ไนต์คลับ X
อัยย์ญาดาเด็กสาววัย 19 ปี ฐานะไม่สู้ดีปัจจุบันศึกษาคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดัง เติบโตมากับบ้านเด็กกำพร้า
วันนี้เธอมาทำงานพิเศษแทนเพื่อน เพราะว่าเพื่อนทำงานที่นี่ เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกัน พี่ผึ้งบอกว่าที่นี่มีแต่คนรวยๆ เท่านั้นที่เข้ามาใช้บริการ
ผู้จัดการชื่อว่าพี่อี้รับหญิงสาวเข้ามาทำงานเพราะเห็นว่าหน้าตาดี อนาคตจะขายให้คนรวยราคาคงดีไม่น้อย
เธอมีรูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับกลีบดอกไม้แรกแย้ม ท่วงท่าการเดินอ่อนโยน นุ่มนวล ราวกับสายลมในยามเช้า
แต่ภายในกลับซ่อนความเข้มแข็งที่ไม่อาจมองเห็นจากภายนอก ดวงตากลมโตเป็นประกาย เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น แม้จะอ่อนโยนแต่ก็เด็ดเดี่ยว
ใบหน้าของเธอสวยสง่าราวกับภาพวาด จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอิ่มสีธรรมชาติที่แทบไม่ต้องเติมแต่ง เส้นผมยาวสลวยพลิ้วไหวตามลม ราวกับมีชีวิตของตัวเอง ทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน ผู้คนแทบต้องหยุดหายใจ เพียงเพื่อจะมองเธอให้นานขึ้นอีกสักนิด
อัยย์ญาดานั่งก้มหน้าอยู่ที่มุมโต๊ะในห้องพักพนักงานหลังร้าน ดวงตาของเธอคล้ายคนเหม่อลอย ขอบตาแดงเรื่อจากความเครียดที่สะสมจนเริ่มกัดกินหัวใจ
เงินค่าเทอมต้องจ่ายภายในสัปดาห์นี้ และเงินก้อนที่ยืมพี่ผึ้งมาชั่วคราวก็เริ่มถูกทวงถาม น้ำเสียงของพี่ผึ้งเมื่อวานยังคงสะท้อนอยู่ในหูเธอ
“ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ต้องบอกตรงๆ นะอัยพี่ไม่ได้ใจร้าย แต่พี่ก็มีภาระเหมือนกัน”
เธอเม้มปากแน่น พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ขณะเดียวกันประตูห้องพักเปิดออกช้าๆ เสียงทุ้มต่ำของพี่อี้ ผู้จัดการร้านดังขึ้นเขาเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเคร่งขรึม ดวงตาใต้กรอบแว่นจับจ้องเธอราวกับอ่านใจออก
“เห็นเธอเครียดๆ มาหลายวันแล้วนะพี่มีงานพิเศษรายได้ดีมาก ถ้าเธอสนใจบอกพี่ได้นะ” เขาวางแฟ้มบางๆ ไว้บนโต๊ะหน้าเธอ
“งานอะไรคะ?” เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
พี่อี้ยิ้มบางๆ แววตาหาใช่ความเอ็นดู แต่มากไปด้วยเจตนาแฝงเร้น
“พี่มีลูกค้าวีไอพีที่ต้องการบริการพิเศษ แค่เธอไปนั่งเป็นเพื่อนดื่มพูดคุย รับรองว่าไม่มีอะไรเกินเลยถ้าเธอไม่ยอมตัวเลขนี่พี่เสนอให้” เขาเขียนตัวเลขบนโพสต์อิท แล้วเลื่อนให้เธอช้าๆ
อัยย์ญาดามองดูตัวเลขนั้น ‘สองหมื่นห้า’ เธอเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้มันคือจำนวนที่เกินกว่าที่เธอหาได้ภายในสองวันนี้
“ถ้าสนใจพี่จะพาไปคืนนี้เลย ห้องVVIP” เขายิ้มพยายามหลอกล่อ “งานง่ายๆ สวยอย่างเธอแค่นั่งเฉยๆ ก็ได้เงินแล้ว”
หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอกำกระโปรงแน่นสมองเต็มไปด้วยความลังเล ความจำเป็นกระแทกเข้ากับศักดิ์ศรีราวกับพายุสองฝั่งที่ปะทะกัน
“ตกลงค่ะอัยจะไปแต่ขอเวลานิดหนึ่งค่ะ”
“ตามสบายแต่งตัวแต่งหน้าให้สวยๆ นะ” พี่อี้เดินออกมาแขกในห้องนั้นกระเป๋าหนักมาก หากมีคนถูกใจอัยย์ญาดาเขาจะได้ส่วนแบ่งเยอะพอสมควร
ผึ้งเดินเข้ามามองหนาอัยย์ญาดาที่นั่งทำหน้าเศร้า คงคิดหนักเรื่องเงิน เธอไม่ได้อยากเร่งรัดแต่ทุกคนมีภาระเหมือนกัน
“แต่งหน้าแต่งตัวสวยจะไปไหน”
ผึ้งมองอัยย์ญาดาในค่ำคืนนี้ หญิงสาวสวมเดรสผ้าไหมซาตินสีแดงเข้ม ทรงเข้ารูปเว้าช่วงเอวและแหวกอกลึกพอให้เห็นเนินอกเนียนอย่างพอดิบพอดี สายเดรสบางเฉียบตกลงบนไหล่ขาวนวลเหมือนกลีบดอกลิลลี่ ผิวของเธอสะท้อนกับแสงไฟสีทองนวลของห้องจนดูราวกับมีประกายในตัวเอง
ด้านล่างของเดรสแหวกสูงถึงต้นขา เผยเรียวขาเนียนยาวอย่างไม่ต้องพยายาม เสริมด้วยรองเท้าส้นเข็มสีดำเงา เสริมบุคลิกให้เธอดูสูงเพรียว สง่าราวนางพญา
ลิปสติกสีแดงเบอร์กันดีที่ขับริมฝีปากให้ดูเย้ายวนจนยากจะละสายตา
“พี่อี้จะส่งไปบริการห้อง VVIP ค่ะ” เธอตอบไปด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่ว่าคืออะไร
“เธอจะบ้าไปแล้วเหรอรู้ไหมว่าต้องทำงานแบบไหน” ห้องนั้นสำหรับไฮโซที่รักความเป็นส่วนตัว ผู้หญิงที่ถูกส่งขึ้นไปไม่พ้นเรื่องบนเตียง
“อัยตัดสินใจแล้วค่ะ” ความจนมันน่ากลัวกว่าสิ่งใด
“ตัดสินใจแล้วก็แล้วไป” เธอสงสารรุ่นน้องเลยชวนมาทำงานด้วยกัน อัยย์ญาดาเป็นคนสวยแขกมักเรียกหญิงสาวไปบริการบ่อยๆ บางครั้งถึงขั้นมีเรื่องกันเพราะแย่งกันจีบหญิงสาว
“จบงานอัยจะโอนเงินนะคะ”
“พี่ถามเธออีกครั้งแน่ใจใช่ไหมว่าจะทำ”
“ค่ะ อัยอยากทำเห็นพี่อี้บอกว่าได้เงินดี” แค่ชงเหล้านั่งพูดคุยกับแขกไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว
ผึ้งถอนหายใจเด็กน้อยไร้เดียงสาเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ ไม่เหมือนเธอที่ทำงานอยู่ที่ไนต์คลับมาหลายปีแล้ว อย่างที่คนว่าศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ ชีวิตต้องพึ่งพาด้วยเงิน
มีเงินโลกจะใจดีเรามากขึ้น
“อัยเธอเป็นเด็กดีเป็นคนสวย เชื่อไหมว่าถ้าสวยโลกจะใจดีกับเธอมากขึ้น”
“พี่ผึ้งจะพูดอะไรคะ?” เธอไม่ค่อยเข้าใจว่ารุ่นพี่กำลังสื่อถึงอะไร
“ขอให้เธอเจอคนที่รักเธอจริงๆ” ผึ้งได้แต่อวยพรให้คนหลงเสน่ห์และมอบความรักให้อัยย์ญาดาด้วยความจริงใจ อย่าไปเจอผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
“จำไว้นะเรามีศักดิ์ศรีห้ามไปเป็นน้อยใครเด็ดขาด!”
“ค่ะอัยจะจำไว้” ต่อให้รักมากแค่ไหนก็ไม่ยอมเป็นเมียน้อยใครเด็ดขาด
.
