“กรี๊ด… พวกแกดูสิว่าใครแอดเฟรนด์ฉันมา”
ไอรินส่งเสียงกรีดร้องด้วยท่าทางตื่นเต้นเหมือนกระดี่ได้น้ำ รีบหันหน้าจอโทรศัพท์ให้เพื่อนดู
“แล้วใครล่ะ” น้ำค้างถามกลับ
“อีชะนี นี่แกไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้จักแก๊งหนุ่มหล่อปีสามของมหา’ ลัยเรา”
เพื่อนสาวสองแผดเสียงใส่ น้ำค้างไม่ค่อยชอบตามส่องผู้ชายเหมือนอย่างสองคนนี้ แล้วอีกอย่างเพื่อนในเฟซบุ๊ก ไอจี ก็มีแต่คนที่เธอรู้จักทั้งนั้น ถ้าไม่รู้จักจะไม่รับเพื่อนเด็ดขาด
“นี่พี่นายน์ วิศวกรรมอุตสาหการปีสามเลยนะ แก๊งนี้มีทั้งหมดสี่คน โคตรหล่อ แล้วก็ยังโสด”
ไอรินแนะนำหนุ่มหล่อแต่ละคนว่ามีใครกันบ้าง แต่น้ำค้างก็ยังทำหน้าเรียบเฉย ก็อย่างว่าเพื่อนรักของพวกเธอออกจะหน้าตาดีที่สุดในกลุ่ม มีแต่คนมาจีบ แต่ยัยคุณหนูขี้เบื่อก็ไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากเรื่องเรียนกับออกไปเที่ยวกินดื่มหลังเลิกเรียน และไอรินก็ไม่นึกไม่ฝันว่าหนุ่มหล่อหนึ่งในสี่คนนี้จะแอดเฟรนด์เธอมา
ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีแชทปรากฏขึ้นในหน้าจอมือถือ ไอรินจึงรีบเปิดเข้าไปอ่านข้อความ
นายน์ : พี่ชื่อนายน์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้อง…
ไอรินกระตุกยิ้มกับการแนะนำตัวของรุ่นพี่ ปิดท้ายด้วยคำสั้น ๆ ที่แสดงถึงความอยากรู้จักกัน ก่อนจะจรดปลายนิ้วพิมพ์ตอบกลับไป
ไอริน : ไอรินค่ะ
นายน์ : ไหน ๆ เราก็รู้จักกันแล้ว ศุกร์นี้ไปดื่มด้วยกันไหมครับ
ไอริน : ?
อยู่ ๆ ไอรินก็นึกอยากเล่นตัวขึ้นมาเสียหน่อย เลยไม่ได้ตอบตกลงไปในทันที ไม่นานนักหนุ่มรุ่นพี่ก็ส่งข้อความเข้ามาอีก
นายน์ : ชวนเพื่อนไปได้นะครับ พี่ก็จะนัดเพื่อนไปด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง
“โคตรใจป๋าเลยอะ”
ไอรินเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยยกยิ้มกับข้อความที่ได้รับ จนเพื่อนสาวสองอย่างเฟญ่าอดไม่ได้ที่จะเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“อะไรกันยะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“พี่นายน์ชวนพวกเราไปเที่ยว”
“เลี้ยง?”
