“แม่งเอ้ย” เขาสบถแล้วเดินหันหลังเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง จัดการสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะมาเคาะประตูให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ค้างคา แล้วอีกอย่างเขาเองก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของหญิงสาวที่นอนเมาแอ๋อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน
“ปล่อยตัวขนาดนี้เลยเหรอ เขาเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาวที่มีผ้าห่มคลุมตัวไว้อยู่อย่างมิดชิด ถ้าพี่ชายเธอมรู้ว่าเธอเมาแล้วมาที่นี่มีหวังคอขาดแน่ๆ “เดี๋ยวจะให้ไอ่สินมารับกลับแล้วกัน จะได้จบๆ ไป” เขาบ่นพึมพำพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พรวด! วาโยดีดตัวลุกขึ้นมานั่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายของตัวเอง “ พี่สินเหรอ ไหนอ่าาาพี่สิน” หญิงสาวจับแขนชายหนุ่มไว้ “ผมจะโทรให้พี่ชายคุณมารับแล้วกัน อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกถ้ามีใครมาเห็นเข้า เธอได้ดังแน่ๆ” “อย่าโทรนะคะ ถ้าพี่โทรหนูจะบอกว่าพี่ต้าปล้ำหนู เพราะถ้าพี่ชายหนูรู้ว่าหนูเมาแล้วมาหาพี่แบบนี้ มีหวังหนูตายแน่ๆ พ่อกับแม่หนูอีก” หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้ “แต่ไม่กลัวผมเลย…ว่างั้นเถอะ ฮึๆ” เขาหัวเราะในลำคอ “พี่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่น่ะต้องกลัวหนูมากกว่า” ร่างบางเอามือแตะใบหน้าของร่างใหญ่เบาๆ จนเขาเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น “ผู้หญิงอะไรเมาแล้วอ่อยเก่งชมัด คงจะผ่านมาเยอะจนไม่กลัวอะไรแล้วสินะ” เขาเชยคางเธอขึ้นพร้อมกับเอามือลูบริมฝีปากล่างของเธออย่างลืมตัวก่อนจะรีบชักมือออกแล้วดันใบหน้าของเธอให้ออกห่างจากตัวของเขา “หนูไม่เคยมีใคร และไม่เคยมีแฟนด้วย เพราะหนูชอบพี่ต้าแค่คนเดียวตั้งแต่ม.ต้นจนถึงตอนนี้” “รู้อยู่ว่าชอบ ก็ตอนเรียนคุณเล่นมองผมจนผมทำตัวไม่ถูก บางทีก็อึดอัดแต่ก็เข้าใจแหละช่วงนั้นผมฮอตมากๆ” เขาพูดพร้อมกับยักไหล่ “พี่ต้าก็รู้นี่คะ ว่าหนูชอบแต่ทำไมยังเฉยชากับหนูค่ะ ตอนนั้นหนูอาจไม่สวยแต่ตอนนี้หนูสวยมากนะ มีคนมารุมจีบหนูเพียบ แต่หนูไม่สนใจใครเลยค่ะนอกจากพี่ต้าแค่คนเดียว” “เด็กบ้า” เขาพูดสบถพร้อมกับมองหญิงสาวด้วยสายตาคู่งามที่ดุดันและมีเสน่ห์ของเขา “ผมว่าคุณเมามากแล้ว เดี๋ยวผมจะส่งคุณกลับบ้านตอนนี้แหละ” เขาเดินไปหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่มาสวมใส่ให้เธอพร้อมกับดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมหัวให้ แล้วเขาก็ใส่หมวกแก๊ปพร้อมแมสปกปิดใบหน้าเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์แล้วพยุงเธอออกมา เมื่อมาถึงนลานจอดรถ เขาดันตัวเธอให้เข้าไปนั่งพร้อมกับปรับเบาะรถยนต์ให้เธอนอนราบไป “บ้านอยู่ไหน” เขาถาม “บ้านหนูเหรอ แป๊บนะ”เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมพิมพ์บางอย่างลงไปในแอปพลิเคชันที่เธอคิดว่าเป็นแอปแผนที่ “นี่มันแอปสั่งของ คุณจะสั่งอะไร ผมอยากจะบ้าตาย” ชายหนุ่มเริ่มหัวร้อนทันทีเพราะเธอทำให้เขาเสียเวลานอนมากๆ ปกติก็ไม่ค่อยได้นอนอยู่แล้ว “ทำไมถึงยังพูดผมกับหนูล่ะคะ แทนตัวเองว่าพี่ไม่ได้เหรอ” เธอเอียงคอมองเขาพร้อมสายหวานเยิ้ม “ไม่อยากสนิทด้วย…เอาโทรศัพท์มานี่ เดี๋ยวหาเอง” เขาดึงโทรศัพท์เธอมาพร้อมกับกดไปที่แอปสั่งของแล้วกดดูที่อยู่ของเธอ และจิ้มไปที่โลเคชั่นทันที เมื่อรถสปอร์ตหรูสีดำมาจอดที่หน้าคอนโดของวาโย เขาลงไปเปิดประตูรถให้วาโย “ถึงละ ห้องอยู่ไหน” เขาจับแขนเธอบีบเบาๆ “ขอบคุณพี่ต้าค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาแล้วเดินโซเซนิดหน่อยเดินเข้าไปในคอนโด ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะเดินตามเข้าไปไม่ได้ เกิดไปเคาะประตูห้องของใครแล้วจะแย่ อาจจะทำให้เขาเสียชื่อเสียงไปด้วยหากเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ ยังไงเสียก็ต้องตามไปส่งเธอให้ถึงห้องอย่างปลอดภัย จนเธอกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน เขาก็เข้าไปในลิฟต์กับเธอด้วย เดินมาสักหน่อยในที่สุดก็ถึงห้องของเธอทำให้เขาโล่งใจเป็นอย่างมาก “อ้าวววพี่ต้าาา ยางงงไม่กลับไปอีกเดี๋ยวก็ดึงเข้าห้องด้วยเลย” เธอไม่พูดเปล่ากลับดึงแขนของเขาให้ตามเธอเข้ามาในห้องด้วย “ทำอะไร คุณนี่มันสุดๆ เลยจริงๆ” เขาสลัดมือของเธอออกอย่างแรง จนมันทำให้เธอล้มลงพร้อมกับต้าที่สะดุดเชือกรองเท้าผ้าใบของตัวเองล้มไปทับตัวของเธออย่างรวดเร็ว พลั่ก! เขาล้มทับเธอไม่เป็นท่าแต่โชคดีที่เขายังเกร็งแขนตั้งฉากกับพื้นไว้ข้างหนึ่ง ไม่งั้นเธอได้กระดูกหักแน่ๆ ถ้าเขาล้มใส่เธอจังๆ เพราะต้าตัวใหญ่กว่าเธอมากโขเลยทีเดียว หญิงสาวเอื้อมมือมาจับใบหน้าของต้าแล้วลูบลงมาที่หนวดเขียวครึ้มตรงบริเวณแถวคางของเขา “แม้แต่ในฝันพี่ก็ยังหล่ออีกนะคะ“ วาโยที่นอนเงยหน้าอยู่นั้นพูดพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม เขาคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอทันที “เมาแล้วอยากหรือไง มา..เดี๋ยวผมจะสนองให้คุณเอง” ชายหนุ่มอดทนมาจนถึงที่สุดแต่สาวเจ้ากลับยั่วยวนเขาไม่เลิก แถมยังใช้สายตาเชื้อเชิญเขาไม่หยุดแบบนี้ ใช่ว่าเธอจะไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย เขาเองก็มองเธอออกจะบ่อยเพราะเห็นว่าเธอก็น่ารักดี แต่สายตาของเขาไวกว่าเลยหลบตาเธอได้ทันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกันนั้นแล้ว แต่เพราะปัญหาครอบครัวและบวกกับที่เขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่ได้สนใจตัววาโยมากนัก จนเขากลับมาเจอเธออีกครั้งที่บาร์ที่เชียงใหม่ครั้งนั้น แล้วก็วันนี้รวมทั้งตอนนี้ด้วย เขาช้อนร่างของเธออุ้มขึ้นไปบนเตียงนอนที่อยู่ใกล้ๆ เขาวางเธอลงพร้อมกับถอดเสื้อคลุมและหมวกแก๊ปของตัวเองออกโยนไปข้างเตียงอย่างเร่งรีบเพราะอารมณ์ความต้องการของเขามันพลุ่งพล่านจนถึงขีดสุด เขาถอดเสื้อคลุมของเธอออก ทำให้เห็นสองเต้าที่ทะลักออกมาจนเกาะอกปิดแทบไม่มิด เขามีแววตาลุกวาวเปล่งประกายราวกับว่าถูกใจสิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้านี้ ฝ่ามือหนาก้มลงจูบบดขยี้ริมฝีปากของหญิงสาวอย่างรุนแรงจนคนตัวเล็กดันอกของเขาออก เพราะหายใจไม่ออกเนื่องจากเขาจูบเธอนานจนเกินไป “ปล่อย” เธอเอามือดันใบหน้าของเขาออกมาเมื่อเขาโน้มลงมาหอมซอกคอของเธอลงไปจนถึงเนินอก กลิ่นกายหอมของเธอทำให้เขายิ่งเตลิดไปกันใหญ่ ในเมื่อเหยื่อสมยอมให้เขากินขนาดนี้มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ ถ้าเธออยากนักเขาก็จะสนองให้เอง อารมณ์เขาคุกรุ่นเริ่มรุนแรงจนมันดันเป้ากางเกงออกมาจนตุง เขาแทบจะทนไม่ไหวเมื่อเห็นเนินสองเต้าของเธอเต็มตาขนาดนี้เลยก้มลงไปจูบและดูดริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่หญิงสาวก็ยังนอนไม่ได้สติ เสี้ยววินาทีที่เขาฉุกคิดขึ้นมา “แบบนี้มันเรียกว่าข่มขืนนี่หว่า” เขาดันตัวเองขึ้นจากร่างบางอย่างตัดใจ “แม่งเอ้ย เกือบงานเข้าแล้วกู” เขารีบดึงผ้าห่มมาคลุมให้เธอเพื่อปกปิดเนื้อนวลขาวที่ล่อสายตาของเขาอยู่ เขาเดินหาเสื้อคลุมและหมวกแก๊ป เพราะไม่รู้ว่าเขาโยนมันไปทางไหนบ้างบวกกับความสับสนที่ความคิดและความรู้สึกของตัวเองมันสวนทางกันจนมันเกิดการต่อสู้ภายในจิตใจของเขาอย่างหนัก เมื่อเขาคิดได้เช่นนั้นก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องของเธอไปอย่างรวดเร็วตอนพิเศษที่1ที่โรงเรียนมัธยม“เฮ้ยต้า มานี่เร็วมัวมองอะไรอยู่” เพื่อนชายถามเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่กำลังนั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่หลายคน“เปล่า กูไม่ได้มองนี่” ต้าปฏิเสธ“มึงมองน้องวาโยเหรอ”“เออๆ กูมองน้องเขา กูสงสัยว่าทำไม น้องเขามองกูจังวะหรือกูหน้าแปลกวะ”“แปลกอะไร มึงน่ะหล่อ สาวๆก็อยากมองเป็นธรรมดา ไปเร็วไปนั่งใต้ร่มไม้นั่นกัน” เพื่อนของต้าดึงให้เขาลุกขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ ในขณะที่ต้าเองก็แอบมองวาโยที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆที่หน้าโรงเรียนหลังเลิกเรียนต้าเห็นว่าวาโยยืนคุยอยู่กับสินท่าทางสนิทสนมคงจะเป็นแฟนกันสินะเขาคิดในใจ“มีแฟนอยู่แล้วยังมามองผู้ชายคนอื่นอีก” ต้าบ่นลอยๆแล้วเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นว่าสินเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และวิ่งออกไปส่งให้กับวาโยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เอาแต่จ้องมองเขานั่นเองเช้าวันต่อมา เขาเห็นวาโยนั่งมอไซค์มากับสินก็เลยยิ่งเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขาเลยไม่อยากสุงสิงกับแฟนใครและเลือกที่จะทำตัวนิ่งๆ หยิ่งๆ ดีกว่าเพราะหลังจากเรียนจบม.6 ต้าก็จะไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใ
“เห็นรอยสักพี่แล้วดิ เขินจัง” ต้าเกาหัวแก้เขิน“เห็นแล้วค่ะ หนูชอบมากนะคะ” ต้าถึงกับเอามือของเธอไปหอมอย่างรักจนสุดใจ“แล้วเรื่องลูกเขยแบบพี่ล่ะครับจะทำไง” ต้าถามอีกครั้ง“หนูยังไม่พร้อมค่ะ หนูต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษอีก” “ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ ไปกับใครล่ะ”“หนูสอบได้ทุนค่ะ ไปเรียนคนเดียวยื่นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ”“ดีเลย บ้านพี่ก็อยู่ที่อังกฤษไว้รอโยเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ ก็ประมาณสองปีสินะ”“แต่งงานเหรอคะ พี่ยังไม่เคยบอกรักหนูเลยจะแต่งได้ไงคะ”“ใครบอก