“พี่อี้หลอกอัยไปทำงานที่ห้อง VVIP ทำไม” ผึ้งเข้ามาโวยวาย
“ปล่อยไว้ก็เสียของเปล่า”
เขาเองไม่ได้บังคับให้ไปทำ เด็กมันเต็มใจไปเองแต่แค่พูดไม่หมดว่าต้องทำอะไรบ้าง
“พี่ได้บอกไหมล่ะว่าในห้องนั้นเขาต้องทำอะไรบ้าง”
“โอ๊ย เลิกโวยวายแทนเจ้าตัวเขาได้แล้วศักดิ์ศรีมันกินได้ที่ไหน” วันนี้ไปเสนอให้แขกว่ามีเด็กสาววัยบริสุทธิ์มานำเสนอ เสี่ยกระเป๋าหนักต่างพากันรุมแย่ง จนมาถึงไฮโซหนุ่มหล่อที่ยอมรับข้อเสนอและจ่ายราคาไม่อั้นตามตกลง
“พี่มันใจร้าย” ผึ้งต่อว่าผู้จัดการ
“เสียเวลาฉันพาน้องมันไปส่งก่อน” มาทำงานถึงไนต์คลับแต่ไม่ยอมหายตัว กะเทยปวดหัวมากถ้าเขามีกีเหมือนผู้หญิง เขาจะรับแขกทุกวัน
ไม่รู้จักของเล่นไฮโซเสียแล้ว
“ทำตัวให้น่ารักเข้าใจไหม แขกสั่งให้ทำอะไรก็ทำห้ามปฏิเสธ ยิ้มเข้าใจใช้ความสวยมัดใจเขา”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นคะ?” แค่ไปชงเหล้าทำไมต้องใช้ความสวยจับผู้ชาย
“เพื่อเงินไงย๊ะ”
“ได้ค่ะแค่นี้ใช่ไหมที่ต้องทำ” เรื่องแค่นี้เธอทำได้สบายอยู่แล้ว
“ทำตัวให้มันกร้านโลกหน่อย อย่าทำเหมือนเด็กเดี๋ยวเขาหาว่าพรากผู้เยาว์มา”
อัยย์ญาดาพยักหน้ารับเธอจะต้องได้เงินมาใช้หนี้พี่ผึ้ง จะอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
“จบงานอัยจะได้เงินเลยใช่ไหม”
“เอาเลขบัญชีมาจะโอนให้ก่อน” งานนี้เขารับเงินมาแล้ว บอกเลยราคาดีมากแต่เขาโอนให้อัยย์ญาดาแค่ตามที่บอกไว้
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไว้ผู้จัดการเห็นยอดเงินแล้วดีใจ สามารถต่อชีวิตให้เธอได้อีกหลายวัน อัยย์ญาดาเดินตามเขาไปและหยุดอยู่หน้าห้อง
“โชคดีจบงานแล้วกลับได้เลย” พี่อี้รีบเดินออกมาหวังว่าความซวยคงไม่มีเยือนเขาหรอก ในห้องนั้นมีแต่หนุ่มอนาคตไกล รวมถึงเจ้าของโรงพยาบาลและเป็นอาจารย์หมอที่สาวๆ อยากทอดสะพานให้
“คุณแม่ขาหนูอยากเล่นน้ำแล้ว” เสียงเด็กหญิงวัยสี่ขวบดังขึ้นและวิ่งเข้ามาหาแม่ที่นั่งรออยู่ข้างสระน้ำ “ลูกสาวแม่แต่งตัวแบบนี้พ่อหวงตายเลย” อัยย์ญาดาหอมแก้มลูกสาว น้องอันนา หรือเด็กหญิงสาวอัยย์ญาวี แบล็คธอร์น ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคฑา วันนี้ครอบครัวเธอมาเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลทางภาคใต้ ซึ่งกว่าคุณพ่อเขาจะมีเวลาพามาเกือบหนึ่งปี เล่นเอาลูกๆ น้อยใจ “ลงไปเล่นน้ำกันนะคะ” “ได้เลยค่ะ” อัยย์ญาดาถอดเสื้อคลุมออกเธอใส่ชุดว่ายน้ำแบบสายเดี่ยวข้างล่างเป็นกระโปรง สองแม่ลูกเล่นน้ำในสระน้ำของโรงแรมเพราะตอนกลางวันแดดร้อนจึงไม่พาลูกลงทะเล หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เห็นแบบนั้นถึงกับมองไม่ละสายตา เพราะคุณแม่นั้นสวยมากแถมลูกสาวน่ารักไม่น้อย “ป๊ารอคชาด้วยสิ” “บอกแล้วไงว่าอย่ากินเยอะ” คฑามองหาแม่ของลูกเพราะมัวแต่พาลูกชายเข้าห้องน้ำ แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นสาวๆ นั่งอยู่ที่เดิม “ไปไหนกัน” เรียกว่าเขาไม่ปล่อยให้สองแม่ลูกละสายตาเลย เพราะไม่ชอบเวลาที่มีผู้ชายคนอื่นมอง “นั่นไงคุณแม่เล่นน้ำกับน้องคชาไปเล่นด้วยดีกว่า” คช
