Mag-log inตอนที่เดินออกมาจากบริษัททั้งคู่เพียงแค่เดินควงแขนกัน แต่พอไปถึงลานจอดรถแล้วมือของปิติภัทรกลับเลื่อนลงมาโอบเอวบางอย่างสนิทสนม เขาต้องการดูท่าทีของนาราเสียก่อนว่าเป็นในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังอยู่แล้ว
แน่นอนว่านอกจากจะไม่ผลักไส นารายังวาดมือออกไปโอบเอวของชายหนุ่มคืนด้วย อาการวิงเวียนเหนื่อยล้าที่แสดงออกต่อหน้าพี่สาวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวด้วยความพอใจ
“นาราเหนื่อยจัง อยากนอนบนเตียงนุ่มๆ ไม่รู้ว่าจะหลับหรือเปล่า ยังไม่ค่อยชินกับเวลาของเมืองไทย คงต้องปรับอีกสักระยะเลยค่ะ แต่ตอนนี้ง่วงจริง คิดว่าคงหลับไม่ยาก”
“ถ้าอยากหลับง่ายขึ้นลองหาคนช่วยลูบหลังให้สิ รับรองว่าแค่ไม่กี่นาทีก็หลับสนิท บัวเองก็ชอบให้พี่ลูบหลังให้เหมือนกัน” ชายหนุ่มแสร้งหยอด
“ลูบหลังอย่างเดียวเหรอคะ?” เธอบิดริมฝีปากยิ้มเยาะ
“ถ้าหมายถึงเรื่องอย่างว่าเลิกคิดไปได้เลยครับ บัวเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว พี่ไม่เคยได้อะไรมากไปกว่าก็กอดจูบ ที่บอกว่าเคยลูบหลังให้ก็มีโอกาสน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ็บป่วย บัวแทบไม่ยอมให้พี่เข้าไปยุ่งในห้อง”
“ตายแล้ว! แบบนี้พี่เปรมก็แย่น่ะสิคะ มีแฟนแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่มีที่ระบาย คิดยังไงถึงจีบสาวหัวโบราณอย่างพี่บัว รายนั้นน่ะต่อให้ยอมมีเซ็กส์ด้วยก็คงตายด้านน่าดู”
“พี่เองก็ทรมานนะ แต่บอกตามตรงว่ามีซื้อกินบ้าง อย่าไปบอกบัวล่ะ ไม่งั้นชีวิตพี่จบเห่แน่” เขาทำเป็นโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหู แอบสูดกลิ่นหอมกรุ่นจากกายสาวแล้วหลับตาพริ้ม รสนิยมของนาราจัดว่าดีมาก แม้แต่น้ำหอมที่ใช้ก็ยังบ่งบอกถึงความเป็นตัวเธอ
“นาราเป็นคนไว้ใจได้ค่ะ ถ้าพี่เปรมให้ใจกับนารา นาราก็พร้อมที่จะให้ใจกับพี่เปรมด้วยเหมือนกัน”
“แล้ว… ได้แค่ใจอย่างเดียวเหรอครับ”
“ถ้าอยากรู้ว่าให้อะไรได้บ้าง งั้นพี่เปรม… ก็อยู่เป็นเพื่อนนาราสิคะ แค่ช่วยกล่อมให้หลับแล้วค่อยกลับก็ได้ แล้วก็อย่าลืมนะว่ายังไม่ได้เซ็นให้นาราเลย”
“แต่ถ้าบัวรู้เข้า…”
“ทีตอนซื้อกินพี่เปรมยังไม่กลัวเลย ถ้าเราสองคนไม่พูด พี่บัวก็ไม่มีวันรู้เรื่องนี้ไปจนวันตาย ไม่ต้องกลัวนาราจะแบล็กเมล์นะ นาราไม่ใช่สาวน้อยอ่อนต่อโลก เรื่องแบบนี้มันก็แค่แลกความสนุกกัน นาราไม่คิดจริงจังถึงขั้นอยากจะทำลายชีวิตรักของพี่เปรมกับพี่บัวหรอกค่ะ” เป็นคำพูดที่ชัดเจนที่สุดแล้วสำหรับปิติภัทร เขากระตุกยิ้มพอใจ จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอแล้วดันจนแผ่นหลังชิดไปกับประตูรถ
“พี่ขอมัดจำก่อนได้ไหมครับ”
