مشاركة

บทที่ 4 หนทางหนี

last update آخر تحديث: 2025-04-03 15:30:42

“ข้าจะไปบวชอยู่ที่วัดหลินจิง” ฟู่ฟู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้นางจะอายุยังน้อยแต่ก็หนักแน่นเสียจนเหมยลี่มองดูนางพลันตกใจอยู่ไม่น้อย

“คุณหนูฟู่ฟู่แน่ใจแล้วรึ”

“แน่ใจ ข้าจะไปอยู่ที่นั่น อย่างน้อยก็ปลอดภัยสำหรับข้า”

“ถ้าอย่างนั้นเราทั้งสองต้องรีบหนีไปก่อนจะไม่ทันการ” เหมยลี่ลุกขึ้น

“เดี๋ยว หากไปเช่นนี้ต้องมีคนจับได้แน่” ฟู่ฟู่รั้งมือไว้

“จริงด้วย ข้านี่โง่เขลานัก” เหมยลี่ยิ้มให้เล็กน้อย พลางหลุบตามมองเสื้อผ้าตัวเองสลับกับของบุตรสาวแห่งแคว้นอัน หากต้องการหลบหนีจำเป็นต้องพรางตัว

“หากคุณหนูฟู่ฟู่ไม่ว่าอะไร ท่านลองสลับอาภรณ์พวกนี้กับข้าไหม?”

“ได้สิ”

เมื่อตกลงกันได้ ทั้งสองจึงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ซึ่งกันและกันจนดูแปลกตา คุณหนูฟู่ฟู่สวมใส่ชุดคนรับใช้ซึ่งเป็นผ้าเก่าสีซีดทั้งยังมีรอยขาดรอยปะจากการเย็บจนดูเป็นสตรีธรรมดา ส่วนเหมยลี่ที่สวมชุดสีชมพูด้วยผ้าที่ตัดอย่างดี ทำให้ดูดีอยู่ไม่น้อย หากใบหน้านี้ไม่ได้มีรอยแผลจนอัปลักษณ์นางย่อมเป็นสตรีที่งดงามดุจนางบนชั้นสวรรค์

ถึงจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ แต่มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เหมยลี่จำเป็นต้องคลุมไว้ นั่นคือผ้าคลุมปิดบังใบหน้าของนางนั่นเอง แล้วมาจัดการเก็บเสื้อผ้าที่เหลือใส่ถุงย่ามให้เรียบร้อย

“ไปกันเถอะคุณหนู”

เหมยลี่เอ่ย พลางดึงมือสตรีผู้น้อยให้เดินหลบเลี่ยงไปตามทาง เรือนแห่งนี้มีผู้คนมากมายทั้งยังมีเหล่าทหารคอยเฝ้าเวรยามอยู่ไม่ห่าง ด้วยเพราะเจ้าแห่งแคว้นอันดันกลายเป็นเชลยจากการแพ้สงคราม

“คนมากเช่นนี้จะออกไปได้อย่างไร” ฟู่ฟู่มองดูสถานการณ์ข้างนอกพลันเปลี่ยนความคิด และมีสีหน้าเป็นกังวล นางพากันเดินและหลบอยู่มุมเสาเพื่อหาทางหนี แต่ผู้คนพลุกพล่านเช่นนี้จึงยากเกินปัญญา

เหมยลี่ใช้ความคิดโดยสายตากวาดไปมองสิ่งรอบกาย จนเจอเข้ากับนางรับใช้คนอื่นซึ่งหอบหิ้วผ้าใส่ถังตักน้ำเดินผ่านมาทางนี้พอดี

“ข้านึกออกแล้วคุณหนู” เหมยลี่พูดด้วยรอยยิ้ม รีบดึงมือนายหญิงเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนแล้วจัดการรื้อผ้าออกจากย่ามทั้งหมดมาใส่ในตะกร้าแทน

“เจี่ยเจียท่านคิดจะทำอะไร” ฟู่ฟู่ยืนมองด้วยความสงสัย

“ปกติแล้วเรือนแห่งนี้ต้องนำผ้าที่ถูกใช้แล้วไปซักยังท่าน้ำหลังเรือน ข้าว่าที่นั่นไม่มีใครสังเกตนักหรอก ย่อมมีทางหนีออกไปได้”

“แต่คุณหนูฟู่ฟู่ไม่มีทางเข้าไปในที่นั่น มันจะผิดสังเกตเกินไป”

