่นั่นเอง"

ลอร์ดเลค กันเธอร์ ตอบกลับว่า "ตกลง ผมอยู่ที่ เฮล แองเจิล"

เขาวางสายไป

อเล็กซ์พูดกับโดโรธีว่า “มันได้รับการแก้ไขแล้ว กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ จะไม่คุกคามคุณอีกต่อไปแล้ว เราพบแกสตันคนพาลคนนั้นแล้ว ถ้าเขากล้าคิดที่จะยุ่มย่ามกับคุณอีกครั้ง ผมจะแก้แค้นเขาเอง! ผมจะฆ่ามันเอง!"

หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกหิว

เขานั่งลงหยิบชามสลัดแล้วก็กินมัน

เมื่อคุณนายแคลร์เห็นเขากินเหมือนฮิปโปที่หิวโหย เธอมองดูเขาด้วยความรังเกียจ “แกไม่มีแม้แต่เงินที่จะทานอาหารดี ๆ สักมื้อด้วยซ้ำ กล้าดียังไงถึงได้เอาแต่ฝันกลางวันแบบนั้น!”

โดโรธีไม่เชื่ออะไรจากเขาทั้งนั้น

เมื่อมองดูอเล็กซ์พูดเพ้อฝันและเพ้อเจ้อ เธอก็รู้สึกราวกับหัวใจแตกสลาย

เธอลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน หยิบถ้วยขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าเขา “ขอร้องล่ะ ตื่นได้หรือยัง? หยุดฝันได้แล้ว! เมื่อไหร่จะเลิกหลอกตัวเองเสียที คุณควรที่จะดูแลแม่อยู่ที่โรงพยาบาล!"

อเล็กซ์กลืนอาหารลงคอและเช็ดใบหน้าของเขา

“โดโรธี คุณต้องเชื่อผมนะ เพียงแค่รอก่อน คุณจะได้รับข่าวในไม่ช้านี้แน่!”

เขาหันหลังกลับและจากไปด้วยท่าทางมั่นใจ

คุณนายแคลร์คว้ากล่องเครื่องประดับอย่างโกรธจัด โยนมันออกไปนอกประตู แล้วด่าว่า "แกมันบ้า! เอากล่องที่เปื้อนเลือดของแกกลับไปด้วย ใครจะไปรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในนั้น ออกไปซะ! ฉันไม่มีวันยอมให้แกแต่งงานกับโดโรธีหรอกนะ”

ป๊อก!

ฝากล่องเครื่องประดับเปิดออก

ข้างในนั้นมีทั้งแหวนแต่งงานและสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ กระเด็นออกมา

คุณนายแคลร์ตกตะลึง

เธอไม่คิดว่าจะมีสร้อยคออยู่ในกล่องนั้นจริง ๆ

อเล็กซ์หยิบแหวนแต่งงานขึ้นมา ขณะที่เขากำลังจะหยิบสร้อยคอ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งหยิบมันขึ้นมา

เมื่อมองขึ้นไป เมื่อมองขึ้นไปเขาก็พบกับ คุณหมอเชอริล โคนีย์ คนสวยคนนั้น

“ดร.เชอริล คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?” อเล็กซ์ตกใจเล็กน้อย

“ฉันมาทานข้าวกับเพื่อน ๆ น่ะ” เธอแปลกใจเล็กน้อยหลังจากเหลือบมองสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์แล้วยิ้ม “สร้อยคอที่สวยงามเช่นนี้ คุณควรที่จะดูแลมันดี ๆ นะคะ นี่ค่ะ”

“มันไม่สวยเหรอคะ?”

อเล็กซ์ยิ้มอย่างขมขื่น

เขาใช้เงินสามสิบล้านดอลลาร์ไปกับสร้อยคอเส้นนี้ แต่มันกลับถูกโยนทิ้งไปเหมือนขยะ "คุณเก็บมันไปเถอะ คุณสามารถเอามันไปได้เลย คนอื่น ๆ ในที่นี้ต่างก็คิดว่ามันเป็นของปลอมอยู่ดี"

พูดจบเขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

“เอ่อ…”

คุณหมอเชอริลถือสร้อยคอด้วยความงุนงง และในที่สุดเธอก็มองไปที่ผู้คนในห้องอาหารส่วนตัวนั้น

เธอเก็บสร้อยคอแล้วเดินเข้าไปที่ห้องอาหารส่วนตัวของเธอ

“มันเป็นแค่สร้อยคอของปลอม เอามันออกไป!”

คุณนายแคลร์หัวเราะเยาะ “เห็นไหม? แจกให้คนสัญจรไปมาง่าย ๆ แบบนี้แล้วยังจะกล้ามาอ้างว่าเป็นสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ มูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์ ดูซิว่าใครได้ครอบครอง รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ โดโรธี เธอควรจะขอบคุณสปาร์ค และเก็บของขวัญไว้! สร้อยคอนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่สปาร์คมีให้เธอนะ"

โดโรธีอารมณ์เสียและส่ายหัว “มันแพงเกินไป ฉันรับมันไม่ได้หรอกค่ะ”

คุณนายแคลร์หยิบสร้อยคอแล้วพูดว่า “นังโง่ ตกลง ฉันจะเก็บไว้ให้แกเอง จนถึงวันที่แกแต่งงานกับคุณชายสปาร์ค”

ในขณะเดียวกัน แคสแซนดราก็เดินเข้ามา

“โดโรธี เธออยู่ที่นี่นี่เอง! ฉันตามหาเธอจนทั่ว!”

เธอได้ยินมาว่า โดโรธีและอเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ อาจจะหย่ากัน ดังนั้นเธอจึงมาช่วยรักษาการแต่งงานของพวกเขาไว้

เธอรู้ว่าอเล็กซ์มีกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ อยู่เบื้องหลัง

นั่นเป็นช่างเป็นผู้มีอำนาจจริง ๆ!

ถ้าเธอสามารถเป็นเพื่อนของอเล็กซ์และโดโรธีต่อไปได้ เธอก็คงจะสบายไปตลอดชีวิต...

แต่เธอไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่อเล็กซ์ปิดบังตัวตนของเขาไว้เป็นความลับ เธอไม่สามารถเผยแพร่ความลับนี้ได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือช่วยกอบกู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง

ที่จริงแล้วในใจเธอ เธอต้องการแต่งงานกับอเล็กซ์เองมากที่สุด!

“เฮ้ สร้อยเส้นนี้…”

ทันใดนั้น เธอก็เห็นสร้อยคอในมือของคุณนายแคลร์ "ทำไมมันดูเหมือนสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ เลยล่ะ?"

คุณนายแคลร์โม้และพูดว่า "แคสแซนดรา เธอพูดถูก นี่คือสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของสปาร์คที่มอบให้แก่โดโรธี"

แคสแซนดรามองไปที่สร้อยคอ จากนั้นจึงมองไปที่สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์

หลังจากนั้น เธอก็ดูถูกเหยียดหยามและพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่าคุณกำลังถูกหลอกโดยใครบางคนที่มีแรงจูงใจอะไรบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ นี่ไม่ใช่สร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ เลย มันเป็นแบบจำลอง มันเป็นของปลอม”

สปาร์คยืนขึ้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด "บ้าเอ๊ย! คุณจะไปรู้อะไร นี่คือ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์!"

แคสแซนดราหัวเราะเยาะเย้ย “ฉันเป็นคนขาย รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ เองกับมือ ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสร้อยคอนี้คือของปลอม!”

ทันทีที่เธอพูดแบบนั้น ทุกคนในครอบครัวแอสเส็กซ์ก็รู้สึกสับสนมึนงง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status