Mag-log inนิธิโชติเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีน้ำตาลและกางเกงสแล็กส์สีขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนเพราะมีเชื้อสายจากฝั่งยุโรปยาวละต้นคอ ด้านหน้าแสกกลางและแต่งเป็นทรงคอมม่ายอดนิยม ใบหน้าขาวกระจ่างใสมีเครื่องหน้าที่พอดีและลงตัวอย่างเหมาะเจาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่แปลกที่บงกชเพชรจะจำได้ว่าเขาคือคนที่เดินชนเธออย่างแรงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
“อ้าว! ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอคะ” ปรางทิพย์ถาม
“พี่รู้จักคุณบัว แต่คุณบัวยังไม่รู้จักพี่หรอก พอดีเมื่อคืนตอนไปจัดการเรื่องเค้กที่งานแต่ง พี่รีบร้อนจนเดินชนคุณบัวเข้าซะเต็มแรงเลย คุณบัวก็เลยจำพี่ได้ ใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มตอบคำถามของภรรยาเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปถามบงกชเพชร
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี
“อ๋อ! งั้นก็ถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันนะ นี่บัว… เป็นเพื่อนสนิทของปรางเองค่ะพี่เหนือ แล้วนี่พี่เหนือนะบัว เขาเป็นเจ้าของร้านเค้กแต่งงานที่ดังที่สุดในตอนนี้ แล้วก็เป็นเพื่อนรักของพี่กรด้วยจ้ะ”
“ผมนิธิโชตินะครับ จะเรียกว่าพี่เหนือเหมือนอย่างที่ปรางเรียกก็ได้” นิธิโชติยิ้มพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า บงกชเพชรลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสตามมารยาท
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เธอสบตากับเขา รู้สึกวูบวาบในอกอย่างประหลาดเพราะสายตาที่มองมาเปล่งประกายวาววับ ไม่ใช่ในแบบเจ้าชู้ชีกอ แต่เป็นสายตาอบอุ่นลึกซึ้งที่บงกชเพชรไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน
“ส่วนแม่คนนี้ชื่อเนย เป็นน้องสาวของพี่เหนือ อายุรุ่นเดียวกันกับเรานี่แหละ จะเรียกว่ายายเนยหรือนังเนยก็ตามสบายเลย” ปรางทิพย์หันไปเบะปากใส่นลินรัตน์ที่สนิทสนมกันมาพักใหญ่แล้ว เวลาที่นิธิโชติมาคุยกับลูกค้าเรื่องเค้กที่นี่ เจ้าตัวก็มักจะตามพี่ชายมาด้วยเสมอเพราะถือว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัว
“อย่าไปสนใจคุณปรางเธอเลยค่ะ วันไหนไม่แกล้งเนยคงนอนไม่หลับ ยังไงก็ยินดีที่ได้บริการนะคะคุณบัว” นลินรัตน์หันไปยิ้มให้ว่าที่เจ้าสาว ทำหน้าชื่นชมในความสวยสง่าของอีกฝ่าย คิ้ว ตา จมูก ปากและคาง ลงตัวไปหมดจนไม่รู้จะหาที่ติได้ตรงไหน มองอย่างไรก็ไม่มีเบื่อ
“ปรางก็แบบนี้แหละค่ะคุณเนย บัวเองก็โดนแกล้งอยู่บ่อยๆ” บงกชเพชรหัวเราะสดใส “ยินดีที่ได้รู้จักคุณเหนือกับคุณเนยนะคะ ขอบคุณมากเลยที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่” ไม่ผิดไปจากที่เดาไว้นักว่าบงกชเพชรคงไม่ยอมเรียกนิธิโชติอย่างสนิทสนมด้วยคำว่าพี่
“ลูกค้าส่วนใหญ่พี่ก็ได้จากปรางกับกรนี่แหละครับ สองคนนี้ช่วยบอกต่อให้ ผมไม่อยากให้ลูกค้าต้องเสียเวลาแวะไปหลายที่ก็เลยออกมานัดเจอที่นี่ซะทีเดียวเลย”
“แล้วว่าที่เจ้าบ่าวไม่อยู่เหรอคะ?”
“เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี่เอง” ปรางทิพย์เป็นคนตอบ ก่อนจะนึกได้ว่ายังไม่เคยบอกนลินรัตน์เลยว่าแฟนหนุ่มของบงกชเพชรคือนักร้องชื่อดังอย่างปิติภัทร “ลืมบอกเลยว่างานนี้เอาแบบอลังการหน่อยนะ ว่าที่เจ้าบ่าวของบัวเป็นถึงนักร้องชื่อดัง แล้วก็ยังเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเศรษฐีด้วย เปรมวงเนเวอร์แบดไง”
“เปรมเนเวอร์แบดที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่น่ะเหรอ! แต่ว่าเขา…” นลินรัตน์ทำตาโตด้วยความตกใจความ มองไปที่บงกชเพชรแล้วขยับจะพูดบางอย่าง
“พวกเราบังเอิญเจอเขาแบบผ่านๆ พอดีน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของคุณบัวก็เลยไม่ทันได้แนะนำตัวกัน” นิธิโชติเดินไปแตะไหล่น้องสาวแล้วบีบเบาๆ ไม่ต้องการให้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลานจอดรถขึ้นมาตอนนี้ วู่วามไปมีแต่เสียกับเสีย
“เอ่อ… ใช่ค่ะคุณบัว พอดีเนยไม่รู้มาก่อนน่ะค่ะ เวลาที่มีภาพหลุดแฟนของเปรมวงเนเวอร์แบดออกมา มันก็จะเป็นภาพที่ไม่ค่อยชัด คุณบัวน่าจะเปิดตัวให้ชัดเจนไปเลยนะคะ”
“จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะหลบๆ ซ่อนๆ หรอกค่ะ แต่บัวเป็นพวกรักสงบ ไม่ค่อยอยากเป็นข่าวก็เลยชอบแต่งตัวมิดชิดหน่อยเวลาไปไหนมาไหนกับพี่เปรม นี่ก่อนถึงวันแต่งงานสักเดือนนึง พี่เปรมบอกว่าจะพาไปเปิดตัวในงานแถลงข่าวเพลงใหม่อยู่เหมือนกัน แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะ บัวไม่ค่อยถนัดยิ้มต่อหน้ากล้องเท่าไหร่เลย”
บงกชเพชรเล่าความเป็นตัวเองให้นิธิโชติและนลินรัตน์ฟัง เธอเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่ชอบเข้าสังคม พูดไม่เก่งอีกต่างหาก กว่าปิติภัทรจะขายขนมจีบได้สำเร็จ เขาก็ใช้เวลาอยู่ไม่น้อยทีเดียว เริ่มแรกเธอปฏิเสธอย่างหนักแน่นเพราะไม่อยากคบหากับคนมีชื่อเสียงให้ต้องตกเป็นเป้าของสังคม แต่ปิติภัทรเป็นคนช่างเอา ใส่ใจ และทุ่มเทอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาตลอดเวลาเกือบปี เขาแสดงความรักต่อเธอในแบบที่เธอไม่เคยได้รับจากใคร ให้เกียรติและไม่เคยล่วงเกินศักดิ์ศรีของเธอ
แม้มีผู้ชายมากมายรายล้อมเข้ามาจีบ แต่คนพวกนั้นก็มักถอดใจหนีห่างอยู่เสมอเพราะความเย็นชาที่บงกชเพชรมอบให้ ต่างจากปิติภัทรที่ยังคงตามเทียวไล้เทียวขื่อ ป้อนหยอดคำหวานให้ใจละลายได้ทุกเมื่อเชื่อวัน อีกทั้งพ่อแม่ของเขาก็เอ็นดูเธอมาก ไม่เคยดูหมิ่นว่าเธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกรับอุปการะโดยตระกูลใหญ่ ครอบครัวของว่าที่เจ้าบ่าวทำให้เธออบอุ่นราวกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่มีความสำคัญ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยอมเปิดประตูหัวใจต้อนรับเขา
นิธิโชติเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีน้ำตาลและกางเกงสแล็กส์สีขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนเพราะมีเชื้อสายจากฝั่งยุโรปยาวละต้นคอ ด้านหน้าแสกกลางและแต่งเป็นทรงคอมม่ายอดนิยม ใบหน้าขาวกระจ่างใสมีเครื่องหน้าที่พอดีและลงตัวอย่างเหมาะเจาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่แปลกที่บงกชเพชรจะจำได้ว่าเขาคือคนที่เดินชนเธออย่างแรงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา“อ้าว! ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอคะ” ปรางทิพย์ถาม“พี่รู้จักคุณบัว แต่คุณบัวยังไม่รู้จักพี่หรอก พอดีเมื่อคืนตอนไปจัดการเรื่องเค้กที่งานแต่ง พี่รีบร้อนจนเดินชนคุณบัวเข้าซะเต็มแรงเลย คุณบัวก็เลยจำพี่ได้ ใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มตอบคำถามของภรรยาเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปถามบงกชเพชร“ใช่ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี“อ๋อ! งั้นก็ถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันนะ นี่บัว… เป็นเพื่อนสนิทของปรางเองค่ะพี่เหนือ แล้วนี่พี่เหนือนะบัว เขาเป็นเจ้าของร้านเค้กแต่งงานที่ดังที่สุดในตอนนี้ แล้วก็เป็นเพื่อนรักของพี่กรด้วยจ้ะ”“ผมนิธิโชตินะครับ จะเรียกว่าพี่เหนือเหมือนอย่างที่ปรางเรียกก็ได้” นิธิโชติยิ้มพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า บงกชเพชรลังเลเล็กน้อยก่อนจะ
ตอนที่เดินออกมาจากบริษัททั้งคู่เพียงแค่เดินควงแขนกัน แต่พอไปถึงลานจอดรถแล้วมือของปิติภัทรกลับเลื่อนลงมาโอบเอวบางอย่างสนิทสนม เขาต้องการดูท่าทีของนาราเสียก่อนว่าเป็นในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังอยู่แล้วแน่นอนว่านอกจากจะไม่ผลักไส นารายังวาดมือออกไปโอบเอวของชายหนุ่มคืนด้วย อาการวิงเวียนเหนื่อยล้าที่แสดงออกต่อหน้าพี่สาวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวด้วยความพอใจ“นาราเหนื่อยจัง อยากนอนบนเตียงนุ่มๆ ไม่รู้ว่าจะหลับหรือเปล่า ยังไม่ค่อยชินกับเวลาของเมืองไทย คงต้องปรับอีกสักระยะเลยค่ะ แต่ตอนนี้ง่วงจริง คิดว่าคงหลับไม่ยาก”“ถ้าอยากหลับง่ายขึ้นลองหาคนช่วยลูบหลังให้สิ รับรองว่าแค่ไม่กี่นาทีก็หลับสนิท บัวเองก็ชอบให้พี่ลูบหลังให้เหมือนกัน” ชายหนุ่มแสร้งหยอด“ลูบหลังอย่างเดียวเหรอคะ?” เธอบิดริมฝีปากยิ้มเยาะ“ถ้าหมายถึงเรื่องอย่างว่าเลิกคิดไปได้เลยครับ บัวเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว พี่ไม่เคยได้อะไรมากไปกว่าก็กอดจูบ ที่บอกว่าเคยลูบหลังให้ก็มีโอกาสน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ็บป่วย บัวแทบไม่ยอมให้พี่เข้าไปยุ่งในห้อง”“ตายแล้ว! แบบนี้พี่เปรมก็แย่น่ะสิคะ มีแฟน
