สามปีที่แล้ว เขาเหยียบย่ำหัวใจเธอจนแหลกสลาย ไล่เธอไปพร้อมกับลูกในท้องด้วยคำพูดที่โหดร้ายสามปีต่อมา เขากลับมาตามทวงสิทธิ์ในตัวลูก และเธอ… แต่ ‘อัยย์ญาดา’ ไม่ใช่เด็กสาวที่เคยร้องไห้อ้อนวอนเขาอีกต่อไป!
view moreเสียงสายฝนโปรยปรายกระทบกระจกหน้าต่าง เสียงหัวใจของเธอเต้นแรงไม่แพ้กัน มือบางกำที่ตรวจครรภ์แน่น ดวงตากลมมองตัวอักษรที่ปรากฏบนแถบทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอท้อง
รอยยิ้มค่อยๆ แต่งแต้มบนใบหน้าแม้จะมีความตื่นเต้นปะปนกับความกังวล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความสุข เธอจินตนาการถึงใบหน้าของเขา ผู้ชายที่เธอรักและทุ่มเททุกอย่างให้
เขาจะต้องดีใจแน่ๆ
เธอมั่นใจว่าข่าวนี้จะทำให้เขามีความสุขเหมือนกันกับเธอ พวกเขาจะได้เป็นครอบครัวกันจริงๆ สักที
มือบางลูบหน้าท้องแผ่วเบาเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคย หัวใจเต้นรัวรอคอยเสียงตอบรับจากปลายสาย
“มีอะไร” น้ำเสียงเขาดูเคร่งขรึม
“อัยมีเรื่องจะบอกพี่หมอค่ะ”
“อืม รอเย็นนี้” เขาตัดสายทิ้งทันทีเพราะกำลังยุ่งกับคนไข้ตรงหน้า
อัยย์ญาดามองหน้าจอมือถือ ถอนหายใจออกมาเสียงดัง เขาทำงานหนักตลอดเวลาหาเวลาว่างไม่เคยได้ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับเขาเธอไม่เคยออกไปไหนกับเขาตามลำพัง
อัยย์ญาดา คีรานนท์ อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ เด็กที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า ตั้งแต่ยอมเป็นคนในความลับของเขาเมื่อ 6 เดือนชีวิตเธอเปลี่ยนไป
คีแรนภัทร หรือคุณหมอคฑาเดินเข้ามาในเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูของตัวเอง เขามองที่โต๊ะอาหารเพราะทุกครั้งจะเจอหญิงสาวคอยทำอาหารรอเขา
เหมือนภรรยารอสามีแต่เขากับอัยย์ญาดาไม่ใช่
“อัยมีเรื่องคุยกับพี่หมอค่ะ”
“มีเรื่องอะไรดูตื่นเต้นจัง” มือหนากำลังถอดเนกไทต้องชะงัก เมื่อได้ยินประโยคที่ออกจากปากของเด็กในความลับของเขา
“อัยท้องค่ะ” เธอเงียบและเขาก็เงียบเช่นกัน รอบตัวได้ยินแต่เสียงเครื่องปรับอากาศ
แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นคำเหยียดหยาม
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อว่าเด็กเป็นลูกฉันเหรอ? ไปเอาออกซะ อย่ามาทำตัวไร้ยางอาย! ฉันบอกตลอดว่าห้ามท้องหรือเธอคิดจะเอาลูกคนอื่นมายัดเยียดให้ฉันอัยย์ญาดา”
เขาตะคอกใส่เธอจนสะดุ้งเพราะความตกใจ ส่ายหน้าปฏิเสธตลอดเวลาที่อยู่กับเขาเธอไม่เคยนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่น้อย
“อัยท้องกับพี่หมอจริงๆ นะคะ ฮึก~” รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเพราะเขาไม่ยอมรับลูกที่กำลังเกิดมา
“เธอมันทำตัวต่ำเหมือนตอนที่ทอดกายให้ฉัน ลูกของฉันต้องไม่มีแม่ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอ ถ้าอยากเก็บเด็กไว้ก็ออกไปจากชีวิตของฉัน”
