ไศลายืนทบทวนตัวเอง สมองสั่งการให้แปลความหมายนั้นใหม่ วินิจฉัยให้ถี่ถ้วนสูงสุดเสียก่อน ว่าคำตอบที่เธอเลือกจะตอบนั้น มันถูกต้องและยุติธรรมดีแล้ว
ใช่ สำหรับเธอตอนนี้ ผู้ชายร่างสูงสง่า ดูหล่อเหลา ผิวพรรณสะอาดสะอ้านที่อยู่ตรงหน้า เนื้อแท้แล้วหัวใจของเขาตรงข้ามกันกับสิ่งที่เห็นทุกอย่าง
" นี่คุณ...เป็นห่วงฉันจริงๆ หรือแค่จะเอาชนะพวกเขากันแน่ " หญิงสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้า
ถึงเธอจะเพิ่งมา รับมูลสารและนิสัยใจคอแค่เสี้ยวเดียวของพวกเขา ทว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้อะไรเลย กับซันดรู มองปราดเดียวก็รู้แล้ว
" เธอคิดดีแล้วหรือที่ถามแบบนั้น "
เขาเลิกคิ้วสูงทวนคำถามกลับมาเช่นกัน สีหน้าราบเรียบอ่านใจยาก ที่นั่นทำคนตัวเล็กตรงหน้าประหม่าเข้าไปใหญ่ เพราะสิ่งที่เขาเอ่ย ราวกับถามจะย้ำถึงคำตอบ ที่เหมือนให้เธอถามใจตัวเอง แน่ใจแล้วหรือ? หากรับรู้คำตอบนั้นของเขา
ทำเอาเธอต้องเร่งดึงสติกลับมากันเลยทีเดียว
พลางส่ายหน้า...
เปลี่ยนการพูดเสียใหม่ ให้ตรงข้ามกับความคิดทุกอย่าง พร้อมแววตาละห้อย
" ถ้ามันจะร้ายแรงถึงขั้นทรยศ ...ถ้ามันจะขนาดนั้น ได้โปรด อย่าเอาฉันกับครอบครัวไปเป็นเครื่องมือ "
กับประโยคทิ้งท้ายของเธอราวกับคราง
ในขณะหัวใหล่มนกำลังจะพับห่อ หัวคิ้วหย่อนชนดวงตาหรี่ต่ำลงอย่างน่าเอ็นดู และมันกำลังจะถูกคลี่คลายสู่หมวดปกติพร้อมคำพูดที่สอง
ทว่า...
กลับโดนคนตรงหน้าสวมกอดกะทันหัน และอย่างจัง
" อ๊ะ..."
ร่างบางทั้งร่างลอยไปถามแรงดึง หญิงสาวค้างชะงัน
" ฉันจะบอกแผนของฉันทั้งหมด แต่ขอกอดเธอแบบนี้สักสองนาที... "
" คุณซันดรู..." ก่อนจะค้างหนัก ก็ตอนที่ รับรู้ถึงน้ำเสียงสั่นเครือนั่น..." เกิดอะไรขึ้น..."
แต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะยกแขนโอบตอบ หญิงสาวทำได้แค่ทำตัวเองให้หลวม และเกร็งหัวไหล่ที่เขากำลังใช้ปลายคางอิง ให้แข็งแรงที่สุดเท่านั้น
ซันดรูเงียบไปอึดใจหนึ่ง
" อย่าเพิ่งถาม "
ก่อนจะมีคำบอกบอกเล่าเสียงแผ่วจากปากเขา พร้อมท่อนแขนล่ำออกแรงรัดแน่นยิ่งขึ้น ราวกับต้องการรับไออุ่นให้เพียงพอ
ไศลายืนนิ่งไม่กล้าไหวติง ทั้งที่ใจตอนนี้งุนงงไปหมด
เธอทำได้แค่เงยหน้าขึ้น แหงนมองฟ้า หาทางออกของลมหายใจตัวเอง เนื่องจากเขาทั้งตัวใหญ่ และรัดเธอแน่นจนอึดอัด
ในขณะเดียวกันที่ใจเผลอคิดไปทางเชิงบวกให้แก่เขา เริ่มอ่อนไหว และอ่อนระทวยให้กับคารมระดับเกรดสูงนั้นอย่างง่ายๆ เกือบจะไหลล่องลอยไปตามน้ำอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่มีเสียงกระแอมกระไอของใครบางคน ลอยมาแต่ข้างหลัง ให้สะดุ้งผละออกจากกันเสียก่อน
และเธอจะไม่ชะงักเลย ถ้าเสียงนั้นไม่เป็นของคนนี้...
