เมิ่งซิงหลวนเดินออกจากบาร์ซีโร่ดีกรีความแข็งแกร่งที่มีในที่สุดก็สลายหายไป เหลือเพียงหัวใจที่ยับเยินไปด้วยบาดแผลท้องฟ้าเริ่มมืดลง สายลมยามเย็นพัดผ่าน และความเหงาเข้ารายล้อมหญิงสาวเธอแค่นยิ้มเล็กน้อยราวเยาะเย้ยตัวเอง ก่อนที่เธอจะรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมา เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง"อาจารย์เมิ่ง! รอฉันที ไม่ต้องเดินเร็วขนาดนั้นก็ได้!"เสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความสลดใจผสมกับลมหายใจหอบแรงเมิ่งซิงหลวนหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียง จนกระทั่งเจียงเมี่ยวเมี่ยวตามเธอทัน เธอโน้มตัวสักพักเพื่อสูดอากาศเข้าไปและยืดตัวขึ้นเมื่อเธอหายใจทันแล้วดวงตาของเจียงเมี่ยวเมี่ยวแดงก่ำจนเห็นได้ชัดว่าร้องไห้มาอย่างหนักสายตาของเมิ่งซิงหลวนจึงสงบนิ่งไม่ไหวติง เธอรู้อยู่แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่เธอคำนวณดูว่าไอ้ผู้ชายคนนี้อยู่ไหน เธอก็เห็นแล้วว่าความสัมพันธ์นี้จะจบลงด้วยการที่ผู้ชายนอกใจ"อาจารย์เมิ่ง คุณรู้ตั้งแต่แรกใช่ไหมว่าเขานอกใจ?"ขณะที่พูดดวงตาของเจียงเมี่ยวเมี่ยวก็เต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้าเธอมีหน้าอ่อนวัยแตกต่างกับการแต่งหน้าหนาของเธอแม้ยืนด้วยส้นสูงข้างหน้าเมิ่งซิงหลวน เธอก็ยังเตี้ยกว่า
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็ระเบิดคำถามลงอย่างบ้าคลั่ง"เมิ่งซิงหลวน หลินเช่อแขนหัก เธอทำเหรอ? เหยาเหยากลับบ้านไปบอกว่าไม่สบายตัว ตอนนี้ก็ไข้ขึ้นยังไม่ตื่นเลย""เมิ่งซิงหลวน ทำไมเธอร้ายได้ขนาดนี้"ทุกคำพูดราวกับมีดคมเฉือนแทงร่างกายของเมิ่งซิงหลวน เธอหัวเราะเบาๆหลังจากที่หัวเราะมากพอแล้ว เธอก็พูดว่า "โจวยวี่ไป๋ ฉันก็สงสัยนะบางครั้งว่าคุณตั้งใจหาคนมาปั่นหัวฉันหรือเปล่า""ทำให้ฉันดูง่ายกับคุณมาตลอดเจ็ดปี""ถ้าฉันสามารถขนาดนั้นทำไมฉันไม่ฆ่าพวกเขาให้ตายเพื่อคลายโกรธเลยล่ะ? ทำไมไม่ไปถามพวกเขาว่าพวกเขาทำเลวอะไรไว้บ้าง?"เสียงถากถางและเย็นชาของเมิ่งซิงหลวนทำให้โจวยวี่ไป๋รู้สึกไม่สบายใจวินาทีต่อมา เมิ่งซิงหลวนพูดต่อ "อย่าลืมเรื่องหย่าที่สำนักงานเขตตอนแปดโมงล่ะ"เมื่อได้ยินเสียง 'บี๊บ' ตัดสายใบหน้าของชายคนนั้นก็หม่นลงนี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งซิงหลวนตัดสายเขาด้วยตัวเองโจวยวี่ไป๋หงุดหงิดและนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนข้างเตียงของเมิ่งทิงเหยา จนกระทั่งถึงเวลาต้องออกไปวันนี้ฟ้าสดใสเมิ่งซิงหลวนมาตรงเวลาและรอเพื่อเข้าสำนักงานเขตผิวโดดเด่นและสวยงามของเธอสะกดสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา
ทันีที่เขาเรียกชื่อเธอ ร่างหญิงสาวก็หายวับไปบริเวณหัวมุมถนนราวกับเขาเป็นสัตว์ป่าร้ายกาจเมิ่งซิงหลวนเดินเจอร้านสะดวกซื้อแล้วจึงนั่งลงเธอดูเงินคงเหลือในโทรศัพท์แล้วพบว่ามันไม่พอที่จะทำให้เธอหาบ้านใหม่ได้เป็นเวลาเจ็ดปีที่เธอทุ่มเทอยู่กับโจวยวี่ไป๋แม้เธอจะได้เงินมาเท่าไหร่ เธอก็เอาไปซื้อของขวัญให้เขาจนหมดแน่ล่ะสุนัขที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของก็ไม่เหลืออะไรทั้งนั้นเมิ่งซิงหลวนมองดูค่าบ้านที่สูงลิ่วในโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยครุ่นคิดว่าจะดีลกับมันยังไดี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น"อาจารย์เมิ่ง! ตอนนี้คุณอยู่ไหน? เมื่อคืนฉันสร้างปัญหาให้คุณอย่างมาก บอกที่อยู่ของคุณมาทีฉันจะไปหาคุณเลย"เมิ่งซิงหลวนให้ที่อยู่ไปเพียงสิบห้านาทีต่อมา เจียงเมี่ยวเมี่ยวที่ตาบวมราวกับลูกวอลนัทยืนอยู่ตรงหน้าเมิ่งซิงหลวนเธอเหงื่อออกท่วมตัวด้วยความร้อน แม้กระทั่งหน้าม้าของเธอยังเปียกชุ่ม"อาจารย์เมิ่ง ทำไมคุณออกไปโดยไม่บอกอะไรเลยล่ะ ดีนะที่ฉันไม่ลืมที่จะบันทึกเบอร์โทรไว้"เจียงเมี่ยวเมี่ยวดื่มน้ำแร่อึกๆ เพื่อให้หายใจทัน ดวงตาของเธอฉายแววขัดใจเมิ่งซิงหลวนเลิกคิ้วก่อนที่เธอจะได้พูดอไร เจียงเมี่ย
"มีเรื่องอะไรกัน?"คุณหญิงโจวเดินลงบันไดไปอย่างช้าๆ โดยมีโจวเพียนหรานลูกสาวของเธอช่วยพยุงลงเธอสวมชุดกี่เพ้าสีเรียบสง่างามหรูหรา ดวงตาทั้งสองดูเฉียบคมจริงจังคนรับใช้เงียบทันทีด้วยความเคารพแล้วพูด "คุณผู้หญิง คุณเมิ่งมาค่ะ"สองปีหลังจากแต่งงานเข้ามาในตระกูลโจว เธอไม่ได้แม้กระทั่งตำแหน่งคุณนายโจวด้วยซ้ำการเรียกเธอว่าคุณเมิ่งนั้นบ่งบอกว่าตระกูลโจวกันเธอออกไปและไม่ยอมรับในตัวเธอเมิ่งซิ่งหลวนรู้สึกสงสารและสมเพชตัวเองคุณหญิงโจวเหลือบมองเมิ่งซิ่งหลวนอย่างเย็นชาแล้วตำหนิ "เธอแต่งงานมาสองปีแล้วแต่เธอกลับยังทำตัวเหมือนมาจากตระกูลบ้านนอก ตระกูลเมิ่งช่างสอนลูกสาวมาดีจริงๆ!"โจวเพียนหรานเยาะเย้ย สายตาฉายแววรังเกียจ เธอพูดแทรกเข้ามา "เมิ่งซิงหลวน ฉันบอกเธอไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอมาบ้านใหญ่ เธอก็ต้องมารายงานก่อน ในเมื่อเธอแต่งงานกับพี่ชายของฉันก็ต้องทำตามกฎของบ้าน... "เมิ่งซิ่งหลวนทนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหมดความอดทน ขัดจังหวะพูดอย่างตรงไปตรงมา "แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าเธอเป็นคนดูแลบ้านใหญ่ล่ะ? เลิกพูดอ้อมค้อมกันซะเถอะ ฉันกับโจวยวี่ไป๋หย่ากันแล้ว ตอนนี้ฉันมาเป็นแขกคุณปู่โจวต่างหาก"หลังพ
