หลังจากที่วาโยกลับมาจากคอนโดของต้า เธอก็รีบขับรถไปหาพี่สินทันที เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมเขาถึงสนิทกับพี่ต้าได้ แล้วทำไมก่อนหน้านั้นเธอไม่เคยเห็นเขาสองคนคุยกันที่โรงเรียนเลย
“จะอยากรู้ไปทำไม สนใจต้ามันเหรอ” พี่สินถามน้องสาวที่กำลังคาดคั้นอยากรู้คำตอบ “แค่อยากรู้เฉยๆ ตอนเรียนไม่เห็นเคยไปมาหากัน มาสนิทกันได้ไง” “ก็ตอนเรียนคนละห้องกัน แล้วอีกอย่างมันก็ดูโลกส่วนตัวสูงเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่พอสอบวันสุดท้าย พวกพี่ก็รวมตัวกัน พากันไปกินเหล้าเพื่อนใครต่อเพื่อนใครก็มารู้จักกัน ก็แค่นั้น” “อ๋อ ก็ยังว่าอยู่หนูตกใจจะตายที่เจอเขา พี่ต้าเขาดังมากนะพี่” หญิงสาวยิ้มหน้าระรื่น “ทำไม สนใจร่างทองของนายแบบคนนั้นอ่ะดิ บอกพี่มาซะดีๆ” พี่สินชี้หน้าแซวเธอที่กำลังนั่งหน้าแดงแทบหุบยิ้มไม่ทัน “ไม่สนใจหรอกพี่ เข้าถึงยากขนาดนั้นใครจะไปชอบ” หญิงสาวเดินไปหยิบนู้นหยิบนี่ดูแก้อาการประหม่า เพราะกลัวพี่สินจับได้ซะก่อนว่าเธอคลั่งไคล้เพื่อนของเขามากแค่ไหน เรื่องที่เธอชอบพี่ต้ามีคนรู้แค่คนเดียวคือเพลง เพราะวาโยมักจะเล่าให้เพื่อนสาวของเธอฟังเสมอๆ “ก็ดีแล้ว เห็นมันนิ่งๆ เงียบๆ แบบนั้น ก็เอาเรื่องอยู่นะ ใจมันได้ว่ะ” พี่สินพูดแล้วก็ทำเสียงจิปาก “ใจได้ยังไงพี่” เธอรีบมานั่งข้างเขาที่กำลังเปลี่ยนช่องทีวีภายในบ้านที่เขาเพิ่งซื้อมาเมื่อห้าเดือนที่แล้ว เพราะหลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาตรี สินก็ตั้งใจเดินหน้าทำธุรกิจของเขาทันที จึงพอมีรายได้เข้ามาพอสมควร “ก็เพื่อนในกลุ่มพี่อีกคนมันดันไปยุ่งกับแฟนของรุ่นพี่ในร้านเหล้า วันที่รวมตัวไปกินเหล้าน่ะวันนั้นเสือกมีเรื่องกันแล้วทีนี้ไอ้รุ่นพี่คนนั้น แม่งมีปืนจะยิงเพื่อนพี่ ไอ่ต้าแม่งเห็นก็เลยไปแย่งปืนมา” พี่สินพูดทิ้งท้ายไว้ “แล้วยังไงต่อพี่สิน พี่ต้าทำปืนลั่นใส่คนนั้นตายเหรอ” หญิงสาวตั้งอกตั้งใจฟังเขาจนตัวเกร็ง “ยิงตายอะไร แม่งเสือกเป็นปืนปลอม!” “โห้พี่ หนูก็ลุ้นไปเถอะ คิดว่าจะยิงกันตายซะแล้ว” “ดีแล้วที่เป็นปืนปลอม ถ้าปืนจริงไม่ใครก็ใครอ่ะ ได้ร่วงแน่พี่ถึงบอกไงไอ่ต้าใจมันได้ว่ะ” หญิงสาวได้ฟังก็พยักหน้าตาม “จริงของพี่ ไม่งั้นพี่ต้าไม่ได้แจ้งเกิดแน่ๆ หนูกลับก่อนนะพี่ บ๊าย” หญิงสาวโบกมือให้ “แล้วจะไปไหนต่อล่ะ” เขายังคงถามต่อ “ก็กลับไปพักไงคะ ถ้ามีงานอะไรแบบนี้อีกบอกหนูก็ได้นะไม่ต้องเกรงใจ” วาโยพูดจริงจัง “ก็เตรียมตัวรอแล้วกัน เพราะพ่อร่างทองคนนั้นมารีวิวให้แล้วแถมยังโพสต์ในอินสตาแกรมแท็กบริษัทพี่อีก” พี่สินชูโทรศัพท์ให้ดู “แบบนี้หนูก็ได้ค่าแรงด้วยสิเพราะสำเร็จตามเป้าหมายของพี่ที่ตั้งไว้” เธอทำท่าแบมือขอเงิน “ค่าแรงอยู่ในรีวิวนั้นแล้ว พี่บอกมันว่าทำความสะอาดให้ฟรี แต่ต้องมารีวิวให้นะ” เขาพูดเชิงหัวเราะ “โอ๊ย พี่สินหลอกใช้หนูอีกละ” “เอาน่าช่วยๆ กัน ถ้าไปได้สวยเดี๋ยวพี่ให้เปอร์เซ็นต์งามๆ เลย” “โชคดีของพี่นะ ที่รอดมาได้จนถึงอายุยี่สิบสี่ไม่โดนใครกระทืบตายก่อน” หญิงสาวพูดพร้อมกับวิ่งหนีเขาเมื่อเขาทำท่าไล่ล็อกคอเธอ เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่สินก็ไม่ชอบให้เธอพูดคำหยาบกับเขาแบบนี้ แต่นิสัยกวนๆ ของเขามันเหมาะกับคำพวกนี้ไหมล่ะ ถามจริงๆ เมื่อวาโยกลับไปถึงคอนโดก็จัดการธุระส่วนตัว แล้วโทรหาเพลงเล่าเรื่องที่ไปเจอวันนี้มาให้เพลงฟัง เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้พูดถึงพี่ต้า และดีใจมากๆ ที่ได้ไปคอนโดของเขาถึงแม้จะเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ตาม “ทำไมช่วงนี้ดวงของฉันขึ้นขนาดนี้นะ” จากที่ไม่เคยคุยก็ได้คุย จากที่ไม่รู้ว่าเขาพักที่ไหนก็ได้รู้ แค่นึกถึงหน้าของเขาก็ฟินแล้ว ยิ่งน้ำเสียงทุ้มต่ำสายตาดุดันของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเตลิดไปไกล คนเราจะชอบใครได้มากขนาดนี้เลยเหรอ? เธอรีบสลัดหัวดึงสติกลับมา “โอ๊ยนี่ฉันโดนของหรือไง ทำไมเป็นแบบนี้” ไม่ได้การละขืนปล่อยไว้แบบนี้เธอต้องบ้าตายแน่ๆ “ คืนนี้ออกไปดื่มกันหน่อยไหมเพลง ฉันอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” วาโยกดโทรหาเพื่อนสาวอีกครั้งหลังจากวางสายที่เพิ่งคุยกันไปก่อนหน้านี้เอง “ออกไปเปิดหูเปิดตาอีกละ เดี๋ยวพอแกเมาก็เรียกหาแต่พี่ต้าฉันอายคนอื่นเขา” “ไม่เรียกๆ หรอก ฉันแค่อยากผ่อนคลายบ้างฉันคิดว่าฉันหมกมุ่นกับพี่ต้ามากเกินไป ฉันต้องใช้ชีวิตของฉันบ้าง แกเชื่อใจฉันได้เลยไม่เรียกแน่นอน” หญิงสาวพูดเสียงหนักแน่น “โอเคๆ ไปเจอกันร้านเดิมนะ อยากตื้ดๆ เหมือนกัน” แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเพื่อนกัน ศีลเสมอกันถึงอยู่กันได้ ที่ผับ ที่สองสาวเพื่อนสนิทมาบ่อยๆ มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา มาเต้นโชว์ยั่วยวนชวนผู้หญิงให้หลงใหลอยู่บนเวที วาโยในชุดเกาะอกรัดรูปสีชมพูพร้อมกับเสื้อคลุมไหล่สีดำ กระโปรงสั้นเหนือเข่าสีชมพูอ่อนเช่นเดียวกัน เพลงก็ใส่จัดเต็มมาเหมือนกันเสื้อสายเดี่ยว พร้อมกับกางเกงขาสั้นสุดเซ็กซี่ สองสาวชูแก้วเหล้าชนกัน พร้อมกับเต้นตามจังหวะเพลง แต่ดีที่สองคนไม่เคยไปมั่วกับใครที่ไหน กินเสร็จเที่ยวเสร็จก็กลับบ้านนอนไม่มีไปต่อกับใครที่ไหน เน้นสร้างสีสันให้ชีวิตมากกว่า จนล่วงเลยเวลาเที่ยงคืน ทั้งสองเมามากแต่ยังมีสติอยู่ก็พากันนั่งรถแท็กซี่กลับด้วยกันเพราะทางเดียวกัน โดยเพลงยังอยู่บ้านกับพ่อและแม่ของเธอ และเลยไปอีกหน่อยประมาณห้ากิโลเมตรก็ถึงคอนโดของวาโย หลังจากที่เพลงลงจากรถเธอก็กำชับเพื่อนให้กลับดีๆ พร้อมกับบอกวาโยว่าถึงห้องก็โทรบอกเธอด้วย “โหล..ลลล เพลง ช้านน..