เสียงของคลีฟเข้มขึ้นกว่าเดิม นิตาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวมองหน้าเขา วันนี้ที่ห้างเวสเนอร์เขาทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอ แต่ตอนนี้กลับจดจำสิ่งที่เกี่ยวกับเธอได้ อย่างน้อยก็คือชื่อเรียกที่เขาและเธอต่างคุ้นเคยระหว่างกันและกันดี
“ท่านประธานคะ...ขอโทษนะคะ...ฉัน...” เสียงของนิตาขาดหายไปเมื่อร่างสูงใหญ่สืบเท้าเข้ามาหา เขาเว้นระยะห่างที่ยืนระหว่างเธอ ใบหน้าของเขาบึ้งตึง เขาไม่ยอมแม้แต่จะจับมือของเธอ บอกเธอว่าคิดถึงหลังจากที่หายหน้าไปจากชีวิตของเธอเป็นเวลาถึงสองปี
“นีน่า...ผมไม่อนุญาตให้คุณออกไปเช่าที่อยู่ใหม่” / “เหตุผลล่ะคะ?” น้ำเสียงในคำถามนั้นเริ่มสั่นเครือ ทุกคำพูดของบุรุษตรงหน้าเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงลงไปในความรู้สึกของหญิงสาว ตอนนี้เธอกับเขาเหมือนเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่ ทั้งที่เวลาเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่มันได้ผ่านพ้นไปกว่าสองปี แต่...เขาจะระลึกมันไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำเลยเชียวหรือ
“เพราะ...ตอนนี้คุณอยู่ภายใต้สัญญาการเป็นลูกจ้าง...ของผม” เขากล่าวออกมาเสียงแผ่วต่ำ หญิงสาวเลิกคิ้ว
“เหรอคะ...แล้วถ้าฉันไม่ใช่ลูกจ้างของคุณฉันก็คงออกไปหาที่เช่าอยู่ใหม่ได้อย่างนั้นซีนะคะ”
“นีน่า...บอกแล้วยังไงว่าผมไม่ให้คุณไปไหน!” เสียงตะคอกที่ดังขึ้นในฉับพลันและมือหนาหนักที่คว้ามือเรียวบางข้างหนึ่งของหญิงสาวที่กำลังจะหันหลังให้ไปกุมไว้แน่นทำให้เธอตกใจตัวสั่นเหมือนลูกนก นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายดุจแซฟไฟร์คู่นั้นกำลังสะท้อนบางอย่างที่หญิงสาวไม่เข้าใจ
“คลีฟ...” นิตาแทบไม่กล้ามองหน้าเขา เกิดอะไรขึ้นกับบุรุษตรงหน้า เกิดอะไรขึ้นกับเขาอย่างนั้นหรือ ในห้วงเวลาสองปีที่เขาห่างหายไปจากชีวิตของเธอมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของคลีฟที่เธอไม่รู้ รอบเบ้าตาของหญิงสาวเริ่มมีรอยรื้นน้ำ ทำอย่างไรเธอถึงจะบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ได้เสียที แล้วหญิงสาวก็ตัดสินใจในฉับพลันที่จะลองขัดคำสั่งของเขา ร่างบางสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมเพื่อหันไปคว้ากระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นมา ในวินาทีนั้นเองคลีฟก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้และฉุนเฉียวหนักต่อการทำตัวเป็นปฏิปักษ์ของหญิงสาว คราวนี้เขาจับไหล่บางของนิตาแล้วดึงเข้าหาอกกว้างอย่างรวดเร็ว มือหนาหนักบีบที่ไหล่เล็กบางแน่นและความปวดร้าวที่แขนทำให้หญิงสาวถึงกับต้องปล่อยกระเป๋าที่กุมไว้หล่นลงบนพื้น
“นีน่า...นี่คุณจะทำอะไร!” ชายหนุ่มคำรามเสียงใส่ซึ่งมันทำให้นิตายิ่งตกใจ คลีฟไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้กับเธอ นัยน์ตาของเขาขุ่นมัวเหมือนน้ำที่กำลังข้นคลั่ก
“คลีฟ...โอ๊ย!...ปล่อยฉันนะคะ!”
“นีน่า...ผมไม่ให้คุณไปไหน ทำไมคุณต้องขัดคำสั่งของผมด้วย”
“คลีฟ...ปล่อยนะ...ฉันเจ็บ...ฉันเจ็บ!”
