แสงไฟสีขาวนวลในห้องตรวจส่องกระทบใบหน้าของ หมอคฑา เขานั่งเงียบอยู่หลังโต๊ะทำงานมือข้างหนึ่งถือปากกา อีกข้างหมุนแฟ้มประวัติของคนไข้ไปมาโดยไม่ได้ตั้งใจ สายตาเหม่อลอยไปยังนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ดูเวิ้งว้างว่างเปล่า ไม่ต่างจากหัวใจของเขาเสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงเขากลับมาสู่ปัจจุบัน
คืนนี้เขาเข้าเวรแทนหมออีกคนที่ขอลาพักร้อนไปพักผ่อนกับภรรยา เขาจึงรับหน้าที่นี้ดูแลแทน
“อาจารย์เหลือคนไข้อีก 1 รายค่ะ” พยาบาลสาวโผล่หน้าเข้ามา “เคสตรวจครรภ์รายสุดท้ายรออยู่ค่ะ”
คฑาเม้มริมฝีปากแน่น ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นผ่านหัวใจทุกครั้งที่เขาต้องดูแลคนไข้ที่กำลังจะเป็นแม่ เขาไม่ได้เกลียดเด็ก แต่เขาเชื่อหมดใจว่าการเกิดมาบนโลกนี้ ไม่ได้แปลว่าจะได้รับความรักเสมอไป
และภาพในอดีตฉายซ้อนขึ้นมาในหัว...
เขาจำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยนั่งรอแม่กลับบ้าน รอแล้วรอเล่าจนสุดท้ายคุณย่าต้องเป็นคนอุ้มเขาเข้านอนพร้อมคำโกหกที่แสนอ่อนโยน
“แม่เมไปทำงาน เดี๋ยวก็กลับมาแล้วลูก”
แต่แม่ไม่เคยกลับมาอีกเลย พ่อเองก็เช่นกันหลังจากแม่จากไปได้ไม่นาน พ่อก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิต เขาถูกทิ้งให้อยู่กับคุณย่า การแต่งงานของพ่อแม่คืออะไรสุดท้ายก็แค่พันธะจอมปลอมที่ไม่มีอะไรยึดโยงกันจริงๆ
เขาเกลียดการแต่งงาน
และเขาไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องเกิดมาเพื่อสัมผัสความว่างเปล่าแบบที่เขาเคยเผชิญ
“อาจารย์คะ?” พยาบาลเรียกอีกครั้ง
คฑากะพริบตา ไล่ภาพอดีตออกจากหัว “ส่งคนไข้เข้ามาได้เลย” เขาดึงหน้ากากความเย็นชา กลับมาสวมใส่ใหม่อีกครั้ง
.
เขากลับมาที่เพ้นท์เฮาส์อีกครั้งตอนเกือบตีสี่ เขาอยากกลับมาขอโทษที่พูดจาไม่ดีกับอัยย์ญาดา พอเปิดประตูห้องนอนหัวใจของเขากระตุกเต้นระรัว
เธอไปแล้ว...อัยย์ญาดาไปจากชีวิตเขาแล้ว
เขาอ่านจดหมายที่มีรอยเปื้อนคราบน้ำตาของหญิงสาว เขาเป็นหมอน่าจะรู้ดีที่สุดว่าไม่มีการปกป้องกันใดที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
หากท้องกับเขาจริงจะหนีทำไม นอกจากจะท้องกับคนอื่นแล้วกลัวเขาจับได้ เลยต้องรีบไปจากเขาสุดท้ายชีวิตเขาก็พบเจอแต่ผู้หญิงที่เหมือนผู้ให้กำเนิด
หมออรรควางนาฬิกาไว้บนโต๊ะ สภาพเพื่อนของเขาแทบดูไม้ได้เหมือนไม่ได้นอนมาเป็นเดือน
“อัยเอานาฬิกามาขายให้ฉัน ฉันเงินให้เงินเธอติดตัวไปก้อนหนึ่ง” เขาผิดหวังในตัวเพื่อนมากนั่นลูกกับเมียยังผลักไสไล่ส่งได้ลงคอ
“...” คฑามองด้วยความว่างเปล่าเขาสับสน แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่มั่นใจว่าลูกในท้องของอัยย์ญาดาเป็นลูกของเขา
“อัยไม่ได้ทำแท้งนะ เธอเข้มแข็งมากที่จะเก็บลูกเอาไว้ แล้วนายเลิกคิดถึงไอ้ปมบ้าๆ เรื่องครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เสียที ไม่อย่างนั้นนายจะอยู่คนเดียวไปจนตาย อีกอย่างลูกของนาย น่าจะน่ารักนะ เพราะแม่สวยและน่ารัก อีกอย่างถึงนายไม่เลือกอัย สักวันจะมีผู้ชายคนอื่นมารับเลี้ยงเธอ”
เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเพื่อนตำหนิ อัยย์ญาดาสวยมากเขาสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น หกเดือนที่อยู่ด้วยกันเขามีความสุขมาก
“จ่ายเงินมา 1 แสน”
“1 แสนเองเหรอวะ” เขาคิดว่ามันจะยอมให้เงินหญิงสาวไปสักล้าน ถึงกลับมาทวงเขายินดีที่จะจ่ายคืน
“เธอขอกูแค่นี้”
คฑากดโอนเงินให้อรรคทันที เขากลับเป็นคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต พอกลับเพ้นท์เฮส์ก็ไม่เจออัยย์ญาดาคอยทำอาหารรอ เขาจึงพักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ยอมกลับบ้านเพราะไม่อยากคิดถึงใบหน้าของหญิงสาว
มันติดค้างอยู่ในใจของคฑา เพราะเอาจริงๆ เขาก็มีใจรักให้กับอัยย์ญาดา แต่เขากลัวต่างหากที่จะถูกเธอทอดทิ้ง แต่สุดท้าย ความใจดำของเขาก็ทำให้เธอหนีไปอยู่ดี
.