“เขาเป็นลูกของพี่หมออัยไม่เคยนอนกับใคร” เธอพยายามอ้อนวอน และยืนยันว่าเขาคือพ่อของลูกและคฑากลับไม่สนใจที่จะรับฟัง
“ฉันเกลียดเด็ก ออกไปจากชีวิตฉัน” น้ำเสียงแสนเย็นชาเอ่ยออกมาราวกับไม่ใช่คนรู้จัก
อัยย์ญาดาทรุดตัวลงที่พื้นเกาะขาเขาไว้ บนใบหน้ามีน้ำตาไหลอาบแก้ม ตอนนี้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกเช่นกัน แต่คำพูดของเขาทำให้เธอเสียใจ
“เธอเป็นเด็กที่พูดเข้าใจทุกอย่าง”
เธอได้แต่ร้องไห้ แล้วเข้าไปนอนในห้อง น้อยใจเขาขั้นสุด แล้วกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี
คฑาเข้ามาในห้องเขาสงสารอัยย์ญาดาไม่น้อย แต่เขาไม่พร้อมเช่นกัน และสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่พร้อมก็ต้องเอาออก
“นามบัตรของเพื่อนฉันเธอไปเอาเด็กออกฉันจะให้เงินก้อนหนึ่งไปตั้งตัว” เขายื่นนามบัตรให้หญิงสาว ตอนนี้เขายอมรับว่าเขาเห็นแก่ตัว
เขาออกไปแล้ว อัยย์ญาดาร้องไห้ฟุบหน้ากับหมอนใบหน้าเปียกปอนไปด้วยน้ำตา เสียงร้องไห้ราวกับฟ้าดินกำลังพังทลาย
ชีวิตเด็กกำพร้าแบบเธอตัวคนเดียวตั้งแต่เกิด จะออกไปใช้ชีวิตข้างนอกก็กลัวจะลำบาก เพราะตอนนี้เธอมีลูก
ถึงแม้จะไม่พร้อมแต่ไม่ใจร้ายทำร้ายลูกได้ลงคอ ในเมื่อเขาไม่ยอมรับเธอจะไม่อ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขาอีกต่อไป
ทำให้อัยย์ญาดาตัดสินใจหนีเขา เพราะว่าคฑาใจร้ายเกินไปที่คิดจะฆ่าลูก เธอทำไม่ได้
ต่อให้ไม่มีที่ไปเธอก็จะไป
คฑาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ทำให้อัยย์ญาดาได้โอกาสเข้ามาในห้องนอนของเขา เขาให้เงินเธอใช้ทุกเดือนซึ่งพอมีเงินเก็บบ้าง แต่ไม่พอสำหรับการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโต
เธอนำข้าวของมีค่าของหมอคฑาติดตัวออกมา คิดอย่างเดียวการเลี้ยงลูกลำบาก เธอต้องมีทุนในการเลี้ยงลูกและคนที่จะช่วยเธอได้มีคนเดียว
หมออรรคมองนาฬิกาแบรนด์หรูที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนหน้านี้เขาพอรู้เรื่องมาบ้าง
“อัยจะขอให้คุณหมอช่วยซื้อหน่อยได้ไหมคะ อัยจะไปจากที่นี่ขอร้องนะคะคุณหมอ อัยไม่อยากทำแท้ง”
“มันยังไม่ยอมเปลี่ยนความคิดอีกเหรอ?” ไม่คิดว่าเพื่อนจะใจแข็งให้อัยย์ญาดาไปทำแท้ง เขาคิดว่าเพื่อนคงโกรธแต่ดูเหมือนเรื่องจะบานปลาย
“อย่าบอกเขานะคะว่าอัยไม่ยอม ฮึก~” เธอหัวใจแหลกสลายเจ็บปวดเกินกว่าจะใช้ชีวิตต่อไป แต่เธอต้องสู้เพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา
หมออรรคเห็นใจคนตรงหน้า เรื่องของคนสองคนหวังว่าในวันข้างหน้าเพื่อนของเขาจะรู้สึกผิด เขาจึงรับของมาและไม่ลืมให้เงินติดตัวอัยย์ญาดาไป
“อัยจะไปอยู่ไหน” เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
“...” เธอส่ายหน้าเพราะตอนนี้มืดแปดด้าน
“พี่มีบ้านอยู่หลังหนึ่งหากอัยต้องการ...”