" แฮ่ม! พรอดรักกับเมียชาวบ้านเขา มันไม่ดีนะเฮ้ย"
"....!!! "
เสียงทุ้มขรึมปะทะแก้วหูสาวเจ้าตกใจ ไศลาสะดุ้งโหยง รีบผลักอกร่างสูงออกห่างอย่างอัตโนมัติ
ไม่รู้เจ้าของเสียงเป็นใคร? แต่ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน
เธอหันขวับไปมอง พลางกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ เมื่อเห็นว่าเป็นเขา คนที่เธอไม่อยากให้เข้ามาเห็นอะไรแบบนี้
พระเจ้า... โคตรจะเซอร์ไพรส์เลย
" มาได้ยังไงคะ?! " ไศลาแผ่วเสียงถาม ทว่า คำตอบที่ได้ ราวกับค้อนหวดลงตอกตะปู
" เดินมาสิ ถามได้" เขาหรี่ตามอง ถึงจะแค่แปปเดียว แต่มันสามารถทำเธอเสียวไส้ได้มากโข
ซึ่งต่างกันโดยสิ้นเชิงกับร่างสูงที่ยืนข้างๆ
เขาลอยหน้าลอยตา ราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไร
จนกระทั่งเวเดโน่เป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน
" ทำแบบนี้ ต้องการจะประกาศสงครามกันแล้วสินะ "
ด้วยน้ำเสียงบวกสีหน้าที่ทำไศลากลัว แต่ซันดรูแค่นหัวเราะ
" หึ พร้อมหรือ? " เขาใช้สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าเวเดนราวกับดูถูก
" สรุป ไม่คิดที่จะจบใช่ไหม "
" จบ? จบเรื่องอะไร "
" พันธะสัญญาปัญญาอ่อนอะไรนั่น"
ก่อนจะยักไหล่ ก้าวเท้าเข้ามาให้ใกล้กว่าเดิม ยืนเต็มความสูงในท่ามือล้วงกระเป๋า ประมาณเตรียมพร้อมไว้สำหรับดวลสงครามน้ำลายกันโดยเฉพาะ
"พันธะที่ว่านั่น.. มึงไม่ใช่หรือเป็นคนเริ่ม"
" เริ่ม? " เวเดนทวนคำถาม ก่อนจะเลิกคิ้วกัดฟันกรอด " กูไม่เคยเอาเรื่องความรักมาเป็นเกม "
" แล้วเรื่องนั้น.."
"นั่นหมายถึงผู้หญิงทั่วไป "
" ผู้หญิงทั่วไป งั้นก็ต้องรวมเธอคนนี้ด้วยสิ"
ท่ามกลางการยืนมองและฟังสลับกันไปมาระหว่างคนสองคนของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เกิดสะดุ้งโหยงสุดตัวขึ้นมาจริงจัง เพราะถูกผู้ชายคนข้างหลังดึงไปชิดใกล้
แต่แล้ว...
