หลังมาถึงหมู่บ้านหนิงไค่แล้ว หนิงซวนหยวนแวะที่บ้านผู้ใหญ่บ้านก่อน เขายังไม่รู้ว่าบ้านเดิมของเขายังว่างอยู่หรือไม่
“สวัสดีท่านผู้ใหญ่บ้าน ข้าหนิงซวนหยวนที่ส่งจดหมายมาหาท่านก่อนหน้านี้ ไม่ทราบท่านได้ตรวจดูบ้านเก่าให้ข้าหรือยัง”
ผู้ใหญ่บ้านมองคนตรงหน้าที่แต่งตัวดีเหมือนขุนนางในเมือง เขาได้แต่ตกใจจนไม่คิดว่าจะมีคนเช่นนี้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านตระกูลหนิง แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี
“บ้านเดิมของท่านผุพังไปหมดแล้วขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะจัดการสร้างใหม่หรือทำอย่างไร ส่วนที่ดินของท่านที่ขอซื้อเพิ่มรอบ ๆ บ้านนั้นข้าจัดการให้ท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ”
ผู้ใหญ่บ้านมอบตั๋วเงินที่เหลือให้กับหนิงซวนหยวนอย่างซื่อสัตย์ เขาไม่กล้าที่จะยักยอกเงินขุนนางใหญ่เช่นนี้หรอก
“เจ้ามีใครพอจะแนะนำให้ข้าได้บ้างเรื่องสร้างเรือน ข้าจะได้จ้างช่างมาทำเสียให้เสร็จสิ้น”
ผู้ใหญ่บ้านแนะนำช่างที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านรวมทั้งคนในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำนาแล้วมาช่วยสร้างบ้านให้หนิงซวนหยวน ส่วนครอบครัวพวกเขาจะเช่าบ้านในหมู่บ้านอยู่ไปก่อนเพื่อรอให้บ้านเสร็จเรียบร้อย ส่วนผู้คุ้มกันที่มาด้วยเขาก็จ่ายค่าแรงให้แล้วจึงปล่อยให้พวกเขากลับไป ส่วนเรื่องทาสในเรือนเดี๋ยวเขาค่อยไปหาซื้อในเมืองมาเพิ่มได้ถ้าคนของเขาที่มาด้วยไม่พอเพียงที่จะทำงาน
ผู้ใหญ่บ้านไม่กล้าสอบถามสิ่งใดกับหนิงซวนหยวนด้วยกลัวว่าจะไปแตะเผือกร้อนเข้า เขารู้แค่ว่าหนิงซวนหยวนเป็นขุนนางเก่าแก่ที่ขอลาออกมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่หมู่บ้านนี้ซึ่งเป็นบ้านเดิมของเขาที่ไม่ได้กลับมาเยี่ยมเสียหลายสิบปีมาแล้ว โชคดีที่ผู้ใหญ่บ้านมีผังบรรพบุรุษทำให้เขาเชื่อว่าหนิงซวนหยวนเป็นคนของหมู่บ้านจริง ๆ
หนิงซวนหยวนเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านเขาเองก็ไม่ใช่คนตระหนี่ เขาให้เงินสองตำลึงกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้ช่วยเขาดูแลการสร้างเรือนใหม่ในที่ดินของพวกเขา เขายังสั่งให้ช่างทำรั้วสูงกว่าสองเมตรเพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกมาด้อม ๆ มอง ๆ เหมือนบ้านหลังอื่นอีกด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่าต้องการอยู่อย่างสงบในช่วงบั้นปลายของชีวิตกับภรรยาและหลานชาย
ช่างที่รับงานอ่านแบบแปลนที่หนิงซวนหยวนให้มาก็สอบถามเขาหลายอย่างเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ช่างในหมู่บ้านหนิงสมกับเป็นต้นกำเนิดของช่างในเมืองหลวงนัก เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าหนิงซวนหยวนต้องการสร้างบ้านเช่นไร เรื่องนี้ทำให้หนิงซวนหยวนพอใจไม่น้อย เขาบอกให้ช่างมาเบิกค่าจ้างล่วงหน้าได้ตลอด เขาขอเพียงให้ช่างเร่งทำงานออกมาโดยเร็วเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าไปอยู่อาศัยกันหลังจากได้บ้านเช่าของผู้ใหญ่บ้านแล้ว