“อัยไม่ต้องการค่ะ” เพราะว่าวันข้างหน้าจะได้เจอกับคฑาอีก เธอต้องการตัดขาดกับเขาทุกอย่าง ชาตินี้ไม่ต้องการเจอหน้าเขาอีก
หมออรรคถอนหายใจหญิงสาวดูเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวกว่าที่เขาคิด นี่แหละที่เขาว่าพอมีลูกต่อให้ไม่พร้อมมันก็จะพร้อมเอง
“ถ้าอัยต้องการนี่เบอร์คนที่ไว้ใจได้ถือว่าเป็นความหวังดีจากพี่ เรื่องของอัยในวันนี้จะไม่ถึงหูของไอ้คฑา ทางข้างหน้าอันตรายมากไม่ห่วงตัวเองก็ควรห่วงลูก”
เขาวางนามบัตรแล้วจากไปปล่อยให้อัยย์ญาดาตัดสินใจด้วยตัวเอง เขาไม่สามารถตัดสินชีวิตแทนใครได้ ส่วนเพื่อนเขาปล่อยมันไป
อัยย์ญาดากลับมาเก็บข้าวของวันที่เธอย้ายมามีแค่ชุดไม่กี่ชุด หลังจากนี้จะกลับไปลาออกจากมหาวิทยาลัย เอาไว้พร้อมค่อยกลับมาเรียนต่อ
เธอมองรูปคู่ที่ถ่ายกับคฑา
มือบางยื่นลงถังขยะข้างเตียงข้าวของที่เขาซื้อให้ เธอไม่ได้หยิบติดตัวมาเลยสักชิ้น เธอนั่งเขียนจดหมายไปพร้อมน้ำตา
‘ถึงพี่หมอคฑา ไม่ว่าพี่หมอจะใจร้ายแค่ไหนแต่แปลกที่อัยไม่เคยหมดรักเลย แต่วันนี้อัยไม่ได้อยากเลือกแต่เพราะพี่หมอบังคับให้อัยต้องเลือก อัยจะไปตามทางของอัยขอให้พี่หมอใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดี หากในวันข้างหน้าเราเจอกันขอให้เราทำเป็นไม่รู้จักกันไปชั่วชีวิต
รักสุดหัวใจ อัยย์ญาดา’
เธอมองรอบๆ ห้องเป็นครั้งสุดท้ายครั้งหนึ่งเธอกับเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่เสียใจแต่ผิดหวังกับสิ่งที่เขาพูด
อัยย์ญาดาเดินลงมาโบกแท็กซี่ไม่รู้จะต้องไปเริ่มต้นชีวิตที่ไหน มันอ้างว้างไปหมดชีวิตตัวคนเดียวในเมืองหลวง จะกลับไปบ้านเด็กกำพร้าคงไม่ดีนัก
“ไปไหนนังหนู” คนขับแท็กซี่ถามเพราะเขาวนรถหลายรอบแล้ว
“ไป...” ชีวิตของเธอไม่มีที่ไป
“รบกวนไปส่งหนูที่นี่ค่ะ” เธอบอกทางจากนี้ไปจะใช้ชีวิตให้ดี ลูกที่เกิดมาจากความรักของเธอจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้
“คุณแม่ขาหนูอยากเล่นน้ำแล้ว” เสียงเด็กหญิงวัยสี่ขวบดังขึ้นและวิ่งเข้ามาหาแม่ที่นั่งรออยู่ข้างสระน้ำ “ลูกสาวแม่แต่งตัวแบบนี้พ่อหวงตายเลย” อัยย์ญาดาหอมแก้มลูกสาว น้องอันนา หรือเด็กหญิงสาวอัยย์ญาวี แบล็คธอร์น ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคฑา วันนี้ครอบครัวเธอมาเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลทางภาคใต้ ซึ่งกว่าคุณพ่อเขาจะมีเวลาพามาเกือบหนึ่งปี เล่นเอาลูกๆ น้อยใจ “ลงไปเล่นน้ำกันนะคะ” “ได้เลยค่ะ” อัยย์ญาดาถอดเสื้อคลุมออกเธอใส่ชุดว่ายน้ำแบบสายเดี่ยวข้างล่างเป็นกระโปรง สองแม่ลูกเล่นน้ำในสระน้ำของโรงแรมเพราะตอนกลางวันแดดร้อนจึงไม่พาลูกลงทะเล หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เห็นแบบนั้นถึงกับมองไม่ละสายตา เพราะคุณแม่นั้นสวยมากแถมลูกสาวน่ารักไม่น้อย “ป๊ารอคชาด้วยสิ” “บอกแล้วไงว่าอย่ากินเยอะ” คฑามองหาแม่ของลูกเพราะมัวแต่พาลูกชายเข้าห้องน้ำ แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นสาวๆ นั่งอยู่ที่เดิม “ไปไหนกัน” เรียกว่าเขาไม่ปล่อยให้สองแม่ลูกละสายตาเลย เพราะไม่ชอบเวลาที่มีผู้ชายคนอื่นมอง “นั่นไงคุณแม่เล่นน้ำกับน้องคชาไปเล่นด้วยดีกว่า” คช
