ไอ้สิงห์ก้าวเดินไปตามทาง พร้อมกับหันไปเห็นร่างอรชรที่กำลังนั่งร้อยมาลัย รับลมอยู่กลางศาลาน้ำ เหล่าฝูงปลาแหวกไหว้ ดอกลั่นทมตามสะพรั่งทั้งสวน หัวใจของมันรู้สึกสั่นไหว มันมิรู้จักสู้หน้าระย้าแก้วเช่นไรเพราะบัดนี้นางได้เปลี่ยนไปสิ้นตั้งแต่วันที่มันได้เห็นแววตาคู่นั้นที่ว่างเปล่า "ระย้าแก้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เสียงแผ่วเบาราวกับสายลมจากปากของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงคุ้นหู จึงหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ในขณะที่สองมือยังคงร้อยมาลัยดอกลั่นทม นางปรายตามองไอสิงห์ด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่มีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ในดวงตาผู้สวย "ลมอันใดหอบพี่มาที่นี่เล่า เหตุใดวันนี้พี่จึงมาเรือนของข้าได้..พี่มาผิดเรือนหรือไม่..? ข้าจะต้องขออภัย ที่ไม่สามารถต้อนรับพี่ได้ในเพลานี้ พี่กลับไปเสียเถิด" ในรอบหลายวันนี่เป็นประโยคยาวๆ ประโยคแรกที่ระยะแก้วได้พูด ระย้าแก้วปรายตามองไอ้สิงห์เพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปร้อยมาลัยดอกลั่นทมต่อ ปากก็พูดแต่มิหันไปมองหน้าไอ้สิงห์เลย "เอ็งไม่ต้องไล่ข้าดอก ข้าแค่อยากจะมาดูว่าเอ็งตายหรือยัง เพราะเห็นข่าวว่าจับไข้เสียหลาย"วันไอ้สิงห์ยังคงหยิ่งทรนง แลปากดีดั่งเคย "แค่นี้ใช่หรือไม่ ที่พี่อยากจะรู้"ระย้าแก้วยังคงนั่งร้อยมาลัย ดวงตาคู่สวยหันกลับไปมองแล้วสงบนิ่ง "เจ้าอย่ามาทำอวดดีกับข้านักนะ ระย้าแก้ว ข้าอุตส่าห์มาดูเจ้าถึงที่นี่"ไอ้สิ่งยังคงคิดว่าจะพูดอย่างไรก็ได้กับระย้าแก้วดังเช่นเคย "ข้ามิได้ดื้อถือดีดอกหนาพี่สิงห์ ข้าแค่เหนื่อยเกินกว่าจะเถียงอันใดกับพี่ แลข้าก็มิได้ร้องขอให้พี่มาดูใจข้าหนากลับไปเสียเถิด" ไอ้สิงห์จ้องมองใบหน้าสวย ที่บัดนี้เย็นชาจนหัวใจมันเย็นวาบตามไปด้วย นางมิหันกลับมามองไอ้สิงห์เลยแม้แต่น้อย แลยังคงนั่งร้อยมาลัยชมดอกไม้โดยไม่สนใจไอ้สิงห์ ไอ้สิงห์ที่เห็นท่าทีอวดดีท่าทางที่เปลี่ยนไปของระย้าแก้ว ทำให้มันโมโหจนเลือดขึ้นหน้าอยากจะเอาชนะเด็กดื้อคนนี้ มันเดินเข้าไปใกล้ระย้าแก้วเอาใบหน้าหล่อเหลาไปชิดข้างแก้มของระย้าแก้ว "เอ็งจักทำเยี่ยงนี้ทำไมเล่า บัดนี้ข้าก็มาอยู่ตรงหน้าเอ็งแล้ว เอ็งอยากได้ข้าเป็นผัวนักมิใช่รือ"ไอ้สิงห์ก็ยังคงใช้คำพูดทำร้ายจิตใจของระย้าแก้วอยู่เช่นเดิมทั้งที่อยากจะคุยกับระย้าแก้วดีๆ "หากพี่จะมาทำร้ายหัวใจข้าอีกครา ข้าว่าพี่กลับไปเถิดหนา" ระย้าแก้หันหน้าหนีไอ้สิงห์พร้อมกับยังคงนั่งร้อยมาลัยดอกลั่นทมอย่างสงบนิ่งเฉกเช่นไอ้สิงห์เป็นธาตุอากาศ "เอ็งมันดื้อนักระย้าแก้ว