“จริงด้วย” เหมยลี่ไม่ทันคิด นางลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้กำลังสมบทบาทเป็นคุณหนูฟู่ฟู่

“ถ้าอย่างนั้นเสื้อผ้าที่ข้าสวมใส่คงต้องถอดออก แล้วให้เจ้าสิ่งนี้ใส่มันแทน” เหมยลี่ชี้ไปยังหมอนบนเตียง แม้นางจะโง่เขลาแต่ก็คิดแก้ปัญญาได้จากการที่นางเคยเล่นซ่อนหากับคุณหนูฟู่ฟู่มาตั้งแต่เด็ก

“เป็นความคิดที่ดียิ่งนัก มาข้าช่วย”

ทั้งสองช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมยลี่อีกหน ในครั้งนี้หญิงอัปลักษณ์กลับมาสวมใส่เสื้อผ้าสาวใช้ตามเคย และจัดเสื้อผ้าสวมไว้กับหมอน ก่อนห่มมันด้วยผ้าห่มผืนหนา

“เจี่ยเจียท่านเอาตราประจำตระกูลข้าไปด้วย” คุณหนูฟู่ฟู่ยื่นตราประจำตระกูลให้

“คุณหนูไม่เก็บไว้หรอกรึ”

“ไม่ได้ หากใครรู้ว่าเป็นข้า คงได้ถูกจับไปแต่งงานกับท่านแม่ทัพเป็นแน่ ข้าจึงอยากฝากท่านไว้”

“ข้าจะรับไว้”

เหมยลี่จับมาเหน็บไว้ข้างเอว ก่อนหิ้วตะกร้าใบใหญ่เดินออกไปพร้อมสาวใช้อีกคนที่ปลอมตัวหนีไปด้วยกัน

สองนางเดินย่างกายออกมาอย่างไม่มีพิรุธ ใบหน้าของทั้งสองถูกคลุมไว้จนเห็นแค่ดวงตา เดินผ่านผู้คนไปตามทางด้วยใจหวาดหวั่น

“เดี๋ยว พวกเจ้าจะไปที่ใด” ทหารนายหนึ่งพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาช่างดุดันจนคุณหนูฟู่ฟู่ต้องเดินไปหลบอยู่หลังเหมยลี่

“พวกข้าจะไปซักผ้า ท่านมีตาหามีแววไม่” เหมยลี่ต่อปากต่อคำ

“ซักผ้า แล้วทำไมต้องคลุมหน้า” ทหารนายนี้ไม่ยอมปล่อยทั้งสองไปง่าย ๆ

“นี่อย่างไรเล่า ท่านคงขยาดอยู่ไม่น้อยใช่รึไม่” เหมยลี่ดึงผ้าออกเพื่อเผยให้เห็นใบหน้าแสนอัปลักษณ์ของนาง ครั้งทหารนายนี้ได้เห็นพลันมีสีหน้ายู่ยี่คล้ายรังเกียจและถอยหนีไปครึ่งก้าว

“พวกข้าสองคนไปซักผ้าได้รึยัง” สาวรับใช้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน ทั้งที่ในใจกลัวอยู่ไม่น้อย “ไปกันเถอะ” ก่อนสะกิดฟู่ฟู่ให้รีบเดินตามกันไป

สองนางเดินฝ่าผู้คนจนมาถึงท่าน้ำโดยมีเหล่าสาวรับใช้กำลังซักผ้า และอาบน้ำอยู่ตรงนี้

“คุณหนู” เหมยลี่ดึงข้อมือให้สตรีผู้น้อยหลบอยู่หลังพุ่มหญ้า

“เราจะให้ผู้ใดเห็นไม่ได้” สาวรับใช้พูดพร้อมเก็บผ้าในตะกร้าใส่ไว้ในย่ามตามเดิม

“เจี่ยเจียท่านรู้รึว่าจะหนีไปทางใด”

“คงต้องปีนกำแพง”

“แต่ตรงนั้นมีคนชุมนัก” ฟู่ฟู่มองไปยังกำแพงสูงซึ่งมีสาวรับใช้ยืนตากผ้าอยู่

“อีกทาง ทางนั้นต่างหากคุณหนู” เหมลลี่ชี้ไปยังทางที่รกร้าง

“จำได้รึไม่ เมื่อยังเด็กเราทั้งสองเคยแอบไปวิ่งเล่นกัน แล้วโดนโบยไปตั้งหลายครั้ง”

