เข้าสู่ระบบ“ไม่ ไม่เอาแบบนี้...” คนไข้บอกฉันว่าตรงส่วนนั้นของเขาดุดันเกินไป ถึงขั้นจะให้ฉันใช้ร่างกายช่วยตรวจ แต่แค่ไม่กี่รอบก็เล่นงานฉันหมดสภาพแล้ว...
ดูเพิ่มเติม“คุณคิดจะทำอะไร!? ผมจับได้คาหนังคาเขา มีทั้งพยานหลักฐาน อย่าคิดจะแก้ตัว! อีกไม่กี่วันผมจะเอาหนังสือหย่ามาให้ คุณแค่เซ็นชื่อก็พอ!”ตอนที่ฉันกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหลิวเกินแล้ว กระทั่งสัมภาระของเขาก็ถูกขนไปด้วยจนหมดหลังสามีพูดจบ ก็เหลือเพียงฉันที่ทรุดฮวบลงไปนั่งกองกับพื้นห้อง พอลองย้อนนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันจึงเพิ่งตระหนักว่าตัวเองตกหลุมพรางเข้าให้แล้วแม้เรื่องทั้งหมดนี้มีเค้าลางบอกอยู่แล้ว แต่ฉันกลับเลือกเชื่อใจหลิวเกิน ตามเขามาหาสามีด้วยกันแต่ความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดก็คือ ฉันดันมาพักห้องเดียวกับหลิวเกินเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ฉันก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าตัวเองติดกับดักที่พวกเขาร่วมหัวกันวางไว้ฉันเสียใจจนอยากย้อนเวลา แต่ก็คิดไม่ตกว่า ในเมื่อก่อนหน้านี้เราสองคนรักกันดีไม่มีปัญหา แล้วทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้ได้ลงคอล่ะ!?ฉันเก็บข้าวของของตัวเอง เช็กเอาต์ออกจากโรงแรม เดินทางกลับมายังเมืองที่ฉันอยู่ เดิมทีฉันตั้งใจจะไปหาสามีเพื่อถามให้รู้เรื่อง แต่พอไปถึงหน้าประตูก็พบว่าแม่กุญแจบ้านได้ถูกเปลี่ยนไปแล้วนี่มันรวดเร็วเกินไป ฉันได้แต่ยืนอ้าปา
ยังไม่ทันขาดคำ หลิวเกินก็ดึงฉันเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนมือใหญ่หยาบกร้านลูบผ่านหน้าอกฉัน ไล้ไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกาย ก่อนจะมาหยุดที่สะโพกกลมกลึงเสียงเพี๊ยะดังขึ้นในฉับพลัน หัวใจฉันเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสมระคนละอายใจทันทีร่างกายฉันร้อนผ่าวขึ้นมาในพริบตา รู้สึกเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างซะให้ได้ เมื่อเห็นฉันไม่ว่าอะไร หลิวเกินก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น“พี่สะใภ้ ให้ผมช่วยเติมเต็มพี่อย่างสุดฝีมือเถอะนะ...”ต้องยอมรับว่า มือของหลิวเกินนั้นมีลีลาที่เหนือกว่าสามีฉันไม่รู้กี่เท่า เพียงไม่กี่ครั้งเขาก็ปลุกเร้าฉันจนต้านทานไม่ไหวแล้วในไม่ช้า ไฟปรารถนาของฉันที่สะสมมานานก็ถูกปลุกขึ้นมาจนลุกโชน ฉันอยากให้มีคนมาเติมเต็มแทบทนไม่ไหวเขาเหมือนคนขับรถผู้ช่ำชองเส้นทาง สามารถควบคุมความสุขสมของฉันตามใจชอบ ไม่นานฉันก็สัมผัสได้ถึงความสุขล้นแทบขาดใจขณะที่ลมหายใจของเราสองคนถี่กระชั้นขึ้น หลิวเกินก็เคลิบเคลิ้มอยู่ในอ้อมกอดอันอ่อนนุ่มของฉันโดยสมบูรณ์ ในที่สุด เราก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบรรยายต่อกันแต่ที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ หลิวเกินนัวเนียเคลียคลอฉันนานถึงสามชั่วโมงกว่า หลังเสร็จกิจ รูขุมขนทุกอณูของฉัน