อย่าให้ข้าจักต้องเหลืออดกับเอ็งนะ" ไอ้สิงห์จับข้อมือของระย้าแก้วให้หยุดจากการร้อยมาลัยแล้วหันกลับมาสนใจตนเอง "พี่ทำกระไรของพี่ นี่มันเรือนของพ่อกับแม่ข้าหนาช่วยไว้หน้าพ่อแม่ข้าด้วยเถิด กลับไปเสียอย่าให้ข้าจักต้องเอ่ยปากไล่พี่อีกคราเลย"ระย้าแก้วเหลืออด ไอ้สิงห์กัดฟันแน่นจนกรามเส้นขึ้นข้างขมับเต้นตุบๆ อย่างควบคุมไม่ได้ มันโกรธแทบเลือดขึ้นหน้าเพราะเห็นความดื้อดึงของระย้าแก้วที่มันไม่เคยเจอ อุ๊บ ฮืม...!! ไอ้สิงห์ก้มลงไปประกบจูบที่ริมฝีปากบางด้วยความโมโหที่นางดื้อดึงแลหยิ่งยโสใส่ตนเองไอ้สิงห์รับไม่ได้มันต้องการเอาชนะระย้าแก้ว เพียะ เพียะ..!! เสียงตบหน้าฉาดใหญ่ลงบนใบหน้าหล่อเหลาของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วสะบัดมือออกจากการจับกุมของไอ้สิงห์และกับโมโหกับสิ่งที่ไอ้สิงห์ได้ทำ ราวกับตนเป็นของไร้ค่า"อย่ามาทำแบบนี้กับข้าอีก..!!พี่ไม่มีสิทธิ์แต่ต้องตัวข้าหนา" "หากข้ามิมีสิทธิ์ ผู้ใดเล่าถึงมีสิทธิ์ ได้จับต้องเอ็ง..!!!"ไอ้สิงตวาดเกล้า เพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนหยามหน้า ความโกรธแล่นผ่านเลือดภายในกายเหมือนดั่งเปลวไฟพร้อมจากปะทุทุกเมื่อ "ผู้ใดก็ได้ที่เขาจะมาเป็นผัวของข้า หากแต่บุรุษผู้นั้น บัดนี้มันมิใช่พี่อีกต่อไป แล้วพี่ก็กลับไปซะ อย่าให้ข้าต้องรู้สึกรังเกียจพี่เยี่ยงกับไส้เดือนกิ้งกือเลยหนา" คำพูดที่ระย้าแก้วพูดออกมาช่างคุ้นหูเสียเหลือเกินเพราะมันเป็นคำพูดที่ไอ้สิงห์เคยพูดกับนางเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ไอ้สิงห์ที่กำลังสติหลุด เมื่อเพียงแค่คิดว่าจะมีชายอื่นมาครอบครองความรักของระย้าแก้วที่มีต่อมันที่เคยเป็นของมัน มันมิอาจยอมให้ความรักของระย้าแก้วตกไปเป็นของชายอื่น แม้ความรักนี้ไอ้สิงห์จักไม่ต้องการแต่ก็จะต้องเป็นเพียงเขาเท่านั้น ที่ได้เชยชมความรักของระย้าแก้ว "ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะพี่..!! หากพี่ยังทำเยี่ยงนี้กับข้าอีก ข้าจะร้องเรียกบ่าวในเรือน แลพ่อกับแม่ถ้ามาช่วย"เดี๋ยวนี้ระย้าแก้วเริ่มขู่ไอ้สิงห์ ไอ้สิงห์ยกยิ้มมุมปากเพราะมันต้อนระย้าแก้วให้ลุกขึ้นถอยหลังจนหลังติดเสา มิอาจหลบเลี่ยงร่างกายกำยำของมันได้อีก "เยี่ยงอะไรเล่า แม่คนเก่ง อยากจะตะโกนเรียกผู้ใดมาช่วยก็เอาสิ คนทั้งเรือนของเอ็งจักได้เห็น ข้าได้จูบเอ็ง"ไอ้สิงห์พูดเยี่ยงคนมีชัยพร้อมยกยิ้มเจ้าเลห์ "พูดออกมาได้เยี่ยงไรหน้าตาเฉย พี่มิรู้สึกผิดกับแม่จันทร์แรมบ้างหรือ อะไรดลใจใหัข้าชอบพี่ เหตุใดข้าจึงหลงรักผู้ชายเยี่ยงพี่ได้"ระย้าแก้วด่าทอไอ้สิงห์อย่างไม่ไว้หน้า สัญชาตญาณบางอย่างในกายของไอ้สิงห์ถูกปลุกเร้าอยากจะเอาชนะ มันแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงต่ำ "เมื่อก่อนผู้ใดเล่า วิ่งเข้าหาข้าระริกระรี้ อยากจะได้ข้าเป็นผัวจนตัวสั่น เหตุใดวันนี้จึงทำท่าทีรังเกียจข้าเยี่ยงนี้เล่า..! หากแต่เจ้าควรจักดีใจที่ข้าอุตส่าห์มาดูเจ้าจนถึงเรือนนะ" ไอ้สิงห์ก้มไปกระซิบข้างใบหูของระย้าแก้วมันกลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มันไม่เคยได้สังเกตใบหน้าดวงเนียน ผมดำสลวยปากเล็ก จมูกหน่อยชวนหน้าหลงไหล มันพินิจพิเคราะห์ระย้าแก้ว สวยดังเช่นที่ผู้คนกล่าวขานว่างามเยี่ยงนางบุษบาจริงๆ ไอ้สิงห์ใช้มือหนาหยาบกร้านสัมผัสแผ่วเบาไปที่เส้นผมสลวยชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม "ข้าบอกให้พี่ออกไปอย่างไรเล่า...!!ไปซะ"ระย้าแก้วรวบรวมกำลังเล็ก ๆ ที่มีผลักไปที่อกแกร่งของไอ้สิงห์แต่ก็หาได้ระคายเคืองผู้ชายอกสามศอกเยี่ยงมันไม่ "จากวันนี้ไปเอ็งกับข้า มาลองดูกันว่าผู้ใดจะแน่กว่ากัน หากเจ้าคิดว่าเอ็งจักหนีข้าไปได้ก็หนีไป" ไอ้สิงห์ใช้มือหนาลูบไล้ไปบนใบหน้างาม มือเรียวทั้งสองข้างถูกล็อคตรึงโดยมือของไอ้สิงห์ และทำบางอย่างบ้าคลั่งด้วยการก้มลงไปหอมแก้มซ้ายขวาของระย้าแก้ว ฟอด ฟอด! ระย้าแก้วถึงกับตกใจตาโต กับความบ้าบิ่นมุทะลุของไอ้สิงห์ หากแต่ย้อนไปเป็นเมื่อก่อนไอ้สิงห์ทำเช่นนี้นางคงรู้สึกดีจนตัวลอยเบาหวิวแต่บัดนี้กลับรู้สึกขยะแขยงในการกระทำที่บ้าบอของไอ้สิงห์ เพียะ! ระย้าแก้วสะบัดมือเรียวพร้อมกับฟาดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของไอ้สิงห์อีกที "พี่อย่ามาทำเยี่ยงนี้กับข้านะ พี่มิได้เป็นกระไรกับข้า บัดนี้ร่างกายของข้า หัวใจของข้ามันกลับมาอยู่ที่ข้ามิใช่อยู่ที่พี่ แลข้าจะเก็บไว้ให้ผู้ชายที่จะมาเป็นผัวของข้าในอนาคตเท่านั้น..!! ระย้าแก้วทั้งตบตีและด่าทอไอสิงห์ "ก็ลองดูว่าผู้ใดมันจะกล้าพรากเอ็งไปจากข้า..หากใครมันกล้า ข้าจักให้มันไปเฝ้ายมบาล.!!" ไอ้สิงห์ที่อยากจะเอาชนะระย้าแก้ว แม้ปากจะบอกมิรักมิใคร่ที่จะอยากได้ระย้าแก้วเป็นเมีย แต่เวลานี้กับมิต้องการให้ชายใดได้เชยชมดอกไม้ดอกนี้
ไอ้สิงห์ก้าวเดินไปตามทาง พร้อมกับหันไปเห็นร่างอรชรที่กำลังนั่งร้อยมาลัย รับลมอยู่กลางศาลาน้ำ เหล่าฝูงปลาแหวกไหว้ ดอกลั่นทมตามสะพรั่งทั้งสวน หัวใจของมันรู้สึกสั่นไหว มันมิรู้จักสู้หน้าระย้าแก้วเช่นไรเพราะบัดนี้นางได้เปลี่ยนไปสิ้นตั้งแต่วันที่มันได้เห็นแววตาคู่นั้นที่ว่างเปล่า "ระย้าแก้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เสียงแผ่วเบาราวกับสายลมจากปากของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงคุ้นหู จึงหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ในขณะที่สองมือยังคงร้อยมาลัยดอกลั่นทม นางปรายตามองไอสิงห์ด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่มีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ในดวงตาผู้สวย "ลมอันใดหอบพี่มาที่นี่เล่า เหตุใดวันนี้พี่จึงมาเรือนของข้าได้..