นาราไม่ตอบคำถามนั้น แต่วาดแขนขึ้นไปโอบรอบต้นคอเขาแล้วดึงให้โน้มตัวต่ำลงมา เธอเงยหน้าขึ้นรับเรียวปากอุ่นที่ทาบแนบเข้ามาหา เป็นฝ่ายจูบเคล้าคลึงอย่างลึกซึ้งและเร่าร้อน แสดงความช่ำชองให้เห็นถึงลิ้นน้อยๆ ที่พลิ้วไหวซุกซน
ปิติภัทรครางฮืมในลำคอ บดเบียดริมฝีปากแลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันอยู่กลางลานจอดรถโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม กระทั่งความเป็นชายพองขยายคับแน่นอยู่ในเป้ากางเกงจนทนไม่ไหว เขาจึงยอมถอยห่างและเปิดประตูให้เธอก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ดวงตาสองคู่สบประสานกันอย่างสื่อความหมาย โดยไม่รู้เลยว่ารถที่จอดอยู่ตรงกันข้ามมีคนนั่งอยู่ด้านในและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
“โห! อย่างแซ่บเลยพี่เหนือ นั่นมันนักร้องดังที่ชื่อเปรมนี่ เห็นข่าวบอกว่ามีแฟนแล้ว กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือน สงสัยอดใจรอให้ถึงวันแต่งงานแทบไม่ไหวแล้ว แต่เท่าที่เคยเห็นในข่าวซุบซิบดารานักร้อง เนยว่าเหมือนจะไม่ใช่คนนี้นะ ภาพที่หลุดมาแต่ละอันก็เห็นไม่ชัดซะด้วยสิ”
นลินรัตน์ที่นั่งอยู่เคียงข้างพี่ชายยกมือทาบอกด้วยความตื่นเต้น เมื่อดันมาเห็นเหตุการณ์วาบหวิวกลางลานจอดรถเข้าพอดี แล้วเธอก็ดันมือไวเสียด้วย หยิบโทรศัพท์มาอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ทันทุกฉากทุกตอนเลยทีเดียว
“อย่าไปสนใจพวกดารานักร้องนักเลย ลบคลิปทิ้งซะเนย อย่าเอาไปเผยแพร่ที่ไหนเชียวนะ ห้ามละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา” สีหน้าของเขาดูตึงเครียดพอๆ กับเสียงที่พูดออกมา รีบปรามน้องสาวไม่ให้พลาดจนตัวเองเดือดร้อน
“เนยรู้ค่ะ ไม่ได้คิดจะเอาไปเผยแพร่ที่ไหนหรอก กะจะเก็บไว้เฉยๆ นี่แหละ”
“ลบเถอะ พี่ขอ มันไม่ใช่คลิปที่น่าดูอะไรเลย”
“ก็ได้ค่ะ ลบก็ลบ” หญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่พี่ชาย แต่ก็ยอมลบคลิปออกจากโทรศัพท์แต่โดยดีโดยไม่เหลือทิ้งไว้ในถังขยะด้วยซ้ำ
“ดีมากที่เชื่อฟัง เอาไว้เดือนนี้จะมีโบนัสพิเศษให้”
“เนี่ย ชอบเอาโบนัสมาล่อ ไอ้เราก็ว้าวุ่นเลย สั่งอะไรต้องรีบทำตามทันที” เธอพูดติดตลกทำเอาพี่ชายหลุดขำ
“พวกนั้นไปกันแล้วค่ะ รีบลงรถกันเถอะ เดี๋ยวปรางกับพี่กรจะรอนาน” พอเห็นว่ารถหรูของนักร้องดังแล่นออกไปแล้ว คนเป็นน้องสาวจึงเอ่ยชวนแล้วเป็นฝ่ายเปิดประตูลงไปก่อน
นิธิโชติปัดความสนใจเรื่องของคนอื่นทิ้งไป เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามหลังนลินรัตน์ไปห่างๆ สองพี่น้องขึ้นลิฟต์ไปยังห้องรับรองชั้นบนตามที่ปกรณ์บอกไว้ ในจังหวะที่เปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่าใครคือว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการสั่งเค้กจากทางร้าน ชายหนุ่มก็ชะงัก สีหน้าติดอึ้งอย่างชัดเจน
“คุณบัว” นิธิโชติพึมพำชื่อนั้น
