น้ำค้างเดินมาถึงหน้าตึกสาขาที่เธอเรียน รอให้หนุ่มวิศวะเดินพ้นออกไปก็รีบปล่อยแขนหนุ่มรุ่นพี่แล้วเอ่ยขอโทษ เคนเป็นพี่สายรหัสที่เรียนอยู่สาขาเดียวกับเธอ ทั้งสองสนิทกันมากระดับหนึ่ง เธอจึงรู้สึกผิดที่ดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย
“ขอโทษนะคะพี่เคน พอดีเมื่อกี้…”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าเราอยากปฏิเสธผู้ชายที่เข้าหาก็ใช้ชื่อพี่ได้เลย พี่ไม่ถือ”
เธอยังไม่ทันได้เล่าอะไรให้เขาฟัง แต่เคนก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อนด้วยน้ำเสียงทุ้มละมุน ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มแสดงถึงความยินดีให้ความช่วยเหลือ
“ขอบคุณนะคะ แต่ว่าไม่ดีกว่าค่ะ แฟนพี่รู้เข้าจะโกรธเอาได้”
แม้จะรู้จักกันมาปีกว่าและไม่เคยได้ข่าวคราวว่าเขามีแฟนหรือไม่ แต่ถ้าเกิดมีขึ้นมา แล้วเธอนำชื่อของหนุ่มรุ่นพี่ไปแอบอ้างอยู่เรื่อย ๆ อาจจะทำให้คู่รักทะเลาะกันได้
“พี่ยังไม่มีแฟนครับ ให้ยืมชื่อไปเป็นแฟนได้ตามสบายเลย”
สาวสวยส่งยิ้มให้เขาอย่างละอาย และรู้สึกว่าสายตาและคำพูดของเคนมีนัยยะแอบแฝง จึงเปลี่ยนไปเอ่ยถามเรื่องอื่น
“พี่เคนกินข้าวมารึยังคะ”
“กินมาแล้วครับ น้องน้ำค้างล่ะ”
“ยังไม่ได้กินค่ะ งั้นน้ำค้างขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคะ ตอนนี้ไอรินกับยัยเฟญ่าคงกำลังบ่นว่าน้ำค้างมาช้า”
“ครับ”
เธอแยกกับเคนที่หน้าตึกก็รีบไปหาเพื่อนสาวทั้งสองที่รออยู่โรงอาหาร
“เป็นอะไรของแก ทำหน้าบึ้งมาแต่เช้า”
ไอรินเอ่ยถามคนที่กำลังทำหน้าหงุดหงิด เขี่ยข้าวในจานที่ซื้อมาราวกับเบื่ออาหาร หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ดูเพื่อนจะใจลอย
“เมื่อกี้ฉันเจอกับไอ้บ้าเมื่อคืนมา”
“คนที่โดนแกถีบน่ะเหรอยัยชะนี” เฟญ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอยากรู้ หันมาจ้องใบหน้าของเพื่อนรอฟังคำตอบ
“โลกกลมมาก ไม่คิดว่าจะเรียนมหา’ ลัยเดียวกันกับพวกเรา” ไอรินเอ่ย
“โลกแคบน่ะสิไม่ว่า เรียนมาปีกว่าไม่เคยเจอกันสักครั้ง แต่วันนี้ก็ดันมาเจอกันเสียได้ โคตรซวยเลย”
“อีชะนี บอกฉันมาซิว่าหนุ่มคนนั้นหล่อไหม”
แค่คิดว่าเป็นหนุ่มวิศวกรรมศาสตร์ตามที่เพื่อนเล่ามา เฟญ่าก็เกิดเนื้อตัวสั่นระริกอยากเห็นตัวจริงว่าจะหล่อสักแค่ไหน
“อื้ม หล่อ แต่นิสัยแย่ นี่พวกแกเลิกสัมภาษณ์ฉันได้ปะ แค่เจอกันแต่เช้าก็ทำเสียอารมณ์จนกินข้าวไม่ลงแล้วเนี่ย”
น้ำค้างไม่อยากนึกถึงผู้ชายคนนั้นให้รำคาญใจ คนบ้าอะไรจู่ ๆ ก็มาจับเธอจูบ แถมยังทำหน้าระรื่นตอนที่เธอบอกว่ามีแฟนแล้ว สงสัยจะเป็นพวกกร้านโลก ไม่สนสี่สนแปดว่าใครจะคิดยังไง
*****
วันต่อมา
ปึก!
