#วันต่อมา
หลังจากเลิกงานอัศวินก็กลับมาบ้านตามเวลาปกติ พลอยไพลินก็ยังคงทำหน้าที่จัดโต๊ะอาหารรอเขาเหมือนกับทุกวัน "พี่วินอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวพลอยทำเพิ่มให้" และเธอก็ถามคำถามเดิมๆเหมือนทุกวัน เขาฟังจนเบื่อ และตอนนี้เขาก็อยากจะฟังเรื่องอื่นมากกว่า "วันนี้ฉันกินมาแล้ว " เขาตอบแค่นั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พลอยไพลินมีเรื่องปิดบังเขา ทั้งๆที่เขาคือสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรก็ควรจะบอกเขาเป็นคนแรก "ค่ะ " แล้วเธอก็ตอบเพียงสั้นๆก่อนที่จะเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว นี่เป็นอาการผิดปกติของเธอ เพราะปกติเธอจะต้องถามว่าเขาจะอาบน้ำเลยไหม หรือจะนั่งพักผ่อนก่อน เธอจะได้ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขา เขาต้องดูให้ได้ว่าเธอมีเรื่องอะไร อัศวินเดินไปนั่งยังโซฟาที่ห้องรับแขก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาแม่ของพลอยไพลินในทันที เพราะแม่คือคนที่พลอยไพลินสนิทมากที่สุด (ว่าไงลูก น้องบอกลูกแล้วหรอ) "บอกเรื่องอะไรหรอครับ ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยครับ" ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะบอกออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ (น้องโทรมาปรึกษาแม่ว่าอยากได้เงินไปลงทุนทำร้านเบเกอรี่กับเพื่อน แต่ไม่กล้าขอวิน ) "เท่าไหร่ครับ" อัศวินรู้สึกสบายใจเมื่อได้ยินดังนั้น และรีบโอนเงินให้ทันทีโดยไม่ถามพลอยไพลินอีก ถึงแม่ของเธอจะไม่พูดความจริง เขาก็ไม่ได้สนใจหรอก เพราะครอบครัวของเธอต้องการเงินจากเขาอยู่แล้ว ว่าจะเอาไปทำอะไรคนที่ต้องรับผิดชอบเงินก้อนนั้นก็คือพลอยไพลินอยู่ดี อัศวินที่รู้คำตอบของเรื่องที่พลอยไพลินหนักใจแล้วก็เดินกลับขึ้นมาบนห้อง ไม่นานพลอยไพลินก็เดินตามขึ้นมา เธอทำหน้าที่ของเธอตามปกติ จัดเตรียมเสื้อผ้าให้เขาเพื่อที่จะอาบน้ำ " วันนี้พี่วินจะแช่น้ำอุ่นไหมคะ?" เธอยังคงถามด้วยน้ำเสียงอึดอัดใจ แสดงว่าเธอยังไม่ได้คุยกับแม่ของเธอเรื่องเงิน แต่ไม่นานแม่ของเธอก็โทรมาหา พลอยไพลินขอตัวออกไปคุยกับแม่ก่อนที่จะกลับเข้ามาด้วยใบหน้าที่คลายความทุกข์ไปแล้ว "ขอบคุณพี่วินมากนะคะ ที่โอนเงินให้แม่" พลอยไพลินพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ พร้อมกับเปิดน้ำอุ่นให้แช่เพื่อเขา อัศวินหันมามองนางด้วยสายตาที่เย็นชา "ฉันไม่ได้อยากช่วยหรอก แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น ตราบใดที่เธอยังบริการฉันอย่างดี ฉันก็จะดูแลเธออย่างดี" เขาตอบด้วยเสียงที่เรียบนิ่งแต่คนฟังนั้นเจ็บปวดแทบขาดใจ คำพูดที่เยือกเย็นของอัศวินทำให้พลอยไพลินรู้สึกไร่ค่าและแตกสลายไปทุกวัน แต่เธอก็พยายามฝืนยิ้มและตอบ "ค่ะ พลอยจะเชื่อฟังและทำหน้าที่ตัวเองให้ดีค่ะ" " งั้นก็เริ่มทำสิ วันนี้ฉันเครียดกับงานมาทั้งวัน ต้องการที่จะปลดปล่อย" อัศวินมองใบหน้าและเรือนร่างของภรรยาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป น่าจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาต้องการที่จะร่วมรักกับเธอ อย่าเพิ่งคิดไปมันว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเพราะเขารักเธอ แต่เขาทำเพราะเป็นความต้องการของผู้ชายเพียงเท่านั้น เสียค่าสินสอดไปตั้งหลายสิบล้าน จะไม่ให้เขาทำอะไรเธอเลยหรือไง เขาไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้นที่จะนอนร่วมเตียงกันโดยที่ไม่ทำอะไรเลย "วันนี้ขอแบบถึงใจหน่อยนะ" "ได้ค่ะ " พลอยไพลินตอบท่าทางเขินอายเพราะเธอรู้ดีว่าสามีต้องการให้เธอทำอะไร เธอสลัดความเขินอายออกไปแล้วปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าสามีที่มองอย่างไม่ละสายตา เธอชอบสายตาในตอนนี้ของเขาเหลือเกิน เพราะสายตาของเขาตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองสำคัญกับเขา ทั้งๆที่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย เขาต้องการแค่ร่างกายของเธอเพียงเท่านั้น ถึงจะเจ็บปวดและไร้ค่า เธอก็ต้องรับมือกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อรักษาครอบครัวและความหวังในอนาคต และเพื่อได้อยู่เคียงข้างผู้ชายที่รัก แต่หัวใจดวงน้อยเจ็บหัวทุกครั้งที่ต้องใช้ร่างกายให้เศษเงินกับสามีอัศวินถือของมากมายช่วยแม่ยายโดยที่เงินทั้งหมดนี่คือเงินของเขาเอง ใช่แล้ว! เมื่อวานนี้ท่านโทรหาเขาบอกจะซื้อของมาเยี่ยมหลานชาย เขาเลยให้เงินก้อนใหญ่กับท่านเพื่อไปซื้อของ เพื่อเป็นการผสานรอยร้าวแบบฉบับของเขาเอง อย่างน้อยก็ยังมีแม่เมียคอยหนุนหลัง"สวัสดีค่ะคุณเชาวลิต สวัสดีค่ะคุณอารีรัตน์"เพชรลดายกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยท่าทางสุภาพ ทั้งสองท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใครๆต่างเคารพนับถือ ชื่อเสียงของตระกูลก็โด่งดังในสังคม ครอบครัวของเขาเธอโชคดีมากๆที่ได้เป็นดองกับตระกูลเศรษฐี แต่ลูกสาวไม่รักดีก็โง่ไปยอมเซ็นใบหย่าง่ายๆโดยไม่ได้อะไรสักบาท พูดแล้วก็หงุดหงิดที่มีลูกใสซื่อเกินไป แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่พลอยไพลินท้อง โอกาสที่จะได้กลับมาเป็นครอบครัวจึงมีโอกาสสูง และหล่อนนี่แหละที่จะช่วยให้ลูกได้สามีกลับมา"หลานยายน่าชังจังเลย"เพชรลดาพุ่งตัวไปหาหลานตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนพลอยไพลิน เด็กน้อยกินอิ่มแล้วเลยเริ่มง่วง"สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่มากับใครเหรอคะ?"คำพูดของพลอยไพลินทำให้อัศวินและคนรอบข้างรับรู้ได้ถึงความห่างเหินระหว่างแม่กับลูก พลอยไพลินถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมเพราะเพชรลดากับสามีเป็นนักธุรกิ
ตึก!พลอยไพลินที่กำลังคุยรายละเอียดเบื้องต้นกับลูกค้ารายใหม่พร้อมรอยยิ้มได้หันไปเจอสายตาของอัศวินเข้าพอดี ไม่รู้ว่าเขามองเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เธอรับรู้ได้เพียงว่าสายตาของเขาดูไม่ปกติ หรือว่าลูกน้อยงอแงแล้ว คิดได้อย่างนี้พลอยไพลินก็ขออนุญาตวางสายและเดินออกมาดูลูก แต่ลูกก็ไม่ได้งอแงแล้วยังเล่นกับคุณปู่คุณย่าพร้อมรอยยิ้ม มีแค่ใบหน้าของอดีตสามีที่บึงตึงไม่รู้ไปโกรธใครมา'สงสัยจะมีปัญหากับแฟนล่ะมั้ง' เธอคิดอย่างนั้นเพราะได้ยินแม่กับพ่อของเขาพูดคุยกันว่าเขาไปขอจบกับแฟนหลายครั้งแล้ว แต่แฟนไม่ยอมจบ ซึ่งเธอไม่เชื่อหรอกนะ เขาสองคนรักกันมากขนาดนั้น จะจบกันได้ง่ายๆ ได้อย่างไร"ง่วงหรือยังครับคนเก่ง"พลอยไพลินเดินผ่านอดีตสามีไปหาลูกน้อย เธอยิ้มหวานและหยอกล้อกับลูกน้อยอย่างสดใส สายตาที่มองลูกชายเต็มไปด้วยความรัก ต่างจากสายตาว่างเปล่าที่มองพ่อของลูก ท่าทางเย็นชาของเธอตอกย้ำว่าอัศวินเป็นคนอื่นสำหรับพลอยไพลินไปแล้ว"ได้ยินว่าหนูพลอยมีธุระช่วงบ่ายเหรอ?"