บทสัมภาษณ์พิเศษ แบบส่วนตัวกับอาจารย์หมอสุดหล่อผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ หลังจากเพิ่งประกาศสละโสดแบบสายฟ้าแลบ “คุณหมอคฑาผู้ชายที่รักเมียจนสาวทั้งประเทศต้องถอนตัว” “ภรรยากับลูกคือทุกอย่างของผมครับ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้นแล้ว” นักข่าว : “สวัสดีค่ะคุณหมอคฑา วันนี้เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาสัมภาษณ์คุณหมอที่ทั้งเก่ง ทั้งอบอุ่นแถมยังเป็นเจ้าของหัวใจสาวๆ ทั้งประเทศ” คฑา : (ยิ้มนิดๆ) “ขอบคุณครับแต่ความจริงหัวใจผมมีเจ้าของแล้วนานมากเลยนะครับ” นักข่าว : “มีข่าวลือว่าคุณหมอคลั่งรักเมียจริงไหมคะ?” คฑา : หัวเราะเบาๆ “ผมไม่ปฏิเสธนะครับ เพราะสำหรับผมอัยกับคชาคือลมหายใจ คือบ้านคือความหมายของชีวิต ถ้าการรักภรรยาและลูกมากๆ จะเรียกว่าคลั่งรัก ผมก็ยอมเป็นแบบนั้นทั้งชีวิตครับ” นักข่าว : “แล้วมีเคล็ดลับยังไงในการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นแบบนี้ตลอดมา?” คฑา : “ผมเคยพลาดครับเคยกลัวการมีครอบครัวจนวันหนึ่งผมเสียพวกเขาไป แต่ก็ทำให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง ทุกวันนี้ผมตื่นมากอดลูกกอดภรรยาฟังเขาพูดฟังเขาบ่น
กลางห้องโถงสายตาทุกคู่จับจ้องไปยังชายหญิงที่ยืนเคียงกันบนเวทีเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวและชมพู พวกเขายิ้มให้กันด้วยแววตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผ่านวันคืนมายาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้วันนี้พิเศษเหนือใคร ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแต่เป็นเด็กชายตัวน้อยในชุดสูทจิ๋ว ที่ยืนอยู่เคียงข้างพ่อแม่ของเขา “ปะป๊า หล่อจังเลย” เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นพลางยกมือจับมือพ่อไว้แน่น “หล่อกว่าปะป๊าอีกนะครับวันนี้” หลังจากที่เขาพาอัยย์ญาดาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังจากนั้นสองเดือน ก็ตกลงจัดพิธีแต่งงานขึ้นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว อัยย์ญาดามองภาพตรงหน้า แววตาเปี่ยมสุข รอยยิ้มของเธอสว่างไสวกว่าดอกไม้ทั้งหมดในงาน เธอเอื้อมมือมาแตะแก้มลูกชายเบาๆ ก่อนจะหอมฟอด “วันนี้เราไม่ได้แต่งงานแค่กันและกันนะ แต่เรากำลังสร้างครอบครัวจริงๆ ครอบครัวที่มีพวกเราสามคน” คฑาสบตากับหญิงสาว เสียงปรบมือดังกึกก้องขณะที่ทั้งสามคนยืนเคียงกันพ่อแม่และลูกชายเป็นภาพที่ทั้งอบอุ่นและสมบูรณ์แบบ “เจ้าบ่าวดื่มก่อนดิ” เพลิงยื่นเหล้าให้ซึ่งเป็น
“หยุดได้แล้วยาหยีคุณมาทำอะไรที่นี่! กลับไปซะ” คฑาต่อว่าหญิงสาวที่มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น “ปล่อยฉัน! คฑายาหยีถามคุณหน่อยเถอะมันทำเสน่ห์ใส่คุณหรือไงถึงได้หลงมันขนาดนี้” เขาทำลายอนาคตของเธอทุกอย่าง จนเธอหมดอนาคตกับวงการแพทย์ที่เธอภูมิใจ “อย่ามาวุ่นวายกับคนของผมอีกยาหยีคุณมันน่ารังเกียจทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็ก” “มันวิ่งตกบันไดเองยาหยีไม่ได้ทำ” ก็เธอไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเธอ “แต่คุณก็ไม่ช่วยคนเป็นหมอเขาไม่มีพฤติกรรมแบบคุณหรอก” ไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แถมยังมีสารเสพติดไว้ครอบครอง “ความเป็นคนคุณก็ไม่มีเหมือนกันแหละไม่อย่างนั้นมันไม่หอบลูกหนีมาหรอก” ยาหยีหันไปมองอัยย์ญาดา ทำตัวไร้เดียงสาเพื่อจับผู้ชาย “อัยเราเข้าบ้านกันดีกว่าทางนี้เดี๋ยวปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจัดการเอง” คฑากุมของอัยย์ญาดาไว้แน่นหันหลังกำลังจะเดินเข้าบ้าน “ไม่นะคฑา ฮึก ยาหยีทำเพื่อคุณขนาดนี้คุณไม่มองบ้างเหรอ” ยาหยีวิ่งมาเกาะขาของคฑาไว้แน่น ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ตกใจ “ไอ้อรรคมึงลากผู้หญิงคนนี้ออกไปสิ!”
