Share

บทที่ 3

Author: เบลล่า
มุมมองของมาร์ค

ผมขับรถเข้าไปในทางเข้าบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เป็นวันยาวนานอีกวันหนึ่งทั้งจากการทำงานและเรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้ผมหมดแรง และสิ่งเดียวที่ผมต้องการก็คือการผ่อนคลายและพักผ่อน ผมก้าวออกจากรถแล้วคลายเนกไทออก อยากเดินเข้าไปด้านในเต็มทนและได้พักผ่อนในที่สุด เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน ผมมองเห็นซิดนีย์นั่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองผมด้วยสายตาอันว่างเปล่าเหมือนเคย ผมแทบจะไม่ชายตามองเธอเลยในขณะที่มุ่งตรงไปที่ห้องทำงาน

“ฉันต้องการหย่า" ซิดนีย์พูดออกมาก่อนที่จะผมจะเดินไปถึงห้องทำงานด้วยซ้ำไป

หย่าหรือ? คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมก็คือคำว่าไร้สาระ และช่างเป็นอะไรที่ไร้สาระจริง ๆ ธุรกิจครอบครัวของพ่อแม่ซิดนีย์ได้ให้บริษัทจีที กรุป ซึ่งเป็นบริษัทของผมยืมไปใช้ นี่เป็นสัญญาที่ให้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายในทุกแง่มุม ซิดนี่ย์เป็นเพียงผู้หญิงที่ผมแต่งงานด้วย ที่ต้องพึ่งพาผมและพ่อแม่ของเธอเพื่อความอยู่รอด

หย่าหรือ? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิธีใหม่ในการเรียกร้องความสนใจของเธอ อย่างที่เธอชอบทำนั่นแหละ เดิมทีเธอมีท่าทีน่าสงสาร ซึ่งเพียงพอจะทำให้คนนอกเชื่อว่าเธอได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนั้นเลยก็ตาม เรารักษาภาพลักษณ์ของคู่สามีภรรยาเอาไว้ตลอดสามปีที่ผ่านมา

ตอนนี้เธอกำลังเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีใหม่ ผมไม่มีทางหลงกลหรอก

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเข้าไปในห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนออกไป แต่สิ่งที่ผมเห็นมีเพียงโต๊ะอันว่างเปล่า ผมขมวดคิ้วในขณะถามหนึ่งในคนงานที่พอจะหาได้ ซึ่งกำลังเดินวนเวียนอยู่แถวนั้น

“เธอไปไหน? แล้วอาหารของฉันอยู่ที่ไหน?”

“เช้านี้ ยังไม่เห็นเธอเลยค่ะ ท่าน" คนงานคนนั้นตอบ ซึ่งต่อมาผมได้รับรายงานจากคนที่เห็นเธอออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางเมื่อคืนนี้ ข้าวของส่วนใหญ่ก็หายไปจากห้องด้วย

อ๋อ บางทีเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องการหย่าที่เธอเอ่ยถึงก็ได้ เธอคาดหวังจะให้ผมหลงเชื่อหรือพูดคุยกับเธอในเรื่องนี้หรือ?

ผมยักไหล่ให้กับความคิดนั้น พร้อมหยิบกระเป๋าเอกสารและเสื้อแจ็กเกตขึ้นมา จากนั้นเดินตรงออกไป เธอน่าจะแค่ออกไปที่บ้านพ่อแม่นั่นแหละ เธอจะไปไหนได้อีกล่ะ? พวกเขาคงกำลังอบรมสั่งสอนให้เธอเป็นภรรยาที่ดีอยู่ แล้วคงส่งตัวเธอกลับมาเองแหละ

ผมละสายตาจากแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เมื่อผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าผมโดยไม่พูดอะไร พร้อมกับโค้งคำนับแบบลวก ๆ

“ผมคิดว่าคุณต้องดูสิ่งนี้นะครับ" เขาพูดก่อนจะก้าวถอยหลังไป

ผมถอดแว่นตาออกแล้วดึงแฟ้มเอกสารเข้ามาใกล้ ๆ โดยพลิกเปิดออกเพื่อดูคำที่เขียนไว้ตัวหนา ๆ ว่า "ขั้นตอนดำเนินการหย่าร้าง" ผมขมวดคิ้วในขณะตรวจดูเอกสารต่อไป เธอเซ็นชื่อไว้ในเอกสารพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว

“ขอบใจ ออกไปได้แล้ว" ผมบอกกับผู้ช่วยซึ่งโค้งคำนับให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ซิดนี่ย์ได้ดำเนินการขั้นแรกในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเกมที่ดูชาญฉลาดสำหรับเธอ แต่สำหรับผมแล้วนี่เป็นอะไรที่ไร้สาระ เธอคิดหรือว่าผมจะมีเวลาสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้?