อัยย์ญษดานั่งมองลูกชายวัยสามเดือนที่หลับอยู่บนฟูก ยิ่งมีลูกเธอยิ่งต้องลุกขึ้นมาสู้ โชคดีวันที่ออกมาเธอได้เจอกับพี่สาวคนสวยที่ใจดีคอยดูแลและให้งานเธอทำจนคลอดลูก
น้องคชา เด็กชายคชาภัทร ใบหน้าคล้ายคนเป็นพ่อมากกว่าเธอเสียอีก เมื่อคิดย้อนกลับไปหากเธอยอมทำแท้ง คงรู้สึกผิดตลอดชีวิต
“แอ้ แอ้” เด็กน้อยดูดปากเสียงดังแจ๊บๆ บอกว่ากำลังหิว
พอเธอให้ดื่มนมจากขวดกลับไม่ยอม ส่ายหน้าร้องจะกินจากเต้าเท่านั้น อัยย์ญาดาจึงอุ้มลูกขึ้นแนบอกเปิดเสื้อ ไม่ลืมจะเช็ดทำความสะอาดเต้านมก่อน
พอได้สิ่งที่ต้องการเด็กน้อยก็ดูดนมไม่พัก มีบางครั้งที่เหนื่อยจึงหยุด
“เริ่มกินเก่งแล้วนะเรา”
“แอ้”
“ยังจะเถียงอีกนะ”
เธอเขี่ยแก้มลูกชายด้วยความเอ็นดู ยิ่งมองหน้าเขาคิดถึงผู้ชายใจร้ายคนนั้น แต่เธอไม่มีทางที่จะหอบลูกกลับไปหาเขาอีก
ยามค่ำคืนอัยย์ญาดาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องไห้ของลูก เธออุ้มลูกน้อยขึ้นแนบอก มือข้างหนึ่งโยกตัวเขาเบาๆ ส่วนอีกมือเอื้อมหยิบขวดนมที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ เธอพยายามกล่อมเขาด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา
“แม่อยู่นี่ไม่ร้องนะลูก”
แต่เสียงสะอื้นของเจ้าตัวเล็กยังไม่หยุดลงง่ายๆ เปลือกตาบางๆ ของเขาแดงก่ำจากน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย เมธาวีเม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าลูกคงง่วงแต่ไม่ยอมนอน และเธอเองก็เหนื่อยเหลือเกิน
เธอเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนังตีสองกว่าแล้ว
ร่างกายเธอล้าเหมือนจะขาดเป็นเสี่ยงๆ วันนี้เธอต้องทำงานเกือบแปดชั่วโมงกว่าจะกลับมาถึงบ้านหุงข้าวซักผ้า ก็ตกดึกพอดียังไม่ทันได้นอนสนิทดี ลูกก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้อีก
เธอไม่ได้ร้องไห้มานานแค่ไหนแล้วนะ?
บางครั้งเธอเองก็อยากจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน แต่เธอรู้ว่าเธอไม่มีเวลาสำหรับความอ่อนแอ...