หลังจากออกไปนั่งรอที่ห้องรับรองได้ไม่ถึงห้านาที นาราก็หงุดหงิดมากเสียจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ ที่ยอมแหกตาตื่นแต่เช้ามาแบบนี้ก็เพราะต้องการใกล้ชิดกับปิติภัทร แต่ปรากฏว่าไม่มีช่องให้เธอได้แทรกเข้าไปเลย บงกชเพชรเอาแต่เกาะชายหนุ่มแจ ตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา“เป็นอะไรหรือเปล่าครับนารา” ปิติภัทรถาม“นาราเหนื่อยค่ะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม” ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายถามก่อน เธอจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รีบยกนิ้วขึ้นแตะขมับและปรับสีหน้าที่ฉุนเฉียวให้เปลี่ยนเป็นอ่อนแอ“อยากได้ยาดมหรือดื่มอะไรหน่อยไหมจ๊ะ”บงกชเพชรที่นั่งอยู่ติดกันกับแฟนหนุ่มรีบขยับเข้าไปดูอาการน้องสาว ยกมือขึ้นอังหน้าผากก็พบว่าไม่มีไข้ แต่สีหน้าของนาราดูค่อนข้างย่ำแย่“ไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ นาราอยากนอนมากกว่า ขอโทษนะคะที่มาด้วยแล้วก็ยังทำตัวเป็นภาระ นาราก็แค่อยากมีส่วนช่วยเรื่องงานแต่งของพี่บัว”“ไม่ต้องขอโทษหรอก นาราหวังดีกับพี่นี่นา เอาแบบนี้ดีไหม นารากลับไปพักผ่อนก่อน เรื่องเค้กไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากมาย เดี๋ยวพี่จัดการเองก็ได้จ้ะ”“แล้วจะให้นารากลับยังไงล่ะคะ ถ้าเป็นแท็กซี่ นาราไม่กล้านะ ไม่รู้ว่าเขาจะพาอ้อมหรือพาเปลี่ยนเส้นทางไปไหนหรือเปล่
ในฐานะที่ปรางทิพย์รับช่วงการทำงานเป็น Flower Decoration ต่อจากมารดามามากกว่าห้าปีแล้ว ประสบการณ์จึงไม่น้อยหน้าใคร ความพิถีพิถันของเธอทำให้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ยิ่งมีสามีอย่างปกรณ์คอยช่วย งานก็ยิ่งราบรื่นประสบความสำเร็จงานตกแต่งดอกไม้ในงานแต่งงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้วันสำคัญของคู่บ่าวสาวออกมาในคอนเซปต์ที่ต้องการ ที่สำคัญ…. ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังสามารถสื่อถึงเรื่องราวของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรายละเอียดของงานเมื่อทุกคนเดินเข้าไปในห้องประชุมแล้วแยกย้ายกันนั่งลงเรียบร้อย พนักงานก็นำของว่างและน้ำผลไม้มาเสิร์ฟให้ ปกรณ์จัดแจงเรื่องการเปิดสไลด์ให้ว่าที่บ่าวสาวได้ชมรายละเอียดและเลือกสรรค์สิ่งที่ต้องการตามคอนเซปต์ที่เคยให้ไว้ว่าตรงตามใจหรือเปล่า“สำหรับงานแต่งของเพื่อนรักอย่างบัวต้องเป็นแพ็กเกจลักชูรี่เท่านั้น ตามที่คุยกันไว้ ธีมของงานจะเป็นสีขาว สีเงินและสีทอง ในแพ็กก็จะมีในส่วนของแบ็กดรอป ไม้กระดาน ตกแต่งดอกไม้ประดิษฐ์ มีพรมปูด้านหน้า มีป้ายชื่อบ่าวสาว แล้วในส่วนของมุมแกลลอรี่จะมี Photo box มีตกแต่งดอกไม้ให้ตามธ
