แชร์

บทที่ 3 แม่ทัพตระกูลกู้

ผู้เขียน: เฟยหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-03 15:30:07

เรือนตระกูลกู้ซึ่งใหญ่โตโอ่อ่าสมกับตำแหน่งท่านแม่ทัพฝ่ายหน้า ซึ่งมีผู้คนมากมายทั้งบ่าวไพร่ที่คอยรับใช้และเจ้าของเรือนที่อาศัยอยู่ในเรือนแห่งนี้ พวกเขาเหล่านี้กำลังนั่งคุกเข่าและก้มหน้าจนแทบติดพื้นเพื่อเคารพแด่ขุนนางที่ถือราชโองการพร้อมตราหยก

มู่หยางท่านแม่ทัพฝ่ายหน้าบุรุษร่างกำยำสมชายชาตรี เขาคือบุตรชายเพียงคนเดียวของแม่นางชิงชิงกับท่านขุนนางตงหยาง โดยมีหญิงงามคอยอยู่ข้างหลังอีกสองสามนางซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ

พวกเขาเหล่านี้ตั้งใจฟังสิ่งที่ขุนนางผู้นี้พูด

“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงมีพระราชบัญชาให้ยกบุตรสาวแห่งแคว้นอัน พร้อมผ้าแพร เครื่องสังคโลกและเงินอีกพันเฟื้องเป็นเครื่องบรรณาการชนะศึกในครั้งนี้ ให้แด่ท่านแม่ทัพแห่งตระกูลกู้”

เสียงดังก้องกังวาลของขุนนางฝ่ายขวาพูดขึ้นพร้อมอ่านพระราชโองการให้แม่ทัพผู้ชนะศึกในการสลายแคว้นน้อยใหญ่ให้เป็นบึกแผ่นมาได้ แม่ทัพมู่หยางแห่งตระกูลกู้นั่งคุกเข่าพร้อมรับราชโองการที่ขัดเสียมิได้

“น้อมรับพระบัญชา ขอพระองค์ทรงอายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

ครั้นเคารพต่อฮ่องเต้เสร็จสิ้นจึงรับสารแห่งพระราชโองการนี้ พร้อมยืนขึ้นเพื่อก้มโค้งลาท่านขุนนาง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างทำตามกัน แล้วแยกย้ายกันไปทำงานของตนเองเหลือเพียงแต่หญิงสูงวัย กับภรรยาทั้งสามของท่านแม่ทัพ

“ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้ยกหญิงแห่งแคว้นอันมาให้ลูกอีกแล้วรึ” ดูท่าแม่นางชิงชิงจะไม่พอใจ นางจึงได้หยิบพัดขึ้นมาโบกให้ลมตีบริเวณใบหน้า ที่ตอนนี้บอกบุญไม่รับเอาเสียเลย ทั้งยังส่งสายตาไปยังภรรยารองของบุตรชายอีกสองคนที่ถูกพระราชทานมาด้วยเช่นกัน

ไป๋ลี่ กับ ไป๋ลู่ สองแฝดวัยสาวมองหน้ากันก่อนก้มหน้าลงอย่างเจียมตัว พวกนางไม่กล้าต่อกลอนกับฮูหยินชิงชิงนัก คงมีแต่ต้าเหนิงบุตรสาวของขุนนางห่าวฝางภรรยาที่ตกแต่งตามประเวณีเท่านั้นที่กล้ายืนเคียงข้างสามี และสู้หน้าหญิงสูงวัยผู้นี้

ต้าเหนิงจ้องไปยังสามีด้วยแววตาที่โกรธหลบในดวงตาคู่นั้น เธอไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ในเมื่อเป็นคำสั่งจากองค์เหนือหัว

“ใช่ ท่านแม่ข้าคงต้องไปรับนางมาอยู่ในเรือนนี้เสียวันนี้ หวังว่าท่านแม่จะต้อนรับ” แม่ทัพมู่หยางมีเหตุจำเป็นต้องรีบไป ด้วยความที่งานราชการมีล้นมือและยังต้องออกรบอยู่ไม่ขาด

“แม่ต้องต้อนรับอยู่แล้วสิภรรยารองคนที่สี่ของลูกมิใช่รึ” ฮูหยินชิงชิงพูดอย่างจีบปากจีบคอ ซึ่งในสายตาของมู่หยางไม่ได้รู้สึกอะไรกับท่าทีของมารดาที่แสดงออกมา