“พี่สะใภ้ งั้นพี่รู้ไหมครับว่าสามีพี่ไปทำงานต่างเมืองที่ไหน!?”คำถามเพียงประโยคเดียวนี้ทำเอาฉันถึงกับนิ่งอึ้ง จริงด้วยสิ ตอนสามีออกไปทำงาน เขาก็ไม่ได้บอกฉันซะด้วยว่าจะไปทำงานที่เมืองไหนถ้าโทรไปถามเขาตรง ๆ สมมุติว่าสามีกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่จริง เขาก็ต้องเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้าแล้ว ถึงตอนนั้นฉันก็คงสืบหาอะไรไม่เจอแน่...หลังครุ่นคิดอยู่นาน หลิวเกินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็กล่าวขึ้น“พี่สะใภ้ ผมรู้ครับว่าสามีพี่ไปทำงานต่างเมืองที่ไหน เดี๋ยวผมจะไปกับพี่เอง...”เมื่อเห็นท่าทางจริงใจใสซื่อของหลิวเกิน ฉันจึงจำใจตกลงคืนนั้น ฉันกับหลิวเกินนั่งรถไฟความเร็วสูงออกเดินทาง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เราก็ลงรถในเมืองที่ไม่คุ้นเคยตลอดทาง ฉันเดินตามหลิวเกินไปในเมืองแปลกหน้าแห่งนี้หลังนั่งรถต่ออีกชั่วโมงกว่า ในที่สุด หลิวเกินก็พาฉันมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าสามีฉันมาคุยธุรกิจแถวนี้ และพักอยู่ที่ห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรมนี้นี่เองหลิวเกินพาฉันไปเปิดห้องพัก หลังจัดแจงสัมภาระเรียบร้อย เขาก็พาฉันไปตามหาสามีที่แผนกต้อนรับของโรงแรม ฉันแจ้งชื่อสามีไป ไม่นานก็ตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนเข้าพักของเขาได้แล้วบ
“หลิวเกิน...ฉัน...ไม่มีปัญหา...แต่นายต้องรับปากฉัน ว่าเรื่องนี้ห้ามมีใครรู้นอกจากเราสองคน...แล้วก็ นายต้องรีบหน่อย...พ้นคืนนี้ไป เราจะไม่เจอกันอีก...”หลิวเกินพยักหน้ารับคำอย่างเร่งรีบ ริมฝีปากของเขาซุกไซ้ไปทั่วร่างฉันราวกับอยากจะกลืนกินฉันเข้าไปทั้งตัวแต่อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รีบหน่อย เขากลับเปลี่ยนใจ“พี่สะใภ้ เราไปห้องนอนกันดีไหม...ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวก...”ได้ยินแบบนั้น ฉันก็ตื่นตัวขึ้นมาทันทีเพื่อป้องกันขโมยเข้าบ้าน กล้องวงจรปิดในห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจึงเปิดไว้ตลอดถ้าสามีเปิดกล้องดูแล้วมาเห็นเข้าล่ะก็ ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่...แต่หลิวเกินไม่สนใจ เขารวบตัวอุ้มฉันขึ้นก่อนเดินออกจากห้องน้ำหลังร้องห้ามหลายครั้งไม่ได้ผล ฉันจึงอ้าปากกัดเขาไปทีหนึ่ง“โอ๊ย~”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น นั่นเองหลิวเกินถึงยอมปล่อยฉันลง และหันมาจ้องฉันเขม็งด้วยความเดือดดาล“อีเวรนี่ กูอุตส่าห์หวังดีช่วยสนองให้ ยังจะมากัดกูอีก ช่างไม่รู้จักบุญคุณเอาซะเลย!”“แม่งเอ๊ย ถ้าไม่ใช่ว่าเขาจ่ายหนัก แถมหุ่นยังดีขนาดนี้ ใครมันจะอยากแอบตอกเมียชาวบ้านวะ!”หลิวเกินพึมพำแผ่วเบา แต่ฉันก็ยังหูไวจับใจความไ