“คุณ…” เธอเองก็จำเขาได้ตั้งแต่นาทีแรกที่พบหน้า
นิธิโชติเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีน้ำตาลและกางเกงสแล็กส์สีขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนเพราะมีเชื้อสายจากฝั่งยุโรปยาวละต้นคอ ด้านหน้าแสกกลางและแต่งเป็นทรงคอมม่ายอดนิยม ใบหน้าขาวกระจ่างใสมีเครื่องหน้าที่พอดีและลงตัวอย่างเหมาะเจาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่แปลกที่บงกชเพชรจะจำได้ว่าเขาคือคนที่เดินชนเธออย่างแรงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา“อ้าว! ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอคะ” ปรางทิพย์ถาม“พี่รู้จักคุณบัว แต่คุณบัวยังไม่รู้จักพี่หรอก พอดีเมื่อคืนตอนไปจัดการเรื่องเค้กที่งานแต่ง พี่รีบร้อนจนเดินชนคุณบัวเข้าซะเต็มแรงเลย คุณบัวก็เลยจำพี่ได้ ใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มตอบคำถามของภรรยาเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปถามบงกชเพชร“ใช่ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี“อ๋อ! งั้นก็ถือโอกาสนี้แนะนำตัวให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกันนะ นี่บัว… เป็นเพื่อนสนิทของปรางเองค่ะพี่เหนือ แล้วนี่พี่เหนือนะบัว เขาเป็นเจ้าของร้านเค้กแต่งงานที่ดังที่สุดในตอนนี้ แล้วก็เป็นเพื่อนรักของพี่กรด้วยจ้ะ”“ผมนิธิโชตินะครับ จะเรียกว่าพี่เหนือเหมือนอย่างที่ปรางเรียกก็ได้” นิธิโชติยิ้มพร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า บงกชเพชรลังเลเล็กน้อยก่อนจะ
ตอนที่เดินออกมาจากบริษัททั้งคู่เพียงแค่เดินควงแขนกัน แต่พอไปถึงลานจอดรถแล้วมือของปิติภัทรกลับเลื่อนลงมาโอบเอวบางอย่างสนิทสนม เขาต้องการดูท่าทีของนาราเสียก่อนว่าเป็นในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังอยู่แล้วแน่นอนว่านอกจากจะไม่ผลักไส นารายังวาดมือออกไปโอบเอวของชายหนุ่มคืนด้วย อาการวิงเวียนเหนื่อยล้าที่แสดงออกต่อหน้าพี่สาวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวด้วยความพอใจ“นาราเหนื่อยจัง อยากนอนบนเตียงนุ่มๆ ไม่รู้ว่าจะหลับหรือเปล่า ยังไม่ค่อยชินกับเวลาของเมืองไทย คงต้องปรับอีกสักระยะเลยค่ะ แต่ตอนนี้ง่วงจริง คิดว่าคงหลับไม่ยาก”“ถ้าอยากหลับง่ายขึ้นลองหาคนช่วยลูบหลังให้สิ รับรองว่าแค่ไม่กี่นาทีก็หลับสนิท บัวเองก็ชอบให้พี่ลูบหลังให้เหมือนกัน” ชายหนุ่มแสร้งหยอด“ลูบหลังอย่างเดียวเหรอคะ?” เธอบิดริมฝีปากยิ้มเยาะ“ถ้าหมายถึงเรื่องอย่างว่าเลิกคิดไปได้เลยครับ บัวเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว พี่ไม่เคยได้อะไรมากไปกว่าก็กอดจูบ ที่บอกว่าเคยลูบหลังให้ก็มีโอกาสน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ็บป่วย บัวแทบไม่ยอมให้พี่เข้าไปยุ่งในห้อง”“ตายแล้ว! แบบนี้พี่เปรมก็แย่น่ะสิคะ มีแฟน