พี่บอกรักเธอตั้งนานแล้วนะ เธอไม่สังเกตเอง”“ตอนไหนคะ” “ก็อิโมจิรูปหัวใจไง ที่พี่บอกรักเธอ ขนาดพี่ยังไม่เคยส่งให้แม่พี่เลยนะ เธอเป็นคนเดียวที่พี่ส่งให้”“อิโมจิรูปหัวใจใครก็ส่งได้ค่ะ”“พี่รักโยนะ พี่อยากอยู่กับเธอคนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มหน้าบาน“หนูก็รักพี่ต้าค่ะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”“อันนี้พี่รู้แล้ว อยากให้พี่บอกรักโยเยอะๆไหม ชอบฟังไหม”“ชอบค่ะ ชอบฟัง” หญิงสาวพยักหน้าใสซื่
“แฟนพี่ต้าไงคะ”“แฟนพี่เหรอ ไม่จริงมั้ง พี่ไม่มีแฟน พี่ยังบอกเธออยู่เลย” เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองเธอที่ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่“เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้านี่คะ เป็นตัวจริงของพี่ต้า หนูก็เลยต้องออกมาโดยไม่ได้บอกพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่มองหน้าของหญิงสาวแล้วสบตาที่สั่นไหวของเธอเหมือนคนจะร้องไห้“ใช่วันที่พี่บอกว่า...จะลงไปเอาชุดกับผู้จัดการที่รออยู่ข้างล่างใช่ป่ะ ใช่วันนั้นไหมเพราะวันนั้นแหละที่พี่เจอโน้ตที่เธอเขียนด่าพี่แล้วแปะไปที่กล่องถุงยาง วันนั้นพี่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ไหม”“ใช่ค่ะ วันที่พี่ลงไปเอาชุด แต่หนูไม่ได้เขียนนะคะหนูจะเขียนด่าพี่ทำไม ก็พี่บอกหนูแล้วว่าไม่อยากวาดฝันให้หนู” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจ ต้าจึงลุกขึ้นสวมกอดเธอ แล้วเดินไปหยิบโน้ตที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องประดับมาคลี่ออกแล้วส่งให้เธอดู“หนูไม่ได้เขียนซะหน่อยไม่ใช่ลายมือหนูเลย แต่ด่าแรงมากนะคะ ใครบังอาจมาด่าพี่ต้าของหนู อุ้ย” เธอรีบเอามือปิดปากเมื่อหลุดพูดว่าพี่ต้าของเธอต้าอดใจไม่ไหวจึงจุ๊บเบาๆไปที่ริมฝีปากของเธอเพราะถูกใจที่เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้
“สกปรก” เธอเอ่ยมาสั้นๆ“ใช่สกปรก เธอพูดถูกแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วย“อย่ามาดูถูกหนูนะพี่ต้า หนูไม่ชอบ ถ้าไม่อยากถ่ายแบบก็ไม่ต้องถ่ายไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลย”“พี่ดูถูกอะไร พี่แค่จะให้เธอทำความสะอาดห้องที่มันสกปรกอยู่นี่ไง ไม่ได้อยู่มาหลายเดือน ฝุ่นมันก็เกาะหนาไปหมด เธอเข้าใจว่าอะไร” เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบโต๊ะแล้วหงายมือมาดูฝุ่น ทำอย่างกับว่าฝุ่นหนาเตอะทั้งที่เมื่อวันก่อนแม่ของเขาเพิ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเบียดดันเธอเข้าไปจนชนมุม“หนูก็คิดว่า… ช่างมันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับดันอกกว้างของเขาออก“คิดเรื่องอย่างว่าเหรอ เธอนั่นแหละคิดทะลึ่ง ทำความสะอาดมันก็ต้องใช้ร่างกายใช้แรงทั้งนั้น ฟุ้งซ่านนะเราน่ะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู วินาทีนี้เองที่เขาเห็นวาโยมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้นและเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะเธอหน้าแดง แถมยังหลบตาก้มหน้าอมยิ้มอยู่ แต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากให้เธอเขินอายจนหนีเขาไปนั่นเอง“งั้นตกลงค่ะ แต่ช่วยลดราคาให้ถูกลงเยอะๆหน่อยนะคะ เพราะหนูจะทำความสะอาดให้สุด