ไม่นานกลับถูกผู้ชายอีกคนกระชากกลับไป ความแรงของมันทำให้หน้าผากเธอบาดเจ็บ เนื่องจากถลาไปชนกับแผงอกแกร่งเข้าอย่างจัง
ความมึนงงปนหวาดกลัว จึงทำแก้วหูเธอดับ เสียหายหนักไม่ได้ยินแม้กระทั่งคำพูดของเขา มีเพียงลูกกระเดือก กับแรงสั่น สะเทือนจากร่างกาย ที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธเท่านั้น เนื่องจากเขากัดฟันกรอดขณะพูดประโยคนี้
" มึงก็ลองรวมดูสิไอ้ซัน ถ้ากูไม่ระเบิดมึงให้แหลกเป็นจุลไปพร้อมกับองค์กรบ้าอำนาจนี่"
นอกนั้นคือน้ำหนักจากท่อนแขนที่รัดท้ายทอยเธอไว้ล้วนๆ ส่วนใบหน้าไม่ต้องถามถึง ลมหายใจที่สูดเข้าไปในปอด บัดนี้คือลมที่มาจากปาก เพราะโพรงจมูกได้ถูกรูขุมขนของเขาปิดมิดไปเรียบร้อยแล้ว
" อึก.."
สาวเจ้าทำได้เพียงเหลือบตามองคนข้างหน้า หวังดูลาดเลาบวกสถานการณ์ ในขณะเขาเถียง แต่เมื่อเห็นเพียงไรปลายคางมนแหลมปกคลุมไปด้วยไรหนวดเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้ย่อท้อ
" ฟู่ววว"
เธอถอนหายใจออกมาแค่ลมอุ่นๆ ก่อนจะพลิกใบหน้า เปลี่ยนเป็นแก้มแนบอก ปล่อยหัวทุย พร้อมลำคอให้ท่อนแขนใหญ่ล่ำโอบกอดเหมือนเดิม
ไศลาอยากจะเลือกที่จะไม่รับรู้ ทว่าหูกลับตรงข้ามกันกับใจทุกอย่าง
" สัญญานั่น..จะยกเลิกก็ได้ "
หญิงสาวได้ยินเสียงสนทนาชัดเจน ที่ห้วนทุ้มสุขุมไร้ความนุ่มลึกใดๆ เว้นแต่ท่าทางของคนพูดเท่านั้นที่เธอมองไม่เห็น
ทว่า..กลับรู้สึกได้ถึงการกวนประสาท
" แต่เรื่องที่กูจะตอแยไศลายังคงเหมือนเดิมนะ ก็ช่วยไม่ได้นี่หว่า กูชอบเขาไปแล้ว"
ซันดรูยักไหล่ พูดต่อจากประโยคเดิม ซึ่งนั่นทำให้ร่างบางทั้งร่าง รวมถึงหัวใจดวงน้อยๆ สะดุ้งโหยงไปด้วย พร้อมฝ่าเท้าที่เหมือนจะถูกกระตุกยกลอยไปตามแรง
ใช่ เขากำลังโกรธ
เวเดนชี้หน้าซันดรู เอ่ยเสียงถามในลำคอเป็นสุ่มเสียงคำราม
" ว่าไงนะ "
ไศลาได้ยินแบบนั้น ต่างจากซันดรูหาได้กลัวเสียงทุ้มดุจกลองนั้นไม่
เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม พร้อมกลั้วปาก แสร้งทำเป็นหูทวนลม
" ไอ้กรณีที่พูดแบบนี้ คือต้องการจะปะทะกับกูใช่หรือเปล่า? มึงต้องการอะไรวะซัน ต้องการเอาชนะกูงั้นเหรอ "
ประโยคทิ้งท้ายเกิดสั่นเครือราวกับกำลังผิดหวัง เวเดนหน้าฉงน ต่างกับไศลาตอนนี้ ที่ดูเหมือนเพิ่งได้สติ
เธอตั้งใจผึ่งหูฟังตลอดเวลา ท่ามกลางสงครามน้ำลายของพวกเขา
แต่แล้ว...