เสียงกรีดร้องของนิตาไม่ได้ทำให้คลีฟหยุดตัวเองที่จะปลดปล่อยอารมณ์อันรุนแรงซึ่งมันหลีกเร้นอยู่ในส่วนลึก มันกำลังสำแดงออกมาโดยที่ชายหนุ่มแทบไม่รู้ตัวจนกระทั่งหญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาอีกครั้ง
“คลีฟ!” เสียงร้องไห้ของนิตาราวกับปลายมีดบาดเข้าไปในสติที่ปราศจากการควบคุมของชายหนุ่ม ดูราวกับเขาพึ่งรู้สึกตัวและมันทำให้อารมณ์กราดเกรี้ยวของเขาค่อย ๆ ผ่อนลงจนสีหน้าที่ดุดันนั้นเปลี่ยนไป มือที่บีบไหล่บางไว้จนหญิงสาวเจ็บปวดแทบทนไม่ไหวค่อย ๆ คลายออกแต่กลับเลื่อนลงมากอบกุมข้อมือเล็กเอาไว้ นัยน์ตาของเขามีประกายสำนึกผิดทว่ามันก็วูบไหวขึ้นมาเพียงชั่วขณะก่อนที่จะปลาสนาการไปจนหมดสิ้น
“ปล่อยค่ะ...กรุณาปล่อย...คุณไม่ใช่คลีฟคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักอีกแล้ว!”
นิตาบิดข้อมือที่เขากุมมันไว้และบีบแน่นจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ และเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าและแววตาของเขาเปลี่ยนไปก่อนที่มือหนาใหญ่จะค่อย ๆ คลายออกและปล่อยให้มือเรียวบางเป็นอิสระ หญิงสาวถอยห่างจากเขาด้วยความหวั่นกลัว เธอไม่คิดจะเก็บกระเป๋าที่หล่นบนพื้นขึ้นมาอีกแต่กลับหันหลังให้ แต่แล้วเสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้เธอหยุดชะงักอีกครั้ง
“ผมยังเป็นคนเดิม...นีน่า...ตัวผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากนี้”
“ผมจะบอกอะไรให้นะ ที่รัก” เขาเชยคางของเธอขึ้น ดวงหน้าแสนงามเปื้อนด้วยคราบน้ำตาและสาบานได้ว่าเขาจะไม่ยอมให้เธอต้องเสียใจอีกแล้ว“พอผมรู้ว่าไดแอนดราคิดจะทำอะไร ผมก็ตัดสินใจได้ในทันทีเหมือนกันว่าผมต้องทำอะไรบ้าง ผมสั่งแองเจิ้ลให้ส่งเทียบเชิญลูกค้าและแขกคนสำคัญของผมภายในวันนั้น เชิญนักข่าวจากสื่อต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขามาร่วมงานแถลงข่าวเปิดห้างใหม่ของเวสเนอร์ ดูเป็นงานที่เร่งรีบไปหน่อยแต่มันเป็นแค่จุดประสงค์รองของผมเท่านั้น ความตั้งใจของผมคือการทำตามความต้องการของไดแอนดรา”“คลีฟ...”“ในเมื่อไดแอนดรากล้าที่จะเอาเรื่องของผมมาต่อรองกับคุณ ผมก็กล้าพอที่จะเปิดเผยเรื่องราวทุกอย่างด้วยตัวผมเองเช่นกัน ผมเคยบอกคุณแล้วยังไงนีน่าว่าไดแอนดรายังไม่รู้จักผมดีพอ ถ้าเธอรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมก็บ้าพอที่จะยอมแลกความเจ็บปวดกับทุกอย่าง”“ฉันรู้ค่ะ คลีฟ...ฉันรู้ค่ะ” “และรู้มั้ยว่า...งานวันนี้ผมตั้งใจจะจัดมันขึ้น...เพื่อคุณ”ชายหนุ่มแนบริมฝีปากบนแก้มของหญิงสาว นิตาเงยหน้ารับจุมพิตของเขาเสมือนว่ามันได้ซับน้ำตาของเธอจนแห้งเหือดไปสิ้น“นีน่า...ผมเคยทำผิดต่อคุณไว้มาก ผมทอดทิ้งคุณ ทำให้คุณเจ็บปวดด้วยคำพูดและการกระทำที่ไ
เขาส่ายหน้า “พี่รักเธอเสมอไดแอนดรา...ถ้าหากเธอจะเข้าใจตัวเองมากกว่านี้ หัวใจของคลีฟไม่ได้เป็นของเธอตั้งแต่แรก ยอมรับเถอะว่าเธอไม่สามารถแทนที่นิต้าได้เพราะนิต้า...