หลังจากออกไปนั่งรอที่ห้องรับรองได้ไม่ถึงห้านาที นาราก็หงุดหงิดมากเสียจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ ที่ยอมแหกตาตื่นแต่เช้ามาแบบนี้ก็เพราะต้องการใกล้ชิดกับปิติภัทร แต่ปรากฏว่าไม่มีช่องให้เธอได้แทรกเข้าไปเลย บงกชเพชรเอาแต่เกาะชายหนุ่มแจ ตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา“เป็นอะไรหรือเปล่าครับนารา” ปิติภัทรถาม“นาราเหนื่อยค่ะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม” ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายถามก่อน เธอจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รีบยกนิ้วขึ้นแตะขมับและปรับสีหน้าที่ฉุนเฉียวให้เปลี่ยนเป็นอ่อนแอ“อยากได้ยาดมหรือดื่มอะไรหน่อยไหมจ๊ะ”บงกชเพชรที่นั่งอยู่ติดกันกับแฟนหนุ่มรีบขยับเข้าไปดูอาการน้องสาว ยกมือขึ้นอังหน้าผากก็พบว่าไม่มีไข้ แต่สีหน้าของนาราดูค่อนข้างย่ำแย่“ไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ นาราอยากนอนมากกว่า ขอโทษนะคะที่มาด้วยแล้วก็ยังทำตัวเป็นภาระ นาราก็แค่อยากมีส่วนช่วยเรื่องงานแต่งของพี่บัว”“ไม่ต้องขอโทษหรอก นาราหวังดีกับพี่นี่นา เอาแบบนี้ดีไหม นารากลับไปพักผ่อนก่อน เรื่องเค้กไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากมาย เดี๋ยวพี่จัดการเองก็ได้จ้ะ”“แล้วจะให้นารากลับยังไงล่ะคะ ถ้าเป็นแท็กซี่ นาราไม่กล้านะ ไม่รู้ว่าเขาจะพาอ้อมหรือพาเปลี่ยนเส้นทางไปไหนหรือเปล่
ในฐานะที่ปรางทิพย์รับช่วงการทำงานเป็น Flower Decoration ต่อจากมารดามามากกว่าห้าปีแล้ว ประสบการณ์จึงไม่น้อยหน้าใคร ความพิถีพิถันของเธอทำให้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ยิ่งมีสามีอย่างปกรณ์คอยช่วย งานก็ยิ่งราบรื่นประสบความสำเร็จงานตกแต่งดอกไม้ในงานแต่งงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้วันสำคัญของคู่บ่าวสาวออกมาในคอนเซปต์ที่ต้องการ ที่สำคัญ…. ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังสามารถสื่อถึงเรื่องราวของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรายละเอียดของงานเมื่อทุกคนเดินเข้าไปในห้องประชุมแล้วแยกย้ายกันนั่งลงเรียบร้อย พนักงานก็นำของว่างและน้ำผลไม้มาเสิร์ฟให้ ปกรณ์จัดแจงเรื่องการเปิดสไลด์ให้ว่าที่บ่าวสาวได้ชมรายละเอียดและเลือกสรรค์สิ่งที่ต้องการตามคอนเซปต์ที่เคยให้ไว้ว่าตรงตามใจหรือเปล่า“สำหรับงานแต่งของเพื่อนรักอย่างบัวต้องเป็นแพ็กเกจลักชูรี่เท่านั้น ตามที่คุยกันไว้ ธีมของงานจะเป็นสีขาว สีเงินและสีทอง ในแพ็กก็จะมีในส่วนของแบ็กดรอป ไม้กระดาน ตกแต่งดอกไม้ประดิษฐ์ มีพรมปูด้านหน้า มีป้ายชื่อบ่าวสาว แล้วในส่วนของมุมแกลลอรี่จะมี Photo box มีตกแต่งดอกไม้ให้ตามธ