ถึงห้องแล้…วนะแค่นี้แหละ จะรีบไปนอนง่ว…งมาก” เสียงหญิงสาวพูดจนลิ้นพันกันเพราะฤทธิ์เหล้า แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง “ยัย..เพลงบอกม่ายยย ให้พูดถึงพี่ต้า ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้วววพูดด้ายยย โอ้ต้าจ๋าไหนลองหันมายิ้มหน่ออยยสิ” หญิงสาวเดินร้องเพลงไปจนถึงห้อง “พี่ต้าจ๋าไหนลองหันมายิ้มหน่อยสิ“ ก๊อกๆ หญิงสาวไปเคาะประตูห้องของใคร ทันทีที่ประตูเปิด ผู้ชายที่ไม่ใส่เสื้อที่อยู่ในห้องนั้นก็รีบดึงหญิงสาวที่เมาไม่ได้สติเข้าไปอย่างรวดเร็ว แรงดึงของเขาทำให้เธอเซถลาไปซบหน้าอกแกร่งของเขาทันที ใบหน้าร้อนผ่าวของเธอทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง “แน่นจัง” เธอบ่นอู้อี้อยู่กับอกกว้างของเขา “พี่ต้าจ๋า หนูมาบอกรักพี่ค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วกลับไปซบอกของเขาต่อ พี่ต้าที่ยังอยู่ในอาการมึนงงไปชั่วขณะกับท่าทางของหญิงสาวว่ามันเกิดอะไรขึ้นและเธอมาได้ยังไงกัน “เมามาหรือวะเนี่ย” เขาดันร่างบางออกจากตัวของเขา “ดื่มนิดนึง.. ม่าย..ยยเมาค่ะมาบอกรักพี่แล้วว หนูก็จะกลับค่ะ ฝันดีนะคะ” เธอตบอกของเขาเบาๆ แล้วเดินเปิดประตูจะออกไป “จะบ้าเหรอ เมาขนาดนี้จะกลับยังไง แล้วมายังไงวะเนี่ย ดูแต่งตัวเข้าสิรอดมาได้ไง ดีไม่โดนใครหิ้วไปซะก่อน” เขาดึงหญิงสาวที่ยืนโอนเอนไปมานั่งโซฟา แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เธอ “พี่เช็ดแบบนี้ เครื่องสำอางหนูลบหมดพอดี เดี๋ยวหนูไม่สวยหยุดเช็ดเถอะค่ะ” หญิงสาวจับมือหนาของชายหนุ่มเอาไว้แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ามือหนานั้นมาแนบแก้มของเธอแทน “มือพี่ต้าอุ่นจัง” พร้อมกับมองสำรวจหุ่นของเขาที่มีก้อนเนื้อหกลูกเป็นลอนสวยงามอยู่ตรงหน้าเธออย่างไม่กะพริบตา “มาขัดจังหวะแบบนี้ เดี๋ยวได้อุ่นกว่านี้แน่ๆ ยัยเด็กแสบ” เขาลุกขึ้นแล้วตรงไปหยิบเสื้อมาสวมใส่พร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู ที่เขาทิ้งอยู่บนเตียงนอนเก็บใส่ถุงขยะและนำไปทิ้งในห้องน้ำทันที “วาโย ๆ ” เขาเรียกชื่อของเธอที่นอนคอพับหลับไปบนโซฟาอย่างไม่ได้สติ เขาเลยนำผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอไว้ เพราะตอนนี้เสื้อเกาะอกเธอแทบจะหลุดออกมาแล้ว “แม่งเอ้ย” เขาสบถแล้วเดินหันหลังเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง จัดการสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะมาเคาะประตูให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ค้างคา แล้วอีกอย่างเขาเองก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของหญิงสาวที่นอนเมาแอ๋อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกันตอนพิเศษที่1ที่โรงเรียนมัธยม“เฮ้ยต้า