“ว้าย”
หญิงสาวน่ารักตัวเล็กเปล่งเสียงอุทานเมื่อร่างของเธอกระทบเข้ากับร่างสูงของใครบางคนที่ลานจอดรถของคณะ ก่อนที่เขาจะเลื่อนลำแขนมาโอบเอวเอาไว้กันหงายหลัง ยิปโซเงยหน้าช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าหล่อในระยะใกล้ พอแผ่นหลังของเธอถูกประคองขึ้นยืนได้มั่นคงเขาก็ผละแขนออก
“ขอโทษด้วยนะคะที่หนูเดินไม่ดูทาง พี่เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
ยิปโซเอ่ยขอโทษขอโพยเสียงแผ่ว ใช้สายตาสำรวจหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรครับ”
เคนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มรับแล้วเอ่ยถามพลางชี้นิ้วไปยังตึกสาขาการจัดการโรงแรม
“พี่ก็เรียนสาขานี้เหรอคะ”
“ครับ”
“หนูชื่อยิปโซค่ะ อยู่ปีหนึ่ง”
ยิปโซเริ่มแนะนำตัว และก็หวังว่าเขาจะทำเช่นนั้นกลับมา
“พี่ชื่อเคนครับ อยู่ปีสาม”
“ยินดีที่ได้รู้จักกันนะคะรุ่นพี่”
สาวรุ่นน้องเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานอย่างเป็นมิตร แท้จริงแล้วเธอมีจุดประสงค์บางอย่างในการทำความรู้จักกัน
แม่ของเธอพร่ำบ่นอยู่เสมอว่าต้องทำตัวให้เป็นจุดเด่นน่าสนใจมากกว่าน้ำค้างซึ่งเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของสามีใหม่ ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะแค่เรียนก็หนักมากแล้ว อีกทั้งยังต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่แม่แต่งงานใหม่ แต่ตอนที่เห็นน้ำค้างวิ่งเข้าไปกอดแขนของหนุ่มรุ่นพี่ก็ทำให้ยิปโซเกิดความคิดอยากจะแย่งผู้ชายคนนี้มาเป็นของตัวเอง
เธอคิดว่าตัวเองมีดีพอที่จะได้รับสิ่งดี ๆ และคนดี ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง ไม่ใช่อยู่เป็นตัวสำรองไม่มีใครเห็นค่า
“ได้ยินว่าปีสามต้องไปฝึกงานต่างประเทศ พี่เคนเลือกที่ไหนเหรอคะ”
ยิปโซชวนคุยขณะเดินไปยังอาคารเรียน นักศึกษาปีหนึ่งอย่างเธอก็ต้องฝึกงานครัวหรือเสิร์ฟเช่นกัน ชวนเขาคุยเรื่องเรียนน่าจะทำให้สนิทกันเร็วขึ้น
“พี่ว่าจะไปฝรั่งเศส”
“ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร หนูขอคอนแท็กต์ได้ไหมคะ เผื่อจะขอปรึกษาเรื่องเรียน แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ หนูเข้าใจ”
หญิงสาวดวงตากลมโตช้อนดวงตาขึ้นมองเขาแบบอ้อนเล็กน้อย หนุ่มหล่อใจดีอย่างเคนเลยไม่กล้าปฏิเสธ
“ได้ครับ”
หลังจากแลกช่องทางการติดต่อ ยิปโซและเคนก็แยกกันตรงชั้นล่างของตึก ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
*****
หลายวันต่อมา
“น้องคนนี้แม่งน่ารัก โคตรน่ากินเลยว่ะ”
นายน์เพื่อนสนิทอีกคนของฉลาม เรียนสาขาวิศวกรรมอุตสาหการเหมือนกัน กำลังยกยิ้มให้กับภาพสาวสวยที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เขากำลังนั่งเล่นในคาบว่างกับฉลาม ก็มีรูปโปรไฟล์สาวสวยสะดุดตาเด้งขึ้นมาเลยเข้าไปส่อง แล้วพบว่าเธอเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เป็นรุ่นน้องปีสองคณะอื่น
“อือ” ฉลามส่งเสียงในลำคอ
นายน์หันหน้าจอมือถือให้ฉลามดูแต่เพื่อนก็ไร้ท่าทีสนใจ เพราะมันเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าสาวคนไหนเข้าหาแล้วมันอยากได้ก็จะเลือกคุยเอง แต่ถ้าไม่สนใจ ต่อให้มาเต้นยั่วตรงหว่างขามันก็ไม่เอา