“ท่านพี่ ข้าขอติดตามท่านไปด้วยได้รึไม่” ต้าเหนิงมองด้วยแววตาอ้อนวอน

“ไม่ได้ เจ้าอยู่ดูแลท่านแม่ของข้าอยู่ที่เรือนนี้เถอะ อีกไม่มีวันข้าจะกลับมา”

“แต่ว่าท่านพี่ ข้ามีเวลาเห็นหน้าท่านแค่เพียงน้อยนิด ท่านไม่เห็นใจภรรยาอย่างข้าบ้างเลยรึ”

นางพูดอย่างน้อยใจอย่างหามิได้ ต้าเหนิงเป็นสตรีที่งดงามยิ่ง ทั้งยังเพียบพร้อม และฉลาดหักแหลม แต่ก็ยังพ่ายให้กับราชโองการ ทั้งที่นางอยากเป็นภรรยาเดียวของคุณชายตระกูลกู้ดันมาถูกแย่งความรักไปจากนางซะได้

“ข้าเห็นใจเจ้าทุกเมื่อ แต่เจ้าก็รู้ว่าราชโองการมิอาจขัดได้ไม่อย่างนั้นคงได้ถูกประหารเจ็ดชั่งโคตร”

“หวังว่าเจ้าจะเห็นใจข้าด้วยเช่นกัน”

“ต้าเหนิงเจ้าเบาใจเถอะ มู่หยางมิรักหญิงอื่นนอกจากเจ้าหรอก” ฮูหยินชิงชิงช่วยพูดอีกแรง เธอถูกชะตากับสะใภ้คนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรจึงนึกเอ็นดูและเห็นใจ

“แล้วข้าจะรีบกลับมา”

แม่ทัพมู่หยางจำเป็นต้องกล่าวลา เขาไม่อยากให้ต้าเหนิงต้องอาวอนต่อกันจนกระดิกกายไปไหนไม่ได้ บุรุษตัวสูงจึงขึ้นขี่ม้าคู่ใจควบมันให้วิ่งเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปสู่แคว้นอันซึ่งอยู่ไกลจากที่นี่โดยใช้เวลาควบม้าเร็วหนึ่งวันเต็ม

แคว้นอัน

“ฮื้อ ๆ ทำไม ทำไมข้าต้องมีชะตาเช่นนี้” หญิงสาวมีน้ำตาเปียกปอนกำลังนอนร้องไห้อยู่บนตั่งเตียง นางมีนามว่าฟู่ฟู่ บุตรสาวคนเล็กแห่งแคว้นอัน หญิงที่พึ่งผ่านวัยแรกแย้มได้ไม่กี่ฝนก็ต้องตกเป็นเครื่องเชลยให้แก่แม่ทัพบ้าอำนาจ จึงได้นอนร้องไห้น้ำตาตกอยูอย่างนี้

“คุณหนูฟู่ฟู่ ท่านอย่าร้องไปเลย”

เหมยลี่หญิงรับใช้ที่อยู่กับฟู่ฟู่มายังแต่เยาว์วัย นางมีหน้าตาอัปลักษณ์จากแผลที่ถูกไฟครอกเมื่อครั้งเป็นทารกบริเวณใบหน้าข้างขวาจนต้องคลุมผ้าปิดบังใบหน้าอัปลักษณ์นี้ไหว ด้วยกลัวว่าใครจะกลัวและรังเกียจจนต้องปาหินใส่กัน แต่ครั้งเมื่อได้อยู่ในเรือนของคุณหนูฟู่ฟู่ นางก็ถูกปฏิบัติเหมือนคนทั่วไป จนทำให้รู้สึกผูกพนกับคุณหนูฟู่ฟู่เหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่ง

“ข้ารู้สึกเห็นใจท่านนัก” เหมยลี่ร้องไห้สะอื้นตาม นางเห็นใจและสงสารคุณหนูฟู่ฟู่เป็นอย่างมาก ทั้งที่อายุยังน้อยต้องมาเจอเรื่องหนักหนาเช่นนี้

“เจี่ยเจียเหมยลี่ ข้าอยากหนี ข้าไม่อยากไปเป็นหญิงในอาณัติของผู้ใด ท่านช่วยข้าได้ไหม” ฟู่ฟู่ร้องไห้ฟูมฟาย และหอบร่างบอบบางกระโจนเข้ากอดเหมยลี่ไว้แน่น

หญิงรับใช้ครุ่นคิดจนเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูปจึงเอ่ยขึ้น “ข้าและพาคุณหนูหนี ขอเพียงท่านบอกว่าจะไปที่ใด”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 51 กว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

    “ที่นี่โรงเตี๊ยมบุพผางาม” จางเหว่ยพูดขึ้น สามีของฟู่ฟู่พาหญิงอัปลักษณ์มาถึงโรงเตี๊ยมที่ว่า แม้จักดูมิใหญ่โตมากนักแต่ผู้คนก็เข้ามาไม่ขาดสาย เนื่องจากที่ตั้งแห่งนี้เป็นทางผ่านไปยังหัวเมืองต่าง ๆ จึงมิแปลกใจหากจักมีผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาจิบน้ำชาและหลับนอน ลี่หลินมองไปยังเบื้องหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ นางเคยฝันอยากเป็นเชฟโรงแรมระดับห้าดาว ถึงที่แห่งนี้ไม่มีดาวการันตีก็ตาม นางถือว่าที่แห่งนี้เป็นเหมือนที่ฝึกฝนจึงมิเกี่ยงเลยหากได้ทำงานในที่แห่งนี้ “เข้าไปกันเถอะ” บุรุษเดินนำเข้าไปก่อน หญิงอัปลักษณ์จึงดึงผ้าคลุมให้ปิดใบหน้าซีกหนึ่งให้มิชิด เพื่อมิให้ผู้คนในที่แห่งนี้แตกตื่นไปเสียก่อน เสียงจอแจดังจนฟังมิได้ความ กับผู้คนที่เข้ามาบ้างก็ทานอาหาร บ้างจิบน้ำชา และเมามาย ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนหอนางโลมดี ๆ นี่เอง เพราะลี่หลินเห็นนางคณิกาอรชรอ้อนแอ้นนั่งรินน้ำชาให้เหล่าบุรุษอยู่หลายนาง “จางเหว่ยท่านแน่ใจรึว่าที่นี่คือโรมเตี๊ยม” ลี่หลินจึงถามให้แน่ใจ “ใช่ที่แห่งนี้แหละ” จางเหว่ยตอบ ก่อนหันไปทักทายเจ้าของโรงเตี๊ยม

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 50 ฝีมือของลี่หลิน

    ลี่หลินตั้งใจปักเย็บผ้าห่มผืนหนามาหลายชั่วยามจนเหมื่อยกาย มือของนางถูกเข็มทิ่มซ้ำอยู่หลายหน แต่นั่นก็มิทำให้ความตั้งใจลดน้อยลงไป ขณะเดี๋ยวกันฟู่ฟู่เห็นว่าใกล้ถึงเวลาที่จางเหว่ยจักกลับมาจากหาของป่าเสียแล้ว นางจึงต้องรีบละจากกองผ้าเพื่อไปเตรียมทำอาหารในครัว “เจ้าจะไปไหน?” หญิงในร่างอัปลักษณ์เอ่ยถาม “ข้าจักไปเตรียมทำอาหารให้ท่านพี่กับท่านแม่” “ท่านแม่?” ลี่หลินขมวดคิ้ว นางลืมไปเสียสนิทว่าบ้านหลังนี้มีหญิงชราอาศัยอยู่ด้วยมิใช่ เหตุใดนางจึงมิเห็น “ใช่ท่านแม่ของสามีข้า นางมิค่อยสบายจึงพักผ่อนอยู่อีกห้องหนึ่ง” ลี่หลินครุ่นคิด คนบ้านนี้ชั่งมีน้ำใจเสียจริง ทั้งที่แม่ผู้แก่ชราล้มป่วยยังมาดูแลนางขนาดนี้ ลี่หลินต้องตอบแทนผู้มีน้ำใจบ้างแล้ว “ให้ข้าทำกับข้าวแทนเจ้าได้ไหม” ลี่หลินพูด นางเรียนมาทางด้านนี้และคิดว่าทำได้ดีจึงอยากแสดงฝีมือ “ได้สิ งั้นให้ข้าเป็นลูกมือเจียเจี่ยนะ” ฟู่ฟู่ยิ้ม นางอยากชิมฝีมือพี่สาวเช่นกัน ทั้งสองจึงเดินเข้าไปในครัว ซึ่งเป็นเตาที่ถูกก่อด้วยดินเผาโดยใช้ความร้อนจากฟืน นั่นมิใช่อุปสรรคในการ