มานี่เร็วมัวมองอะไรอยู่” เพื่อนชายถามเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่กำลังนั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่หลายคน“เปล่า กูไม่ได้มองนี่” ต้าปฏิเสธ“มึงมองน้องวาโยเหรอ”“เออๆ กูมองน้องเขา กูสงสัยว่าทำไม น้องเขามองกูจังวะหรือกูหน้าแปลกวะ”“แปลกอะไร มึงน่ะหล่อ สาวๆก็อยากมองเป็นธรรมดา ไปเร็วไปนั่งใต้ร่มไม้นั่นกัน” เพื่อนของต้าดึงให้เขาลุกขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ ในขณะที่ต้าเองก็แอบมองวาโยที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆที่หน้าโรงเรียนหลังเลิกเรียนต้าเห็นว่าวาโยยืนคุยอยู่กับสินท่าทางสนิทสนมคงจะเป็นแฟนกันสินะเขาคิดในใจ“มีแฟนอยู่แล้วยังมามองผู้ชายคนอื่นอีก” ต้าบ่นลอยๆแล้วเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นว่าสินเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และวิ่งออกไปส่งให้กับวาโยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เอาแต่จ้องมองเขานั่นเองเช้าวันต่อมา เขาเห็นวาโยนั่งมอไซค์มากับสินก็เลยยิ่งเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขาเลยไม่อยากสุงสิงกับแฟนใครและเลือกที่จะทำตัวนิ่งๆ หยิ่งๆ ดีกว่าเพราะหลังจากเรียนจบม.6 ต้าก็จะไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใ
“เห็นรอยสักพี่แล้วดิ เขินจัง” ต้าเกาหัวแก้เขิน“เห็นแล้วค่ะ หนูชอบมากนะคะ” ต้าถึงกับเอามือของเธอไปหอมอย่างรักจนสุดใจ“แล้วเรื่องลูกเขยแบบพี่ล่ะครับจะทำไง” ต้าถามอีกครั้ง“หนูยังไม่พร้อมค่ะ หนูต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษอีก” “ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ ไปกับใครล่ะ”“หนูสอบได้ทุนค่ะ ไปเรียนคนเดียวยื่นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ”“ดีเลย บ้านพี่ก็อยู่ที่อังกฤษไว้รอโยเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ ก็ประมาณสองปีสินะ”“แต่งงานเหรอคะ พี่ยังไม่เคยบอกรักหนูเลยจะแต่งได้ไงคะ”“ใครบอก พี่บอกรักเธอตั้งนานแล้วนะ เธอไม่สังเกตเอง”“ตอนไหนคะ” “ก็อิโมจิรูปหัวใจไง ที่พี่บอกรักเธอ ขนาดพี่ยังไม่เคยส่งให้แม่พี่เลยนะ เธอเป็นคนเดียวที่พี่ส่งให้”“อิโมจิรูปหัวใจใครก็ส่งได้ค่ะ”“พี่รักโยนะ พี่อยากอยู่กับเธอคนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มหน้าบาน“หนูก็รักพี่ต้าค่ะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”“อันนี้พี่รู้แล้ว อยากให้พี่บอกรักโยเยอะๆไหม ชอบฟังไหม”“ชอบค่ะ ชอบฟัง” หญิงสาวพยักหน้าใสซื่
