“ณดา ไปห้องน้ำปะ” เชียร์ เพื่อนสาวร่วมขณะร้องถาม เห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะกินข้าวก็อดที่จะเดินไปสะกิดถามไม่ได้ “เป็นไรเนี่ย”
“หือ… ไม่เป็นไร” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นตอบ ใบหน้าสวยซีดเซียวราวกับคนป่วย ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มซีดขาวอย่างกับคนขาดน้ำ “แกไปกันเลย ขอนอนพักก่อน” “โห ไหวปะแก สภาพดูไม่ได้เลย” ชีต้าร์เพื่อนสาวประเภทสองเดินเข้าประชิดตัว “พรีเซ้นต์งานไม่ไหวบอกได้นะ เดี๋ยวพวกฉันทำกันเอง” “ไหวๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ณดาตอบไปแบบนั้น ทั้งที่รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวไปทั่วร่างกาย อีกทั้งยังหายใจร้อนผ่าว เรี่ยวแรงก็แทบจะไม่มี “หยุดทำตัวเป็นหญิงแกร่งจ่ะ เดี๋ยวพาไปหาหมอ” “บ้า จะพรีเซ้นต์งานอยู่แล้ว” ณดาตอบปัดไป “รอทำงานนี้เสร็จค่อยกลับก็ได้” “ตลกยัยดา! แกลืมหรอว่าเรากลุ่มสุดท้ายที่ขึ้นไปพรีเซ้นต์ อีกสามสี่ชั่วโมงนู่นแหละกว่าจะเสร็จ ถึงตอนนั้นแกเน่าตายก่อนพอดี!” อลันเพื่อนอีกคนกล่าว “ใช่ กลับบ้านเหอะ เดี๋ยวไปเรียกแท็กซี่ให้” กุ้บกิ้บเห็นด้วย “ไม่เอา” ณดายังคงดื้อดึงไม่ยอม แม้ว่าเพื่อนๆ จะพากันช่วยเก็บของใส่กระเป๋าไว้หมดแล้ว นอกจากกระต่ายที่เป็นเพื่อนสนิทต่างคณะก็มีเพื่อนกลุ่มนี้แหละ ที่คอยชวนณดาคุยอยู่ตลอด “อยู่นี่เอง” เสียงทุ้มคุ้นหูดังแทรกความวุ่นวายของเพื่อนสาวณดา คนป่วยเงยหน้าสบตากับผู้มาใหม่ “พี่คีย์!” ลำคอสาวแห้งผากเมื่อเห็นว่าเขาคือคนที่เธอเอาแต่หลบหน้ามาตลอดสองวัน หลังจากค่ำคืนที่ร้อนแรงวันนั้น ณดาก็รีบหนีออกมาจากห้องใน ช่วงเช้ามืด ร่างกายบอบช้ำจากการกระทำที่รุนแรงของอีกฝ่าย ทั้งที่เธอและเขาพึ่งเจอกันแค่สองครั้ง แต่สองครั้งนั้นณดากลับเสียตัวให้เขาอย่างไม่อาจสู้ได้ เซ็กส์ครั้งแรกและครั้งถัดมา ดันเกิดจากคนเดียวกัน ณดาที่ตัวเล็กกว่าต้องเจอกับคนตัวโตที่ไม่ได้มีแค่ตัวที่โต ส่งผลให้ใจกลางของร่างกายเจ็บระบมจนลุกเดิน นั่งลำบาก แค่เดินช้าๆ ยังรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณนั้น เวลาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวแต่ละครั้งมันเจ็บจนเธอไม่อยากแม้แต่จะปล่อยปัสสาวะออกมา เธอเลือกที่จะสั่งยาผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีไรเดอร์ส่งของถึงห้อง เพราะไม่อยากเดินไปไหนมาไหนมากสักเท่าไร ยิ่งเธอขยับร่างกายยิ่งเจ็บส่วนกลางร่างกายมากเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาที่กระทำกับเธอได้ทำการป้องกันทุกรอบหรือเปล่า ณดาจึงเลือกกินยาคุมฉุกเฉินกันเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่เหมือนว่าร่างกายเธอจะไม่สู้ดีมากนัก