Chapter 2 : เซอร์ไพรส์
“จะไม่ให้เราเขาไปด้วยแน่นะ?” เสียงแหลมเล็กของคนที่เพิ่งจะฟื้นจากการเป็นลมอยู่บนเครื่องบินเอ่ยขึ้น หลังจากตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเสร็จและไม่พบความผิดปกติอะไรนอกจากร่างกายอ่อนเพลียจากการขาดอาหาร คนไดเอ็ทจนเกิดเรื่องวุ่นวายจึงรับหน้าที่ขับรถมาส่งเพื่อนรักที่ไนต์คลับแห่งนี้
“เราจะเข้าไปเซอร์ไพรส์พี่ชาย ริสาไม่ต้องไปด้วยหรอก ที่นี่ถิ่นพี่ชายเราเองไม่มีอะไรน่าห่วง” ริมฝีปากบางกระจับระบายร้อยยิ้มสดใสออกมาจากดวงหน้าสวยราวกับตุ๊กตาของหญิงสาวตัวเล็ก ก่อนที่เธอจะหันหลังให้รถที่เพิ่งก้าวลงมา และเดินเข้าไปทางประตูหลังเพื่อหลบกล้องวงจรปิด
แพรชมพู สาวไทยวัยยี่สิบสองปีบริบูรณ์ เธอแอบหนีออกมาจากกรงทองที่ครอบครัวสร้างขึ้นเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกสาวของตระกูล แต่ไม่เลย เธออึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเองจนต้องแอบหนีมาเที่ยวเมืองไทยก่อนกำหนดที่ครอบครัววางแผนเอาไว้
เธอใช้ข้ออ้างในการต้องทำโปรเจ็คของทางมหาวิทยาลัยเพื่อเข้ามาพักที่หอพักภายในของนักศึกษาในช่วงที่ทำโปรเจ็คนี้ แต่เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเพราะส่วนงานที่รับผิดชอบกลับเสร็จเร็วกว่าที่ควรจะเป็นถึงสองเดือน เธอจึงถือโอกาสนี้กลับมาที่นี่ หวังใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงในเวอร์ชั่นของตัวเอง
แต่เมื่อการใช้ชีวิตต้องอาศัยปัจจัยห้าที่เรียกว่า เงิน แพรชมพูจึงต้องถ่อสังขารมาหาพี่ชาย หวังเพิ่งบารมีทางการเงินของเขาเพื่อไม่ให้ทางบ้านสงสัย ถึงบัตรที่มีอยู่ในมือจะไม่จำกัดวงเงินแต่มันก็เหมือนดาบสองคมที่รอเวลาเชือดคนที่ใช้มันอย่างละม่อม เจ้าของบัตรจะรู้ได้ในทันทีว่าเธออยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้
ที่ผ่านมาถึงเธอจะเคยมาที่นี่เพียงครั้งเดียวแต่คนความจำดีและเก็บรายละเอียดเก่งอย่างแพรชมพูก็ยังจดจำทุกซอกทุกมุมของที่นี่ได้ไม่เคยลืม คนตัวเล็กเดินเข้าไปยังด้านในที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงจังหวะหนัก ๆ ของชั้นล่างที่เป็นโซนผับเลาจน์ ผู้คนยังคงเนืองแน่นอย่างเช่นเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้าที่เธอเคยมา
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนมองหาทางที่จะขึ้นไปยังชั้นบน การ์ดชุดดำนับสิบชีวิตที่ยืนประจำจุดคงไม่ปล่อยให้เธอเข้าไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอนเพราะระบบความปลอดภัยของที่นี่ค่อยข้างรัดกุมและเข้าถึงยากกว่าที่อื่น ราวกับว่ามีบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คนทั่วไปได้รับรู้ซ่อนอยู่ด้านใน แต่นั่นก็ไม่เกินความสามารถของคนความจำดีอย่างเธออยู่แล้ว
ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยมาที่นี่ เธอจำได้ว่าคืนนั้นเดินตามหลังพี่ชายเข้าไปทางนี้ และเขาทำการกดรหัสผ่านหน้าประตูเข้าไปด้วยตัวเลขหกหลัก เปลือกตาสีมุกค่อย ๆ หลับลงอย่างใช้ความคิด ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับใช้นิ้วเรียวเล็กสัมผัสเบา ๆ ที่ตัวเลขนั้น ก่อนที่เสียงของประตูที่ปลดล็อกสำเร็จจะดังตามมา