กลับต้องมานึกฉุนด้วยประโยคเหล่านี้ ที่แสดงให้เข้าใจไปว่า ..
แท้จริง เธอนั้นเป็นแค่หมากของพันธะสัญญา และเป็นตัวแทนของใครบางคน...
" เอาชนะ? เฮอะ! มึงก็ชนะกูไปแล้วนี่ พร้อมกับตั้งคำสัญญาชุ่ยๆนั่น เพียงแค่ต้องการจะครอบครองทาน่า คราวนี้ถึงทีไศลาบ้าง ทำไมถึงไม่รักษาคำพูด ถ้าคิดว่าผู้หญิงทั่วไปทุกคนที่มึงคั่ว กูคั่วได้ งั้นเธอ เธอ..ก็จัดเป็นหนึ่งในนั้น กูไม่เอาคนอื่น เพราะกูชอบคนนี้ กูจะเอาคนนี้ ..ล้างคำสัญญา แล้วจะทำไม? "
" ไม่มีทาง..."
" ถามฉันก่อนจะดีกว่าไหมคะ! "
เธอใช้แรงเฮือกใหญ่ที่มีทั้งหมดเป็นการปลดพันธนาการของท่อนแขนล่ำนั้นออก ก่อนจะถอยห่างไปยืนกึ่งกลาง เพื่อโพล่งแทรกเวเดน แล้วจึงหันมองหน้าคนทั้งคู่สลับกันไปมา
ในขณะพวกเขาพากันเงียบ
" พวกคุณเล่นอะไรกัน? " กับคำถามสั้นๆ ทว่าได้ใจความ พร้อมดวงตาแดงก่ำ ที่กำลังคั้นสร้างหยาดน้ำตาหยดใหญ่
หญิงสาวกันริมฝีปากแน่นจนเป็นรอยฟันสั่นระริก เพ่งมองเวเดนอย่างผิดหวัง ก่อนจะปาดน้ำตาทิ้ง แล้วเดินพรวดๆเข้าบ้านไป ในจังหวะที่เขายื่นมือไปหาพอดิบพอดี
แต่แล้ว...
กลับคว้าไว้ได้เพียงธาตุอากาศ
" ไอ้พวกบ้า! "
" ไศลา..."
ท่ามกลางความตกใจของซันดรู ที่มีแบบเดียวกันกับเขา ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนจะยกยิ้ม ให้กับความหวังหลายๆอย่าง ที่เขาพยายามสร้างขึ้น เพียงแค่ต้องการจะเอาชนะเวเดโน่จริงๆ
" โอะโอ..แย่แล้วล่ะพวก ต้องตามง้อไหมเนี่ย "
" ไอ้ซัน..มึงนะมึง.."
แถมยังกวนประสาทให้เวเดนฉุนกึกขึ้นมาอีก ทว่าทำได้เพียงชี้หน้ากัดฟันกรอดเท่านั้น ไม่สามารถชกปากตามใจต้องการได้ เพราะต้องเร่งเดินตามไศลา เพื่อไปให้ถึง ก่อนที่เธอจะเข้าใจผิด เตลิดไปไกลกว่านี้ ...