พอตกดึกดันมีไข้ขึ้นสูง ณดาจึงต้องแบกสังขารที่อ่อนแรงของตัวเองลงจากคอนโดเพื่อไปซื้อเจลลดไข้ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ ที่พัก ตื่นมาอีกวันก็ปวดหัวแทบลุกไม่ไหว เลยตัดสินใจนอนพักผ่อนที่ห้อง บวกกับไม่อยากเจอหน้าผู้ชายที่รังแกเธอจนไข้ขึ้นด้วย ดีที่การพรีเซ้นต์งานเลื่อนออกมาเป็นวันนี้แทน ณดาจึงพาตัวเองมาได้แม้จะไม่เต็มร้อยก็ตาม เธอไม่อยากเป็นภาระเพื่อนเท่าไรนัก แต่เหมือนเรื่องตลกร้ายมักจะเกิดกับเธอเสมอ แม้จะไม่มาเรียนถึงสองวันแต่ก็ยังเจอเขาอีกจนได้ “ใครอะยัยดา” เชียร์ถามขณะพยุงณดาขึ้น “แฟนแกหรอ หล่ออะ สเปคเลยแบบเนี้ย” ชีต้าร์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ต่างจากอีกคนที่หน้าซีดลงกว่าเดิมเท่าตัว “หายไปไหนมาสองวัน” คนตัวสูงเดินผ่านหน้าทุกคนก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าเป้าหมายของตัวเอง “ป่วยหรอ?” “ปะ…เปล่าค่ะ” “ป่วยจ้า เปล่าอะไรก่อน กลับบ้านไปนอนพักเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่งจ้า” กุ้บกิ้บท้าวเองมองคนดื้อ “พี่เอารถมาปะ ถ้าเอามาพาณดามันกลับบ้านที” “ไม่เอา!” ณดาตอบกลับทันควัน ส่งผลให้ชายตรงหน้าขมวดคิ้วมุ่นมองเธอด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “เดี๋ยวไปแท็กซี่ก็ได้” “ไปกับฉัน” “ไม่…อ้ะ เดี๋ยว!” แขนเล็กถูกกระชากให้เดินตามเขาไปอย่างเอาแต่ใจ คนตัวสูงไม่หันมองเธอเลยสักนิดเอาแต่จ้ำเท้ายาวๆ จนเธอต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเขา “ณดาไม่ไปกับพี่นะ!’ “หุบปากแล้วเดินมาเฉยๆ” “ไม่ค่ะ!” เธอพยายามสลัดข้อมือตัวเองให้หลุดจากมือใหญ่นั่น แต่ไม่เป็นผล “อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวณดา!” เสียงขู่จากคนตรงหน้าทำให้เธอต้องหยุดการกระทำทั้งหมด ณดากลัวว่าเขาจะพาเธอไปที่โรงแรมนั่นอีก คีย์พาคนป่วยเดินอ้อมจากตึกคณะครุศาสตร์มายังตึกคณะตัวเอง ที่อยู่ห่างออกมาเกือบๆ สองกิโลเมตร เขาเหลือบมองผู้หญิงที่ตัวเองลากมาด้วย หน้าสวยซีดเซียวจนหน้ากลัว ปากเล็กอ้าออกเล็กน้อยราวกับหายใจทางจมูกไม่เพียงพอ ระหว่างที่ทั้งสองเดินไป สายตาหลายคู่พากันจับจ้องมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผู้หญิงหลายคนมองด้วยสายตาไม่พอใจจนณดาต้องก้มหน้ามองแค่ทางเดิน ไม่อยากให้ใครสนใจหรือเห็นหน้าของตัวเอง “โทรหาเพื่อนเธอซะ” “คะ?” เมื่อถึงใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ คีย์ปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงแทน “โทรหากระต่าย” เขาบอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ให้กระต่ายมาหาเธอ ที่เหลือฉันจัดการเอง” “…?” ณดายังคงยืนงงกับสิ่งที่เขาบอก จนคนตัวสูงเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าสะพายแล้วค้นเอาโทรศัพท์ของเธอออกมายื่นให้ “ฉันบอกว่าให้โทรหากระต่าย” ณดาเม้มปากตัวเองแน่น มือเล็กรับโทรศัพท์มากดโทรหาเพื่อนตัวเองตามคำสั่ง “ยัยดา!” หลังจากโทรหาเพื่อนสนิท ไม่นานกระต่ายก็วิ่งลงมาหาเธอ “โห มาทำไมเนี่ย ทำไมไม่รอที่ตึกตัวเอง เดี๋ยวไปหาก็ได้” “…” ณดาเงียบไม่ได้ตอบอะไร รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ “เป็นอะไร ทำไมเงียบล่ะ” เพื่อนสาวถาม มือเอื้อมแตะหน้าผากของเธอเบาๆ “ตัวร้อนมากเลยนะณดา” สีหน้าของอีกฝ่ายเป็นกังวลขึ้นมา “อ้าว กระต่าย” ทั้งสองหันมองตามเสียงเรียก คีย์เดินฉีกยิ้มหวานมาแต่ไกล ในมือเขามีขวดน้ำเปล่ากับถุงยาติดมาด้วย “พอดีพี่เจอเพื่อนกระต่ายยืนหน้าซีดอยู่ เลยไปหาซื้อยามาให้น่ะ” เขายื่นของในมือส่งให้เพื่อนเธอ ณดามองการกระทำของเขาที่ปฏิบัติต่อกระต่าย มันช่างต่างจากที่ตัวเธอเจอราวฟ้ากับเหว คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรเพราะเขาชอบเพื่อนสนิทของเธอนี่นะ แต่อย่างน้อยก็ควรจะดีกับเธอมากกว่านี้หน่อยไม่ใช่หรอ…? “อีตานี่มันช่วยแกหรอดา” หน้าสวยคมแสดงสีหน้าหงุดหงิดอัต โนมัติเมื่อเห็นว่าคนที่เดินดุ่มๆ เข้าหาเธอคือผู้ชายที่เธอไม่ชอบขี้หน้า “อือ” “พี่เห็นว่าณดาจะเป็นลมเลยพยุงพามานั่งพักระหว่างรอต่ายน่ะ” ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาถูกส่งให้หญิงสาวอีกคนตลอดเวา “งั้นนายก็ไสหัวไปได้แล้ว” กระต่ายกระชากถุงยาจากมืออีกคนมาถือไว้พร้อมเอ่ยปากไล่ทันที “ไปเหอะดา” “เดี๋ยวพี่ไป…” “ไม่ต้องยุ่ง!” กระต่ายตะคอกสวนไปไม่สนใจว่าอีกฝ่ายต้องการพูดอะไรกับเธอ “บอกให้ไปก็ไปสักที!” คีย์ยืนนิ่งอยู่กับที่ ปล่อยให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบพยุงคนป่วยไปอย่างเงอะๆ งะๆ พอณดาเหลียวหันมามองหน้า เขาก็รีบส่งสัญญาณบอกให้เธอทำอะไรสักอย่าง แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังสื่อ เธอแค่ขมวดคิ้วอย่างหงุ่นงงและเดินออกไป “ป่วยขนาดนี้ไปเรียนทำไม แกบ้าปะ” เพื่อนสาวบ่นอุบอิบแต่มือยังคงวุ่นกับการแปะเจลลดไข้ที่หน้าผากของณดา ทั้งสองกลับมาถึงคอนโดแต่อาการณดากลับยิ่งแย่ลงไปใหญ่ “ไม่ไปโรงพยาบาลจริงดิ” “หึ” คนถูกถามส่ายหัวรัว “แกก็รู้ว่าฉันกลัวเข็ม” ณดาบอกพร้อมเบ้ปากใส่ “แล้วจะหายไหมเนี่ย แกตัวร้อนเกินไปนะดา ถ้าเกิดดึกดื่นแกช็อกขึ้นมาทำไง” คิ้วเรียวสวยขมวดพันกันเป็นรอบที่ร้อยของวันตั้งแต่เห็นอาการของเพื่อนตัวเอง “ฉันจะโทรหาแกทันทีถ้าฉันไม่ไหว โอเคไหม” “ไม่ แกต้องไปโรงพยาบาลฉันถึงจะโอเค” “ไม่เอาอะ” คนป่วยเบะปากลงอย่างงอแง ณดาไม่ชอบการโดนฉีดยา ไม่ชอบการกินยา เวลาป่วยแต่ละครั้งจึงหายยากกว่าคนอื่นๆ “รอเป็นหนักกว่าเดิมรึไง!” กระต่ายพูดเสียงเข้ม “ฉันมีแกเป็นเพื่อนสนิทแค่คนเดียวนะณดา อย่าทำให้เป็นห่วงได้ไหม” “ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กินยาแล้ว เช็ดตัวแล้ว แกก็แปะเจลลดไข้ให้แล้วด้วยนี่ไง เดี๋ยวโทรบอกคุณลุงด้วยก็ได้ว่าไม่สบาย เผื่อคุณลุงให้คนมาช่วยดูแล โอเคยัง~” ณดาเกาะแขนเพื่อนพร้อมส่งสายตาออดอ้อน “แต่ไม่ไปหาหมอนะ” “แกนี่มันจริงๆ เลยนะ เออๆ โทรบอกคุณลุงด้วยว่าตัวเองไม่สบาย อย่าโกหกล่ะเข้าใจไหม” “รับทราบค่ะ” ณดาทำท่าตะเบ๊ะใส่ จนอีกฝ่ายหลุดยิ้มออกมา “งั้นฉันไปเรียนก่อน คืนนี้คงไม่ได้มาหานะ ต้องไปช่วยงานที่ร้านเจ้” “อือ ไม่เป็นไร ขอบคุณมากที่พากลับห้องอย่างปลอดภัย” ณดายิ้ม มือสวยโบกลาเพื่อนสาวที่เดินออกจากห้องตัวเองไป ไลน์~ ไลน์~ ไลน์~ เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นหลังจากกระต่ายออกจากห้องยังไม่ถึงห้านาที คิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างสงสัย แต่เมื่อคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูจึงรู้ว่าใครที่ทักหารัวๆ เช่นนี้ คีย์: “ทำไมไม่ให้กระต่ายมารถฉัน รออะไรอยู่” คีย์ : “เรื่องแค่นี้ทำไม่ได้หรอวะ” คีย์ : “อยากให้คลิปหลุดมากสินะ” ปากสวยคว่ำลงหลังจากอ่านคำขู่ในประโยคสุดท้ายของเขา ก่อนจะรีบพิมพ์ตอบกลับอีกฝ่าย ณดา : “ในเมื่อกระต่ายมันไม่มา พี่จะให้ณดาทำยังไง ณดารู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีค่ะว่ามันไม่ชอบให้ใครบังคับ คำไหนคำนั้น เพราะ ฉะนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะดื้อดึงให้มันไปกับพี่" คนตัวเล็กพิมพ์แชทรัวตอบกลับไป แน่นอนว่าอีกฝ่ายเข้าอ่านทันทีที่ข้อความส่งถึง ณดานิ่งก่อนจะกดพิมพ์ข้อความใหม่อีกครั้ง ณดา : “อีกอย่างที่พี่ต้องรู้นะคะ ณดากำลังป่วยแค่เอาตัวรอดจากตรงนี้ยังยาก ณดาช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอกค่ะ ขอตัวนะคะ" เธอวางโทรศัพท์ลงข้างกาย มือเรียวคว้าผ้าห่มคลุมตัวอย่างอ่อนแรง ลำพังแค่อาการป่วยตัวเองยังเอาตัวรอดยาก นับประสาอะไรกับการที่ต้องทำตามใจคนอย่างเขาอยู่ไม่เว้นว่าง แค่ลากเธอเดินข้ามตึกคณะสามสี่ตึกก็มากเกินที่คนไข้ขึ้นสูงทำไหวแล้ว คีย์ : “ป่วยแล้วยังไง ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นจะตายยังไง แต่เธอต้องทำตามคำสั่งฉันทุกอย่าง" คีย์ : “ตอบดิวะ" คีย์ : “เงียบทำไม” คีย์ : “ขัดใจฉิบหาย” ปึก! แก้วเหล้าถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดัง ชายหนุ่มจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองด้วยใบหน้าบึ้งตึง ยิ่งเห็นว่าข้อความที่ตัวเองพิมพ์ส่งไปถูกอีกฝ่ายเพิกเฉยยิ่งกระตุ้นต่อมความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี “แม่งเอ๊ย!” ไม่วายมือใหญ่ยังตบลงบนโต๊ะเสียงดัง จนเพื่อนในกลุ่มพากันมองด้วยสีหน้าสงสัย “ผีเข้าหรอครับ" เป็นเฟิร์สที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดเล่นเป็นคนแรก “หน้างอจะเป็นส้นตีนอยู่แล้ว" เขาหันไปหัวเราะกับโจอย่างสนุก สนาน ต่างจากโด้ที่ยังคงดื่มเงียบๆ “เดี๋ยวมึงได้แดกตีน" คนถูกตอบกลับอย่างหยาบคายไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจคำพูดของอีกคน ซ้ำยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก “แล้วเป็นบ้าอะไร" โจถาม “หงุดหงิดนิดหน่อย" เหล้าถูกรินจนเต็มแก้ว และถูกยกดื่มจนหมดในเวลาต่อมา “สงสัยจะหงุดหงิดจริงว่ะ” โจพูดขำๆ “ใช่พี่คีย์รึเปล่าคะ?” สาวสวยในชุดเดรสเปิดหลังโชว์ผิวขาวเนียนเดินเข้ามาทักทายคีย์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ" “อืม" สายตาคมเฉี่ยวมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาไม่ได้สนใจผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้สักเท่าไรนัก แต่คงจะแก้อารมณ์หงุด หงิดที่กำลังพุ่งทะยานให้หายวับไปได้ชั่วคราว “ชื่อแก้มใสนะคะ" เธอแนะนำตัวพร้อมย้ายตัวมานั่งแนบชิดกับแขนแกร่งของเขา “ไปที่ห้องเลยไหมจะได้ไม่เสียเวลา" คีย์ถามอีกฝ่ายตาคมจดจ้องไปยังหน้าอกตู้มๆ อย่างจาบจ้วง “รีบสุดๆ" โจกับเฟิร์สสะกิดกันหัวเราะชอบใจกับการกระทำของเพื่อนตัวเอง เขาไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ลุกขึ้นยืนพร้อมคว้าข้อมือหญิงสาวให้รีบเดินตามออกไป ความหงุดหงิดที่ณดาก่อทำให้เขาไม่อยากอยู่เฉย อยากจะบุกไปหาถึงที่แต่ก็กลัวไปเจอกับผู้หญิงที่ตัวเองหมายปองแล้วจะถูกจับได้ว่าสมรู้ร่วมคิดกัน เขายังต้องใช้ณดาช่วยอีกจนกว่ากระต่ายจะใจอ่อนยอมคบกับเขา ถ้าณดาตอบแชทที่เขารัวไปก็คงจะรู้ได้ว่าอยู่กับใคร แต่อีกฝ่ายกลับเงียบหายไม่แม้แต่จะกดเข้าอ่าน ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการระบายความหงุดหงิดคงเป็นผู้หญิงที่เข้ามาเสนอตัวให้เขาถึงที่ ไม่ต้องเอ่ยปากว่าอยากได้เขาก็รู้ว่าเธอคนนี้คิดแบบนั้น เพราะจำได้ว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอกดติดตามเขาผ่านช่องทางโซเชี่ยลก่อนจะมาให้เห็นตัวจริง ผู้หญิงที่เข้าหาเขาเป็นแบบนี้แทบทุกคน เขาจึงไม่รอให้เสียเวลา เพราะสุดท้ายมันก็จบลงแค่บนเตียงเท่านั้นแหละส่งท้ายนักเขียนถึงนักอ่านสวัสดีค่ะ อิมฮายอนทักทายส่งท้ายนะคะ ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนที่สนับสนุนและซัพพอร์ตนักเขียนมือใหม่คนนี้ เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่ตัดสินใจเขียนและเผยแพร่ออกไปอันที่จริงอิมฮายอนตั้งใจให้จบก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ด้วยเวลาว่างที่ไม่ค่อยมีเพราะส่วนตัวทำงานประจำจันทร์ถึงเสาร์ มีเวลาว่างแค่หลังเลิกงาน บวกกับล่าสุดที่พึ่งคว้าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ติดตัวมา ทำให้แผนการวางงานเป๋ไปหมด ทั้งที่นิยายควรปิดจบลงไปแล้วแต่กลับต้องหยุดเขียนถึงหนึ่งอาทิตย์ ต้องขอโทษที่ปล่อยให้นักอ่านรอนานถึงขนาดนี้ หลายคนอาจจะเทนิยายเรื่องหลงกลรักวิศวะตัวร้ายไปแล้ว แต่ไรท์เข้าใจดี เป็นเพราะวางแผนงานไว้ไม่ดีเองแต่แรก แต่สุดท้ายตอนนี้นิยายของอิมฮายอนก็ได้ปิดจบลงด้วยดีไรท์ไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อมากเกินไป การที่ณดายอมคืนดีง่ายๆ อาจจะขัดใจใครหลายๆ คน แต่เชื่อเถอะค่ะ ว่าในชีวิตจริงมีอีกหลายคนที่ให้อภัยคนรักได้ง่ายๆ แบบนี้ บางคนทำเรื่องไม่ดีมากกว่านี้ยังได้รับการให้อภัยและกลับใจ คีย์เองก็เหมือนกัน เขารักณดาแค่ฟอร์มจัดและมัวแต่มองจุดอื่นจนลืมโฟกัสหัวใจตัวเองเรื่องนี้เนื้อหาบาง
Special episode“อันนี้คืออะไร” ชิ้นเนื้อสีดำถูกยกคีบขึ้นด้วยมือหนาของคิมหันต์ หน้าหล่อขมวดคิ้วสีหน้าเหยเก“หมูไง แหกตาดูดิ” คีย์เดินมาพูดใส่ ก่อนจะโดนร่างของคิมหันต์กระแทกไหล่ใส่“กูรู้!”“แล้วถามเพื่อ!”“กูแค่สงสัยว่าใครทำ ไหม้ขนาดนี้ใครจะแดกลงวะ!” คิมหันต์ตอบเสียงดัง“กูเอง มัวแต่เอาน้ำไปให้โรสลืมว่าตัวเองย่างหมูไว้” ปวินทร์ตอบสีหน้าเรียบเฉย ยกถาดหมูย่างที่ย่างเสร็จแล้วออกไปต่อหน้าต่อตา“เฮ้ยๆ มึงจะเอาไปไหน” คิมหันต์ยื้อแย่งอย่างไม่ยอม “กูยังไม่ได้แบ่งให้เมียกูเลย”“กูก็จะเอาไปให้เมียกูเหมือนกัน”“มึงเอาไปหมดนี่อะนะ!”“เออ คนท้องอยากกินมึงอย่ามาแย่งว่ะ” วินดึงถาดหมูย่างจนหลุกออกมาจากมือคิมหันต์ เขามองด้วยสายตาละห้อย วินมักจะอ้างเรื่องที่โรสท้องอยู่เพื่อแย่งอาหารไปจากเขาอยู่เสมอคิมหันต์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ทำอะไรไม่ได้เพราะเห็นแก่ผู้หญิงของเขา เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนไม่อยากแย่งอาหารหลานตัวเอง เขายกถาดหมูดิบมาตรงหน้าเตรียมก่อไฟย่างหมูใหม่อีกรอบ“ทำเร็วๆ ณดารอกินอยู่” คีย์เกาะไหล่แกร่งของพี่เขย พลางกระโดดเหยงๆ อยู่ด้านหลังเหมือนเด็ก“เอ้า เมียมึงอยากกินมึงไม่มาทำ
บทที่ 39จองตัวณดานั่งอยู่ปลายเตียงมองออกไปทางหน้าต่างด้านนอก เธอยิ้มอย่างดีใจเพราะคีย์บอกว่าจะพาเธอไปอควอเรียมที่พึ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่นาน ขึ้นชื่อว่าเป็นอควอเรียมที่มีสัตว์น้ำมากที่สุดในตอนนี้ ณดาจึงดีใจมากเป็นพิเศษ“เสร็จรึยัง” คีย์เดินเข้ามาตามคนตัวเล็ก พอเห็นการแต่งตัวของเธอเขาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ “แต่งตัวสวยจัง”“จริงหรอคะ” ณดาเดินไปส่องกระจกก่อนจะหมุนมองตัวเองรอบๆ ชุดเดรสลายลูกไม้สีขาว สั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ไม่โป๊มากจนเกินไปแอบเซ็กซี่ปนขี้เล่น“จริงสิ แฟนพี่สวยสุดๆ ไปเลย” คีย์บอก เขาเดินเข้าโอบเอวบาง แอบขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กไปอีกหนึ่งฟอด “ไปกัน เดี๋ยวสายแล้วจะร้อน”ทั้งสองนั่งรถส่วนตัวไปตามจีพีเอส ด้วยความที่เป็นสถานที่ที่พึ่งเปิดใหม่ คีย์ไม่ชำนาญทางมากพอจึงเลือกที่จะใช้จีพีเอสช่วยในการนำทางอีกที ระหว่างทางเขากอบกุมมือเล็กไว้ตลอด เป็นความเคยชินอีกอย่างที่เขาทำตั้งแต่เริ่มคบกันมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งณดาเองก็ไม่ได้ขัด ชอบซะอีกขับออกจากตัวที่พักได้ราวๆ เกือบครึ่งชั่วโมง ข้างทางเริ่มออกจากตัวเมืองเข้าสู่ชนบทเสียอย่างนั้น จากที่เต็มไปด้วยบ้านคนกลายเป็นป่ารกทึบ ขับต่อไปอีกกลายเป
บทที่ 38กระชับมิตร“พี่คีย์ทำอะไรของพี่เนี่ย!” ณดายืนเท้าเอวเอียงคอถามคนรักของตัวเอง ที่มานั่งเล่นก่อกองทรายราวกับเด็กน้อยเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอใครในบ้านเลยเดินหาอยู่พักใหญ่ จนตอนนี้เหงื่อเริ่มออกท่วมตัว พึ่งจะเจอคีย์ที่กำลังเล่นกองทรายอย่างสนุกสนาน เวลานี้เป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แสงแดดจึงแทบไม่เหลือ คีย์ถึงมานั่งก่อกองทรายที่ริมหาดอย่างไม่กลัวผิวไหม้เขาเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้เธอก่อนจะลุกปัดตูดที่มีเศษทรายติดออก มือหนาเอื้อมมากอบกุมมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะออกแรงดึงให้คนตัวเล็กเดินเข้ามาใกล้ปราสาททรายของตัวเอง“สวยไหม” เขาถามด้วยสีหน้าภูมิใจ“สวยค่ะ นึกยังไงมาเล่นทรายอยู่คนเดียว”“อยากโชว์ความสามารถ” เขาหัวเราะเบาๆ “ไปเดินเล่นกันไหม” ณดาพยักหน้ารับทั้งสองจูงมือกันเดินเล่นริมชายหาด ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนแรก จึงตกลงกันว่าจะมาค้างที่ทะเลสักอาทิตย์ เพราะเทอมหน้าณดาคงได้เตรียมออกฝึกงาน คงจะหาเวลาว่างมาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ได้ยากกว่าเดิมลมเย็นๆ พัดกระทบใบหน้า เสียงคลื่นซัดเข้ากับชายฝั่งช่างเป็นเสียงที่สงบ ณดาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอชอบบรรยากาศในช่วงเวลานี้มากที่สุด
บทที่ 37วัดใจ“คิดดีแล้วหรอณดา” คิมหันต์ถามเสียงเข้ม ใบหน้าหล่อบึ้งตึงอย่างไม่พอใจสุดขีดเมื่อน้องสาวของเขาพาคนที่ตัวเองยกพวกไปรุมกระทืบถึงมหาวิทยาลัยมาที่บ้าน เมื่อคืนณดาหายไปบอกจะไปค้างห้องเพื่อน ตัวเขาเองก็ไม่ได้นึกเอะใจอะไรเพราะคิดไว้ว่าณดาคงไม่กลับไปหาผู้ชายที่เคยทำร้ายตัวเองจนเจ็บไปทั้งร่างกายและหัวใจแบบนั้นไหงตอนนี้มาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าละห้อยเสียได้ คงต้องบอกว่ามีแค่ณดาที่แสดงสีหน้ากังวลใจ เพราะผู้ชายตัวสูงข้างกายเอาแต่ทำหน้าท้าทายเขาอยู่ตลอดเวลา สภาพนี้จะมาขอให้ยกโทษให้แล้วคบกับน้องสาวเขาง่ายๆ หรอไม่มีทาง“ณดาทบทวนความรู้สึกของตัวเองดีแล้วค่ะ” คนตัวเล็กที่นั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเอ่ยตอบ “จริงอยู่ที่พี่คีย์เคยใจร้ายกับณดาไว้สารพัด เพียงแค่คำขอโทษไม่กี่คำคงทดแทนไม่ได้ แต่ตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้พูดคุยกัน ณดากลับเอาแต่คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน จนเผลอลืมสิ่งไม่ดีพวกนั้นไป”“แล้วมันรู้สึกผิดอย่างที่พูดหรอ” คิมหันต์ปลายตามองคีย์ที่นั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไร “คนอย่างมึงเนี่ยหรอจะเปลี่ยนนิสัยเพื่อน้องกู”“…”“บอกว่าหมาคลอดลูกเป็นควายยังน่าเชื่อกว่าอีก” ณดาลอบก
บทที่ 36คิดถึง[Nada’s Part]“เฮ้อ” ฉันนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน ทั้งที่วันนี้เพื่อนๆ ในคณะพากันมากินเลี้ยงฉลองปิดภาคเรียนที่หนึ่งแท้ๆมันควรจะสนุกกว่านี้สิตั้งแต่วันนั้นที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันไม่เจอหน้าพี่คีย์อีกเลย ถามใครก็ไม่ได้คำตอบ แต่ไม่ได้ถามพี่คิมหันต์หรือคุณลุงโดยตรงเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาทั้งสองคงไม่ตอบคำถาม และน่าจะโดนดุกลับมาแทนทั้งที่วันนั้นเขาเป็นคนพาฉันไปโรงพยาบาลแท้ๆ แต่พอตื่นมากลับไม่เจอหน้าเขา อันที่จริงก็ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่ต่อมสำนึกมันทำงานอยากจะขอบคุณที่อุตส่าห์พาไปหาหมอได้ทันท่วงที อาการแพ้ขั้นรุนแรงจนเกือบตายแบบนี้ในชีวิตเป็นมาแล้วสี่ครั้ง สำหรับรอบที่พี่คีย์เจอนี่น่าจะกลางๆ ไม่แรงหรือน้อยเกินไปเป็นความผิดของฉันเองด้วย รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองแพ้อาหารแต่ไม่ตรวจให้ดีก่อนจะกิน ห่วงกินจนได้เรื่อง“ณดาครับ ชนแก้วกันหน่อยไหม” พี่แซม พี่รหัสของอลันเดินเข้ามาคุยกับฉันเป็นรอบที่สิบแล้วมั้ง เขาดูเหมือนจะสนใจตัวฉันพอสมควร เพราะรอบก่อนก็พึ่งจะขอช่องทางโซเชี่ยลไป รอบนี้วนกลับมาชนแก้วอีกแล้ว“ไม่ดีกว่าค่ะ ณดาอิ่มแล้ว” ฉันยิ้มตอบตามมารยาทไป เบื่อเต็มทีแล