ใบหน้าสวยคลียิ้มชอบใจในความสมองไวของตนเอง พร้อมกับสาวเท้าไปยังหน้าลิฟต์ส่วนตัวที่ซ่อนอยู่หลังตึก ซึ่งมันสามารถจะไปโผล่ยังห้องที่ต้องการได้เลย
ประตูลิฟต์ค่อย ๆ เปิดออก แพรชมพูกวาดสายตามองไปทั่วทั้งชั้นที่เป็นห้องนอนส่วนตัวของพี่ชายที่คลานตามกันออกมาด้วยความห่างถึงสิบปี ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมเว้นแต่การตกแต่งที่แปลกไป ภายในห้องถูกเปลี่ยนเป็นโทนสีเทาดำทั้งหมด ยกเว้นชุดเครื่องนอนที่ยังเป็นสีขาวสะอาดสะอ้าน
ร่างเล็กดินวกไปวนมาอย่างกับคนกำลังสำรวจห้อง เธอเป็นคนขี้สงสัยและช่างสังเกตุทำให้รู้ว่าทั่วทั้งห้องไม่มีภาพเจ้าของห้องอยู่เลยแม้แต่ภาพเดียว แต่เมื่อสามวันก่อนที่วีดีโอคอลกันเธอยังแอบเห็นภาพเปลือยท่อนบนของพี่ชายตรงนี้ และมุมนี้อยู่เลย
“หรือว่าจะเบื่อหน้าตัวเองแล้ว” เสียงเล็กพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นยืดเส้นยืดสาย เครื่องปรับอากาศที่ยังทำงานปกติ และดูเหมือนว่าห้องนี้ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้รอล่วงหน้าแล้วยังไงอย่างนั้น
ร่างเล็กทิ้งสะโพกลงที่เตียงนอนนุ่มด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะเหลือบไปเห็นขวดไวน์ตั้งอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงนอน ถึงจะเกิดความสงสัยเล็กน้อยแต่ก็เลือกที่จะสลัดความคิดทิ้งไป เธอเดินไปหยิบไวน์ขวดนั้นมารินลงแก้ว สะบัดข้อมือวอร์มน้ำสีใสเบา ๆ ก่อนจะยกขึ้นจิบทีละนิด
“หืม เขาเปลี่ยนรสชาติตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ยังจำได้ได้ว่าพี่ชายชอบดื่มไวน์รสไหน และแน่นนอนว่าไม่ใช่รสเฝื่อนคอและกลิ่นแรงแบบนี้ หนึ่งปีที่ไม่ได้พบหน้ากันคงจะทำให้หนุ่มหล่อของแพรชมพูเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
ไม่นานนักคนตัวเล็กก็จัดการดื่มฆ่าเวลาเพื่อรอเจอหน้าผู้เป็นพี่ชายไปเพลิน ๆ กระทั่งรู้ตัวอีกทีในตอนที่โทรศัพท์ร่วงหล่นจากมือของตัวเองพร้อมกับขวดไวน์สีใสที่น้ำด้านในแห้งเหือดไปหมดแล้ว
เปลือกตาเริ่มรู้สึกหนักอึ้งและร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่างกาย ความเย็นของห้องไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกหายจากอาการร้อนรุ่มภายในได้เลย เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มกรอบหน้า ก่อนที่แพรชมพูจะยกมือขึ้นปาดมันลวก ๆ และก็ต้องรู้สึกว่าเรี่ยวแรงอ่อนลงแม้แต่จะยกมือขึ้น
“ไวน์บ้าอะไร ทำไมมันมึนหัวแปลก ๆ” ถึงจะเป็นคนที่คออ่อน แต่ไวน์ขวดเดียวสำหรับหญิงสาวที่ผ่านการฝึกดื่มแอลกอฮอล์จนเคยชินเพื่อเข้าสังคมอย่างเธอไม่น่าจะทำให้ร่างเล็กถึงกับควบคุมตัวเองไม่ได้ หนำซ้ำตอนนี้ยังรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