ในขณะที่น้ำตาเจ้าตัวเล็กเริ่มซาลง เสียงหายใจหอบๆ ค่อย ๆ แผ่วลงอัยย์ญาดาจูบลงบนหน้าผากของลูกอย่างแผ่วเบา แม้ความเหนื่อยล้าจะกัดกินไปทั้งร่าง แต่หัวใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความรัก
“หลับฝันดีนะลูกแม่จะอยู่ตรงนี้เสมอ”
ตอนเช้าชนิตามาช่วยดูแลน้องคชา เมื่อวานที่ร้านขายดอกไม้ลูกค้าแน่นจนทำให้อัยย์ญาดาต้องกลับบ้านช้า วันนี้จึงอาสามาช่วยเลี้ยงลูก
“ไอ้ตัวแสบเล่นงานมาเหรอ”
“ใช่ค่ะเล่นเอาไม่ได้นอนเลย”
“วันนี้ไม่ต้องเข้าร้านนะพักผ่อนไป” ชนิตาชอบเด็กเพราะเธอไม่สามารถมีลูกได้ คุยกับสามีว่าจะรับเด็กมาเลี้ยง แต่กลับเจออัยย์ญาดาเสียก่อน
“หน้าตาดีผิวพรรณดีมากเนาะหลานป้าตา”
อัยย์ญาดาไม่เคยบอกชนิตาว่าพ่อของลูกคือใคร บอกแค่ว่าทั้งสองเลิกรากันไปแล้วด้วยความไม่เข้าใจกัน ตั้งแต่นั้นมาชนิตาเลยไม่ถามอีก
“คุณปีเตอร์กลับมาต้องหลงมากแน่” เธอกับสามีรับเป็นพ่อแม่ทูนหัวให้น้องคชา
“ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูน้องคชา” โลกยังพอใจดีกับเธออยู่บ้างที่ส่งคนดีๆ มาอยู่รอบตัว
“การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่น่ากลัวเลยนะ...เป็นผู้หญิงที่น่ายกย่องมาก” ชนิตาเห็นหญิงสาวร้องไห้บ่อย อาจจะเหนื่อยและอ้างว้าง ซึ่งเธอพยายามคอยปลอบใจและรักอัยย์ญาดาเหมือนน้องสาว
โดยไม่บอกว่าหมออรรคเป็นคนฝากให้เธอดูแลอัยย์ญาดาเป็นอย่าง ตอนแรกคิดว่าหมออรรคทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ พอเห็นหน้าน้องคชากลับไม่มีส่วนไหนคล้ายหมออรรคเลย
พอเธอถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขากลับไม่ยอมบอก เลยเลิกถามและเขาไม่เคยมาเยี่ยมอัยย์ญาดา หากวันไหนที่อีกฝ่ายพร้อมอาจจะบอกเธอว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“คุณแม่ขาหนูอยากเล่นน้ำแล้ว” เสียงเด็กหญิงวัยสี่ขวบดังขึ้นและวิ่งเข้ามาหาแม่ที่นั่งรออยู่ข้างสระน้ำ “ลูกสาวแม่แต่งตัวแบบนี้พ่อหวงตายเลย” อัยย์ญาดาหอมแก้มลูกสาว น้องอันนา หรือเด็กหญิงสาวอัยย์ญาวี แบล็คธอร์น ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคฑา วันนี้ครอบครัวเธอมาเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลทางภาคใต้ ซึ่งกว่าคุณพ่อเขาจะมีเวลาพามาเกือบหนึ่งปี เล่นเอาลูกๆ น้อยใจ “ลงไปเล่นน้ำกันนะคะ” “ได้เลยค่ะ” อัยย์ญาดาถอดเสื้อคลุมออกเธอใส่ชุดว่ายน้ำแบบสายเดี่ยวข้างล่างเป็นกระโปรง สองแม่ลูกเล่นน้ำในสระน้ำของโรงแรมเพราะตอนกลางวันแดดร้อนจึงไม่พาลูกลงทะเล หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เห็นแบบนั้นถึงกับมองไม่ละสายตา เพราะคุณแม่นั้นสวยมากแถมลูกสาวน่ารักไม่น้อย “ป๊ารอคชาด้วยสิ” “บอกแล้วไงว่าอย่ากินเยอะ” คฑามองหาแม่ของลูกเพราะมัวแต่พาลูกชายเข้าห้องน้ำ แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นสาวๆ นั่งอยู่ที่เดิม “ไปไหนกัน” เรียกว่าเขาไม่ปล่อยให้สองแม่ลูกละสายตาเลย เพราะไม่ชอบเวลาที่มีผู้ชายคนอื่นมอง “นั่นไงคุณแม่เล่นน้ำกับน้องคชาไปเล่นด้วยดีกว่า” คช