ในสมรภูมิรบ ที่มีความเชื่อประหนึ่งความตายเท่านั้นถึงจะยุติ คนรอดคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด โครทิส เวเดโน่ จึงไม่คิดจะยอมแพ้ การก้าวหาความเสี่ยง ทั้งที่รู้ห้าสิบห้าสิบกว่าจะชนะ ไม่ได้มาซึ่งความสำเร็จ ก็ยังไม่คิดจะผันตัวออกมา ราวกับว่าร่างกายตัวเองคงกะพันหนังไม่ระแคะระคายยังไงยังงั้นสองมือโอบอุ้มความกล้าไว้จนมั่น ตระหนักสิ่งสำคัญให้เป็นที่สุดของกำลังใจคือไศลา นั่นทำให้เขาไม่ยอมหยุดที่จะเดินต่อ ยังเดินเกมต่อแม้ทางข้างหน้าจะไร้แสงปลายอุโมงค์ หรือลิบหรี่เต็มทีในความคิดมาเฟียร้ายอย่างเขา คนขึ้นชื่อว่าเป็นหัวโจ็ก กว่าจะได้ฉายาคำว่าผู้นำมาอย่างยากลำบาก ...จึงมีแต่คำว่าลองดูเท่านั้น!ใช่! เขาวางแผนฆ่านายตัวเองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ลำกล้องปืนถูกดวงตาคมกริบใช้เป็นช่องทางผ่านระหว่างการเล็งจากตึกระฟ้าไปยังชั้นที่แปดสิบของอีกตึก ผู้มีหญิงสาวร่างบางปราดเปรียวยืนเชิ่ดคอทรนงอยู่ นิ้วชี้ขวาประทับแผ่วเบาเตรียมตัว ราวกับรอสัญญาณบางอย่าง บวกกับโอกาสคิดว่าคงสำเร็จไปครึ่ง หากวันนี้เหล่าอัลฟาพ้องพวก สามารถจี้จุดให้หล่อนมีโทสะมายืนตรงนั้นได้ ตำแหน่งที่นานครั้งจะมายืนได้สักครั้ง ทว่าเป็นจุดตายจุดเดียวที่ไม่ต้องพ
ร่างบางนั่งพับเพียบอยู่กลางเตียง ดวงตาเหม่อลอยบวมปูดและแดงก่ำจนมองไม่เห็นเคล้าโครงเดิม บ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นผ่านการร้องไห้มานานหลายชั่วโมงแล้ว ท่ามกลางความมืดมิด ภายในห้องสี่เหลี่ยม ที่มีเพียงข้าวของเครื่องใช้วางเรียงรายอยู่รอบๆ หากนับสิ่งมีชีวิต คงมีแค่เธอคนเดียว ไศลานั่งกอดเข่าเพียงลำพังนับแต่นั้น และไม่สามารถกะเกณฑ์เวลาได้ พอๆกับหยดน้ำตาที่ไหลลงมาได้ความลับที่พยายามปกปิด ทว่ากลับมาเปิดเผยด้วยปากของตัวเอง กลับกลายเป็นความเสียใจมาสนองเธอ หลังจากคนที่เพิ่งจะมารู้ทีหลังอย่างแม่และน้องชายฟังจบ พวกเขาพากันเงียบ ไร้เสียงพูดคุยสนุกสนานเหมือนเดิม เอาแต่นั่งอยู่ในมุมของตัวเอง ราวกับนั้นคือโลกส่วนตัว ที่ไม่อยากจะให้ใครเข้ามาก้าวก่ายกันอีกหยดน้ำตาที่สอง คือหยดน้ำตาที่แลกมาด้วยความเป็นห่วง เธอร้อนใจนับตั้งแต่เวเดโน่ก้าวออกเดิน ทิ้งเพียงแผ่นหลังกว้างกับภาพปิดประตูรถเอาไว้ ก่อนหายไปท่ามกลางถนนสายเปลี่ยว ไกลสุดลูกหูลูกตา เห็นเพียงใบไม้แห้งเกรียมปกคลุม สาเหตุอะไรที่เขานำแม่และน้องของเธอมาอยู่ที่นี่ สาเหตุอะไรที่เธอต้องมานั่งรอคอยการกลับมาของเขา อยู่กลางป่าถ้านี่ไม่ใช่ความปลอดภัยที่ถูกหยิบยื