“เพื่อนเธอก็โคตรน่ารักเลยนะเว้ย มึงดูดิ”
นายน์กดเข้าดูภาพถ่ายร่วมกันของสามสาวที่แต่งชุดวาบหวิวอยู่ในร้านเหล้าหรือไม่ก็ผับแห่งหนึ่งแถวนี้ แล้วหันหน้าจอให้ฉลามดูอีกครั้งเพื่อเรียกความสนใจ แล้วมันก็ได้ผล เพื่อนของเขาละสายตาจากเกมที่กำลังเล่นอยู่เงยใบหน้าหล่อกร้าวใจขึ้นมอง ก่อนที่มันจะเอ่ยขึ้น
“ถ้ามึงสนใจก็ทักไปดิ แต่ผู้หญิงคนนี้ห้ามยุ่ง”
ฉลามชี้ไปยังรูปของสาวสวยปากดี คราแรกคิดว่าเธอสวยแต่รูป จูบไม่หอม ทว่าพอได้ลองสัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ่มสีระเรื่อนั้นแล้ว เธอกลับไม่ประสีประสาในเรื่องจูบทั้งที่ควรจะมีประสบการณ์มาบ้าง พลันทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเกิดอาการแปลกประหลาดอย่างไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน และเขาไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นแฟนของเธอจริง ๆ มองจากดาวอังคารยังดูออกว่าเธอกำลังโกหก
“อุแว้ อุแว้…”ทารกน้อยเปล่งเสียงร้องเมื่อตื่นขึ้นลืมตาดูโลกในวินาทีแรกที่คลอดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ฉลามได้เข้าไปให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงของเมียอยู่ไม่ห่าง ทั้งสองต่างหันจ้องมองกัน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความสุขที่เฝ้าทะนุถนอมเด็กน้อยในท้องมาตลอดเก้าเดือน แต่ตอนนี้ได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากทำความสะอาดร่างกายและตรวจเบื้องต้นเสร็จหมอก็อุ้มมาวางไว้แนบอกของผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มอบน้ำนมหยดแรกให้เจ้าตัวน้อยได้ดื่มกินหยาดน้ำตาของน้ำค้างร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโล่งและดีใจที่ได้เห็นลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มมีส่วนคล้ายทั้งพ่อและแม่อย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นลูกของใครฉลามเลื่อนมือไปลูบลูกสาวผ่านผ้าอ้อมสีขาวที่ทางโรงพยาบาลใช้ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยอย่างเบามือ ทั้งสองไม่เคยคาดหวังจึงไม่เคยผิดหวังว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอเพียงเป็นลูกที่เกิดจากทั้งสองคน พวกเขาก็พร้อมที่จะรักและเอ็นดูไม่ต่างกัน รวมถึงพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยคาดหวังในเรื่องนี้เช่นกันว่าจะต้องได้หลานชายเป็นคนแรก“หลานของพวกเรามาแล้ว”นภา แม่ของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ครบกำหนดสองอาทิตย์ที่น้ำค้างขอเวลาจากผู้เป็นพ่อ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างคนที่เธอคิดถึงมาตลอด คอยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม สานต่อธุรกิจที่พ่อและแม่สร้างร่วมกันมา และเก็บรักษาไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวสามเดือนหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากฝากชีวิต อยู่ดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าหาดทรายสีขาวด้านหน้าร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉลามได้ถูกเนรมิตให้เป็นงานแต่งสุดเรียบหรู พิธีสำคัญได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าร้านอาหารของครอบครัวฝ่ายชายได้ถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งสองครอบครัวต่างปลื้มปิติไม่ต่างจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ได้เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันงานเลี้ยงจบลงคู่บ่าวสาวก็อยู่กันตามลำพังที่เรือนหอชั่วคราว นั่นก็คือห้องของฉลาม คืนนี้พ่อและแม่ของเขาเต็ม
“คุณนิรุตช่วยผมดูนี่หน่อยสิ”“อะไรเหรอครับ”นิรุตปรายตามองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ชยันต์เปิดไฟล์วิดีโอ แล้วหันหน้าจอมาทางเขา ก่อนจะกดปุ่มเอ็นเทอร์เพื่อเล่นภาพเคลื่อนไหว(อะ อ๊า… แรงอีกค่ะ ช่อชอบที่คุณตอกแรง ๆ)(คุณช่วยบดลงมาด้วย ซี้ด… อย่างนั้นแหละ)“ว้าย นี่มันอะไรกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากคลิปวิดีโอ จึงตกใจรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปโอบกอดหน้าจอ หวังใช้ตัวบังภาพอันน่าอายซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นภาพของใครชู้รักทั้งสองคนใบหน้าร้อนชาส่งสายตามองกันอย่างผวา ชยันต์เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน“นี่คุณแอบติดกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”“หึ ถ้าคุณรู้ว่าก็คงไม่มีหลักฐานคาตาว่าคนที่ผมไว้ใจทั้งสองคนกำลังแอบเล่นชู้กันอยู่”“คุณชยันต์ครับ ฟังผมอธิบายก่อน”“รอไปคุยกันในชั้นศาลเถอะ คุณถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงินของโรงแรม และร่วมมือกันวางยาผม คุณก็เหมือนกันคุณช่อ ผมจะฟ้องคุณในฐานสมรู้ร่วมคิดและฟ้องชู้ พวกคุณทั้งคู่เตรียมตัวกันได้เลย”“กรี๊ด… คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นเมียคุณ ฉันดูแลคุณมาตั้งนาน”“หึ แล้วเมียทำกับผัวแบบนี้เหรอ ผมไว้ใจคุณ คอยดูแลคุณ
สองเดือนต่อมา“วันนี้ผู้จัดการโรงแรมจะมาหาคุณชยันต์ที่บ้าน ฝากกำชับทุกคนด้วยว่าอย่าขึ้นไปยุ่มย่ามที่ชั้นสองเด็ดขาด เข้าใจไหม”นายหญิงของบ้านเอ่ยสั่งแม่บ้านเก่าแก่ให้ฝากไปบอกกับคนอื่น ๆ เนื่องจากช่วงนี้ชยันต์ไม่สบาย จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่โรงแรมได้“ค่ะคุณช่อ”“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำงานสิ มัวมายืนบื้ออยู่ทำไม”“ค่ะ”ช่อผกาออกคำสั่งเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเข้าไปหาสามีที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าในห้องทำงาน เธอยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ เลื่อนแขนทั้งสองข้างสวมกอดรอบคออย่างที่เคยทำเป็นประจำ“คุณกำลังไม่สบายอยู่ อย่าเอาแต่ทำงานสิคะ”“ผมยังมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีกเยอะ แล้วก็นัดนิรุตไว้ตอนบ่ายสามด้วย”นิรุตเป็นบุคลากรที่เขาเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน เป็นคนที่คัดเลือกมากับมือให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาตำแหน่งอื่น ๆ รองจากเขา ชยันต์ไว้ใจนิรุตเป็นอย่างมาก หวังจะให้สอนน้ำค้างหลังจากเธอกลับมาดำรงตำแหน่งเดียวกัน เพราะว่าอีกไม่กี่ปีลูกน้องที่เขาเชื่อมั่นก็จะเกษียณแล้ว“งั้นเดี๋ยวฉันลงไปเอาข้าวกับยามาให้นะคะ”ชยันต์มองแผ่นหลังของภรรยาเดินออกจากห้อง สักพัก