บทสัมภาษณ์พิเศษ แบบส่วนตัวกับอาจารย์หมอสุดหล่อผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ หลังจากเพิ่งประกาศสละโสดแบบสายฟ้าแลบ “คุณหมอคฑาผู้ชายที่รักเมียจนสาวทั้งประเทศต้องถอนตัว” “ภรรยากับลูกคือทุกอย่างของผมครับ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้นแล้ว” นักข่าว : “สวัสดีค่ะคุณหมอคฑา วันนี้เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาสัมภาษณ์คุณหมอที่ทั้งเก่ง ทั้งอบอุ่นแถมยังเป็นเจ้าของหัวใจสาวๆ ทั้งประเทศ” คฑา : (ยิ้มนิดๆ) “ขอบคุณครับแต่ความจริงหัวใจผมมีเจ้าของแล้วนานมากเลยนะครับ” นักข่าว : “มีข่าวลือว่าคุณหมอคลั่งรักเมียจริงไหมคะ?” คฑา : หัวเราะเบาๆ “ผมไม่ปฏิเสธนะครับ เพราะสำหรับผมอัยกับคชาคือลมหายใจ คือบ้านคือความหมายของชีวิต ถ้าการรักภรรยาและลูกมากๆ จะเรียกว่าคลั่งรัก ผมก็ยอมเป็นแบบนั้นทั้งชีวิตครับ” นักข่าว : “แล้วมีเคล็ดลับยังไงในการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นแบบนี้ตลอดมา?” คฑา : “ผมเคยพลาดครับเคยกลัวการมีครอบครัวจนวันหนึ่งผมเสียพวกเขาไป แต่ก็ทำให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง ทุกวันนี้ผมตื่นมากอดลูกกอดภรรยาฟังเขาพูดฟังเขาบ่น
กลางห้องโถงสายตาทุกคู่จับจ้องไปยังชายหญิงที่ยืนเคียงกันบนเวทีเล็กๆ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวและชมพู พวกเขายิ้มให้กันด้วยแววตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผ่านวันคืนมายาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้วันนี้พิเศษเหนือใคร ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวแต่เป็นเด็กชายตัวน้อยในชุดสูทจิ๋ว ที่ยืนอยู่เคียงข้างพ่อแม่ของเขา “ปะป๊า หล่อจังเลย” เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นพลางยกมือจับมือพ่อไว้แน่น “หล่อกว่าปะป๊าอีกนะครับวันนี้” หลังจากที่เขาพาอัยย์ญาดาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังจากนั้นสองเดือน ก็ตกลงจัดพิธีแต่งงานขึ้นเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว อัยย์ญาดามองภาพตรงหน้า แววตาเปี่ยมสุข รอยยิ้มของเธอสว่างไสวกว่าดอกไม้ทั้งหมดในงาน เธอเอื้อมมือมาแตะแก้มลูกชายเบาๆ ก่อนจะหอมฟอด “วันนี้เราไม่ได้แต่งงานแค่กันและกันนะ แต่เรากำลังสร้างครอบครัวจริงๆ ครอบครัวที่มีพวกเราสามคน” คฑาสบตากับหญิงสาว เสียงปรบมือดังกึกก้องขณะที่ทั้งสามคนยืนเคียงกันพ่อแม่และลูกชายเป็นภาพที่ทั้งอบอุ่นและสมบูรณ์แบบ “เจ้าบ่าวดื่มก่อนดิ” เพลิงยื่นเหล้าให้ซึ่งเป็น
“หยุดได้แล้วยาหยีคุณมาทำอะไรที่นี่! กลับไปซะ” คฑาต่อว่าหญิงสาวที่มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น “ปล่อยฉัน! คฑายาหยีถามคุณหน่อยเถอะมันทำเสน่ห์ใส่คุณหรือไงถึงได้หลงมันขนาดนี้” เขาทำลายอนาคตของเธอทุกอย่าง จนเธอหมดอนาคตกับวงการแพทย์ที่เธอภูมิใจ “อย่ามาวุ่นวายกับคนของผมอีกยาหยีคุณมันน่ารังเกียจทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็ก” “มันวิ่งตกบันไดเองยาหยีไม่ได้ทำ” ก็เธอไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเธอ “แต่คุณก็ไม่ช่วยคนเป็นหมอเขาไม่มีพฤติกรรมแบบคุณหรอก” ไม่มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แถมยังมีสารเสพติดไว้ครอบครอง “ความเป็นคนคุณก็ไม่มีเหมือนกันแหละไม่อย่างนั้นมันไม่หอบลูกหนีมาหรอก” ยาหยีหันไปมองอัยย์ญาดา ทำตัวไร้เดียงสาเพื่อจับผู้ชาย “อัยเราเข้าบ้านกันดีกว่าทางนี้เดี๋ยวปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาจัดการเอง” คฑากุมของอัยย์ญาดาไว้แน่นหันหลังกำลังจะเดินเข้าบ้าน “ไม่นะคฑา ฮึก ยาหยีทำเพื่อคุณขนาดนี้คุณไม่มองบ้างเหรอ” ยาหยีวิ่งมาเกาะขาของคฑาไว้แน่น ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ตกใจ “ไอ้อรรคมึงลากผู้หญิงคนนี้ออกไปสิ!”