ติภัทรมาที่บ้านของบงกชเพชรตั้งแต่แปดโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดกับ ‘ปรางทิพย์’ เพื่อนสาวคนสนิทของบงกชเพชรที่ เป็นเจ้าของร้านดอกไม้งานแต่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ พิธีแต่งงานจะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงจำเป็นต้องเริ่มวางแผนและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม“พี่เปรมทานอะไรมาหรือยังคะ”“พี่เรียบร้อยมาแล้วครับ บัวล่ะ”“บัวทานครัวซองกับกาแฟไปแล้วค่ะ เราจะไปกันเลยไหมคะ เห็นว่าวันนี้ปรางนัดกับเจ้าของร้านเค้กงานแต่งเอาไว้ด้วย เราจะได้คุยเรื่องเค้กไปพร้อมกันเลย”“ไปครับ” เจ้าของร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปใกล้ ก้มลงจุมพิตข้างแก้มเบาๆ อย่างเอาใจ ว่าที่เจ้าสาวของเขาไม่ได้แต่งตัวสวยหรูเหมือนเวลาที่ต้องไปทำงาน วันนี้แต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์โอเวอร์ไซซ์สีซีด ต่างจากคนที่กำลังเดินตามมาด้านหลังนาราสวมเดรสคอเหลี่ยมแขนพองสีเหลืองอ่อนที่สั้นเพียงต้นขา ผมยาวสลวยที่เคยปล่อยสยาย เช้านี้มัดรวบสูงเป็นพวงหางม้าและปล่อยปอยหวานระอยู่ข้างแก้ม แต่งหน้าด้วยโทนสีส้มจาง ดูไม่แรงเท่าเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้สวยน้อยลงเลยปิติภัทรคลี่ยิ้ม กวาดสายตามองคนที่สวยหรูไปทั้งตัวด้วยความประทับใจ นึกว่าเธอจะลงม
“โอเคๆ เอาไว้พี่จะลองโทรไปหาป้าผินดูนะว่าแกยังว่างอยู่หรือเปล่า ตอนนั้นที่แกลาออกไปก็เห็นบอกว่าจะกลับไปทำไร่ที่ต่างจังหวัด”“โอ๊ย! พวกคนเก่าๆ แก่ๆ ไม่ต้องไปจ้างมาหรอก เดี๋ยวนาราหาคนใช้คนใหม่เอง แต่พี่บัวต้องเป็นคนจ่ายเงินเดือนนะ นาราเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย ยังไม่มีอารมณ์หางานทำหรอก”ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์ แต่เรื่องการทำงานไม่เคยอยู่ในหัวของคนอย่างนาราเลยต่างหาก ตอนอยู่ต่างประเทศเธอก็มีคนคอยเลี้ยงดู จนกระทั่งเมียของอีกฝ่ายจับได้นั่นแหละถึงต้องรีบบินหนีกลับเมืองไทย แล้วเรื่องเรียนเธอก็จบแค่ไฮสกูลเท่านั้น ไม่ได้เรียนต่อปริญญาอย่างที่หลอกให้บงกชเพชรส่งเสีย“ได้สิ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เอาไว้พักจนหายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยหางานทำก็ได้” บงกชเพชรจัดเรียงของบนโต๊ะเครื่องแป้งเสร็จพอดี เธอหันมายิ้มให้กับน้องสาว เห็นอีกฝ่ายยังคงเช็ดผมอยู่จึงเดินเข้าไปแย่งผ้ามาถือไว้ แล้วค่อยๆ ซับน้ำออกจากผม“นาราถามอะไรหน่อยสิพี่บัว”“หืม ว่าไงจ๊ะ”“ทรัพย์สมบัติที่คุณพ่อคุณแม่ยกให้พี่บัว พี่บัวใช้หมดไปแล้วหรือยัง”“ยัง มันเยอะแยะขนาดนั้น พี่จะใช้หมดได้ยังไง”“แซะนาราเหรอ?” คนที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมอง“เปล่า