จีที กรุปไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของผมเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานหนักและความทุ่มเทตลอดหลายปีอีกด้วย นี่เป็นบริษัทหุ้นนอกตลาดขนาดใหญ่มีฐานอยู่ในยุโรป ซึ่งมีมุ่งเน้นในการลงทุนในหลากหลายภาคส่วน อย่างเช่น สินค้าอุปโภคบริโภค การบริการ แฟชั่น การแพทย์ และเทคโนโลยี ด้วยโครงการลงทุนที่มีมากกว่า 250 โครงการภายใต้การดูแลของเรา เราเป็นกำลังสำคัญที่โลกธุรกิจต้องให้การยอมรับนับถือ

นี่เป็นการระดมทุนรอบที่สาม เราจำเป็นต้องได้รับเงินจำนวนมหาศาลถึงห้าพันล้านบาทจากนักลงทุนทั่วโลก นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับบริษัท และเดือนถัดไปจะเป็นเดือนที่วุ่นวายมาก เนื่องจากผมต้องเดินทางไปทั่วโลก เพื่อพบปะกับนักลงทุนที่มีศักยภาพตั้งแต่นิวยอร์กจนถึงโตเกียว และจากลอนดอนไปจนถึงฮ่องกง หกเดือนต่อจากนี้ชีวิตผมจะเต็มไปด้วยการประชุม การนำเสนองาน และการเจรจาต่อรอง

แล้วมีคนนำเอกสารไร้สาระมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน

ผมคว้าเอกสารพวกนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วเดินไปที่เครื่องทำลายเอกสารที่อยู่ในมุมห้องทำงาน ยัดเอกสารพวกนั้นเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร แล้วมองดูเครื่องจักรทำลายไปทีละฉบับ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง เพื่อกลับไปทำในสิ่งที่มีความสำคัญกว่าร้อยเท่า

นี่เป็นสามเดือนที่ยาวนานและวุ่นวายกับการระดมทุนเพื่อจีที กรุป ในที่สุด ผมก็ได้กลับบ้านเพื่อพบว่าซิดนีย์ยังไม่ได้กลับมา จมูกของผมเริ่มหายใจติดขัดเมื่อผลักประตูห้องนอนของเธอเปิดออก และทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่ฝุ่นปกคลุมเต็มไปหมด ผมจึงรู้ได้ทันทีว่าห้องนั้นถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานแล้ว

เธอยังไม่กลับมาอีกหรือ?

ผมเดินออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของเธอเพื่อโทรออก

“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกปิดให้บริการแล้ว" เสียงตอบรับอัตโนมัติดังขึ้นผ่านลำโพงออกมา

ผมกดหมายเลขโทรศัพท์นั้นอีกครั้ง

“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกปิด-” ผมตัดสายทิ้งพร้อมกับกัดฟันกรอด

“ไปตามตัวเธอมาเดี๋ยวนี้" ผมหันไปบอกผู้ช่วย “ติดต่อพ่อแม่ของเธอ ทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ"

ชายคนนั้นโค้งคำนับอย่างรีบร้อนแล้วรีบออกไป ในขณะที่ผมถอยกลับเข้ามาในห้องทำงานด้วยความรู้สึกทั้งเหนื่อยและอ่อนล้า เธอได้เติมเชื้อเพลิงให้กับความรู้สึกที่แย่อยู่แล้วให้ลุกโชนขึ้นมามากขึ้น ผมเข้าไปในห้องอาบน้ำ เปิดก๊อกน้ำ ปล่อยให้สายน้ำเย็น ๆ ไหลรดลงมาบนหัว โดยหวังว่าความเย็นยะเยือกทั้งหมดนั้นจะช่วยขจัดความอ่อนล้าและความหงุดหงิดออกไปได้

ในที่สุด ผู้ช่วยก็กลับมาพร้อมบอกว่าพ่อแม่ของซิดนีย์ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหนเหมือนกัน และไม่ได้ข่าวจากเธอมานานมากแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังรู้สึกว่าการหายตัวไปของซิดนีย์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันซับซ้อนเพื่อจัดการกับผม ซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้ได้ผล เพราะมันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

ผมสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้จริง ๆ จัง ๆ ก็หลังจาก 3 เดือนต่อจากนี้ เมื่อผมกลับจากการเดินทางครั้งที่สอง ซึ่งก่อนจะขึ้นเครื่องนั้น ผมได้กำชับกับผู้ช่วยว่า "ตามหาเธอให้พบก่อนที่ฉันจะกลับมา ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวตกงานได้เลย"