เฟญ่าถามกลับ เห็นเธอเป็นกะเทยสายเปย์ แต่เพื่อนของหล่อนจะมาเปย์ผู้ชายแบบนี้ไม่ได้ หนุ่มหล่อนัดทั้งทีก็ต้องออกปากเลี้ยงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นห้ามไปเด็ดขาด
“อื้ม”
“ตอบตกลงไปเลยจ้าสาว”
ได้ยินแบบนี้เฟญ่าก็สนับสนุนเต็มที่ ได้เมาฟรี เงินอยู่ครบ ใคร ๆ ก็ชอบ แล้วไอรินก็รีบพิมพ์ข้อความตอบกลับ
ไอริน : ตกลงค่ะ
นายน์ : เจอกันที่ Ex-so Pub สองทุ่มครึ่งนะครับ
ไอริน : ค่ะ
ไอรินกดออกจากแชทก็หันมองเพื่อนสาวอีกคนที่นิ่งเงียบ ก่อนจะเอ่ยประโยคเชิญชวนแกมบังคับด้วยใบหน้าระรื่น
“ศุกร์นี้ฉันนัดกับพี่นายน์แล้ว แกสองคนไปเป็นเพื่อนฉันนะ ห้ามปฏิเสธ”
“ฉันไปอยู่แล้วย่ะ” เฟญ่ารีบเอ่ยตอบ
“แล้วแกล่ะน้ำค้าง” ไอรินเอ่ยถาม
“อื้ม ไปก็ไป”
*****
คืนวันศุกร์สองทุ่มครึ่ง
สามสาวได้ขับรถส่วนตัวเข้าไปจอดเรียงกันสามคันที่ลานจอดรถของผับ ไอรินรู้สึกตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก คืนนี้เธอใส่ชุดมินิเดรสเกาะอกสีดำ แต่งแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าตามลุคของสาวสวยเฉียบ แต่ทว่าพอเดินทางมาถึงกลับรู้สึกไม่มั่นใจ กลัวหนุ่มรุ่นพี่ไม่ประทับใจกับการพบกันเป็นครั้งแรก
“พวกแกว่าฉันแต่งตัวดูดีรึยัง” ไอรินถามเพื่อน
“เลิศแล้วจ้า อีดอก”
เฟญ่าเบะปากใส่เพื่อนที่สวยเกินหน้าเกินตากะเทยอย่างเธอไปมาก ก่อนจะปรายตามองไปยังเพื่อนสาวอีกคนที่สวยไม่แพ้กัน แต่คืนนี้มาในลุคเรียบร้อยไปนิด
น้ำค้างแต่งชุดกระโปรงยีนสีดำ เสื้อสายเดี่ยวสีขาว คลุมทับด้วยแจ็กเก็ตยีนพอดีตัว ซึ่งปกติจะแต่งแซ่บกว่านี้มาก
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” น้ำค้างเอ่ย
“หิวเหล้าเหรออีชะนี”
“เออ พูดมากน่ะอีเฟรม”
น้ำค้างเอ่ยเสียงเรียบพลางกระตุกยิ้มมุมปากหยอกล้อเพื่อนสาวสอง ก่อนจะเข้าไปสวมกอดแขนของไอริน พากันเดินเข้าไปในผับ
“ว้าย อีน้ำค้าง หล่อนอย่าพูดแบบนี้ในผับนะยะ เดี๋ยวผู้จะเตลิดกันหมด”
เฟญ่าแหกปากใส่เพื่อน รีบสับเท้าเดินตามเข้าไป
ไอรินสอดสายตามองหาโต๊ะที่หนุ่มรุ่นพี่นั่ง พอเห็นนายน์ระบายยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นส่งสัญญาณว่าเขานั่งอยู่ตรงมุมด้านในที่เป็นโซฟา ไอรินกับเพื่อนรักทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปหา
และนั่นก็ทำให้น้ำค้างหยุดชะงักฝีเท้ายืนนิ่งอยู่กับที่ มองไปยังเพื่อนของนายน์ พลันถอนหายใจเลี่ยงสายตามองไปทางอื่น
“ซวยจริง ๆ”
เสียงแผ่วดังออกมาจากปากของน้ำค้างเมื่อพบคนที่ไม่อยากเจอ แต่เพื่อนของเธอก็ดันเข้าไปนั่งกันแล้ว จึงจำใจต้องหย่อนก้นนั่งลงตรงเบาะว่างด้านนอกสุด ซึ่งก็ได้นั่งประจันหน้ากับใครบางคนที่พอเห็นเธอก็กระตุกยิ้มส่งสายตาจ้องมอง
“แก พี่คนนี้...”