บทสัมภาษณ์พิเศษ แบบส่วนตัวกับอาจารย์หมอสุดหล่อผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ หลังจากเพิ่งประกาศสละโสดแบบสายฟ้าแลบ “คุณหมอคฑาผู้ชายที่รักเมียจนสาวทั้งประเทศต้องถอนตัว” “ภรรยากับลูกคือทุกอย่างของผมครับ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้นแล้ว” นักข่าว : “สวัสดีค่ะคุณหมอคฑา วันนี้เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาสัมภาษณ์คุณหมอที่ทั้งเก่ง ทั้งอบอุ่นแถมยังเป็นเจ้าของหัวใจสาวๆ ทั้งประเทศ” คฑา : (ยิ้มนิดๆ) “ขอบคุณครับแต่ความจริงหัวใจผมมีเจ้าของแล้วนานมากเลยนะครับ” นักข่าว : “มีข่าวลือว่าคุณหมอคลั่งรักเมียจริงไหมคะ?” คฑา : หัวเราะเบาๆ “ผมไม่ปฏิเสธนะครับ เพราะสำหรับผมอัยกับคชาคือลมหายใจ คือบ้านคือความหมายของชีวิต ถ้าการรักภรรยาและลูกมากๆ จะเรียกว่าคลั่งรัก ผมก็ยอมเป็นแบบนั้นทั้งชีวิตครับ” นักข่าว : “แล้วมีเคล็ดลับยังไงในการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นแบบนี้ตลอดมา?” คฑา : “ผมเคยพลาดครับเคยกลัวการมีครอบครัวจนวันหนึ่งผมเสียพวกเขาไป แต่ก็ทำให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง ทุกวันนี้ผมตื่นมากอดลูกกอดภรรยาฟังเขาพูดฟังเขาบ่น
กลางห้องโถงสายตาทุกคู่จับจ้องไปยังชายหญิงที่ยืนเคียงกันบนเวทีเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวและชมพู พวกเขายิ้มให้กันด้วยแววตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผ่านวันคืนมายาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้วันนี้พิเศษเหนือใคร ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแต่เป็นเด็กชายตัวน้อยในชุดสูทจิ๋ว ที่ยืนอยู่เคียงข้างพ่อแม่ของเขา “ปะป๊า หล่อจังเลย” เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นพลางยกมือจับมือพ่อไว้แน่น “หล่อกว่าปะป๊าอีกนะครับวันนี้” หลังจากที่เขาพาอัยย์ญาดาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังจากนั้นสองเดือน ก็ตกลงจัดพิธีแต่งงานขึ้นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว อัยย์ญาดามองภาพตรงหน้า แววตาเปี่ยมสุข รอยยิ้มของเธอสว่างไสวกว่าดอกไม้ทั้งหมดในงาน เธอเอื้อมมือมาแตะแก้มลูกชายเบาๆ ก่อนจะหอมฟอด “วันนี้เราไม่ได้แต่งงานแค่กันและกันนะ แต่เรากำลังสร้างครอบครัวจริงๆ ครอบครัวที่มีพวกเราสามคน” คฑาสบตากับหญิงสาว เสียงปรบมือดังกึกก้องขณะที่ทั้งสามคนยืนเคียงกันพ่อแม่และลูกชายเป็นภาพที่ทั้งอบอุ่นและสมบูรณ์แบบ “เจ้าบ่าวดื่มก่อนดิ” เพลิงยื่นเหล้าให้ซึ่งเป็น
“หยุดได้แล้วยาหยีคุณมาทำอะไรที่นี่! กลับไปซะ” คฑาต่อว่าหญิงสาวที่มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น “ปล่อยฉัน! คฑายาหยีถามคุณหน่อยเถอะมันทำเสน่ห์ใส่คุณหรือไงถึงได้หลงมันขนาดนี้” เขาทำลายอนาคตของเธอทุกอย่าง จนเธอหมดอนาคตกับวงการแพทย์ที่เธอภูมิใจ “อย่ามาวุ่นวายกับคนของผมอีกยาหยีคุณมันน่ารังเกียจทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็ก” “มันวิ่งตกบันไดเองยาหยีไม่ได้ทำ” ก็เธอไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเธอ “แต่คุณก็ไม่ช่วยคนเป็นหมอเขาไม่มีพฤติกรรมแบบคุณหรอก” ไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แถมยังมีสารเสพติดไว้ครอบครอง “ความเป็นคนคุณก็ไม่มีเหมือนกันแหละไม่อย่างนั้นมันไม่หอบลูกหนีมาหรอก” ยาหยีหันไปมองอัยย์ญาดา ทำตัวไร้เดียงสาเพื่อจับผู้ชาย “อัยเราเข้าบ้านกันดีกว่าทางนี้เดี๋ยวปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจัดการเอง” คฑากุมของอัยย์ญาดาไว้แน่นหันหลังกำลังจะเดินเข้าบ้าน “ไม่นะคฑา ฮึก ยาหยีทำเพื่อคุณขนาดนี้คุณไม่มองบ้างเหรอ” ยาหยีวิ่งมาเกาะขาของคฑาไว้แน่น ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ตกใจ “ไอ้อรรคมึงลากผู้หญิงคนนี้ออกไปสิ!”