แพรชมพูตัดสินใจเดินโซซัดโซเซเข้าไปยังห้องน้ำ วันนี้เธอเดินทางมาทั้งวันร่างกายคงจะอ่อนเพลียและไม่สบายตัวจึงทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายแบบนี้ คิดได้ดังนั้นเธอจึงจัดการถอดเสื้อคลุมและปลดเดรสสีดำของตนเองจนหล่นไปกองอยู่ที่พื้น หวังใช้สายน้ำเย็น ๆ ชโลมความร้อนรุ่มในกายและมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากจริง ๆ
ขาเรียวเล็กขาวเนียนเกลี่ยงเกลาก้าวลงอ่างจากุชชี่ พร้อมกับค่อย ๆ ทิ้งตัวนอนแช่น้ำอย่างสบายกายสบายใจ เปลือกตาสีมุกค่อย ๆ หลับลงเพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย เพราะไม่แน่ใจว่าหากพี่ชายกลับเข้ามาในห้องแล้วคืนนี้เราสองคนอาจจะได้พูดคุยกันยันเช้าอย่างที่เคยทำ
และคงจะไม่ได้หลับได้นอนกันทั้งคืนอย่างที่ผ่านมา…
___________________
1 คอมเมนท์ = 1 กำลังใจ♥️
Thanks for following me🙏
80. Special 2"อย่าครับแพร""อื้ม~ ทำไมล่ะคะ ก็พี่นิคบอกเองว่าพ้นขีดอันตรายแล้วอ่ะ""ถึงจะพ้นแล้วก็ยังทำแบบนี้ไม่ได้" นิคพยายามผลักภรรยาสาวออกจากตัว ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเธอก็เอาแต่นัวเนียเขาไม่ยอมหยุด ไม่รู้ว่าฮอร์โมนอะไรทำให้ว่าที่คุณแม่พลุ่งพล่านได้ขนาดนี้"ทำเบา ๆ ก็ได้ นะนะ" สองแขนเล็กยกขึ้นมาคล้องคอสามีหลวม ๆ ซุกใบหน้าเข้าสูดดมความหอมที่ซอกคอลากไล้ไปทั่งทุกจุดอ่อนไหวจนนิคแทบจะอดทนต่อความปรารถนาในกายไม่ไหว"ไม่เอาน่าแพร เดี๋ยวกระทบลูกนะครับ" เขารีบรวบสองแขนเล็กของภรรยาเอาไว้ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ถึงจะสามารถมีเซ็กส์ได้แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอและลูกมีความเสี่ยงอะไรอีกต่อไปแล้ว"พี่นิคอ่ะ เฮ้อ~" และก็เป็นแบบนี้ในทุกคืนก่อนจะหลับ แพรชมพูจะต้องได้งอนก่อนนอนจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับคู่เรา แต่พอตื่นเช้าเธอก็กลับมาเป็นคนปกติไม่ได้หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องบนเตียงเหมือนช่วงก่อนเข้านอนแต่อย่างใดนิคยังต้องเดินทางไปกลับระหว่างลอนดอนและนิวยอร์กอยู่บ่อยครั้งเพราะถึงจะมีนาวินเข้ามาคอยช่วยงานแต่บางเรื่องต้องเป็นเขาเท่านั้นที่จะต้องตัดสินใจด้วยตนเอง รอแค่ผ่านช่วงหกเดือนแรกไปก่อนให
79 : Special 1"ว้าย !" เสียงแหลมอุทานตกใจ ตั้งใจจะเข้ามาเยี่ยมลูกสาวแต่กลับเจอฉากรักโรแมนติดบนเตียงผู้ป่วยจนไพลินต้องยกมือขึ้นมาปิดตา แต่สุดท้ายก็กางนิ้วออกห่างกันเพื่อแอบมองอยู่ดีแพรชมพูรีบดันตัวหมอนิคออกทันที ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มเห่อแดงด้วยความเขินอาย ส่วนคนที่เพิ่มจะจูบลูกสาวเขาไปหมาด ๆ ได้แต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไร"มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณแม่" เห็นว่าอีกคนไม่ยอมอธิบายอะไรเลยแพรชมพูจึงต้องรีบปฏิเสธ ทั้งอายและทั้งกังวลว่ามารดาจะรับภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้"มันเป็นแบบที่เห็นนั่นแหละครับ" นิคเสริมขึ้น"พี่นิค! พูดจาอะไรของพี่""หยุดทั้งคู่นั้นแหละ สรุปว่าเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม หื้ม?" ไพลินรีบห้ามก่อนสองคนจะทะเลาะกันจนเสียฤกเสียยาม"ยัยแพรว่าไง ตกลงคนนี้พ่อของลูกแกใช่ไหม?""ค่ะแม่" ตอบเสียงเบา"ให้อภัยหมอนิคสำหรับเรื่องที่ผ่านมาได้แล้วเหรอ? ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน""ค่ะแม่ แพรรักพี่นิคค่ะ" พอแพรชมพูตอบคำถามของมารดาออกไป นิคจึงจับมือของเธอมากุมไว้และมองเข้ามาในด้วยตาคู่ใสด้วยความจริงใจ"ผมก็รักแพรชมพูครับ ถึงระหว่างทางที่ผ่านมาจะขรุขระไปบ้าง แต่จากนี้ไปผมจะตั้งใจทำทุกอย่า