ยาหยีกลับมาถึงกรุงเทพยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถ หญิงสาวกลับได้รับสายจากนักข่าวจากสำนักจนเธอเองก็แปลกใจว่าพวกเขาจะถามเธอเรื่องอะไร เธอกดเข้าไปดูข่าวที่พาดหัวตัวโตบนหน้าจอ “คุณหมอสาวลูกหลานไฮโซชื่อดัง 'ยาหยี' กับภาพหลุดสุดอื้อฉาว เปลือยกายแนบชิดกับชายหลายคนพร้อมคลิปปาร์ตี้ยาเสพติดสุดกร่างในบ้านหรู” ภาพบนหน้าจอใบหน้าเธอในสภาพเมามาย คลิปเสียงหัวเราะดังลั่นภาพเบลอแต่ชัดพอจะรู้ว่าเป็นเธอแน่นอน “ไม่นะ ไม่นะใครมันกล้าทำแบบนี้ กรี๊ดดดดด” เธอรีบกดดูคลิปที่แชร์ว่อนในแอปต่างๆ มือไม้สั่น น้ำตารื้นขึ้นมาช้าๆ พอคลิปตัดไปภาพสุดท้ายภาพที่เธอนอนหลับเปลือยข้างชายแปลกหน้าเธอโยนมือถือกระเด็นลงพื้น “คฑา! แกมันสัตว์นรกเล่นแรงถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ยาหยีกรีดร้องจนคนในบ้านได้ยินต่างพากันออกมามุงดู กลัวว่าพ่อแม่จะมาเห็นเธอเสียก่อนจะรีบขับรถออกมา พร้อมกับความโกรธแค้นที่คฑาทำกับเธอแบบนี้ เขาไม่แจ้งความเธอแต่เล่นเอาเธอไม่มีที่ยืนในสังคม เป็นบังคับกันทางอ้อมเพื่อให้เธอลาออกจากการเป็นแพทย์ ความดีที่เป็นเพื่อนกันมาเขามองไม่เห็นเลยหรือ ผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้
อัยย์ญาดามารับลูกเกือบเที่ยงพอดี วันนี้มีลูกค้ามาเหมาร้านดอกไม้เลยปิดร้านเร็ว แต่พอจะเข้าไปหาคฑาเธอกลับแปลกใจเพราะได้ยินคนคุยกันเรื่องเด็กหายไป “ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าเด็กที่ตามหากันอยู่ชื่ออะไรคะ” “ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลค่ะชื่อน้องคชา” ประชาสัมพันธ์สาวตอบเพื่อหวังว่าจะได้ง่ายต่อการตามหา อัยย์ญาดาที่รู้ว่าลูกชายเธอหายไปก็รู้สึกโกรธชายหนุ่มเป็นอย่างมากที่เธอแค่ฝากลูกไว้กับคฑาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่อีกฝ่ายกลับทำลูกหาย เธอรีบไปหาคฑาทันทีแต่พอจะเดินผ่านบันไดหนีไฟกลับได้ยินเสียงเด็กร้องไห้พอดี เธอรู้ทันทีว่านั่นคือเสียงลูกชายสุดที่รักของเธอ “น้องคชา! ฮึก ลูกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” เธอเห็นสภาพลูกชายรีบวิ่งเข้าไปหาและกอดลูกไว้ ตอนนี้ที่คิ้วด้านซ้ายมีเลือดไหลไม่หยุด เธอใจจะขาดแทนลูกและโกรธที่คฑาดูแลลูกไม่ดี “อัยจ๋า แง่งงง” คชาที่เห็นแม่จึงร้องไห้เสียงดังมากกว่าเดิมและชี้ไปที่แขนตัวเองว่าขยับไม่ได้ “เจ็บตรงไหนบอกแม่สิ” “ขยับไม่ด้ายยย อัยจ๋า” คฑาที่ได้ยินเสียงลูกจึงรีบเปิดประตูเข้ามาหัวใจคนเป็นพ่อแทบแตกสลายเขารีบเข้ามาอุ้ม จากอ้อมแข
Mga Comments