ยาหยีกลับมาถึงกรุงเทพยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถ หญิงสาวกลับได้รับสายจากนักข่าวจากสำนักจนเธอเองก็แปลกใจว่าพวกเขาจะถามเธอเรื่องอะไร เธอกดเข้าไปดูข่าวที่พาดหัวตัวโตบนหน้าจอ “คุณหมอสาวลูกหลานไฮโซชื่อดัง 'ยาหยี' กับภาพหลุดสุดอื้อฉาว เปลือยกายแนบชิดกับชายหลายคนพร้อมคลิปปาร์ตี้ยาเสพติดสุดกร่างในบ้านหรู” ภาพบนหน้าจอใบหน้าเธอในสภาพเมามาย คลิปเสียงหัวเราะดังลั่นภาพเบลอแต่ชัดพอจะรู้ว่าเป็นเธอแน่นอน “ไม่นะ ไม่นะใครมันกล้าทำแบบนี้ กรี๊ดดดดด” เธอรีบกดดูคลิปที่แชร์ว่อนในแอปต่างๆ มือไม้สั่น น้ำตารื้นขึ้นมาช้าๆ พอคลิปตัดไปภาพสุดท้ายภาพที่เธอนอนหลับเปลือยข้างชายแปลกหน้าเธอโยนมือถือกระเด็นลงพื้น “คฑา! แกมันสัตว์นรกเล่นแรงถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ยาหยีกรีดร้องจนคนในบ้านได้ยินต่างพากันออกมามุงดู กลัวว่าพ่อแม่จะมาเห็นเธอเสียก่อนจะรีบขับรถออกมา พร้อมกับความโกรธแค้นที่คฑาทำกับเธอแบบนี้ เขาไม่แจ้งความเธอแต่เล่นเอาเธอไม่มีที่ยืนในสังคม เป็นบังคับกันทางอ้อมเพื่อให้เธอลาออกจากการเป็นแพทย์ ความดีที่เป็นเพื่อนกันมาเขามองไม่เห็นเลยหรือ ผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้
อัยย์ญาดามารับลูกเกือบเที่ยงพอดี วันนี้มีลูกค้ามาเหมาร้านดอกไม้เลยปิดร้านเร็ว แต่พอจะเข้าไปหาคฑาเธอกลับแปลกใจเพราะได้ยินคนคุยกันเรื่องเด็กหายไป “ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าเด็กที่ตามหากันอยู่ชื่ออะไรคะ” “ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลค่ะชื่อน้องคชา” ประชาสัมพันธ์สาวตอบเพื่อหวังว่าจะได้ง่ายต่อการตามหา อัยย์ญาดาที่รู้ว่าลูกชายเธอหายไปก็รู้สึกโกรธชายหนุ่มเป็นอย่างมากที่เธอแค่ฝากลูกไว้กับคฑาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่อีกฝ่ายกลับทำลูกหาย เธอรีบไปหาคฑาทันทีแต่พอจะเดินผ่านบันไดหนีไฟกลับได้ยินเสียงเด็กร้องไห้พอดี เธอรู้ทันทีว่านั่นคือเสียงลูกชายสุดที่รักของเธอ “น้องคชา! ฮึก ลูกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เธอเห็นสภาพลูกชายรีบวิ่งเข้าไปหาและกอดลูกไว้ ตอนนี้ที่คิ้วด้านซ้ายมีเลือดไหลไม่หยุด เธอใจจะขาดแทนลูกและโกรธที่คฑาดูแลลูกไม่ดี “อัยจ๋า แง่งงง” คชาที่เห็นแม่จึงร้องไห้เสียงดังมากกว่าเดิมและชี้ไปที่แขนตัวเองว่าขยับไม่ได้ “เจ็บตรงไหนบอกแม่สิ” “ขยับไม่ด้ายยย อัยจ๋า” คฑาที่ได้ยินเสียงลูกจึงรีบเปิดประตูเข้ามาหัวใจคนเป็นพ่อแทบแตกสลายเขารีบเข้ามาอุ้ม จากอ้อมแข