พี่มาผิดเรือนหรือไม่..? ข้าจะต้องขออภัย ที่ไม่สามารถต้อนรับพี่ได้ในเพลานี้ พี่กลับไปเสียเถิด" ในรอบหลายวันนี่เป็นประโยคยาวๆ ประโยคแรกที่ระยะแก้วได้พูด ระย้าแก้วปรายตามองไอ้สิงห์เพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปร้อยมาลัยดอกลั่นทมต่อ ปากก็พูดแต่มิหันไปมองหน้าไอ้สิงห์เลย "เอ็งไม่ต้องไล่ข้าดอก ข้าแค่อยากจะมาดูว่าเอ็งตายหรือยัง เพราะเห็นข่าวว่าจับไข้เสียหลาย"ว
มือหนาเย็นเฉียบ โอบกอดไปที่ร่างอรชรที่ไร้สติ แม้คนข้างหลังจะห้ามปรามไอ้สิงห์ ให้วางร่างของ ระย้าแก้วลง แต่มันกลับดื้อดึงไม่ยอมปล่อยและเดินตรงกับเรือนอย่างรวดเร็ว ไอ้สิงห์ก้าวขึ้นเรือนของพ่อหมอไทยด้วยความช่ำชองแล้วตรงเข้าห้องของระย้าแก้วทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดมันจึงรู้ว่าห้องไหนเป็นของนาง"ขอบน้ำใจพ่อสิงห์ ที่อุตส่าห์อุ้มลูกสาวข้า มาส่งถึงที่เรือน หากแต่มิมีอันใดน่าเป็นห่วงแล้ว พ่อกลับเรือนของพ่อเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากไล่ไอ้สิงห์ทันที"แต่ว่า...!!!" ไอ้สิงห์จะเอ่ยปาก ขออยู่รอดูอาการของระย้าแก้ว แต่กลับมิมีโอกาส"ถือว่าข้าขอพ่อสิงห์สักครั้งเถิด พ่อกลับเรือนของพ่อไปก่อนหนา ให้ข้าได้รักษาลูกสาวข้าด้วยเถิด" พ่อหมอไทยส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังไอ้สิงห์จำใจต้องลุกขึ้น เดินออกจากเรือน พร้อมกับความรู้สึกผิดพรั่งพรู ในหัวใจของมันตีกันวุ่นไปหมด ไอ้สิงห์เดินลงมายืนอยู่ตรงหน้าเรือนอย่างสงบนิ่งพาลคิดทบทวนเรื่องราวมากมายของตนเอง พร้อมกับปลายตาหันกลับไปมองชายคาห้องของระย้าแก้ว"กลับเรือนเถิดพี่สิงห์ ประเดี๋ยวเอาไว้แม่ระย้า
"พี่สิงห์..พี่สิงห์..!! อยู่ที่ใด พี่เกิดเรื่องใหญ่แล้ว..!!"เสียงไอ้ดำวิ่งหน้าตั้ง มาตั้งแต่ไก่โห่ฟ้ายังมิสางดี"มึงแหกปากทำกระไรแต่เช้าฮึ..ไอ้ดำ คนในเรือนของข้ามิกันตกใจหมดรึ..ถ้าหากมันมิสำคัญเยี่ยงที่มึงกล่าวกูจะสั่งเฆี่ยนมึงให้หลังลายไอ้ห่านี่..!!!"พี่สิงห์ไปกับข้าเถอะ อย่ามัวชักช้า"ไอ้ดำที่วิ่งขึ้นเรือนไปอย่างรีบร้อนลนลาน พอไปถึงตรงชานเรือนที่ ไอ้สิงห์อยู่มันรีบจูงมือไอ้สิงห์ลงเรือนทันที"เอ็งจะพาข้าไปที่ใด ให้ข้าได้ใส่ผ้าผ่อนให้มันเรียบร้อยเสียก่อนเถอะ""จ้ะพี่งั้นพี่รีบไปเลย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้ พี่เชื่อข้าสักครั้งเถอะ"ไอ้สิงห์ที่ใส่เสื้อเรียบร้อย มันก็รีบเดินลงเรือนไปพร้อมกับไอ้ดำ ทั้งที่มันยังไม่รู้เลย ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นเหตุใดจึงใหญ่โต ขนาดที่ไอ้ดำมาที่เรือนแต่เช้ามืด"พี่พูดอันใดกับคุณหนูระย้าแก้ว เอาไว้เมื่อวานนี้หรือไม่..ขอรับ? ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้วหนา"ไอ้ดำที่เดินไปด้วยพูดไปด้วย"เมื่อวานข้าพูดอันใดกับนาง..?เกิดอันใดขึ้นมึงเล่ามาให้ละเอียดทีเถิด"ไอ้สิิงห์เริ่มมีท่าทีร้อนรน