“ข้าจำได้แล้ว ที่ตรงนั้นมิมีผู้ใดเดินผ่านแน่ ๆ” ฟู่ฟู่ยิ้ม แล้วพากันวิ่งหลบไปยังทางรกร้างไร้ผู้คนทันที

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 78 ข้าขอใช้ชีวิตบั้นปลายกับเจ้า

    เซียวจ้านวางเป่าเป้ยที่หลับใหลบนเตียงนุ่ม วันนี้บุตรสาวของพวกเขาได้ออกไปเที่ยวเล่นจนเหนื่อยยังไม่ทันได้กลับถึงเรือนก็ผล็อยหลับไปเสียแล้วสายตาเฉี่ยวมองภรรยาอันเป็นที่รักกำลังส่งยิ้มหวานมาให้เขา มือใหญ่จึงกุมมือเรียวไว้หลวม ๆ“เจ้ายังกังวลเรื่องมู่หยางอยู่รึไม่” เซียวจ้านรู้อยู่แก่ใจว่ามู่หยางเป็นบิดาแท้ ๆ ของเป่าเป้ย เขาคิดว่าลี่หลินกำลังคิดกังวลเรื่องนี้อยู่“ข้ามิมีสิ่งใดต้องกังวล”ลี่หลินยังคงยิ้ม ถึงแม้ความจริงที่ว่านี้อาจถูกเปิดเผยเข้าสักวัน แต่แล้วเยี่ยงไรเล่าบิดาที่แสนอำมหิตเช่นนั้นมิควรเข้ามาข้องเกี่ยวกับเป่าเป้ยอีก นางมิอยากให้ใจดวงน้อยที่แสนบริสุทธิ์ต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องนี้“ข้าจักมิบอกความจริงเรื่องนี้” ความลับนี้มันควรตายไปพร้อมกับเหมยลี่ “ท่านพี่จะยังเป็นบิดาของเป่าเป้ย”เซียวจ้านยิ้ม “ข้าสัญญา”ทั้งสองสบตากันหวานซึ้ง ท่ามกลางความเงียบที่กระตุ้นหัวใจให้เต้นแรง ความหวั่นไหวที่เกิดจากรักนำพาให้เซียวจ้านดึงภรรยาอันเป็นที่รักยิ่งเข้าไปกอดไว้“เราสองคนจักอยู่เยี่ยงนี้ไปจนแก่”คำมั่นสัญญาที่ตรึงใจลี่หลินไว้ นางมิอาจหนีหายไปที่ใดได้เลย แม้จักมีสิ่งใดมาขวางความรักนี้นางก็มิยินดี

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 77 จบสิ้นเสียทีเถิด

    ทั้งเหมยลี่และเซียวจ้านต่างตกใจที่เห็นมู่หยางในวันนี้ คนเป็นสามีรีบเดินมาขวางกั้นกลางระหว่างทั้งสองไว้ เขาจะมิยอมให้มู่หยางมาพรากภรรยาของเขาไปโดยง่าย ดวงตาเฉี่ยวจ้องเขม็งไปยังอดีตสหายพร้อมจับตัวบุตรสาวอันเป็นที่รักไว้แน่นลี่หลินเห็นดังนั้นจึงจับมือประสานเซียวจ้านไว้ นางอยากจบเรื่องนี้ แล้วใช้ชีวิตอย่างมิต้องหวาดระแวงว่าจักมีผู้ใดมาแยกครอบครัวอันเป็นที่รักของนางไป“ข้ามิใช่เหมยลี่ของท่าน ข้าคือลี่หลินต่างหาก” ลี่หลินจึงเลือกพูดความจริงต่อหน้ามู่หยาง“เจ้าอย่าคิดมาทำอะไรภรรยาข้าได้” เซียวจ้านพูดคิ้วของมู่หยางขมวดเป็นปม เขามิเข้าใจสิ่งที่เหมยลี่พูดเมื่อครู่ พลางมองไปยังพวกเขาที่สวมชุดแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอย่างชาวบ้านธรรมดา มิมีเครื่องประดับใด ๆ ทั้งสีและเนื้อผ้าที่มิได้มีราคาแพงยิ่งตกใจว่าเหตุใดสหายที่สูงศักดิ์ถึงได้ลดตัวลงมาอยู่กับหญิงอัปลักษณ์ได้“ไม่เจอกันนานเลยนะคุณชายเซียวจ้าน ข้ามิคิดว่าคุณชายเยี่ยงเจ้าจักมาใช้ชีวิตซอมซ่อเช่นนี้”“หึ ชีวิตที่ข้าเลือกเองย่อมมีความสุขดี ข้ามิจำเป็นต้องมีเรือนใหญ่โต หรือทำงานราชการใด ๆ แค่มีภรรยากับลูกที่ข้ารักอยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว”สิ่งที่เซียวจ