ชายชราคนนั้นเต็มไปด้วยผมสีขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นที่แสดงให้เห็นประสบการณ์ชีวิตที่สง่างามห้องรับแขกทันใดนั้นเองก็เงียบสงัดลงสายตาแหลมคมของชายชรากวาดมองผู้คนตรงนั้นทีละคน จนในที่สุดก็มาเจอเมิ่งซิ่งหลวน แววตาอ่อนโยนลงทันที"หนูเมิ่งมาแล้วเหรอ? ขอโทษด้วย ปู่มีเรื่องทำให้ช้าไปหน่อย เอ้านั่งเสียสิ เสี่ยวฟางไปชงชาเสีย ใช้ชาดีๆ ที่เพิ่งได้มาไม่นานนี้สิ"คนรับใช้ที่ถูกเรียกชื่อตกใจ เธอเหลือบมองไปที่คุณหญิงโจวก่อนที่จะรีบไปห้องครัวโจวเพียนหรานกัดริมฝีปากล่างด้วยความไม่พอใจในความลำเอียงของชายชรา"คุณปู่ ใครกันแน่ที่เป็นหลานสาวของปู่? เมิ่งซิ่งหลวนเป็นแค่คนนอกเท่านั้น! ถ้าเธอไม่ใช้เล่ห์กลสกปรกแล้วล่ะก็เธอจะเข้ามาในตระกูลโจวได้อย่างไร?"ได้ยินคำพูดหยาบคายของหลานสาว สีหน้าของชายชราก็เข้มลงทันที แววตาแสดงให้เห็นถึงความโกรธ"โจวเพียนหราน ปู่บอกไปกี่ทีแล้วว่าซิ่งซิ่งเป็นพี่สะใภ้ หลานต้องเคารพเธอ! แม่เธอสอนมาแบบนี้เหรอ? ไม่มีมารยาทเลยสักนิด!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวเพียนหรานก็รู้สึกแย่และคว้าแขนของแม่ไว้เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของพวกเขาทั้งสองเต็มไปด้วยความไม่พอใจในขณะนี้เมิ่งซิ่งหลวนท
เสี่ยวฟางตบหัวของเธอ "ปังปัง" แต่เมิ่งซิ่งหลวนไม่ขยับเขยื้อนสักนิดต้องมายุ่งกับเรื่องเล็กอย่างนี้เป็นการส่วนตัวคงจะเยอะเกินไปสำหรับคนตัวเล็กแบบเธอผู้เฒ่าโจวโกรธถึงขีดสุด เขาสั่งให้บอดี้การ์ดของเขาโยนเสี่ยวฟางออกไปจากบ้าน"ท่านผู้เฒ่า! คุณไม่ควรจะไล่ฉันไปแบบนี้! ฉันทำงานอย่างขยันขันแข็งให้ตระกูลโจวมาเป็นเวลานานโดยไม่ได้อะไรสักนิด คุณไม่ควรจะไล่ฉันออกเพราะคนนอกเช่นนี้..."เสี่ยงฟางถูกบอดี้การ์ดสองคนล็อคแขนไว้ลากออกไป คนหนึ่งทางซ้าย อีกคนหนึ่งทางขวาเมื่อเห็นว่าการขอความเห็นใจกับเมิ่งซิ่งหลวนนั้นเปล่าประโยชน์ เธอก็ปามันทิ้งแล้วไปให้สุดได้ยินคำพูดหยาบคายจากปากของเธอ ทำให้ขมับของผู้เฒ่าโจวสั่นขึ้นด้วยความโกรธ"ลากเธอออกไปซะ!"หลังจากเธอถูกลากออกไป ห้องนั่งเล่นก็กลับมาสงบได้อีกครั้ง"หนูน้อยเมิ่ง อย่าโกรธเลย"เมิ่งซิ่งหลวนจิบชาช้าๆ หรี่ตาลง "หนูจะไปโกรธอะไรกับคนที่ใกล้ตายขนาดนั้นล่ะ?"ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามาแล้ว กลิ่นอายแห่งความตายก็ปกคลุมทั่วร่างสาวใช้คนนี้เธอกำลังจะชะตาขาด แต่จะหลีกเลี่ยงได้อยู่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอแล้วผู้เฒ่าโจวตกตะลึงสักพัก ก่อนจะถามถึงสถานก