“แฟนพี่ต้าไงคะ”“แฟนพี่เหรอ ไม่จริงมั้ง พี่ไม่มีแฟน พี่ยังบอกเธออยู่เลย” เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองเธอที่ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่“เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้านี่คะ เป็นตัวจริงของพี่ต้า หนูก็เลยต้องออกมาโดยไม่ได้บอกพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่มองหน้าของหญิงสาวแล้วสบตาที่สั่นไหวของเธอเหมือนคนจะร้องไห้“ใช่วันที่พี่บอกว่า...จะลงไปเอาชุดกับผู้จัดการที่รออยู่ข้างล่างใช่ป่ะ ใช่วันนั้นไหมเพราะวันนั้นแหละที่พี่เจอโน้ตที่เธอเขียนด่าพี่แล้วแปะไปที่กล่องถุงยาง วันนั้นพี่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ไหม”“ใช่ค่ะ วันที่พี่ลงไปเอาชุด แต่หนูไม่ได้เขียนนะคะหนูจะเขียนด่าพี่ทำไม ก็พี่บอกหนูแล้วว่าไม่อยากวาดฝันให้หนู” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจ ต้าจึงลุกขึ้นสวมกอดเธอ แล้วเดินไปหยิบโน้ตที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องประดับมาคลี่ออกแล้วส่งให้เธอดู“หนูไม่ได้เขียนซะหน่อยไม่ใช่ลายมือหนูเลย แต่ด่าแรงมากนะคะ ใครบังอาจมาด่าพี่ต้าของหนู อุ้ย” เธอรีบเอามือปิดปากเมื่อหลุดพูดว่าพี่ต้าของเธอต้าอดใจไม่ไหวจึงจุ๊บเบาๆไปที่ริมฝีปากของเธอเพราะถูกใจที่เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้
“สกปรก” เธอเอ่ยมาสั้นๆ“ใช่สกปรก เธอพูดถูกแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วย“อย่ามาดูถูกหนูนะพี่ต้า หนูไม่ชอบ ถ้าไม่อยากถ่ายแบบก็ไม่ต้องถ่ายไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลย”“พี่ดูถูกอะไร พี่แค่จะให้เธอทำความสะอาดห้องที่มันสกปรกอยู่นี่ไง ไม่ได้อยู่มาหลายเดือน ฝุ่นมันก็เกาะหนาไปหมด เธอเข้าใจว่าอะไร” เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบโต๊ะแล้วหงายมือมาดูฝุ่น ทำอย่างกับว่าฝุ่นหนาเตอะทั้งที่เมื่อวันก่อนแม่ของเขาเพิ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเบียดดันเธอเข้าไปจนชนมุม“หนูก็คิดว่า… ช่างมันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับดันอกกว้างของเขาออก“คิดเรื่องอย่างว่าเหรอ เธอนั่นแหละคิดทะลึ่ง ทำความสะอาดมันก็ต้องใช้ร่างกายใช้แรงทั้งนั้น ฟุ้งซ่านนะเราน่ะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู วินาทีนี้เองที่เขาเห็นวาโยมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้นและเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะเธอหน้าแดง แถมยังหลบตาก้มหน้าอมยิ้มอยู่ แต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากให้เธอเขินอายจนหนีเขาไปนั่นเอง“งั้นตกลงค่ะ แต่ช่วยลดราคาให้ถูกลงเยอะๆหน่อยนะคะ เพราะหนูจะทำความสะอาดให้สุด