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 49 การเริ่มต้นใหม่ของลี่หลิน

    ด้วยความร้อนใจฮูหยินชิงชิงจึงหวนกลับไปที่เดิม นางเข้ามาหาท่านซินแสที่นางเคยมาอ้อนวอนขอบุตรให้แก่ตระกูลกู้ หญิงชราเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าเป็นกังวล นางพบท่านซินแสกำลังนั่งสมาธิอยู่ในศาลาอันเก่าและทรุดโทรม รอบกายรายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณซึ่งดูรกตาเป็นอย่างมาก ทว่าร่างกายของผู้มีพลังเหนือสรรพสิ่งดันดูผ่องใสจนน่าศรัทธา “ท่านซินแส” ฮุหยินชิงชิงรีบคำนับ เปลือกตาของท่านซินแสค่อยลืมขึ้นอย่างมิทุกข์ร้อนใด ๆ เขาหยั่งรู้ในทุกสิ่ง เพียงแค่เห็นหน้าผู้มาเยือนก็รู้แล้วว่าสตรีสูงวัยผู้นี้รีบร้อนมาหากันด้วยเหตุอันใด “กลับไปเสียข้าช่วยเจ้ามิได้” แม้ซินแสจักหยั่งรู้ แต่ก็มิอาจฝืนชะตาฟ้าลิขิตไปได้เสียทุกอย่าง เรื่องเวรกรรมที่มู่หยางต้องได้รับเคราะห์หนักมันเป็นเรื่องที่ซินแสเยี่ยงเขาเข้าไปยุ่งมิได้ “ท่านซินแส ได้โปรดช่วยบุตรชายข้า” ฮูหยินชิงชิงยอมคุกเข่าอ้อนวอน “ใจที่ผูกติดต่อให้ใช้ดาบแหลมคมตัดก็มิอาจตัดขาดไปได้ เคราะห์ของใครก็ต้องให้ผู้นั้นเป็นคนแก้ หากเจ้าไปฝืนชะตาก็คงต้องเป็นเจ้าเองที่จะต้องวอดวาย” “ข้ายอม ข้ายอมทุกอย่าง ขอเพียงแค่ให

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 48 สิ่งที่เพิ่งรู้

    ลี่หลินนอนคิดทบทวนเรื่องราวที่ได้อ่านในนิยาย จากการปะติปะต่อเรื่องราวนางจึงรู้ว่าได้เข้ามาอยู่ในร่างหญิงอัปลักษณ์ในตอนที่เนื้อเรื่องถึงจุดพีคที่สุด พอดีกับที่นางอ่านทิ้งไว้ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปหรืออะไรกันแน่ จู่ ๆ ก็ได้มาเข้าร่างของเหมยลี่อย่างงงงวย เนื้อเรื่องในนิยายยังคงดำเนินต่อไปแต่นางกลับมิรู้เลยว่าจุดจบคือแบบใดกันแน่ นางจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ให้ได้ ถึงจักล้าสมัยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกก็ตาม แต่คนเยี่ยงนางยังมีความสามารถในการหาเลี้ยงชีพได้แน่นอน ทว่าจู่ ๆ นางก็รู้สึกเหม็นจนพะอึดพะอมอย่างบอกมิถูกเมื่อฟู่ฟู่ได้นำยาต้มเข้ามาให้นางอีกหน “เจ้าเป็นอันใด” สตรีผู้น้อยเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของพี่สาวนางจึงถาม “ข้าอยากอ้วก” “ข้าจักนำกระโถนมาให้” ฟู่ฟู่รีบวิ่งไปหยิบกระโถนมาให้ทันท่วงที แน่นอนว่าลี่หลินได้อาเจียนออกมาจนหมดไส้ นางคงมิคุ้นกลิ่นสมุนไพรสักเท่าไร “เจ้าต้มอะไรมาเหม็นเป็นบ้าเลย” ลี่หลินย่นจมูก “ยาสมุนไพรเยี่ยงไรเล่า เจ้าต้องดื่มมัน” “ข้าไม่ดื่ม เหม็นขนาดนี้ใครจะไปดื่มลง” “เจ้าจักหายได้เยี่ยงไร เหต