เมิ่งซิ่งหลวนเดินไปที่ประตูห้องส่วนตัวที่ตั้งใจไว้ ทันทีที่เธอผลักประตูเข้าไป เสียง "ปัง ปัง ปัง"ดังขึ้นหลายครั้งพร้อมกับชิ้นส่วนตกแต่งสีสันสดใสแวววาวลอยละล่อง"สุขสันต์วันเกิดพี่เมิ่ง!""ขอให้พี่เมิ่งของฉันยังสาวราวกับสิบแปดตลอดไป!"เสียงใสดังขึ้นทันใดนั้นแล้วแสงไฟสลัวในห้องก็สว่างขึ้นเว่ยเหิงเดินไปหาเมิ่งซิ่งหลวนพร้อมกับช่อดอกไม้และรอยยิ้มบนใบหน้าอันหล่อเหลาในห้องส่วนตัวนั้นมีบางคนที่เธอไม่คุ้นหน้า พวกเขาคงเป็นเพื่อนของเว่ยเหิงในไห่เฉิงเมิ่งซิ่งหลวนไม่ค่อยสบายใจอยู่สักพัก ก่อนจะพยายามยิ้มตอบ "น้องเหิงนี่ใจดีจริงๆ "หลังจากเธอแต่งงานกับโจวยวี่ไป๋ เธอแทบไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าเลยและเว่ยเหิงก็เป็นหนึ่งในนั้น"ฉันก็ใจดีมาตลอดไหม? พี่เมิ่งน่ะเอาแต่สนแฟนมากกว่าเพื่อนๆ ตอนนี้เจียเจียรถติดบนถนนคงใช้เวลาอีกสิบหรือยี่สิบนาที"เมิ่งซิ่งหลวนถูกนั่งล้อมตรงกลางวงเพื่อนของเว่ยเหิงที่เจอเธอครั้งแรกได้เตรียมของขวัญมาให้เธอด้วย"พี่เมิ่ง เราไม่รู้ว่าพี่จะชอบอะไรก็เลยซื้อของขวัญมาสุ่มๆ หวังว่าพี่จะไม่ว่ากัน"ผู้พูดเกาหัวด้วยความเขินอายเมิ่งซิ่งหลวนหันไปเห็นโลโก้ของแบรนด์หรูที่ดังท
"โจวยวี่ไป๋ ฉันคิดได้ใช่ไหมว่านายกำลังทำเหมือนฉันเป็นตัวตลก?"เมิ่งซิ่งหลวนยิ้มไม่เปลี่ยนสีหน้า"นายคิดว่าวันเกิดฉันมันเมื่อไหร่?"โจวยวี่ไป๋ไม่รู้ว่าจะใช้คำอะไรเพื่ออธิบายอารมณ์ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เขายังคงเงียบ แต่หลินเช่อกลับพร้อมจะพูดแล้วเขาจ้องไปยังเมิ่งซิ่งหลวนด้วยสายตามุ่งร้ายและคำพูดถากถาง"ไม่ใช่ว่าเธอเป็นตัวตลกอยู่แล้วเหรอ? หย่าปุ๊ปเธอก็เจอผู้ชายปั๊ป เมิ่งซิ่งหลวนเธอเหงานักหรือไง? ไม่แปลกเลยที่พี่ไป๋จะดูถูกเธอเสมอ เธอมีอะไรเอาชนะเหยาเหยาได้บ้างนอกจากสายเลือดตระกูลเมิ่ง? เธอ...."หลินเช่อก่นด่าอย่างเพลิดเพลิน ทันใดนั้นเองหมัดก็ปะทะไปที่เขาดวงตาของเว่ยเหิงแดงก่ำด้วยความโกรธ หลินเช่อที่ไม่ทันระวังก็กองไปกับพื้น"ไอ้สารเลว! คำพูดของนายมันไร้สาระสิ้นดี ฉันไม่รังเกียจเลยนะที่จะสั่งสอนนายแทนพ่อแม่!"หลินเช่อสับสนจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นเว่ยเหิงกำลังจะต่อยอีกครั้ง อีกคนก็รีบเดินไปข้างหน้าโดยไม่ลืมจะเรียกโจวยวี่ไป๋"พี่ไป๋!"โจวยวี่ไป๋กลับมามีสติอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วและพูดว่า "เมิ่งซิ่งหลวน พอได้แล้ว!"หญิงสาวดึงเว่ยเหิงไปด้านหลังเธอและยืนประจัญหน้าโจวยวี่ไป๋ ถึงแม้ว่า