วันนี้แม่มาหาวาโยที่คอนโดเพราะมีเรื่องให้ช่วย เนื่องจากแม่ของวาโยนั้นทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองและยังขาดนายแบบมาช่วยโฆษณาให้ ซึ่งแม่ของเธออยากให้ต้าที่เป็นนายแบบเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายรูปกับเสื้อผ้าของเธอนั่นเอง จึงมาหาวาโยก่อนที่เขาจะกลับไปเมืองนอก เพราะสินบอกให้เธอมาหาลูกสาวให้ช่วยพูดกับเขาให้น่าจะได้เรื่องกว่าที่ตัวสินพูดเอง“นะโยช่วยพูดกับพี่เขาหน่อย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”“แม่คะ หนูไม่ได้สนิทกับพี่ต้าแล้วนะคะ”“งั้นแสดงว่าเคยสนิทสิ ถ้าแบรนด์เสื้อเราดังขึ้นมาเรารวยเลยนะโย ลองคิดดูสินายแบบดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อเราจะดังขนาดไหน คนก็ต้องให้ความสนใจแล้วมาซื้อกันเยอะๆ แน่เลยแล้วอีกอย่างผ้าที่แม่นำมาตัดเย็บก็อย่างดีเลยนะรับรองนายแบบคนนั้น ไม่อายแน่ๆ แม่เอาแบบเสื้อมาให้ดูแล้ว เขาชอบไม่ชอบยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ดีไหมลูก” แม่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ“งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะถามพี่เขาให้” เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่จะทำยังไงได้ล่ะ นี่มันธุรกิจครอบครัวของเธอ อีกหน่อยเธอก็ต้องมาดูแลต่ออยู่ดี ศึกษาไว้หน่อยก็แล้วกัน“ดีแล้วลูก ยังไงซะมันก็ต้องตกเป็นของหนู ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แม่จะรอฟังข่าวด
เมื่อต้าทานข้าวเย็นกับแม่ของเขาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตหรูที่เขาเอามาจอดไว้ที่บ้านแม่ขับตรงไปยังคอนโดของเขาทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่นานแล้ว แต่ภาพหลายๆ อย่างยังชัดเจนเมื่อนึกถึงโซฟาตัวนี้ที่เขาร่วมรักกับวาโยครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่กล่องถุงยางอนามัยจำนวนมากที่เขาเปิดใช้ไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นก็ยังอยู่ที่ชั้นวางเดิม“ฮึ หมดอายุแล้วเหรอ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพลิกดูฉลากข้างกล่องก็อดขำไม่ได้“แกนี่น่าสงสารกว่าฉันอีกนะ อยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วก็หมดอายุไป” เขาหยิบมันทิ้งลงไปในถังขยะทันที แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เคยมีหญิงสาวมานอนข้างๆ“ป่านนี้ ไปเป็นแฟนคลับของใครอยู่นะ” เขาพูดบ่นลอยๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู กดไปยังแอปอินสตาแกรม แล้วเปลี่ยนแอคเคาท์หลุมเพื่อไปส่องโปรไฟล์ของวาโย“ก็ดูมีความสุขดีนี่” เขาเลื่อนจนไปเจอรูปหนึ่งที่ถ่ายกับเพื่อนๆ ของเธอมีทั้งหญิงและชายหลายคน แต่เขาสังเกตได้ว่าในภาพมีผู้ชายโอบเอวของวาโยอยู่“มันเป็นใครวะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว” เขาเลื่อนๆ ดูไปหลายภาพ บางภาพเขาก็เคยดูแล้ว แต่มือดันลั่นไปกดถูกใจในรูปภาพของเธอเข้าให้ งานเข้าแล้วแต่นี่มันเป็นแอคหลุมของเขา