วันนี้แม่มาหาวาโยที่คอนโดเพราะมีเรื่องให้ช่วย เนื่องจากแม่ของวาโยนั้นทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองและยังขาดนายแบบมาช่วยโฆษณาให้ ซึ่งแม่ของเธออยากให้ต้าที่เป็นนายแบบเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายรูปกับเสื้อผ้าของเธอนั่นเอง จึงมาหาวาโยก่อนที่เขาจะกลับไปเมืองนอก เพราะสินบอกให้เธอมาหาลูกสาวให้ช่วยพูดกับเขาให้น่าจะได้เรื่องกว่าที่ตัวสินพูดเอง“นะโยช่วยพูดกับพี่เขาหน่อย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”“แม่คะ หนูไม่ได้สนิทกับพี่ต้าแล้วนะคะ”“งั้นแสดงว่าเคยสนิทสิ ถ้าแบรนด์เสื้อเราดังขึ้นมาเรารวยเลยนะโย ลองคิดดูสินายแบบดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อเราจะดังขนาดไหน คนก็ต้องให้ความสนใจแล้วมาซื้อกันเยอะๆ แน่เลยแล้วอีกอย่างผ้าที่แม่นำมาตัดเย็บก็อย่างดีเลยนะรับรองนายแบบคนนั้น ไม่อายแน่ๆ แม่เอาแบบเสื้อมาให้ดูแล้ว เขาชอบไม่ชอบยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ดีไหมลูก” แม่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ“งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะถามพี่เขาให้” เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่จะทำยังไงได้ล่ะ นี่มันธุรกิจครอบครัวของเธอ อีกหน่อยเธอก็ต้องมาดูแลต่ออยู่ดี ศึกษาไว้หน่อยก็แล้วกัน“ดีแล้วลูก ยังไงซะมันก็ต้องตกเป็นของหนู ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แม่จะรอฟังข่าวด
เมื่อต้าทานข้าวเย็นกับแม่ของเขาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตหรูที่เขาเอามาจอดไว้ที่บ้านแม่ขับตรงไปยังคอนโดของเขาทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่นานแล้ว แต่ภาพหลายๆ อย่างยังชัดเจนเมื่อนึกถึงโซฟาตัวนี้ที่เขาร่วมรักกับวาโยครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่กล่องถุงยางอนามัยจำนวนมากที่เขาเปิดใช้ไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นก็ยังอยู่ที่ชั้นวางเดิม“ฮึ หมดอายุแล้วเหรอ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพลิกดูฉลากข้างกล่องก็อดขำไม่ได้“แกนี่น่าสงสารกว่าฉันอีกนะ อยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วก็หมดอายุไป” เขาหยิบมันทิ้งลงไปในถังขยะทันที แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เคยมีหญิงสาวมานอนข้างๆ“ป่านนี้ ไปเป็นแฟนคลับของใครอยู่นะ” เขาพูดบ่นลอยๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู กดไปยังแอปอินสตาแกรม แล้วเปลี่ยนแอคเคาท์หลุมเพื่อไปส่องโปรไฟล์ของวาโย“ก็ดูมีความสุขดีนี่” เขาเลื่อนจนไปเจอรูปหนึ่งที่ถ่ายกับเพื่อนๆ ของเธอมีทั้งหญิงและชายหลายคน แต่เขาสังเกตได้ว่าในภาพมีผู้ชายโอบเอวของวาโยอยู่“มันเป็นใครวะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว” เขาเลื่อนๆ ดูไปหลายภาพ บางภาพเขาก็เคยดูแล้ว แต่มือดันลั่นไปกดถูกใจในรูปภาพของเธอเข้าให้ งานเข้าแล้วแต่นี่มันเป็นแอคหลุมของเขา