มากกว่าความหวาดเสียวในสมรภูมิรบก็คงเป็นคำพูดของเวเดโน่นี่แหละ ที่ดูจริงจังเกินเหตุสำหรับแมททริกในตอนนี้ ซึ่งหลังได้ฟังชัดเต็มสองรูหูเหมือนจะค้างไปแล้ว เขาอึ้ง และพูดอะไรไม่ออก “ อะไรของมึงวะ “ได้แต่เอ่ยเสียงแผ่ว กับคำถามที่ใคร่รู้เพียง เพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ ความหมายของเขาที่มีในหัวประมาณว่า ...“ เพราะผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ ซึ่งคำตอบที่ได้คือร่างสูงพยักหน้ายอมรับโดยไม่คิดสักนิด“ เฮ้ยยย พวกเราสั่งให้แกเข้าไปพัวพันในชีวิตเธอ เพราะหวังให้ชดเชยสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าวันนึงจะกลายเป็นเมียก็ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่ให้ทำแบบนี้ ““ แบบนี้มันแบบไหนวะ! “กลายเป็นประเด็นใหญ่ให้เขาทั้งคู่ได้ถกเถียง และมองหน้ากัน ในขณะต่างฝ่ายต่างไม่ละสายตาและไม่มีใครยอมใคร แมททริกอมลมกลั้วปาก รู้สึกขัดใจขึ้นมาทันทีกับความคิดของเขา หนึ่งในแก็งค์อัลฟา ผู้ที่เคยเป็นตัวเต็งแนวหน้า ไม่เคยกลัวสิ่งใด แต่วันนี้กลับมากลัวความรักของตัวเองจะพังลง “ ก็แบบ...”เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่“ จะแบบไหนก็ช่างเถอะ แต่มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ มันเสี่ยงมากเกินไป ถ้าฝั่งศัตรูรู้ว่าเราแตกคอกันเอง จะทำยัง
ไศลานั่งคอตก เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชาย หลังพูดประโยคนั้นออกไป เธอเม้มปากแน่น ข่มเปลือกตาลงจนมันสั่นระริก ก่อนจะค่อยๆคลี่คลายออก มองไปยังที่เก่า ในขณะรอบนี้เผยความหม่องหม่นนัยย์ตาออกมาด้วย ที่ดูก็รู้เธอกำลังจะร้องไห้ และคนข้างกายเธอเองก็เช่นกัน " พี่พูดว่าอะไรนะ? " เขาถามย้ำก่อนน้ำตาก้อนใหญ่เหล่านั้นจะไหลลงมา ไศลาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะก้มหน้านิ่งแทน มองผ่านม่านน้ำตาไปยังมือตัวเอง ซึ่งบีบจิกเข้าหากันราวกับกำลังระบาย" ฮึก..."ความอึดอัดเคยเก็บไว้ในใจสุดลึก เสแสร้งทำเป็นเข้มแข็งมาตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลังครอบครัว วันนี้ถล่มทลายลงมาไม่เหลือชิ้นดี เพียงแค่อยากให้คนที่เธอรักหมดปัญหาเรื่องนี้ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย เธอก็สบายใจทั้งนั้น ริมฝีปากแดงระเรื่อปริเบ้ออก ยิ่งสะอื้นไห้หนัก หลังร่างสูงถลาเข้ามาเขย่าตัว พยายามกดดันเค้นหาคำตอบ" มองหน้าผมเซ่! ผมถามตั้งนานแล้วนะ พี่ใหญ่เป็นอะไรถึงตาย"ทว่า สิ่งที่เธอเห็น กลับเป็นเพียงภาพที่ไร้เสียง มีเพียงปากพูดเขาที่ขยับ และร้องไห้อยู่ พร้อมบริเวณรอบๆ ที่เปลี่ยนไป' รู้ไหมว่าพี่สอนให้ฉันชิน ชินต่อการคิดถึงพี่ ในวันที่พี่ไม่อยู่ ..ชินกับการเห็นพี่โบ