ไอรินเอ่ยกระซิบข้างหูของน้ำค้าง พอเห็นใบหน้าของหนุ่มหล่อที่นั่งข้างนายน์ เธอก็นึกขึ้นมาได้ เขาคือคนที่น้ำค้างเข้าใจผิดแล้วกระโดดถีบจนล้มไปกองกับพื้น
“เออ ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนกัน”
น้ำค้างเอ่ยตอบอย่างเสียอารมณ์ ก่อนมาเธอรู้สึกแปลกราวกับว่ามีลางสังหรณ์บางอย่างตั้งแต่ไอรินเอ่ยปากชวน ไม่คิดว่าอาการประหลาดที่เกิดขึ้น จะเป็นเพราะคืนนี้ต้องมาเจอหน้าคนที่ขโมยจูบแรกของเธอไป เกิดมายี่สิบปีเธอไม่เคยจูบกับใครเลยสักครั้ง คิดแล้วก็โมโหไม่หาย
“มาครับสาว ๆ คืนนี้ดื่มกันให้เต็มที่เลยนะครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
เสียงของนายน์เอ่ยขึ้น พร้อมกับยื่นแก้วน้ำสีอำพันออกไปตรงกลางโต๊ะเพื่อชวนชนแก้ว นัดสาวมาทั้งทีก็ต้องใจป้ำกันหน่อย เขาเป็นสายเปย์อยู่แล้ว โดยเฉพาะกับสาวสวยอย่างไอริน ยิ่งเปย์ได้ไม่อั้น
“หมดแก้วเลยนะครับน้องไอริน”
นายน์กระซิบข้างหูหญิงสาว ในรูปโปรไฟล์ว่าสวยแล้ว เจอตัวจริงยิ่งสวยและน่าค้นหาจนอดใจไม่ไหว แล้วเพื่อนของเธอก็สวยไม่แพ้กัน ขนาดคนเป็นสาวสอง ยังแทบมองไม่ออกเพราะเฟญ่าได้ทำศัลยกรรมมาแล้วทั้งตัว
“ค่ะพี่นายน์”
ไอรินขานรับน้ำเสียงหวานจ้องสบตากันหวานเยิ้ม ก่อนจะยกเหล้าดีกรีแรงขึ้นดื่มตามที่เขาบอก
หลังจากทุกคนแนะนำตัวและพูดคุยกันได้พอประมาณ น้ำค้างรู้สึกว่านายน์ดูเป็นคนอารมณ์ดี ชวนคุยเก่ง เวลาคุยกับผู้หญิงมักจะใช้น้ำเสียงสุภาพอ่อนหวาน ใบหน้าหล่อฉายแววเจ้าชู้ตั้งแต่แรกเห็น เพื่อนของเธอที่นั่งอยู่ข้างกันก็ออกอาการว่าถูกใจผู้ชายคนนี้มาก
ส่วนหนุ่มหล่อเงียบขรึมอีกคนที่มาด้วยกัน คืนนี้เขาดูหล่อเหลาสะดุดตาต่างจากวันแรกที่พบกัน ฉลามยกเหล้ากระดกลงคอส่งสายตาเปล่งประกายมองมายังเธอไม่หยุดราวกับมีแผนร้ายอยู่ในใจ
น้ำค้างเริ่มทำตัวไม่ถูกกับการถูกจับจ้อง ยกเหล้าขึ้นจรดริมฝีปากสีนู้ดชมพู เลี่ยงสายตามองไปยังหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งหลายที่ออกมาดื่มและลุกขึ้นเต้นกันที่โต๊ะ บางส่วนก็เต้นกันอยู่ตรงหน้าดีเจที่กำลังสร้างเสียงเพลงมันส์ ๆ ท่ามกลางไฟหลากสีสะท้อนแสงวิบวับจนลายตา
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
น้ำค้างบอกเพื่อนก็ลุกออกจากโต๊ะทันที คืนนี้เธอไม่ค่อยได้พูดคุยกับใคร เพราะไอรินเอาแต่หลงเสน่ห์ของหนุ่มหล่อแทบจะลืมเพื่อนที่มาด้วยกัน ส่วนเฟญ่าก็มองหาแต่หนุ่ม ๆ แล้วแวะเวียนไปชวนชนแก้วไม่อยู่กับที่ ทำให้เธอนั่งเงียบเหงายกเหล้าขึ้นดื่มไปเยอะพอสมควร
น้ำค้างทำธุระเสร็จ ขณะเดินออกจากห้องน้ำเพื่อจะกลับไปที่โต๊ะก็มีมือของใครบางคนคว้าข้อมือของเธอโดยไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของหญิงสาวก็แนบชิดติดกับผนังในมุมมืดสลัว
“อุแว้ อุแว้…”ทารกน้อยเปล่งเสียงร้องเมื่อตื่นขึ้นลืมตาดูโลกในวินาทีแรกที่คลอดออกมาด้วยวิธีธรรมชาติ ฉลามได้เข้าไปให้กำลังใจอยู่ข้างเตียงของเมียอยู่ไม่ห่าง ทั้งสองต่างหันจ้องมองกัน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใส ซึ่งเป็นน้ำตาแห่งความสุขที่เฝ้าทะนุถนอมเด็กน้อยในท้องมาตลอดเก้าเดือน แต่ตอนนี้ได้เห็นหน้ากันแล้วหลังจากทำความสะอาดร่างกายและตรวจเบื้องต้นเสร็จหมอก็อุ้มมาวางไว้แนบอกของผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มอบน้ำนมหยดแรกให้เจ้าตัวน้อยได้ดื่มกินหยาดน้ำตาของน้ำค้างร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโล่งและดีใจที่ได้เห็นลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แถมยังหน้าตาจิ้มลิ้มมีส่วนคล้ายทั้งพ่อและแม่อย่างไม่ต้องสงสัยว่าเป็นลูกของใครฉลามเลื่อนมือไปลูบลูกสาวผ่านผ้าอ้อมสีขาวที่ทางโรงพยาบาลใช้ห่อหุ้มตัวเด็กน้อยอย่างเบามือ ทั้งสองไม่เคยคาดหวังจึงไม่เคยผิดหวังว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอเพียงเป็นลูกที่เกิดจากทั้งสองคน พวกเขาก็พร้อมที่จะรักและเอ็นดูไม่ต่างกัน รวมถึงพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยคาดหวังในเรื่องนี้เช่นกันว่าจะต้องได้หลานชายเป็นคนแรก“หลานของพวกเรามาแล้ว”นภา แม่ของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ครบกำหนดสองอาทิตย์ที่น้ำค้างขอเวลาจากผู้เป็นพ่อ เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างคนที่เธอคิดถึงมาตลอด คอยเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หลังจากนั้นเธอก็กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงแรม สานต่อธุรกิจที่พ่อและแม่สร้างร่วมกันมา และเก็บรักษาไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวสามเดือนหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจและเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธออยากฝากชีวิต อยู่ดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าหาดทรายสีขาวด้านหน้าร้านอาหารริมทะเลซึ่งเป็นบ้านเกิดของฉลามได้ถูกเนรมิตให้เป็นงานแต่งสุดเรียบหรู พิธีสำคัญได้ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย และเพื่อนสนิทที่มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าร้านอาหารของครอบครัวฝ่ายชายได้ถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มจัดเตรียมเอาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งสองครอบครัวต่างปลื้มปิติไม่ต่างจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ได้เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันงานเลี้ยงจบลงคู่บ่าวสาวก็อยู่กันตามลำพังที่เรือนหอชั่วคราว นั่นก็คือห้องของฉลาม คืนนี้พ่อและแม่ของเขาเต็ม