คุณปู่ของตัวเล็กเอ่ยถามอดีตลูกสะใภ้ด้วยท่าทางใส่ใจ ท่านเห็นหญิงสาวอยู่ในสายตามาตลอดหลายเดือน ผู้หญิงคนนี้นิสัยใจคอคล้ายกับอารีรัตน์ภรรยาของท่า
"ทำไมไม่หางานทำก่อนละลูก ค่อยย้ายออกไป"อารีรัตน์ยังคงพยายามที่จะยื้ออดีตลูกสะใภ้เอาไว้เช่นเคย เพราะท่านเองก็รักและห่วงใยพลอยไพลินเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง อีกทั้งยังรักหลานจนไม่อยากให้ไปไหนไกลหูไกลตา แต่อีกใจก็เข้าใจว่าหญิงสาวคงจะอึดอัดที่ต้องอยู่ในบ้านของอดีตสามี"เรื่องนั้นคุณท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พลอยรับออเดอร์ทำขนมไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ หลังจากย้ายออกไปพลอยก็จะเริ่มทำและรับมัดจำล่วงหน้ามาก่อนห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พลอยคิดคำนวณดูแล้วรายได้ที่มีพอค่าใช้จ่ายอยู่ค่ะคุณท่าน"พลอยไพลินยิ้มให้กับแม่อดีตสามี แล้วบอกให้ท่านสบายใจว่าเธอจะย้ายไปยังบ้านของเพื่อนสนิท บ้านหลังนั้นเพื่อนไม่ได้อยู่ แล้วเพื่อนยังช่วยหาลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินมัดจำก่อนส่งขนมให้อีกด้วย รายได้พอจะใช้ชีวิตกับลูกน้อยได้แน่นอน"คุยอะไรกันเหรอครับ?"อัศวินแสร้งไม่ได้ยินในสิ่งที่พลอยไพลินพูดก่อนหน้านี้ เขาเดินเข้าไปด้วยท่าทางที่ยังปกติ วางของมากมายที่ซื้อลงบนโต๊ะแล้วรีบเข้าไปอุ้มลูกอย่างช่ำชองทักษะของเขาเหมือนผู้ชายที่มีลูกมาแล้วหลายคน ไม่มีท่าทางเขินๆ ที่จะหยิบจับอะไรเกี่ยวกับลูก ที่ผ่านมาเขาพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงล
ขณะที่สถานการณ์กำลังวุ่นวายพยาบาลก็มาเอาเด็กน้อยไปดูแลต่อ การคลอดก่อนกำหนดนั้นต้องดูแลเป็นพิเศษทั้งแม่ทั้งลูก พอพยาบาลออกไปสถานการณ์ในห้องก็ปกคลุมไปด้วยความอึดอัด อัศวินยืนนิ่งงันอยู่หลายนาทีโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาเอาแต่มองหน้าซีดเซียวของผู้หญิงที่เพิ่งจะบอกว่ารักเขาและตัดใจจากเขาไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าเธอจะตัดใจจากเขาทำไมในเมื่อเขากำลังยื่นโอกาสให้เธอกลับมาเป็นครอบครัว เขาลดทิฐิลดความเป็นตัวเองลงไปเพื่อเธอ เพื่อลูก แล้วเธอยังต้องการอะไรอีก"ที่พูดออกมาคิดดีแล้วเหรอ?"เขาถามเธออีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จะบอกว่าไม่พอใจก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียว เรียกว่าไม่อยากจบความสัมพันธ์กับเธอจะดีกว่า"คิดดีแล้วค่ะ"พลอยไพลินยังคงยืนยันคำเดิม แววตาของเธอแน่วแน่"แต่ลูกต้องมี..."หมับ! อารีรัตน์รีบคว้ามือลูกชายไว้ ไม่อยากให้เรื่องแย่ไปกว่านี้"ออกไปคุยกับแม่หน่อย"อัศวินถูกผู้เป็นแม่จูงมือออกมาจากห้องพิเศษด้วยท่าทางเคร่งเครียด ตอนนี้ท่านไม่สามารถปล่อยให้ทั้งสองคนคุยกันเองได้ ท่านที่มีประสบการณ์มาก่อนจึงต้องเป็นตัวกลางประสานความสัมพันธ์ให้ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้กลับมาเป็นครอบค