บ่าวที่เขานำมาด้วยต่างแปลกใจว่านายท่านผู้เฒ่าจะอยู่ในที่แบบนี้ได้จริงหรือ พวกเขาไม่เคยเห็นนายท่านผู้เฒ่าเป็นเช่นนี้มาก่อน ส่วนพวกเขานั้นเป็นเพียงบ่าวในเรือนเท่านั้นจึงไม่กล้าซักถามสิ่งใด พวกเขาได้แค่ทำตามคำสั่งของนายหญิงผู้เฒ่าเท่านั้น
หนิงจิ้งกับหนิงเจิ้งเองไม่ได้สนใจว่าเรือนที่พวกเขาจะอยู่เป็นอย่างไร พวกเขาเพียงแค่รอให้เรือนสร้างเสร็จเพื่อจะได้มีห้องส่วนตัวเท่านั้นเอง
ช่างในหมู่บ้านหนิงไม่ทำให้หนิงซวนหยวนผิดหวัง เพียงแค่เดือนเดียวพวกเขาก็สร้างเรือนและล้อมรั้วทั้งหมดในพื้นที่ที่เขาซื้อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เรื่องเงินนั้นหนิงซวนหยวนเองก็จ่ายค่าจ้างให้มากโข ทำให้ชาวบ้านที่มาช่วยทำมีเงินเอาไว้ซื้อเสบียงอาหารก่อนจะถึงหน้าหนาวนี้แล้ว
หลังขึ้นบ้านใหม่กันเรียบร้อย บ่าวในเรือนต่างทำหน้าที่ของตนเองเหมือนตอนอยู่ที่เมืองหลวง พวกเขามีหน้าที่ทำอาหารและดูแลความสะอาดของเรือนทุกหลัง ส่วนเรื่องการสอนนายน้อยทั้งสองเป็นหนิงซวนหยวนที่สอนสั่งพวกเขา
หนิงจิ้งรู้ว่าท่านปู่ไม่อยากให้เขาเป็นช่างหลวงเหมือนพ่อ เขาจึงไม่ได้พูดสิ่งใดมากมายนัก พื้นที่ในเรือนก็กว้างขวางจนเขาสามารถประดิษฐ์สิ่งของตัวอย่างได้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้หนิงซวนหยวนไม่ห้ามหลานชายคนโตหากเขาชอบที่จะประดิษฐ์สิ่งของเหล่านี้เอาไว้เล่น ถึงแม้เขาจะสั่งสอนให้หลานไม่ทะเยอทะยานก็จริง แต่คนที่ชอบเรื่องนี้ไปแล้วอย่างหนิงจิ้งเขาเองก็ไม่อยากห้ามหลานชาย เขายังบอกว่าหากไม่เข้าใจที่ใดก็ให้มาสอบถามเขาได้ เขายินดีที่จะตอบเพื่อให้หลานชายมีความสุข
ส่วนหนิงเจิ้งนั้นได้รับการสั่งสอนให้ทำงานเกษตรมากกว่าหนิงจิ้งที่ชอบขลุกอยู่ในห้องของเขา หนิงเจิ้งที่ยังเด็กอยู่ก็สนุกกับการเล่นดินเล่นทรายไปตามประสาของเขา เขายังช่วยท่านปู่ปลูกสมุนไพรไม่น้อยด้วย หนิงซวนหยวนความจริงชอบเรื่องสมุนไพรมานานแล้ว เพียงแค่ไม่มีเวลามากพอที่จะทำสวนสมุนไพร ในเมื่อตอนนี้เขามีเวลาว่างเยอะแยะเขาจึงสอนหลานชายคนเล็กเรื่องสมุนไพรเสียเลย
ครอบครัวหนิงซวนหยวนไม่สุงสิงกับคนอื่นนอกจากผู้ใหญ่บ้าน หากพวกเขามีของดี ๆ เขาก็จะให้บ่าวนำไปให้กับผู้ใหญ่บ้านบ้างเช่นกัน ด้านผู้ใหญ่บ้านเองก็หาของตอบแทนให้หนิงซวนหยวนเช่นกัน เรื่องสร้างกับดักดักสัตว์บนภูเขาตอนนี้หนิงจิ้งสนใจมากเป็นพิเศษ เขาอยากล่าสัตว์เป็นเหมือนกับผู้คุ้มกันที่มาส่งพวกเขา แต่จนใจที่เขายังเด็กเขาจึงทำเป็นกับดักแทน
หนิงจิ้งยังชวนเพื่อน ๆ รุ่นราวคราวเดียวกันในหมู่บ้านไปทดสอบกับดักด้วยกัน เพราะหนิงจิ้งไม่ค่อยรู้ทิศทางจึงกลัวจะหลง เขาจึงจำเป็นต้องหาคนไปด้วยเพื่อความปลอดภัย บ่าวคนสนิทของเขาเองก็ไปด้วยตามคำสั่งนายท่านผู้เฒ่า หนิงซวนหยวนไม่ห้ามหลานชายหากเขาอยากลองสิ่งประดิษฐ์ของตนเอง เขาเพียงแต่บอกให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองให้ดีตอนขึ้นเขา หากเห็นว่ามีอันตรายก็ให้รีบหนีเสียก่อน อย่าได้เสียดายสิ่งของพวกนั้น เด็ก ๆ ต่างฟังหนิงซวนหยวนอย่างตั้งใจ พวกเขาเองก็กลัวไม่น้อยเช่นกัน แต่ก็ยังอยากลองกับดักของหนิงจิ้งอยู่ดี
สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล
วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต
ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb