LOGINหลังจากที่นางบอกความลับกับครอบครัว ก็รู้สึกเบาสมองขึ้นเยอะ นางเป็นคนไม่ชอบมีความลับกับครอบครัว ตอนภพที่แล้วมีอะไร หยางชินก็มักจะบอกเล่าให้คุณตาคุณยายฟังอยู่เสมอ แต่กับผู้เป็นพ่อเกือบจะไม่เคยได้พูดคุยดีๆ กันเลย.
"แล้วไอ้สิ่งนี้มันคืออะไรหรือลูก ใช้ทำอะไรได้?" ชูเม่ยถือแพมเพิสแล้วมองอย่างสงสัย? "เป็นผ้าอ้อมเจ้าค่ะ ท่านแม่ สิ่งนี้จะช่วยให้น้องไม่ตื่นบ่อย" ว่าแต่มันใส่ยังไงล่ะ นางไม่เคยใช้สะด้วย แต่ก็ผ่านไปได้เพราะหยางชินเคยเห็นพนักงานใส่ให้ตุ๊กตาตัวโชว์พร้อมเสื้อผ้าเด็กอ่อน และที่นอนเอาออกมาให้ครบ และนึกขึ้นได้เลยหยิบแบบของผู้ใหญ่ออกมาด้วย เพื่อใส่ให้บิดาด้วยมารดาได้ไม่เหนื่อยมาก. "พวกท่านไม่ต้องห่วงนะเจ้าค่ะ ต่อไปนี้พวกเราจะไม่ลำบากแบบเก่าแล้ว" นางพูดให้กำลังใจบุพการี ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป. "พี่ใหญ่ ข้าหิว" ไป๋หมิงร้องบอกพี่สาว เพราะนี้ก็มืดแล้ว แต่จากอมยิ้มที่พี่สาวให้ ก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย. "งั้นเดี๋ยวพี่หาของกินให้ ท่านพ่อท่านแม่พักผ่อนนะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าดูแลน้อง ๆ เอง" พูดจบก็พาน้อง ๆ เดินออกจากห้อง. หญิงสาวหยิบขนมปักและนมให้น้องสาวทั้งสอง ตอนนี้มันมืดแล้ว นางไม่รู้จะให้น้อง ๆ กินอะไรเลย จึงเอาขนมปังใส้มันหวานให้กินไปก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน. "เหมี่ยว" เจ้าแมวน้อยร้องอ้อนเหมือนจะขอกินด้วย นางเลยหยิบอาหารเปียกแมวให้มันกินแล้วเก็บซองเอาไปทิ้งในมิติได้อย่างไม่ผิดสังเกต. หลินหลานเห็นแมวก็สงสัย เพราะที่บ้านไม่มี และนางก็ไม่เคยเห็นเจ้าแมวตัวนี้ด้วย. เจ้าแมวนี้มาจากไหนเจ้าค่ะ พี่ใหญ่?" "เลาเลี้ยงมั้ย?ไป๋หมิงถาม มือก็ลูบตัวเจ้าแมวน้อย "ได้สิ มันเป็นแมวของเราแล้ว" "เสี่ยวมาว!" ไป๋หมิงบอกอย่างภูมิใจที่ตั้งชื่อแมวเอง หยางชินกับหลินหลานมองน้องสาวคนเล็กด้วยความขำขัน "จ้ะ..เสี่ยวมาวก็เสี่ยวมาว" หลังจากอิ่มท้องแล้ว 3 พี่น้องก็ชวนกันเข้านอน ปกติ 3 พี่น้องก็นอนด้วยกันในห้องเล็กอยู่แล้ว ส่วนมารดาจะนอนเฝ้าบิดาที่ป่วย แต่มีบ้างที่นางต้องไปช่วยยกตัวบิดายามเช็ดตัวหรือเปื้อนของเสีย มารดายกตัวไม่ไหว ต้องให้นางไปช่วยอีกแรง ตอนเช้าหญิงสาวตื่นก็เดินไปดูมารดากับบิดาก่อน แล้วช่วยมารดาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้บิดาและน้องชาย ก่อนจะออกไปในครัวดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง ในครัวไม่มีอะไรเลย มองหาข้าวสารก็มีแต่ข้าวหักเพียงหยิบมือ มิน่า เมื่อวานข้าวต้มนางถึงมีแต่ น้ำ หญิงสาวเลยหยิบถุงข้าวสารขนาด 30 จิน (15 กิโลกรัม) ออกมาวางไว้เพื่อเตรียมหุง นางจุดเตาด้วยไฟแช็กจึงจุดได้ง่าย แต่ปัญหาคือหุงข้าวนี้สิ นางไม่เคยหุงข้าว แต่เหมือนในความทรงจำของร่างเดิมจะหุงเป็น แต่เอาไว้ก่อน ต้มบะหมี่แล้วกันง่ายดี ใส่ผักกับเนื้อสัตว์ในมิติได้เพิ่มสารอาหาร หลินหลานเดินงัวเงียออกมาดูพี่สาวทำอาหารในครัว "พี่ใหญ่ทำอะไรเจ้าค่ะ หอมมาก" "พี่กำลังต้มบะหมี่นะ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว ไป๋หมิงยังไม่ตื่นหรือ" "ยังไม่ตื่นเจ้าค่ะ เมื่อคืนนอนกันดึก เลยอาจตื่นสายหน่อย" พอทำบะหมี่เสร็จก็ตักใส่ถ้วยเตรียมยกไปให้บิดามารดาในห้อง "แม่ว่าจะออกไปช่วยทำครัว แต่ก็ติดให้นมน้องชายเจ้าละ" "ข้ากำลังต้มน้ำไว้ให้ท่านพ่อและน้องเช็ดตัวเจ้าค่ะ" "เช้านี้พ่อรู้สึกดีขึ้นมาก เหมือนจะขยับตัวได้บ้าง" หมิงฟงตอบบุตรสาว จากตอนแรกเขาขยับตัวไม่ได้ แต่เช้านี้เหมือนเขาจะขยับแขนขาได้บ้าง "ดีเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวกินบะหมี่แล้วดื่มน้ำอีกนะเจ้าค่ะ" "แต่น้องยังไม่มีชื่อเลยเจ้าคะ" หลินหลานที่เดินเข้ามาด้วยก็เอ่ยถามมารดา "พ่อคิดไว้แล้ว ให้ชื่อว่าเฮอหวังซี น้องคลอดมาพร้อมเรื่องดี ๆ ของครอบครัวเรา พ่อหวังว่ามันจะดีขึ้น ๆ ไปอีก เดี๋ยวเจ้าไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านเรื่องน้องเจ้าด้วยนะ" "ได้เจ้าค่ะ" กว่าหญิงสาวจะจัดการภายในบ้านเสร็จก็เล่นเอาหอบ เพราะในภพที่แล้วเรื่องงานบ้านอะไรพวกนี้มีคนทำให้หมด แต่ด้วยร่างเดิมเป็นคนทำงานบ้านเก่ง นางเลยไม่ค่อยลำบากเท่าไร แต่เหนื่อยมาก พอเสร็จจากงานบ้านก็เอาไป๋หมิงแบกใส่หลังแล้วนำผ้ามาผูกอีกชั้นกันน้องหล่น มาถึงบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก็เห็นแม่เฒ่าเฟิ่งกำลังนั่งแกะเมล็ดข้าวโพด "ท่านยายเฟิ่งเจ้าคะ" "อ้าว!.หยางชินเองหรือ มา มา เข้ามาก่อน" "ท่านลุงผู้ใหญ่บ้านอยู่ไหมเจ้าคะ ข้าจะมาทำเรื่องแจ้งเกิดให้น้องชายเจ้าคะ" "แม่เจ้าคลอดแล้วเหรอ ท้องนี้ได้ลูกชายสมใจแม่เฒ่าเฮอสะทีนะ แล้วพ่อเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?ตอนที่ผู้เฒ่าตระกูลเฮอให้บ้านสามเฮอแยกบ้าน ผู้คนก็ได้แต่เห็นใจ "เจ้าค่ะ คลอดเมื่อวานนี้ ส่วนท่านพ่อก็อาการค่อยๆ ดีขึ้นเจ้าค่ะ" "งั้นรอสักครู่เดี๋ยวอาเฉียนก็ออกมา" หยางชินเลยค่อยๆ นั่งลงเพราะมีน้องสาวผูกอยู่ที่หลัง เพื่อรอผู้ใหญ่บ้านมารับเรื่อง "อ้าว...หยางชินเองหรือ? ข้าก็ว่าท่านแม่คุยกับใคร" ผู้ใหญ่บ้านเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงมารดาคุย "ผู้ใหญ่บ้าน ข้าจะมาแจ้งว่ามารดาได้คลอดน้องชายแล้วเมื่อคืนเจ้าค่ะ เลยจะมาทำเรื่องแจ้งเกิด ซื่อเฮอหวังซีเจ้าคะ" "ได้สิ?.เดี๋ยวข้าจะจัดการไปทำเรื่องให้อีกสองสามวัน เจ้าค่อยมาเอาป้ายประจำตัวให้น้องก็แล้วกันนะ" "ขอบคุณมากเจ้าค่ะ งั้นข้ากลับก่อนนะเจ้าค่ะ ข้ามานานเป็นห่วงท่านพ่อท่านแม่" คารวะท่านแม่เฒ่ากับผู้ใหญ่บ้านแล้วก็เดินทางกลับ ระหว่างทางก็ผ่านบ้านเฮอ ก็เห็นผู้เฒ่าทั้งสองนั่งทำงานอยู่ที่ลานหน้าบ้าน หยางชินไม่คิดจะสนใจเลยเดินผ่านไปโดยที่ไม่เอ่ยทักทาย "นั้นมันนังหยางชินไม่ใช่เหรอ ไปไหนกัน" สะใภ้ใหญ่ที่เดินกลับมาบ้านเพื่อเตรียมทำมื้อกลางวันเห็นหยางชินเลยพูดออกมา "ตัวขาดทุนจะไปไหน อย่าไปสนใจเลย ไม่มาเกาะเราเป็นใช้ได้" พ่อเฒ่าเฮอพูดอย่างรำคาญ ส่วนหยางชินก็เดินกลับมาถึงบ้าน เปิดประตูหน้าบ้านแล้วปิดลงกลอนก่อนจะเดินเข้าไปดูบิดามารดา "ท่านแม่ ท่านลุกมาทำไมเจ้าค่ะ" เดินเข้ามาเห็นมารดากำลังจะเตรียมเอาผ้าไปซักที่แม่น้ำ "แม่จะเอาผ้าไปซักนะ เรื่องแจ้งเกิดน้องเรียบร้อยมั้ยลูก" "เรียบร้อยเจ้าค่ะ ม๊ะ..เดี๋ยวข้าจัดการให้เอง ท่านไปดูท่านพ่อกับหวังซีเถอะเจ้าค่ะ" นางรับผ้ามาแล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน หญิงสาวมีเครื่องปั่นกับเครื่องอบแห้ง กลัวอะไรกับการซักผ้า เธอหายเข้าไปในมิติโดยที่ลืมไปว่ามีน้องสาวเกาะอยู่ที่หลัง จนน้องสาวถามขึ้นมา ถึงนึกออก "ที่ไหน?" ไป๋หมิงที่เกาะอยู่หลังพี่สาว อยู่ๆ ก็เปลี่ยนที่ แถมสถานที่ไม่คุ้นด้วย "ห้องลับของพี่เอง หมิงเอ๋อชอบมั้ย?" "จ้อบเจ้ากะ" ระหว่างรอผ้าปั่น นางก็หานมให้น้องดื่ม แล้วไม่ลืมเอาไปฝากหลินหลาน วัยกำลังโต ต้องดื่มนมเยอะๆ ออกมาจากมิติก็เห็นเสี่ยวมาวนอนหงายท้องอยู่หน้าบ้านกับหลินหลาน เลยยื่นนมให้น้องสาวแล้วแกะผ้าที่ผูกน้องสาวคนเล็กออกให้น้องนั่งที่แคร่หน้าบ้าน หญิงสาวมองรอบๆ บ้านก็ให้รู้สึกท้อใจ นางต้องมาปลูกไร่ไถนาจริงๆ เหรอ? นางไม่เคยทำ ถึงจะมีความทรงจำจากร่างเดิมที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่มันก็ยังลำบากอยู่ดี นางจำได้ว่าที่บ้านลำบากมาก ขนาดหนางชินคนเก่าไม่สบาย ยังไม่มีเงินเรียกหมอมารักษา แล้วนางจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ยังไงดี? หรือจะลองเดินขึ้นเขาไปเผื่อจะเจอพวกสมุนไพรอย่างในนิยาย แต่สมุนไพรนางก็รู้จักอยู่ไม่กี่ชนิดเอง คิดไปก็ถอนหายใจไป แต่ให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้ด้วยสิ ถึงในมิตินางจะมีข้าวของมากมาย แต่ชีวิตมันต้องมีเงินไว้เผื่อยามฉุกเฉิน เดี๋ยวต้องลองขึ้นเขาไปดูรอบๆ "แม่หุงข้าวเสร็จแล้ว พาน้องมากินข้าวก่อนลูก" "แต่กับข้าวเราไม่มีนะเจ้าคะ" จะให้นางกินแบบเมื่อวานไม่เอาแล้วนะ มันไม่อยู่ท้อง "แม่เห็นมีผักกับเนื้อสัตว์อยู่ในครัว เลยเอามาผัดให้นะ" หญิงสาวถึงนึกออกว่าเมื่อเช้าตอนทำบะหมี่ เอาผักกับเนื้อสัตว์ ออกมาแล้ววางทิ้งไว้ด้วยความเคยชิน เพราะปกติเวลาทำอะไร แค่วางไว้ เดี๋ยวพนักงานก็มาเก็บให้ หยางชินเลยเข้าไปในครัวแล้วหยิบของใช้ในครัวเอาออกมาใส่ตู้เสบียง พร้อมเครื่องปรุงต่างๆ "ข้าเอาของออกมาให้ท่านแม่ใช้ได้ตามสบายแล้วนะเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องหาเงิน เดี๋ยวข้าหาวิธีก่อน แฮะแฮะ" นางเคยทำอะไรที่ไหน เรื่องนี้เป็นปัญหาหนักมาก ต้องปรับตัวอย่างแรง "จ้ะ..เดี๋ยวแม่ไปป้อนข้าวต้มให้ท่านพ่อก่อนนะ" "เดี๋ยวเจ้าค่ะ" แล้วหยางชินก็หยิบถุงหมูหยองออกมาให้มารดาเอาไปให้บิดากินคู่กับข้าวต้ม "ข้าวต้มจะรสชาติดีขึ้นเจ้าค่ะ ท่านพ่อได้ทานเยอะขึ้น" มารดารับมายิ้มๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องเพื่อดูแลสามีในขณะบุตรชายหลับ บุตรสาวนำผ้าอ้อมมาให้น้องชายใช้ ทำให้ทารกน้อยนอนหลับได้นานขึ้น นางจึงมีเวลาทำงานอย่างอื่นบ้าง เดินเข้ามาเตรียมป้อนข้าวต้ม สามีก็เห็น เขาหันตะแคงมามองตนเองพอดี "ท่านพี่..ท่านขยับตัวได้แล้ว" "ใช้..น้ำที่ชินเอ๋อเอามาให้ดื่มทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาก" "ดี..ดีมากเจ้าคะ ท่านต้องรีบหายนะเจ้าค่ะ พวกข้ารอท่านมาปกป้องอยู่นะ"พูดให้กำลังใจสามีให้พออารมณ์ดีแล้วก็นั้งลงเพื่อป้อนข้าวสามี "นั้นอะไรหรือ" "หมูหยองเจ้าคะ ชินเอ๋อให้เอามาให้ท่านกินกับข้าวต้ม ได้กินข้าวเยอะขึ้น" "ชินเอ๋อช่างมีบุญยิ่งนักที่เจอท่านเทพช่วยเหลือ ไม่งั้นครอบครัวเราต้องแย่ไปกว่านี้แนๆ" "จริงเจ้าค่ะ เมื่อวานข้าวสารในบ้านเราไม่มีเหลือเลยแต่วันนี้มีหลายจินเลยเจ้าคะ คงเป็นชินเอ๋อที่เอาออกมาให้ เห็นว่าจะช่วยหาตำลึงเข้าบ้านด้วยเจ้าค่ะ"ชูเม่ยพูดถึงบุตรสาวคนโตด้วยความเอ็นดู "ข้าจะรีบหายเพื่อขึ้นเขาไปล่าสัตว์" "เจ้าค่ะ..แต่ตอนนี้กินข้าวต้มก่อน ท่านได้มีแรง" ป้อนข้าวต้มสามีไป ตาก็คอยมองบุตรชายไปด้วย พอป้อนได้ไม่กี่คำ บุตรชายก็ขยับตัวตื่นและร้องหามารดา "เจ้าไปดูหวังซีก่อนเถอะ ข้ารอได้" "งั้นท่านรอสักคู่หนึ่งนะ ซีซีคงหิวนม" หยางชินที่นำผ้าที่ปั่นแห้งแล้วมาเก็บให้มารดาก็เห็นเหตุการณ์เลยนั่งลงป้อนบิดาต่อ "ผ้าแห้งแล้วเหรอลูก?.ไวจัง" "ข้ามีวิธีเจ้าค่ะ..อิอิ" ป้อนจนข้าวต้มหมดก็นำน้ำในบ่อเอามาให้บิดาดื่มแทนน้ำเปล่า "ท่านแม่ก็ดื่มด้วยนะเจ้าค่ะ น้ำนมมีและน้องจะได้แข็งแรงด้วย" พอรู้ว่าบุตรชายจะแข็งแรงขึ้นก็รับมาดื่มอย่างไม่ลังเลที่คฤหาสน์ตะกูลเฟิ่น เฟิ่นต้าไห่กำลังอารมณ์เสียที่อำนาจในมือถูกเปลี่ยน บุตรสาวที่เขาไม่เคยสนใจจะมารับช่วงต่อดูแลคาสิโน จะเป็นไปได้ยังไง ลูกสาวคนนี้วันๆทำแต่เรื่องไร้สาระ จะมาบริหารธุรกิจใหญ่ได้ยังไงกัน"คุณค่ะ..ทานซุปหน่อยนะคะ ชั้นต้มมาร้อนๆค่ะ"เฉียนเห่วตักซุปให้สามีอย่างเอาใจ "ตงไห่ไม่อยู่บ้านเหรอ?""ไม่อยู่ค่ะ เขาออกไปช่วยดูแลภัตตาคารนะคะ เห็นว่าใกล้ช่วงเทศกาลลูกค้าอาจเยอะ""ลูกคนนี้ขยันจริงๆ ผมภูมิใจในตัวแกมาก แต่ทำไมคุณพ่อถึงไม่เห็นนะ""อย่าคิดมากเลยค่ะ สักวันคุณพ่อท่านคงเห็นค่ะ "ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ในใจของเฉียนเห่วมีแผนการอยู่แล้วยังไม่ทันที่ต้าไห่จะตักซุบเข้าปาก มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น "ฮาโล....อะไรนะ! อาการเป็นไงบ้าง ชั้นจะไปเดี๋ยวนี้""อะไรหรือค่ะคุณ?""หยางชินถูกยิง ผมไปโรงพยาบาลก่อนน่ะ "เฉียนเห่วกับคิดในใจ 'มันตายแล้วใช้มั้ย'แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ชั้นไปด้วยค่ะ ขอให้ปลอดภัยนะคะ"พอถึงที่โรงพยาบาลก็เดินไปที่ห้องฉุกเฉิน เขาเห็นมีผู้หญิง2,3คนเสื้อผ้าเปื่อนเลือดยืนหน้าห้องฉุกเฉินพร้อมกอดกันร้องไห้ ดูจากเสื้อน่าจะเป็นลูกน้องในร้านของบุตรสาว"พวกเธอเป็นพนักงานของหยางช
หลังกลับจากงานแต่ง จูเหมิงกับหยางชินยังคงทำงานไม่ได้หยุดด้วยอยากวางรากฐานของกิจการให้มั่นคง ฟูจูเหมิงยังคงเดินทางส่งสินค้าด้วยตนเอง ชายหนุ่มทำบัญชีชัดเจน ทุกครั้งที่เอาให้พี่ของตระกูลฮั่นตรวจสอบความเรียบร้อยจึงไม่มีปัญหา พี่น้องฮั่นรู้สึกคิดถูกที่ร่วมลงทุนกับฟูจูเหมิง เพราะการขนส่งทำเงินให้ทั้งสองไม่ใช้น้อย ส่วนกิจการเดินเรือถือว่าหยางชินคุมอย่างเต็มตัว นางสนุกกับการคุมและดูแลความเรียบร้อยท่าเรือด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่เด็ดขาดในการตัดสินใจ ช่วงนี้นางรู้สึกว่าตนเองกินเก่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าอาจทำงานเหนื่อยเลยอยากกินมากเป็นพิเศษเท่านั้น แต่คนที่มองเห็นความผิดปกติคือหลินหลาน สายตาจิ้งจอกของนางมองทะลุเห็นมีทารกอยู่ในครรภ์พี่สาวน่าจะอายุครรภ์ได้5เดือน แต่เหมือนพี่สาวนางจะยังไม่รู้ตัว "พี่ใหญ่"นางเรียกพี่สาวในเช้าวันหนึ่ง "ว่าไงหรือ ท่านหมอหลินหลาน "นางเอ่ยแซวน้องสาวที่ตอนนี้ใครๆต่างก็เรียนนางว่าท่านหมอ"ท่านไม่ได้สังเกตุตนเองเลยหรือเจ้าค่ะ""สังเกตุอะไรหรือ?"ผู้เป็นน้องสาวเมื่อได้ยินคำถามที่พี่สาวถามกลับมาถึงกับส่ายหัว"ท่านกำลังตั้งครรภ์เจ้าค่ะ ตอนนี้อายุครรภ์5เดือนใกล้6
อ๋องฉีช่วงนี้พยายามที่จะเข้าหาอดีตรองชายา พระองค์อาศัยช่วงที่บุตรชายคุ้มสินค้าไปส่งเข้ามาตีเนียนทำเหมือนเขากับรองชายาไม่เคยมีเหตุกันมาก่อน "ขออภัยพะยะคะ แต่ฮูหยินใหญ่กำลังพักผ่อนนางสั่งไว้ห้ามใครรบกวนพะยะคะ""แต่เราไม่ใช้คนอื่น เราเป็นสวามีของนาง เราจะไปหาชายาเราใครก็ห้ามขวาง หลบไป"อ๋องฉีทำเสียงขึงขังเพื่อขู่ให้คนในสำนักไม่กล้าขวางทางตน"คงจะไม่ได้เพคะ ท่านอ๋อง แม่สามีของหม่อมฉันเป็นสตรี อยู่ๆจะให้บุรุษเข้าไปหาถึงในเรือนมันดูจะไม่เหมาะ" หยางชินเดินเข้าไปขวางทางก่อนที่อ๋องฉีจะเดินเข้าไปด้านในเรือนแม่สามี อีตาอ๋องนี้ก็ตื้อไม่เลิกจริงๆ "แต่เราเป็นสามีของนาง ""สามีอะไรเพคะ แม่สามีหม่อมฉันเป็นหญิงหม้ายสามีเป็นพรานป่าตกเขาเสียชีวิต จะมาเป็นชายาท่านอ๋องผู้สูงสงได้เช่นไรกันเพคะ""ท่านอ๋องจะมาเห็นแม่สามีหม่อมฉันงามจนตาลายคิดเป็นชายาของตนเองคงไม่ได้นะเพคะ""มาหาแม่สามีหม่อมฉันบ่อยๆ เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดเอาได้ ดีไม่ดีท่านแม่สามีจะเสียหายเอาได้...หรือพระองค์จะมาบอกรับผิดชอบแต่ทางเราไม่ให้รับผิดชอบเพคะ"หยางชินพูดยาวจนอ๋องฉีไม่มีช่องว่างได้พูด"ตอนนี้ในสำนักเหลือแค่แม่สามีกับหม่อมฉันอยู่ คงไม่สะด
ด้วยฮั่นหวงตี้อยากให้สหายกลับมาสดใสเหมือนเก่า แต่ตนเองก็ไม่มีเวลาเดินทางไปซานไห่ ชายหนุ่มจึงเขียนจดหมายแล้วใช้นกพิราบสื่อสารเพื่อให้ฮูหยินน้อยฟูช่วยหาสัตว์เลี้ยงให้สหายเขา เขาเจาะจงขอเป็นสัตว์น่ารักเหมาะกับสตรีเมื่อหยางชินเปิดจดหมายอ่านก็ขำ"คุณชายฮั่นสงสัยจะซื้อไปเอาใจหญิงในดวงใจแนๆ""พี่ใหญ่ก็ว่าไป เขาอาจเอาไปฝากพี่สาวก็ได้นะเจ้าค่ะ" หลินหลานที่นั้งปรุงยาถอนพิษก็นึกขำ "พี่เดาไม่ผิดแน เดี๋ยวต้องเลือกตัวที่น่ารักๆ สาวเจ้าจะได้ใจอ่อน อิอิ"เมื่อถึงตลาดนัดท่าเรือนางจึงเดินไปดูสัตว์เลี้ยงให้ตามที่สหายขอร้องสัตว์ที่มารอบนี้มีแต่สัตว์ใหญ่เหมาะแกการเอาไว้ล่าสัตว์มากกว่า"เถ้าแก่ ข้าอยากได้สัตว์ขนาดเล็กน่ารักเหมาะกับสตรี มีมั้ยเจ้าค่ะ?""รอบนี้มีแต่สัตว์ใหญ่นะขอรับฮูหยินฟู...อื่อ..แต่มีอยู่ตัวหนึ่งเพิ่งได้มา แต่มันยังไม่เชื่องนะขอรับ" เถ้าแก่ฮูเดินไปหยิบกรงขนาดเล็กเอามาให้ลูกค้าดู เพราะฮูหยินฟูผู้นี้ถือเป็นลูกค้าประจำก็ว่าได้ เพราะซื้อขายกันมา2รอบแล้วแถมนางยังคุยง่ายไม่ต่อจนเขาลำบากใจ จึงอยากหาสัตว์ที่นางต้องการให้ เพื่อได้มาอุดหนุนเขาอีก"นี้ขอรับ มันยังไม่คุ้นกับคน""นี้มันกระรอกบินนี้!.
ผ่านไป2วันหม่าปิงชานก็ได้เดินทางกลับ ชายหนุ่มแปลกใจที่อาการเขาฟื้นตัวหายเร็วมากจากเมือ2วันก่อนเขารู้ตัวเลยว่าบาดเจ็บค่อนข้างหนัก แต่เพียงผ่านไปคืนเดียว อาการบอบช้ำก็ดีขึ้นผ่านไปอีกวันอาการบาดเจ็บที่ซวงอกและแขนที่กระดูกร้าวก็หายเจ็บลงไปมาก แต่ท่านหมอยังไม่ให้เขาขี่ม้าต้องพักให้หายสนิทอีก7วัน ก่อนกลับยังจ่ายยาบำรุงให้เขาเพื่อฟื้นฟูร่างกายเพิ่มด้วยเมื่อเดินทางถึงต้าเจียงเขาทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ปิงชานกลับมาแล้วหรือเจ้า"ฮูหยินหม่าที่นั้งกินแก้วมังกรเอ่ยทักบุตรชายที่เดินทางกลับมา"ขอรับท่านแม่""ทำไมกลับมาช้าละลูก แม่หรือก็ห่วงเจ้า""พอดีลูกได้ม้าตัวใหม่มาขอรับเลยอยากฝึกให้คล่องก่อนนะขอรับ""เหรอ..กินมั้ย ผลไม้ที่เจ้าซื้อมาให้แม่ หวานดีจัง"นางกินแล้วรู้สึกชื่นใจมาก อาการแพ้ท้องเหมือนน้อยลงด้วย"ท่านแม่ทานเถอะขอรับ ถูกใจครั้งหน้าลูกจะไปซื้อให้อีกขอรับ""อย่างลำบากเลยลูก แม่เสียดายตำลึง"นางชอบกินผลไม้ที่บุตรชายซื้อมาให้ แต่ก็รู้ว่าต้องไปประมูลมาอาจต้องเสียหลายตำลึง "เพื่อท่านแม่และน้อง ลูกไม่ลำบากเลยขอรับ"ท่านแม่อยากมีบุตรอีกคนมาหลายปี พอท่านรู้ว่าตั้งครรภ์ก็ดีใจมาก เขาที่อยากม
คนของอ๋องฉีลอบไปที่หลังจวนเพื่อดูผักและผลไม้ตระกูลเฮอ แต่เพียงแค่เท้าแตะพื้นดินก็มีฝูงหมูป่าวิ่งมาจะทำร้ายพวกเขาพอกระโดดหลบขึ้นบนต้นไม้ก็เจอฝูงไก่บินมาจิกจนได้รับบาดเจ็บไปทั่วตัว ทั้งหมดจึงต้องล่าถอยกลับไปโดยที่ไม่ได้เห็นอะไรเลย พอผู้บุกรุกหนีไปเหล่าฝูงสัตว์ก็ทำตัวปกติ พวกมันจะตื่นตัวเวลาที่มีภัยต่อเจ้านายเท่านั้น ถ้าคนในจวนจะเห็นแค่พวกมันเดินไปเดินมารอเจ้านายเอาผักมาให้พวกมันกินอย่างสงบ ตอนนี้หลังจวนเฮอและสำนักพยักคำรามพ่อเฮอได้ปลูกผักและผลไม้เต็มพื้นที่ เพราะต้องส่งตระกูลฮั่นทั้ง5สาขาโดยให้สำนักกระบี่บินของบุตรเขยเดินทางไปส่ง และกำลังจะไปส่งทีต้าเจียงเพิ่ม หลินหลานขอพื้นที่1งานจากบิดาเพื่อเอามาปลูกสมุนไพร เพราะจะได้มีคำตอบว่านางไปเอาสมุนไพรมาจากไหน แต่ส่วนใหญ่นางจะเอาไปปลูกในมิติของพี่สาว เพราะสรรพคุณสมุนไพรจะดีกว่าปลูกพื้นดินปกติตอนนี้นางจะเป็นคนที่ดูแลโรงหมอสะเป็นส่วนใหญ่ เพราะพี่สาวไปคุมการเดินเรือแทนพี่เขย นางจะปรุงยาบำรุงและยารักษาโรคต่างๆไว้พอใครมาขอซื้อยานางจะตรวจให้ก่อนว่่ายาที่ซื้อตรงกับอาการมั้ย แต่ก็มีบ้างที่มีคนไข้อาการหนักจะถูกส่งต่อมาจากโรงหมอถังเพื่อให้พีี่สาวนางรั