ร่างบางยืนตระหง่านอยู่บนถนนคอนกรีต เบื้องหน้าของเธอคือกึ่งบ้านกึ่งคฤหาสน์ที่จัดไปทางค่อนข้างจะทรุดโทรมทว่าดูหรูหราจนน่าแปลกใจ อุ้งมือน้อยๆกำสายกระเป๋าสะพายไว้แน่น พร้อมดวงตากลมโตเคลือบอมไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง สลดปนละห้อย เธอใช้สายตาคู่นั้น จรดตั้งแต่ระดับเดียวกันช้อนขึ้นไปมอง พลันถอนหายใจเฮือก เมื่อไปหยุดอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง ที่มีใครคนนึงซึ่งคุ้นเคยและจำได้แม่น" แม่คะ..." เธอขยับปากเรียก หล่อนยืนมองอยู่ก่อนแล้ว นับตั้งแต่รถแล่นเข้ามาไกลๆแม้เสียงนั้นดังไปไม่ถึง เพราะระยะทางที่ห่างกัน แต่น้ำตาแห่งความคิดถึง กับสีหน้าเลือนลาง ยังทำให้ทั้งคู่นั้นมองเห็นชัดใช่ เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหาไม่มีใครยอมแพ้ ในขณะหัวไหล่เธอกำลังจะตก เผลอคิดไปถึงเหตุการณ์หลังจากนี้ ระหว่างที่อยู่ จะสรรหาประโยคไหนที่ดีพอ ที่ไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจ หากจะกล่าวถึงเรื่องของพี่ชายคนโต และการตายของเขาแต่แล้ว.. มือใหญ่ข้างหนึ่งของคนที่มาด้วย กลับทำเธอหลุดภวังค์เสียก่อน ไศลาค่อยๆหันกลับไปมอง “ ฉันต้องการฟังความรู้สึกของเธอตอนนี้ที่มีต่อฉัน “ก่อนจะก้มหน้าลอบถอนหายใจ“ ฉันไม่มีอะไรจะพูด...” เธอส่ายหน้าเชื่องช้า“ พูดให้กำลังใ
" ก็ถ้าสมมุติว่าฉันท้อง"หญิงสาวช้อนตาหน้าสลด หลังคนสูงกว่าเอาแต่ยืนมอง คิ้วผูกติดฉงนงุนงง เธอจึงเริ่มพูดต่อ กับประโยคใส่อารมณ์ ที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ แต่แล้ว...กลับถูกมือใหญ่จับหมับตรงต้นแขน" สรุป ท้องหรือไม่ท้อง "เขาเค้นหาคำตอบไศลาเม้มปากแน่น คิดทบทวนตัวเองใหม่ ถ้านี่เป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อความสะใจ และเอาชนะเล่าก็ อีกไม่นาน ร่างทั้งร่างของตัวเอง อาจจะระบมไปหมด เพราะถูกคนตรงหน้านั้นกระทืบเธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนพยักหน้าเชื่องช้า ดวงตากลมโตไม่กระพริบ จับจ้องมั่นอยู่ตรงหน้าหล่อเหลา ซึ่งหลังจากจบประโยคนี้ มันค้างชะงันไปกลางคัน และเธอนั้นเห็นพอดีเขาอึ้ง... " แน่ใจ? "" ค่ะ..."" ตรวจดีแล้ว... "" ยังค่ะ เราจะตรวจพร้อมกันวันนี้ ซึ่งฉันมั่นใจไปเกินครึ่ง ว่าในท้องฉัน มีเลือดเนื้อของคุณอยู่ "เธอตอบคำถามอย่างฉะฉาน เวเดโน่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกระโชกโฮกฮาก" ให้ตาย ฉันควรดีใจไหมไศลา..."" เอ๋..."ซึ่งนั่นทำเธอแปลกใจไม่น้อย " ในสถานการณ์ขับขัน ไม่รู้จะเป็นหมู่หรือจ่า อยู่ๆ ก็มีเด็กขึ้นมาให้ฉันต้องรับผิดชอบ.. "เปลี่ยนความคิดในหัวของเธอเป็นฝั่งตรงข้าม ความแรงของมันราวกับตบให้มึน