ผู้ช่วยพยักหน้ารับคำแล้วรีบกุลีกุจอไปช่วยยกกระเป๋าเดินทาง ผมหยุดชะงักเพื่อหันกลับไปมอง เนื่องจากมีบางสิ่งบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะตรงมุมห้องที่ดูสะดุดตา เมื่อผมเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นแหวนแต่งงาน แหวนวงนั้นเดิมทีตั้งใจจะมอบให้เบลล่า แต่ลงเอยมาอยู่บนนิ้วของซิดนีย์

แหวนวงนั้นไม่มีความหมายสำหรับผมอีกต่อไปนับตั้งแต่วันนั้นเมื่อสามปีก่อน ซึ่งควรจะเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิต เจ้าสาวของผมไม่ใช่เบลล่าที่เป็นหญิงรัก แต่เป็นซิดนีย์พี่สาวของเธอ ผมรู้สึกโง่มากในตอนนั้น ผมยืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาร่วมพิธีราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ ผมแค่ต้องทำให้งานในวันนั้นดำเนินต่อไป และผมก็บอกให้ซิดนีย์รู้อย่างชัดเจนแล้วว่าผมจะไม่ยอมรับเธอเป็นภรรยา ส่วนอยากเป็นภรรยาของผมต่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ

ทันทีที่ผมก้าวลงจากแท่นพิธี และส่งยิ้มปลอม ๆ ให้กับแขกเหรื่อและช่างภาพที่ยืนอยู่ทั่วทุกมุมแล้ว ผมก็กระโจนขึ้นรถ แล้วถอดแหวนบ้า ๆ วงนั้นออกจากนิ้ว จริง ๆ แล้วผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเอาไปวางไปตรงไหนหลังจากวันนั้น ผมอาจจะโยนมันทิ้งไปเพราะความรำคาญก็ได้

แต่ซิดนีย์ตัดสินใจที่จะสวมแหวนแต่งงานเอาไว้ ตอนนี้ ผมเห็นแหวนวงนั้นวางฝุ่นเกาะอยู่ ผมอดคิดไม่ได้ว่าบางทีซิดนีย์อาจเอาจริงกับการหย่าร้างก็ได้

ผมกัดฟันกรอดอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากโต๊ะตัวนั้น ปล่อยแหวนไร้ประโยชน์ไว้ตรงนั้นแล้วเดินออกประตูไป ผมยังมีงานอีกมากมายต้องทำมากกว่ามาจดจ่อกับเรื่องน้ำเน่านี้

ผมมาถึงสนามบิน หยิบแว่นกันแดดออกมาสวมทันทีก่อนจะก้าวออกจากรถ ผมค่อนข้างเป็นที่รู้จักของผู้คน และก็มักจะมีผู้คนเข้ามาหาหรือมาจ้องมองผมบ่อย ๆ เพราะพวกเขาจำผมได้จากที่เคยเห็นทางทีวีหรือช่องทางอื่น ๆ

“ขอโทษที คุณใช่คนนั้นใช่ไหมคะ?” หรืออะไรทำนองนั้น แว่นกันแดดเป็นเพียงการอำพรางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยผมต้องเพิ่มเครื่องแต่งกายที่ปกปิดตัวตนอีกหน่อย ถึงแม้ว่าบางครั้งผมจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม และพยายามพูดคุยอะไรสั้น ๆ แต่วันนี้ผมไม่ค่อยมีอารมณ์ที่จะทำอย่างนั้นเลย

ผมเดินตรงไปที่ประตูขื้นเครื่องท่ามกลางฝูงชนแสนพลุกพล่านในสนามบิน พร้อมกับดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านผมไป กลิ่นน้ำหอมของเธอฟุ้งกระจายไปทั่วใบหน้า แล้วโชยเข้าจมูกอย่างช้า ๆ กลิ่นส้มหวานและดอกไม้ช่างเป็นกลิ่นคุ้นเคยเหลือเกิน กลิ่นนั้นทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวในอดีตอย่างแปลกประหลาด

ผมค่อย ๆ หยุดเดิน พร้อมพยายามกลั้นความรู้สึกอยากหันหน้าไปมองเอาไว้ แต่ก็อดไม่ได้ ร่างของเธอค่อย ๆ เดินห่างออกไปทางด้านหลัง และก็บอกไม่ได้ว่าเธอเป็นคนที่ผมรู้จักหรือเปล่า

ผมจำไม่ได้ว่าเคยเห็นใบหน้านั้นมาก่อนไหม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status