ติภัทรมาที่บ้านของบงกชเพชรตั้งแต่แปดโมงเช้า เพราะวันนี้มีนัดกับ ‘ปรางทิพย์’ เพื่อนสาวคนสนิทของบงกชเพชรที่ เป็นเจ้าของร้านดอกไม้งานแต่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ พิธีแต่งงานจะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงจำเป็นต้องเริ่มวางแผนและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม“พี่เปรมทานอะไรมาหรือยังคะ”“พี่เรียบร้อยมาแล้วครับ บัวล่ะ”“บัวทานครัวซองกับกาแฟไปแล้วค่ะ เราจะไปกันเลยไหมคะ เห็นว่าวันนี้ปรางนัดกับเจ้าของร้านเค้กงานแต่งเอาไว้ด้วย เราจะได้คุยเรื่องเค้กไปพร้อมกันเลย”“ไปครับ” เจ้าของร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปใกล้ ก้มลงจุมพิตข้างแก้มเบาๆ อย่างเอาใจ ว่าที่เจ้าสาวของเขาไม่ได้แต่งตัวสวยหรูเหมือนเวลาที่ต้องไปทำงาน วันนี้แต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์โอเวอร์ไซซ์สีซีด ต่างจากคนที่กำลังเดินตามมาด้านหลังนาราสวมเดรสคอเหลี่ยมแขนพองสีเหลืองอ่อนที่สั้นเพียงต้นขา ผมยาวสลวยที่เคยปล่อยสยาย เช้านี้มัดรวบสูงเป็นพวงหางม้าและปล่อยปอยหวานระอยู่ข้างแก้ม แต่งหน้าด้วยโทนสีส้มจาง ดูไม่แรงเท่าเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้สวยน้อยลงเลยปิติภัทรคลี่ยิ้ม กวาดสายตามองคนที่สวยหรูไปทั้งตัวด้วยความประทับใจ นึกว่าเธอจะลงม
“โอเคๆ เอาไว้พี่จะลองโทรไปหาป้าผินดูนะว่าแกยังว่างอยู่หรือเปล่า ตอนนั้นที่แกลาออกไปก็เห็นบอกว่าจะกลับไปทำไร่ที่ต่างจังหวัด”“โอ๊ย! พวกคนเก่าๆ แก่ๆ ไม่ต้องไปจ้างมาหรอก เดี๋ยวนาราหาคนใช้คนใหม่เอง แต่พี่บัวต้องเป็นคนจ่ายเงินเดือนนะ นาราเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย ยังไม่มีอารมณ์หางานทำหรอก”ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์ แต่เรื่องการทำงานไม่เคยอยู่ในหัวของคนอย่างนาราเลยต่างหาก ตอนอยู่ต่างประเทศเธอก็มีคนคอยเลี้ยงดู จนกระทั่งเมียของอีกฝ่ายจับได้นั่นแหละถึงต้องรีบบินหนีกลับเมืองไทย แล้วเรื่องเรียนเธอก็จบแค่ไฮสกูลเท่านั้น ไม่ได้เรียนต่อปริญญาอย่างที่หลอกให้บงกชเพชรส่งเสีย“ได้สิ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เอาไว้พักจนหายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยหางานทำก็ได้” บงกชเพชรจัดเรียงของบนโต๊ะเครื่องแป้งเสร็จพอดี เธอหันมายิ้มให้กับน้องสาว เห็นอีกฝ่ายยังคงเช็ดผมอยู่จึงเดินเข้าไปแย่งผ้ามาถือไว้ แล้วค่อยๆ ซับน้ำออกจากผม“นาราถามอะไรหน่อยสิพี่บัว”“หืม ว่าไงจ๊ะ”“ทรัพย์สมบัติที่คุณพ่อคุณแม่ยกให้พี่บัว พี่บัวใช้หมดไปแล้วหรือยัง”“ยัง มันเยอะแยะขนาดนั้น พี่จะใช้หมดได้ยังไง”“แซะนาราเหรอ?” คนที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมอง“เปล่า