คือหัวใจของเขา” ไดแอนดราแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่หากแต่เธอก็ต้องสะกดมันไว้ด้วยนิสัยที่ไม่เคยยอมใครแม้จะผิดหวังก็ต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นแม้แต่พี่ชายตัวเอง ร่างระหงเดินเฉียดไหล่ลอว์สันกลับออกไปจากห้องนั้นในขณะที่ชายหนุ่มหันกลับไปมองชายหญิงทั้งสองที่กอดเกี่ยวกันท่ามกลางแขกเหรื่อและแสงแฟลชจากกล้องของเหล่ากองทัพสื่อที่พร้อมใจกันถ่ายภาพเพื่อจะลงข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น หรือไม่ก็อาจจะเป็นอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้ ข่าวเบื้องหลังของประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์และภรรยาตัวจริงของเขาจะถูกเผยแพร่ออกไปทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค และไม่ว่ามันจะได้รับผลตอบกลับมาในแง่ดีหรือร้าย ลอว์สันก็คิดว่าเพื่อนของเขาคงเตรียมใจรับไว้อย่างดีแล้ว เพราะอย่างน้อยตอนนี้คลีฟก็ไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป เขามี เพื่อน คู่คิดที่จะคอยร่วมเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่คลีฟ เวสเนอร์ใช้หัวใจของเขาเลือกเดินForever Romantic นิตายืนมองภาพบรรยากาศอันขมุกขมัว
“ทุกท่านได้ยินไม่ผิดหรอกครับ ผมเคยจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เมืองไทยก่อนจะเดินทางกลับมาสหรัฐเพื่อเข้าร่วมรบในสงครามประเทศตะวันออกกลาง และพอหลังจากโดนระเบิดผมต้องรักษาตัวอยู่นานเกือบปีกว่าจะหายเป็นปกติ หลังจากนั้นผมก็เข้ารับตำแหน่งประธานเวสเนอร์ กรุ๊ป ตามเจตจำนงในพินัยกรรมของคุณพ่อบุญธรรมก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ตอนนั้นพอผมรู้ว่าตัวเองป่วยผมก็พยายามตัดใจลืมเธอ ผมไม่ได้กลับไปหาเธอที่เมืองไทยด้วยเหตุผลที่ว่า...ผมไม่อยากทำให้เธอเจ็บปวดเพราะอาการป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด เรื่องนี้ไม่เคยมีใครรู้...แต่...ผมอยากบอกว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทอดทิ้งเธอ...ผู้หญิงที่ผมรักเธอมากที่สุดในชีวิต” เขาก้าวเดินเข้าไปหาหญิงสาวในชุดราตรียาวสีขาวที่ยังนั่งนิ่งท่ามกลางสายตานับร้อยคู่รวมทั้งคนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างก็ประหลาดไปตาม ๆ กัน“ผมอาจจะเคยเป็นทหารกล้าในสนามรบ ผมเคยเจอกับยุทธวิธีการโจมตีหลากหลายรูปแบบโดยไม่นึกกลัว แต่ผมกลับเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุดสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรักผมและยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อผม ผมปล่อยให้เธอต้องอยู่อย่างเดียวดายหลังจากที่เราจดทะเบียนสมรสกันได้แค่เพียงเดือนเดียว ผมจากเธอมาเพราะภาระหน
“ผมคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ได้ยินเสียงเพื่อนทหารด้วยกันตะโกนลั่น และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกพามารักษาตัวอย่างเร่งด่วนที่นิวยอร์ค เวลาผ่านไปเกือบปี หลังบาดเจ็บสาหัสจากระเบิดผมต้องรักษาบาดแผลภายนอกที่มันค่อย ๆ สมานตัวและหายไปในที่สุด แต่บาดแผลข้างในบาดลึกและเป็นแผลฉกรรจ์ที่ผมมองไม่เห็น ตอนแรกผมละเลยและคิดว่ามันแค่อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ ก็แค่นอนไม่หลับ เห็นภาพเหตุการณ์ระเบิดแบบเลวร้ายซ้ำ ๆ แต่มันไม่ได้มีเพียงแค่นั้น จนกระทั่งผมตัดสินใจที่จะ...เข้ารับการบำบัดอาการป่วยที่มองไม่เห็นที่ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศด้านวีรกรรมแห่งชาติในบีเทสดา” พอเขาพูดจบเสียงภายในห้องนั้นก็อื้ออึงขึ้นมา และคนที่ตระหนกต่อคำสารภาพต่อหน้าสาธารณชนนั้นก็คือนิตาที่มองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อว่าประธานใหญ่แห่งเวสเนอร์จะกล้าพูด“ผมเข้ารับบำบัดอาการป่วยที่นั่นอยู่เกือบปี ผมเดินทางไปบีเทสดาซึ่งในช่วงระยะเวลานั้นผมก็สานต่องานบริษัทของคุณพ่อบุญธรรมไปพร้อม ๆ กันด้วย และนี่คือหลักฐานการเข้าบำบัดของผมที่นั่น มันเป็นการใช้ศิลปะบำบัดเพื่อช่วยให้อาการป่วยภายในที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกผ่อนคลายลง” เสียงอ
ทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองรวมไปถึงผู้คนในแวดวงสังคมดัง ๆ และหนึ่งในนั้นคือเจ้าของร่างเล็กบอบบางในชุดราตรียาวสีขาวซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางแขกคนสำคัญที่โต๊ะด้านหน้าเวที นิตารู้สึกประหม่า เธอกุมกระเป๋าคลัชต์ใบเล็กไว้ในมือและบีบมันแน่นตลอดเวลาเหมือนหัวใจของเธอตอนนี้ที่ถูกบีบคั้นด้วยความตึงเครียดภายใน เธอหายใจขัดและตื่นเต้น บอดี้การ์ดของคลีฟพาเธอมานั่งที่โต๊ะเลี้ยงรับรองแขกซึ่งอยู่ชิดขอบเวที หญิงสาวเหลือบมองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาของบุรุษวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ และคิดหาทางที่จะออกจากห้องนี้โดยไม่ให้เป็นที่สังเกตของทั้งเชสและไนเจอร์ กระทั่งเสียงรอบ ๆ ห้องนั้นเงียบสงบลงและเสียงทุ้มห้าวของบุรุษคนสำคัญบนเวทีดังขึ้น นิตาเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ซึ่งเขายืนอยู่หลังไมค์โดยไม่ยอมนั่งที่โต๊ะซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเอาไว้“สวัสดีครับ ท่านสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผม...คลีฟ เวสเนอร์ ประธานคณะกรรมการผู้บริหารเวสเนอร์ กรุ๊ป มีความยินดีอย่างยิ่งในวันนี้ที่เรียนเชิญทุกท่านมาเป็นเกียรติให้แก่งานแถลงข่าวการเปิดห้างใหม่ของเวสเนอร์ ซึ่งเราจะดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในอีกสามเดือนข้างหน้า...อาจดูเร็วไป
“ผมเต็มใจเสมอ นิต้า...ขอให้บอกมา ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน แค่คุณบอกหรือแค่คิดถึงผมก็ยินดีที่จะตามไปช่วยเหลือคุณ”หญิงสาวเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หากเธอต้องเข้มแข็ง อย่าให้ลอว์สันจับสังเกตและเห็นความผิดปกติในตอนนี้ เพราะหากเขารู้คลีฟก็จะต้องรู้สิ่งที่เธอคิดด้วย“ฉันขอเข้าไปในงานก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวคลีฟคงเดินทางมาถึงแล้ว” “ตามสบายนิต้า แล้วเดี๋ยวผมจะตามไป” ลอว์สันกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองตามร่างเล็กในชุดราตรียาวแสนสวยเดินเข้าไปในกลุ่มคนที่แทบไม่มีใครสังเกตว่านิตาคือใครและมีหน้าที่อะไรในงานแถลงข่าวใหญ่ครั้งนี้ แม้จะรู้สึกแปลกใจหากลอว์สันก็ไม่ได้เปิดปากถามว่าเหตุใด เธอจึงไม่เดินทางมาที่งานพร้อมสามีของเธอ ชายหนุ่มกำลังจะก้าวตามไปหากก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ที่ซุ้มดอกไม้อีกด้านของสถานที่จัดงานซึ่งเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย“ไดแอนดรา” เขาเรียกน้องสาวคนเดียวซึ่งวันนี้เธออยู่ในชุดกระโปรงรัดรูปผ้าทวีดสีชมพูขับผิวขาวของเซเลบสาวให้เปล่งปลั่งหากก็เป็นความงามของเธอตามปกติอยู่แล้ว ไดแอนดราหันมามองพี่ชายของเธอพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่สำหรับลอว์สันเขาไม่ได้รู้สึกไปเองว่ามันไม่ใช่รอยยิ้มที่ม