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 76 เป่าเป้ย

    ท่านแม่ทัพใจว้าวุ่นนั่งใช้ความคิดมากมายว่าเขาควรทำเช่นไรดี สิ่งที่ติดอยู่ในใจก็ยังต้องการค้นหาทางออก และอยากทวงคืนทุกคนให้กลับมาอยู่ข้างกายโดยมิคิดมีสำนึกต่อสิ่งใด เพราะคนที่แข็งกระด้างเยี่ยงเขายังมิเคยเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงเลยสักนิด มีเพียงแต่อยากครอบครองไว้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ตนสมควรได้ผ่านไปหลายวันมู่หยางก็ได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของต้าเหนิง ทว่าเมื่อเดินทางไปถึงคนตระกูลนั้นมิได้เปิดประตูต้อนรับ เขาทำได้แต่เพียงยืนมองประตูรั้วที่ปิดสนิทด้วยใจปวดร้าว“ท่านแม่ทัพมาที่เรือนอีกแล้วเจ้าค่ะ” คนรับใช้มารายงานต้าเหนิงเหมือนทุกวันนางยังคงใจแข็งต่อมู่หยางมิเคยเปลี่ยน ใจที่แตกสลายไปแล้วจักเก็บมาติดกาวย่อมมีรอยร้าวต่อให้อีกฝ่ายคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ตรงหน้า ต้าเหนิงก็มิกลับไปอยู่ในสภาพเดิมอีก เพราะนางรักลูกเป็นอย่างมากจึงมิสามารถให้บิดาของลูกมาทำร้ายจิตใจได้อีก“ช่างประไร เจ้าก็อย่าให้ห่าวอวี่รู้”“เจ้าค่ะ”“แม่จ๋า” ห่าวอวี่บุตรชายแสนน่ารักน่าเอ็นดู วิ่งมานั่งตักมารดาพร้อมของเล่นในมือ“ว่าไงลูก”“ของเล่นใหม่ของข้า” เด็กน้อยยื่นของเล่นให้ดู“ใครให้เจ้ามา” พูดพลางลูบศีรษะบุตรชายไปด้วย“ท่านตา”

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 75 คืนอิสระให้แก่ท่าน

    “ฮื้อ แม่จ๋า” ห่าวอวี่กอดกายมารดาพร้อมร้องไห้สะอื้น ตั้งแต่จำความได้เด็กสดใสคนนี้ก็ไม่ค่อยได้เข้าใกล้บิดา ความน้อยใจจึงเกิดขึ้น“ไม่เป็นอะไรนะลูก”ต้าเหนิงสงสารบุตรชายสุดหัวใจ นางฝืนทนอยู่กับมู่หยางเพราะคำว่ารักที่มีอยู่ล้นใจ แต่พอนานไปนางเริ่มตาสว่างแล้วว่ามิว่านางจะพยายามเท่าใดสามีก็มิเคยเหลียวแลนางกับลูกเลยทั้งที่นางเป็นภรรยาเอกของตระกูลกู้แท้ ๆ แต่ถูกปฏิบัติเยี่ยงนี้จักมิให้รู้สึกคับเคืองใจได้เยี่ยงไร“ห่าวอวี่หลานย่า” ฮูหยินชิงชิงเข้ามาหา สายตาของนางมองหลานชายด้วยความสงสารเด็กน้อยที่ติดย่าจึงรีบวิ่งไปกอดพร้อมออดอ้อน นั่นยิ่งทำให้หญิงสูงวัยหลงเข้าไปใหญ่“ข้าขอโทษ ขอโทษนะหลานย่า” มือลูบหลังหลานเบา ๆ ในใจขุ่นเคืองยิ่งนัก พลางคิดไปว่านี่อาจเป็นเวรกรรมที่นางได้ทำไว้จึงส่งผลมาถึงห่าวอวี่ทั้งที่ไม่ผิดเช่นนี้“ท่านแม่” ต้าเหนิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ“ข้าขอพาลูกกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อข้าได้หรือไม่” และตัดสินใจอย่างดีแล้ว ในเมื่อสามีของนางไม่คิดถึงคนที่อยู่ตรงหน้ากลับคิดถึงแต่เพียงหญิงอัปลักษณ์อยู่ทุกคืนวัน นางจึงคิดจากลาไปเสียจักดีกว่าที่นางรู้เป็นเพราะนางแอบดูสามีอยู่ทุกวัน เขามักพร่ำเพ้อถ