10 นาทีต่อมาพลอยไพลินนอนนิ่งอยู่บนเตียงโดยมีอัศวินนั่งอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลเธอและลูกน้อย คุณหมอที่ถูกเรียกมาโดยด่วนได้มาถึงเพื่อทำการตรวจแผลผ่าคลอดและพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลคนไข้หลังคลอด หมอยิ้มและเริ่มพูดกับอัศวินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน หมอเองก็ไม่เคยเห็นสามีคนไหนใส่ใจภรรยาขนาดนี้มาก่อน ทำเอาคนที่เห็นอบอุ่นหัวใจไปด้วย"แผลผ่าคลอดหายช้ากว่าการคลอดธรรมชาติหน่อยนะคะ ในช่วงนี้ยังต้องการการดูแลคุณแม่เป็นพิเศษ หมอขอแนะนำวิธีการดูแลภรรยาหลังคลอดเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้เร็วขึ้น"อัศวินยืนฟังอย่างตั้งใจ สายตาของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็ดูมุ่งมั่นในการฟังหมออธิบาย พลอยไพลินไม่เข้าใจในการกระทำของอดีตสามีเลย เขากำลังทำดีกับเธอไปเพื่ออะไร ทั้งที่ผ่านมาก็ไม่เคยชัดเจนและแสดงว่าอยากดูแลเธอมาก่อนแล้วที่สำคัญไปกว่านั้น... เขามาอยู่ในวันที่เธอต้องการความช่วยเหลือได้ยังไง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นั่น คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด แต่พอนึกถึงตัวเล็กที่เพิ่งจะคลอดมาออกมาก่อนกำหนด หัวใจของเธอก็บีบรัดแน่น น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอเครียดหนักจนส่งผลถึงลูกจนได้ เธอเกือบจะเสียลูกไปแล้ว"ร
อัศวินถูกเชิญออกมาอยู่ด้านนอกให้หมอรักษาได้อย่างเต็มที่ เขาเหลือบไปมองดูคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ใบหน้าของเขาแสดงความวิตกกังวลตลอดเวลา แม้จะออกมาจากห้องตรวจก็ยังคงกังวลอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นเลือดที่ยังติดอยู่ที่เสื้อของตนก็ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง อัศวินยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อระบายความเครียด "คุณแม่ของคุณพลอยโทรมาค่ะ"ยุพาเอามือถือของพลอยไพลินมาให้กับเจ้านายหนุ่ม เพราะคิดว่าคนที่เคยเป็นสามีน่าจะแก้ปัญหานี้ได้ เธอทนเห็นหญิงสาวสะสมความเครียดไว้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงพลอยไพลินจะยิ้มให้กับทุกคน แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเครียด"ที่ผ่านมาคุณพลอยเธอเข้มแข็งมากนะคะ"อัศวินยืนตัวแข็งทื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่แม่บ้านสาธยายออกมา ทุกสิ่งที่พูดมาล้วนแต่ทิ่มแทงหัวใจของเขาเป็นอย่างมาก เขาเอาแต่ใจและละเลยความรู้สึกของเธอมาตลอด คิดว่าเงินสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เลย!!สายเรียกเข้าจากคุณแม่มือถือของพลอยไพลินยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอัศวินตัดสินใจที่จะรับสาย เขาจะแก้ปัญหาให้กับเธอเอง เพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเธอต้องการอะไรจากเธอ"อัศวินรั