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 47 เกิดอะไรขึ้น

    จางเหว่ยกำลังก่อไฟเพื่อต้มยาก็พลันได้ยินเสียงร้องลั่นของภรรยา เขาจึงละจากทุกสิ่งและวิ่งไปหาด้วยความร้อนรน “เกิดอันขึ้น!” เมื่อมือเลื่อนบานประตูออกเขาก็เห็นภรรยาเอาแต่ร้องไห้อยู่ข้างหญิงผู้นี้ เขาเพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าของนางที่แสนอัปลักษณ์จนชวนให้น่ากลัว “นางคือพี่สาวของข้า” ฟู่ฟู่เอ่ย นางทั้งดีใจและเสียใจในคราวเดียว “เช่นนั้นรึ” จางเหว่ยถามให้แน่ใจอีกหน ฟู่ฟู่พยักหน้าให้ “หากเป็นเช่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องดีแล้ว เช่นนั้นข้าจักรีบไปต้มยา ส่วนเจ้าก็เช็ดตัวแล้วผลัดเสื้อผ้าให้นางเถิด” “เจ้าค่ะ” ฟู่ฟู่จึงทำตามอย่างว่าง่าย นางค่อย ๆ เช็ดตัวซึ่งเต็มไปด้วยรอยแผลและรอยช้ำ ก่อนนำเสื้อผ้าของนางมาให้หญิงอัปลักษณ์ใส่ มินานคนที่หายไปต้มยาก็กลับมาพร้อมยาสมุนไพร จางเหว่ยรีบยื่นให้ฟู่ฟู่ป้อนให้ เพราะเขาเป็นบุรุษที่แต่งงานแล้วจักถูกเนื้อต้องตัวสตรีอื่นคงดูมิงามนัก “ข้ามิรู้ว่านางเป็นอันใดกันแน่ เนื้อตัวนางมีแผลเต็มตัวไปหมด” ฟู่ฟู่พูดด้วยแววตาเศร้า นางรู้สึกสงสารเหมยลี่จับใจ “นางจักต้องหาย ตราบใดที่ยังมีลมหาย

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 46 ลี่หลิน

    สายน้ำเชี่ยวไหลผ่านตลิ่งและโขดหินได้นำพาร่างหนึ่งที่เพิ่งตกลงเหวลงสู่ก้นบึ้ง เหมยลี่มิทันได้ระวังตัวเมื่อแรงกระแทกปะทะร่างกายจนจุกและเจ็บ สายน้ำโหมกระหน่ำเข้ามายังปอดจากการสำลัก พยายามสูดอากาศเข้าแล้วแต่มิอาจทำได้ นางจึงรู้ว่าคงมิอาจรอดพ้นบ่วงเคราะห์นี้ไปได้ในใจแตกสลายมิมีชิ้นดี จากความรักที่เหมยลี่คิดว่าท่านแม่ทัพจักเมตตาต่อกันบ้าง แต่หามีไม่ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงขออ้อนวอนต่อฟ้าดินขอให้นางได้รอดพ้นจากมู่หยางเสียทีมิว่าชาติภพใดก็มิขอรักบุรุษผู้นี้อีกหยดน้ำตาผสมกับสายน้ำเย็นดวงตาปิดสนิทด้วยความปลงกับชีวิต หญิงอัปลักษณ์มิขออยู่ให้อายฟ้าดินอีกต่อไป นางจึงมิไขว่คว้าและปล่อยให้ร่างไร้สติไหลไปตามกระแสน้ำดุจกลีบดอกเหมยที่ร่วงโรยผ่านไปหลายชั่วยามร่างอรชรที่เปียกปอนได้ถูดพัดมาติดที่โขดหิน ใบหน้าซีดเซียวคล้ายกับคนไร้ซึ่งดวงวิญญาณค่อยเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ และมีชีพจร ปลายนิ้วค่อย ๆ ขยับไปพร้อมกับเปลือกตาที่ปรือขึ้นคิ้วบางขมวดเข้าหากันลี่หลินจำได้ว่านางอ่านนิยายอยู่ที่หอพักมิใช่หรือเหตุใดถึงได้มาอยู่กลางป่าแสนหนาวเหน็ดยามค่ำคืนเช่นนี้“ฮัดชิ้ว!” หญิงนักศึกษาจามออกมาจนได้ นางรู้สึกชื้นปอดอย่างไร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status