Chapter 78 : จบด้วยรัก ENDเช้าของวันใหม่ทันทีที่แพรชมพูลืมตาตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นก็คือใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลเหมือนเด็กน้อยที่ดูไร้เดียงสาดูไม่ร้ายกาจเหมือนตอนตื่น เธอจ้องมองเขาอยู่เนิ่นนาน รู้ตัวอีกทีก็เผลอยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้วเมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็เผลอครุ่นคิดกับสิ่งที่ได้ฟังก่อนนอนจนกระทั่งหาทางออกให้กับเรื่องนี้ได้จิตใจถึงได้สงบลงเธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองให้โอกาสหมอนิคอีกครั้ง อาจจะดูง่ายไปแต่ทำไมจะต้องทำอะไรให้ชีวิตยุ่งยากมากไปกว่านี้ ในเมื่อเรื่องระหว่างเรามันเลยเถิดมาถึงขั้นมีอีกหนึ่งชีวิตที่จะเข้ามาเติมเต็ม หากจะลองเสี่ยงดูอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไปแต่ก่อนจะพูดคำนั้น ขอลองใจเขาเพื่อความแน่ใจอีกสักครั้งก็แล้วกัน..."กรี๊ด!! นี่คุณมาทำไมอีก ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ" แพรชมพูตั้งหลักได้ก็ส่งเสียงกรีดร้องตื่นตกใจ ดึงหมอนที่หนุนอยู่ปาใส่คนที่ฟุบหน้าหลับจนสะดุ้งตื่นและต้องรีบถอยออกให้ห่างเธอที่สุด"ใจเย็น ๆ เดี๋ยวจะสะเทือนไปถึงลูกนะแพร""ลูกของฉันกับนาวิน คุณไม่มีสิทธิมายุ่ง" แกล้งย้ำออกไปอีกครั้ง แต่เขากลับไม่มีสีหน้าไม่พอใจแต่อย่างใด สองเท้าของหมอนิคกำลังเดินตรงเข้ามาห
Chapter 77 : หัวใจที่เริ่มอ่อนไหวคนป่วยยังคงนอนพลิกซ้ายพลิกขวาอยู่บนเตียงด้วยเบื่อหน่ายมาสามวันแล้ว อาการจุกหน่วงที่ท้องน้อยรวมถึงอาการแพ้ของเธอเริ่มลดน้อยลงจนคุณหมอแจ้งว่าหากไม่มีอะไรแทรกซ้อนอีกไม่กี่วันก็จะกลับบ้านได้ตอนนี้เธอไม่หิวโหยเท่ากับอาทิตย์ที่แล้ว อาการเหม็นและความหงุดหงิดกับเรื่องเล็กน้อยก็ลดลงแต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ อารณ์คล้ายกับคิดถึงใครบางคนจนกระวนกระวายในขึ้นมา โหยหาการรับกลิ่นนั้น ต้องการสัมผัสอะไรบางอย่างซึ่งตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ครั้นถามแพทย์ก็ได้คำตอบเดิมนั่นก็คือเกี่ยวกับฮอร์โมนช่วงตั้งครรภ์ครืด~ ครืด~ เสียงมือถือดังขึ้นเจ้าของเครื่องจึงรีบคว้ามันเข้ามาดู แต่พอเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอไม่ใช่คนที่คิดเอาไว้แพรชมพูก็เป็นอันถอนหายใจเหนื่อยหน่ายออกมาและเลือกที่จะไม่กดรับสายได้แต่เฝ้าถามคำถามนี้กับตัวเองว่าทำไมถึงไม่ใช่เขา ทำไมตั้งแต่วันนั้นเขาถึงได้หายไปและไร้การติดต่อมาอีก หรืออาจเป็นเพราะว่าวันนั้นเธอบอกว่าเขาไม่ใช่พ่อของเด็ก อีกคนเลยตัดขาดเธอกับลูกออกไปจากชีวิตแต่เมื่อคิดไปคิดมาราวกับความรู้สึกมันตีกันในหัวจนสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองต
Chapter 76 : หลอกล่อหลังจากที่ใช้เรี่ยวแรงในการตะเบ็งเสียงต่อปากต่อคำกับหมอนิคไปพักใหญ่จนแทบหมดแรง ทำให้แพรชมพูรู้สึกเจ็บท้องน้อยจนเกือบล้มฟุบลงกับพื้น ดีที่คนอยู่ด้วยพยุงเธอเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะต้องเรียกแพทย์เข้ามาดูอาการโดยด่วนแพรชมพูตื่นลืมตาขึ้นมาในเช้าของอีกวันก็เห็นร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งกำลังยืนหันหน้ามองออกไปริมหน้าต่าง เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพยางค์สุดท้ายถึงชื่อของบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอก่อนที่เขาจะเก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง"พี่คะ มาได้ยังไง?" ฟลินซ์หันมาเห็นว่าน้องสาวตื่นแล้วจึงรีบเข้ามาหาเธอ ปรับหัวเตียงขึ้นเพื่อให้แพรชมพูได้เอนหลังได้สบายขึ้น"เป็นไงบ้างตัวแสบ ยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหม?" เขายื่นมามาเกลี่ยปอยผมยาวสลวยทัดเอาไว้ข้างหู มองหน้าซีดเผือกไร้การแต่งเติมแต่ก็ยังสวยที่สุดในสายตาพี่ชายอย่างเขา"ไม่เจ็บแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าแพรเครียดเกินไปเลยส่งผลต่อ....พี่ฟลินซ์รู้รึยังคะว่ากำลังจะได้เป็นคุณลุงแล้ว?" ถามด้วยน้ำเสียงดีใจ ยิ่งเห็นว่ามือเรียวใหญ่กำลังยื่นมาลูบเบา ๆ ที่ท้องแบบราบของตนเองแพรชมพูยิ่งรู้สึกตื้นตันแทบน้ำตาไหล"หลานลุงคนนี้ต้องสวยเหมือนแม่แน่นอน""แล้วถ้าเกิดเป็นผู้ชา
Chaptet 75 : ฉันไม่ต้องการคุณหลังจากที่หมอนิคต้องกลับออกไปเปลี่ยนชุดเพราะมันคลุกเคล้าไปด้วยพิซซ่าที่ขย้อนออกมาจากปากของเธอ แพรชมพูจึงได้มีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเพียงลำพังกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่พอเริ่มยืนด้วยขาของตัวเองได้อย่างมั่นคงเขาคนนั้นก็กลับเข้ามาในชีวิต พร้อมกับสิ่งที่มีค่าที่สุดที่กำลังจะลืมตาดูโลกที่งดงามในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าน้ำอุ่นใสหยดลงมากระทบกับมือที่กำลังลูบวนอยู่ที่หน้าท้องของตัวเอง ถึงจะมีเขาเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชีวิตแต่แพรชมพูก็ไม่คิดจะดึงใครให้ต้องมารับผิดชอบ เธอตั้งใจจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้เติบโตด้วยตนเองตั้งแต่แรก โดยไม่จำเป็นต้องมีพ่อที่ไร้ซึ่งความรักเข้ามาพัวพันธ์ก็อก ๆ ๆแพรชมพูรีบปาดน้ำตาออกจากใบหน้าทันทีที่เห็นนาวินเปิดประตูเข้ามา ผู้ชายหน้าตาดีแต่ยิ้มยากคนนี้ส่งยิ้มมาให้เธอ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ยื่นมือมากุมมือของเธอเอาไว้"ยูเป็นอะไรนาวิน?" เห็นแววตาของบอดี้การด์หนุ่มแปลกไปก็อดคิดไม่ได้ว่าอีกคนกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ"ดีใจด้วยนะว่าที่คุณแม่""อื้ม~" แพรชมพูยิ้มตอบ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้แค่เข้า