ภายใต้ไอน้ำอบอวล ฉันเผลอกัดริมฝีปาก ขาสองข้างหนีบชิด มือข้างหนึ่งเอื้อมลงไปสัมผัสช่วงล่างตามสัญชาตญาณไม่ได้ปลดปล่อยอย่างสุขสมแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว รอบกายฉันถูกห่อหุ้มด้วยไอน้ำ ใบหน้าค่อย ๆ แดงระเรื่อ ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นอย่างเชื่องช้า ขณะดื่มด่ำกับความสุขสันต์ที่หาได้ยากยิ่งนี้แต่มันก็ยังเทียบไม่ได้กับผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อความปรารถนาในใจฉันถูกปลุกเร้าขึ้นมาเต็มอัตรา พอนิ้วมือเริ่มขยับเร็วขึ้น ความว่างเปล่าในใจก็พลันขยายใหญ่จนไร้ที่สิ้นสุด คล้ายจะกลืนกินฉันเข้าไปทั้งตัวอย่างไรอย่างนั้นฉันเหมือนคนถูกวางยา ไม่เคยรู้สึกหิวกระหายขนาดนี้มาก่อนขณะที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์ ประตูห้องน้ำก็ถูกแง้มเปิดออกภายในห้องน้ำอบอวลไปด้วยไอน้ำเลือนลาง ฉันจึงไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติจนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในความเงียบงัน ฉันถึงกับตกใจต้องผงะถอยหลังกรูดเป็นหลิวเกิน!ฉันคว้าผ้าขนหนูมาปิดบังร่างกายตัวเองตามสัญชาตญาณ หยดน้ำเกาะพราวอยู่บนผิวเนื้อเนียนนุ่ม เมื่อมองเงาสะท้อนในกระจก ฉันก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองดูยั่วยวนชวนมองมากเท่านี้มาก่อน“พี่สะใภ้ นี่ผมเอง จำไม่ได้เหรอครับ...
ถ้าเป็นตอนปกติ ฉันคงดีใจที่มีคนไข้เยอะขนาดนี้ เพราะมันหมายถึงรายได้ที่มากขึ้นรวมถึงงานที่เต็มไม้เต็มมือ แต่วันนี้ฉันกลับรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นมาซะอย่างนั้นหลังฉันนั่งตรวจคนไข้โดยไม่หยุดพักอยู่สองชั่วโมง หลิวเกินก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าอิดโรย มือขวาของเขาห้อยต่องแต่ง แม้แต่แรงจะเปิดประตูยังไม่มีฉันถึงกับอึ้ง ตามปกติแล้ว ผู้ชายที่ใช้มือช่วยตัวเองเกินสิบนาทีก็ถือว่าอึดมากแล้ว แต่เขากลับทำได้ต่อเนื่องถึงสองชั่วโมง...เมื่อหลิวเกินออกมาจากห้องน้ำ เขายังคิดจะกลับไปต่อแถวอีก ตอนนั้นเองฉันถึงเพิ่งนึกได้ว่า หลิวเกินก็มาหาหมอเหมือนกันแต่พอเหลือบมองห้องตรวจที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน หลิวเกินก็หันหลังเดินจากไปหลังหลิวเกินเดินหายไปแล้ว ฉันก็ใจลอยทันที ความรู้สึกว่างเปล่าในใจขยายใหญ่ขึ้นจนไร้ที่สิ้นสุด กระทั่งมีบางช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกเหมือนสิ้นหวังในชีวิต...เมื่อกลับถึงบ้านตอนเย็น ความเหนื่อยล้าขั้นสุดก็ทำให้ฉันหมดเรี่ยวแรง นึกอยากคลอเคลียกับสามีเป็นการด่วนแรงกระตุ้นทางเพศที่ได้รับมามากมายในวันนี้ ทำให้ในใจฉันรู้สึกอัดอั้นอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกสามีกำลังนั่งเอกเขนกเล่นมือถืออยู่บนโซ
ความคิดเห็น