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 74 เวลาล่วงเลย

    อุแว้ อุแว้ เสียงร้องของเป่าเป้ยดังระงมอยู่ในห้อง ลี่หลินเกือบจำไม่ได้แล้วว่านางได้คลอดบุตรสาวที่น่ารักน่าชังออกมา ในวันนั้นนางเจ็บท้องหนักจนทรมาน เซียวจ้านจึงรีบตามหมอยาให้มาทำคลอดให้โดยมีเขาจับมือให้กำลังใจแก่กันอยู่ไม่ห่าง เหมือนทารกน้อยจักเมตตาให้ความทรมานนี้อยู่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ยอมออกมาลืมตาดูโลกอย่างง่ายดาย ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง สมแล้วที่ลี่หลินดูแลถนอมมาเป็นอย่างดี “เจ้าหิวนมอีกแล้วรึ” แม่ที่เหมือนแม่บุญธรรมอย่างลี่หลินรีบอุ้มบุตรสาวตัวจ้ำม่ำมาดูดนมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มือคอยเกลี่ยน้ำตาให้แล้วแอบบีบพวงแก้มนุ่มนิ่มเหมือนก้อนแป้งไปด้วย “เกิดอันใดขึ้นรึ”ทันใดนั้นประตูห้องได้ถูกผลักออกจากฝีมือของเซียวจ้าน สีหน้าดูเป็นกังวลเดินตรงมาหาสองแม่ลูกอย่างนึกเป็นห่วง“เป่าเป้ยเพียงแค่หิวนมเท่านั้น” ลี่หลินยิ้มให้กับท่าทีเช่นนี้ของเขา เซียวจ้านดูเป็นห่วงเป็นใยทารกน้อยยิ่งกว่านางเสียอีกสายตาบุรุษมองไปยังทารกน้อยที่นอนดูดนมจากอกแม่ เขาพลันหน้าแดงและรีบหันหน้าหนีอย่างเคอะเขิน“ข้าขออภัย” เขามิได้ตั้งใจล่วงเกินลี่หลินสักนิด แต่สายตาดันไปจ้อง

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 73 ความตื่นเต้นที่รอคอย

    “อร่อยยิ่งนัก” เซียวจ้านเอ่ยชมคนงานที่พากันชิมต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้คนทำยิ้มกว้าง“ท่านว่าข้าทำขนมขายไปด้วยจักดีรึไม่” ลี่หลินพูด“เจ้าจักขยันเกินไปแล้ว ข้าคงต้องหาแม่ครัวสักคนมาช่วยเจ้าขาย”“ข้ามิได้ขยันถึงเพียงนั้นสักหน่อย ข้าทำไหวก่อนหน้านี้ข้าอยู่ในครัวของโรงเตี๊ยมเชียวนะ”“เจ้าอยากทำสิ่งใดข้าจักมิขัด เพียงแต่ให้เจ้าคลอดบุตรออกมาเสียก่อนเถิด”“เจ้าค่ะ คงอีกมินานเกินไป”“ร้านของเจ้าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เจ้าชอบมันรึไม่” เซียวจ้านพูดพลางมองไปยังร้านที่ถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดี อีกไม่ถึงวันก็เสร็จแล้ว“ร้านของท่านกับข้าต่างหาก” นางมิอาจครอบครองร้านแห่งนี้ไว้เพียงผู้เดียว เพราะเซียวจ้านเป็นผู้ลงทุนแทบทั้งหมด“สมบัติของข้าก็เหมือนเป็นของเจ้า” สายตาคมหันมามอง“จักเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไร ข้ามิใช่ภรรยาของท่านสักหน่อย” ใบหน้านวลแดงระเรื่อขึ้นทันที“เจ้าก็แต่งเข้าเรือนข้าสิ”“ข้ามิพูดกับท่านแล้ว ข้าไปพักผ่อนสักประเดี๋ยวจักดีกว่า” ลี่หลินเลี่ยงที่จะพูดต่อ นางจึงลุกขึ้น“ข้าพาเจ้าไป” เซียวจ้านรีบลุกตามพร้อมประคองนางไปด้วยเขาได้พานางมาจนถึงเตียง ลี่หลินมองบุรุษตรงหน้าที่ดูแลกันเป็น

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status