ยาหยีกลับมาถึงกรุงเทพยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถ หญิงสาวกลับได้รับสายจากนักข่าวจากสำนักจนเธอเองก็แปลกใจว่าพวกเขาจะถามเธอเรื่องอะไร เธอกดเข้าไปดูข่าวที่พาดหัวตัวโตบนหน้าจอ “คุณหมอสาวลูกหลานไฮโซชื่อดัง 'ยาหยี' กับภาพหลุดสุดอื้อฉาว เปลือยกายแนบชิดกับชายหลายคนพร้อมคลิปปาร์ตี้ยาเสพติดสุดกร่างในบ้านหรู” ภาพบนหน้าจอใบหน้าเธอในสภาพเมามาย คลิปเสียงหัวเราะดังลั่นภาพเบลอแต่ชัดพอจะรู้ว่าเป็นเธอแน่นอน “ไม่นะ ไม่นะใครมันกล้าทำแบบนี้ กรี๊ดดดดด” เธอรีบกดดูคลิปที่แชร์ว่อนในแอปต่างๆ มือไม้สั่น น้ำตารื้นขึ้นมาช้าๆ พอคลิปตัดไปภาพสุดท้ายภาพที่เธอนอนหลับเปลือยข้างชายแปลกหน้าเธอโยนมือถือกระเด็นลงพื้น “คฑา! แกมันสัตว์นรกเล่นแรงถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ยาหยีกรีดร้องจนคนในบ้านได้ยินต่างพากันออกมามุงดู กลัวว่าพ่อแม่จะมาเห็นเธอเสียก่อนจะรีบขับรถออกมา พร้อมกับความโกรธแค้นที่คฑาทำกับเธอแบบนี้ เขาไม่แจ้งความเธอแต่เล่นเอาเธอไม่มีที่ยืนในสังคม เป็นบังคับกันทางอ้อมเพื่อให้เธอลาออกจากการเป็นแพทย์ ความดีที่เป็นเพื่อนกันมาเขามองไม่เห็นเลยหรือ ผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้
อัยย์ญาดามารับลูกเกือบเที่ยงพอดี วันนี้มีลูกค้ามาเหมาร้านดอกไม้เลยปิดร้านเร็ว แต่พอจะเข้าไปหาคฑาเธอกลับแปลกใจเพราะได้ยินคนคุยกันเรื่องเด็กหายไป “ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าเด็กที่ตามหากันอยู่ชื่ออะไรคะ” “ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลค่ะชื่อน้องคชา” ประชาสัมพันธ์สาวตอบเพื่อหวังว่าจะได้ง่ายต่อการตามหา อัยย์ญาดาที่รู้ว่าลูกชายเธอหายไปก็รู้สึกโกรธชายหนุ่มเป็นอย่างมากที่เธอแค่ฝากลูกไว้กับคฑาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่อีกฝ่ายกลับทำลูกหาย เธอรีบไปหาคฑาทันทีแต่พอจะเดินผ่านบันไดหนีไฟกลับได้ยินเสียงเด็กร้องไห้พอดี เธอรู้ทันทีว่านั่นคือเสียงลูกชายสุดที่รักของเธอ “น้องคชา! ฮึก ลูกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เธอเห็นสภาพลูกชายรีบวิ่งเข้าไปหาและกอดลูกไว้ ตอนนี้ที่คิ้วด้านซ้ายมีเลือดไหลไม่หยุด เธอใจจะขาดแทนลูกและโกรธที่คฑาดูแลลูกไม่ดี “อัยจ๋า แง่งงง” คชาที่เห็นแม่จึงร้องไห้เสียงดังมากกว่าเดิมและชี้ไปที่แขนตัวเองว่าขยับไม่ได้ “เจ็บตรงไหนบอกแม่สิ” “ขยับไม่ด้ายยย อัยจ๋า” คฑาที่ได้ยินเสียงลูกจึงรีบเปิดประตูเข้ามาหัวใจคนเป็นพ่อแทบแตกสลายเขารีบเข้ามาอุ้ม จากอ้อมแข