ประเทศออสเตรเลีย“ห่างแค่คืนเดียวก็คิดถึงใจจะขาด พี่คิดถึงฉันไหม”น้ำค้างลงจากเครื่องแล้วเดินทางไปถึงบ้านของผู้เป็นแม่ ก็รีบตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไปหาฉลามทันที และดีที่มันตรงกับช่วงพักเที่ยง เขาจึงมีเวลารับสาย(คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมากด้วย)“พี่ฉลาม ฉันมีอะไรจะให้ดู”ฉลามจ้องมองแฟนสาวในหน้าจอมือถือ เหมือนว่าเธอกำลังเอื้อมหยิบอะไรบางอย่าง ก่อนจะพบว่ามันเป็นสมุดโน้ต แล้วเธอก็เปิดไปยังหน้าที่ต้องการให้เขาดู(ดอกสแตติส)“ใช่ค่ะ ฉันสตัฟฟ์ไว้ในสมุด จะเอาพกติดตัวไปเรียนทุกวันเลย”(หึ น่ารักจัง พี่ก็มีเหมือนกัน)“อะไรเหรอคะ”จากนั้นเขาก็หยิบกิ๊บติดผมที่เป็นโบว์สีชมพูขนาดเล็กที่เธอชอบใช้ขึ้นมาโชว์ให้ดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อไปให้แฟนสาวที่เผยรอยยิ้มหวานจนหน้าแดง“แอบขโมยไปตอนไหนเนี่ย ถึงว่าหาไม่เจอเลย”(เอามาตั้งแต่เริ่มทำงาน)“พี่น่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงโคตรรักพี่มากเลย”(พี่ก็โคตรรักเธอเหมือนกัน)“คิกคิก”(หึหึ)ทั้งสองต่างหยอกล้อด้วยคำบอกรัก ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่อยู่ไกลกันก็ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในทุกวันยังสามารถโทรคุยแบบเห็
ทางด้านช่อผกา“ฉันได้ยินคุณชยันต์บอกว่านังเด็กน้ำค้างจะไปเรียนต่ออยู่กับแม่ของมันที่เมืองนอก เห็นทีอนาคตที่ฉันคิดไว้ว่าจะให้แกรับช่วงต่อโรงแรมก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ช่อผกาเข้าไปหาลูกสาวในห้อง ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ปิดภาคเรียนแล้ว และยิปโซก็เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาวันแรก เนื่องจากช่วงก่อนเธอได้ขอผู้เป็นแม่ออกไปอยู่ข้างนอก นั่นก็คือไปอยู่ที่คอนโดของเคน เพื่อหลีกเลี่ยงถ้อยคำชักจูงของผู้เป็นแม่ให้ทำในสิ่งที่เธอไม่เต็มใจ แล้วที่กลับมาบ้านก็เพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพราะว่าต้องไปฝึกงานที่ต่างประเทศสามเดือน“แม่ แต่ฉันไม่ได้อยาก…”ช่อผการีบยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของยิปโซ ถลึงตาใส่ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกร้าว“แกหุบปากไปเลย ฉันเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหนก็น่าจะรู้ ทำไมไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณฉันบ้างฮะ แกจะโง่เรียนจบมาแล้วมาเป็นขี้ข้าคนอื่นหรือไง ได้นั่งอยู่ในห้องผู้บริหารแค่ชี้นิ้วสั่งลูกน้องแล้วมันไม่ดียังไง”“มันไม่ดีตรงที่มันไม่ใช่ของเราไงแม่”“นังโง่ แกเป็นลูกแม่ แม่เป็นเมียคุณชยันต์ ของผัวก็เหมือนของเมีย แล้วมันจะไม่ใช่ของเราได้ยังไง แกไม่ต้องคิดจะอ้าปากเถียง รีบเรียนให้จบแล้วกลับมาช่