“คุณนิรุตช่วยผมดูนี่หน่อยสิ”“อะไรเหรอครับ”นิรุตปรายตามองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ชยันต์เปิดไฟล์วิดีโอ แล้วหันหน้าจอมาทางเขา ก่อนจะกดปุ่มเอ็นเทอร์เพื่อเล่นภาพเคลื่อนไหว(อะ อ๊า… แรงอีกค่ะ ช่อชอบที่คุณตอกแรง ๆ)(คุณช่วยบดลงมาด้วย ซี้ด… อย่างนั้นแหละ)“ว้าย นี่มันอะไรกัน”หญิงวัยกลางคนได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากคลิปวิดีโอ จึงตกใจรีบวิ่งอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปโอบกอดหน้าจอ หวังใช้ตัวบังภาพอันน่าอายซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นภาพของใครชู้รักทั้งสองคนใบหน้าร้อนชาส่งสายตามองกันอย่างผวา ชยันต์เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน“นี่คุณแอบติดกล้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”“หึ ถ้าคุณรู้ว่าก็คงไม่มีหลักฐานคาตาว่าคนที่ผมไว้ใจทั้งสองคนกำลังแอบเล่นชู้กันอยู่”“คุณชยันต์ครับ ฟังผมอธิบายก่อน”“รอไปคุยกันในชั้นศาลเถอะ คุณถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงินของโรงแรม และร่วมมือกันวางยาผม คุณก็เหมือนกันคุณช่อ ผมจะฟ้องคุณในฐานสมรู้ร่วมคิดและฟ้องชู้ พวกคุณทั้งคู่เตรียมตัวกันได้เลย”“กรี๊ด… คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นเมียคุณ ฉันดูแลคุณมาตั้งนาน”“หึ แล้วเมียทำกับผัวแบบนี้เหรอ ผมไว้ใจคุณ คอยดูแลคุณ
สองเดือนต่อมา“วันนี้ผู้จัดการโรงแรมจะมาหาคุณชยันต์ที่บ้าน ฝากกำชับทุกคนด้วยว่าอย่าขึ้นไปยุ่มย่ามที่ชั้นสองเด็ดขาด เข้าใจไหม”นายหญิงของบ้านเอ่ยสั่งแม่บ้านเก่าแก่ให้ฝากไปบอกกับคนอื่น ๆ เนื่องจากช่วงนี้ชยันต์ไม่สบาย จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยที่โรงแรมได้“ค่ะคุณช่อ”“เข้าใจแล้วก็รีบไปทำงานสิ มัวมายืนบื้ออยู่ทำไม”“ค่ะ”ช่อผกาออกคำสั่งเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ก่อนจะเข้าไปหาสามีที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าในห้องทำงาน เธอยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ เลื่อนแขนทั้งสองข้างสวมกอดรอบคออย่างที่เคยทำเป็นประจำ“คุณกำลังไม่สบายอยู่ อย่าเอาแต่ทำงานสิคะ”“ผมยังมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีกเยอะ แล้วก็นัดนิรุตไว้ตอนบ่ายสามด้วย”นิรุตเป็นบุคลากรที่เขาเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน เป็นคนที่คัดเลือกมากับมือให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในบรรดาตำแหน่งอื่น ๆ รองจากเขา ชยันต์ไว้ใจนิรุตเป็นอย่างมาก หวังจะให้สอนน้ำค้างหลังจากเธอกลับมาดำรงตำแหน่งเดียวกัน เพราะว่าอีกไม่กี่ปีลูกน้องที่เขาเชื่อมั่นก็จะเกษียณแล้ว“งั้นเดี๋ยวฉันลงไปเอาข้าวกับยามาให้นะคะ”ชยันต์มองแผ่นหลังของภรรยาเดินออกจากห้อง สักพัก
ประเทศออสเตรเลีย“ห่างแค่คืนเดียวก็คิดถึงใจจะขาด พี่คิดถึงฉันไหม”น้ำค้างลงจากเครื่องแล้วเดินทางไปถึงบ้านของผู้เป็นแม่ ก็รีบตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไปหาฉลามทันที และดีที่มันตรงกับช่วงพักเที่ยง เขาจึงมีเวลารับสาย(คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงมากด้วย)“พี่ฉลาม ฉันมีอะไรจะให้ดู”ฉลามจ้องมองแฟนสาวในหน้าจอมือถือ เหมือนว่าเธอกำลังเอื้อมหยิบอะไรบางอย่าง ก่อนจะพบว่ามันเป็นสมุดโน้ต แล้วเธอก็เปิดไปยังหน้าที่ต้องการให้เขาดู(ดอกสแตติส)“ใช่ค่ะ ฉันสตัฟฟ์ไว้ในสมุด จะเอาพกติดตัวไปเรียนทุกวันเลย”(หึ น่ารักจัง พี่ก็มีเหมือนกัน)“อะไรเหรอคะ”จากนั้นเขาก็หยิบกิ๊บติดผมที่เป็นโบว์สีชมพูขนาดเล็กที่เธอชอบใช้ขึ้นมาโชว์ให้ดู พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อไปให้แฟนสาวที่เผยรอยยิ้มหวานจนหน้าแดง“แอบขโมยไปตอนไหนเนี่ย ถึงว่าหาไม่เจอเลย”(เอามาตั้งแต่เริ่มทำงาน)“พี่น่ารักแบบนี้ไง ฉันถึงโคตรรักพี่มากเลย”(พี่ก็โคตรรักเธอเหมือนกัน)“คิกคิก”(หึหึ)ทั้งสองต่างหยอกล้อด้วยคำบอกรัก ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่อยู่ไกลกันก็ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในทุกวันยังสามารถโทรคุยแบบเห็
ทางด้านช่อผกา“ฉันได้ยินคุณชยันต์บอกว่านังเด็กน้ำค้างจะไปเรียนต่ออยู่กับแม่ของมันที่เมืองนอก เห็นทีอนาคตที่ฉันคิดไว้ว่าจะให้แกรับช่วงต่อโรงแรมก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ช่อผกาเข้าไปหาลูกสาวในห้อง ตอนนี้มหาวิทยาลัยได้ปิดภาคเรียนแล้ว และยิปโซก็เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาวันแรก เนื่องจากช่วงก่อนเธอได้ขอผู้เป็นแม่ออกไปอยู่ข้างนอก นั่นก็คือไปอยู่ที่คอนโดของเคน เพื่อหลีกเลี่ยงถ้อยคำชักจูงของผู้เป็นแม่ให้ทำในสิ่งที่เธอไม่เต็มใจ แล้วที่กลับมาบ้านก็เพื่อมาเก็บเสื้อผ้า เพราะว่าต้องไปฝึกงานที่ต่างประเทศสามเดือน“แม่ แต่ฉันไม่ได้อยาก…”ช่อผการีบยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของยิปโซ ถลึงตาใส่ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงกร้าว“แกหุบปากไปเลย ฉันเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหนก็น่าจะรู้ ทำไมไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณฉันบ้างฮะ แกจะโง่เรียนจบมาแล้วมาเป็นขี้ข้าคนอื่นหรือไง ได้นั่งอยู่ในห้องผู้บริหารแค่ชี้นิ้วสั่งลูกน้องแล้วมันไม่ดียังไง”“มันไม่ดีตรงที่มันไม่ใช่ของเราไงแม่”“นังโง่ แกเป็นลูกแม่ แม่เป็นเมียคุณชยันต์ ของผัวก็เหมือนของเมีย แล้วมันจะไม่ใช่ของเราได้ยังไง แกไม่ต้องคิดจะอ้าปากเถียง รีบเรียนให้จบแล้วกลับมาช่