คำพูดที่พล่อย ๆ พูดโดยมิไตร่ตรอง พูดโดยไมิคิด ไอ้สิงห์มิรู้เลยว่า คำพูดของมันนั้นมีความหมายกับหัวใจของระย้าแก้วมากเพียงใด ระย้าแก้วจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจักนั่งรอไอ้สิงห์จนถึงเช้าดังเช่นที่ไอ้สิงห์ได้ลั่นคำ"ได้หากพี่รับปากข้าเช่นนั้น ข้าจะทำให้พี่ได้เห็น ว่าข้าจักมิผิดคำพูดกับพี่ แม้สักนิดเดียว"ระย้าแก้วตะโกนไล่หลัง"หากเอ็งทำได้เยี่ยงปากพูด ข้าจักทำตามคำพูดเช่นกัน"ไอ้สิงห์คิดอยู่ภายในใจว่าแม่หญิงอย่างระย้าแก้วนั้นมิอาจทำได้ดั่งเช่นคำที่พูดดอกผ่านมาหลายชั่วยาม ระย้าแก้วยังคงนั่งอยู่ที่เถาวัลย์ชิงช้า โดยมิลุกไปที่ใด จนเป็นที่ผิดสังเกตของแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"อีแตง..! คุณหนูของมึงอยู่ที่ใดกันเล่า เหตุใดจึงยังมิกับเรือน.?" แม่ศรีนวลหันไปถามบ่าวคู่ใจของระย้าแก้ว"คุณหนูขอนั่งเล่นกง น้ำตกหนาเจ้าคะแม่นาย หากแต่บอกว่าจะกลับไม่นานนักเจ้าค่ะ""แต่นี่มันก็หลายชั่วยามแล้วหนา พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงยังมิกลับ" มารดาอย่างแม่ศรีนวลเริ่มกับวันกระวายเป็นห่วงลูกสาว"กระนั้นบ่าวขออนุญาตแม่นาย ไปตามคุณหนูหนาเจ้าคะ."อีแตงรีบเสนอตัว"มึงชักช้าอยู่ใยเล่า รีบไปเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากแท
"ถึงพี่จะว่ากระนั้น ข้าก็ต้องขอบน้ำใจพี่ ที่พี่ได้ช่วยข้าหลายครั้งหลายครา" ระย้าแก้วเอ่ยคำขอบคุณ ไอ้สิงห์"ทูนหัวของบ่าว เรากับเรือนกันเถิดหนาอย่าอยู่ตรงนี้ให้เสียเวลาเลย นี่ก็ดูท่าอีกมินานฝนก็คงจะตก" อีแตงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของระย้าแก้วรีบพูดแทนผู้เป็นนายสองเท้าก้าวเดินออกอย่างมั่นใจ ว่าจะไม่หันกลับไปมองไอ้สิงห์ เพราะหากระย้าแก้วหันกลับไป น้ำตาคงได้อาบสองแก้มเป็นแน่"คุณหนูอย่าร้องไห้เลยหนา อย่าให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของคุณหนูอีกต่อไปคุณหนูของบ่าวเข้มแข็ง""ข้าขอบน้ำใจพี่แตง ยิ่งนักที่อยู่เป็นเพื่อนข้าเสมอ"อีแตงรีบประคองร่างอรชรของระย้าแก้ว นายทูนหัวที่มันรักหนักหนา มาให้พ้นจากตลาด ลัดเลาะมาจนถึงน้ำตกท้ายหมู่บ้าน ทางผ่านกลับบ้านของระย้าแก้วซึ่งน้ำตกกับบ้านของระย้าแก้วห่างกันไม่ถึงห้าสิบก้าว เรียกว่าใกล้มาก"พี่แตงไปที่เรือนก่อนเถิดหนา ข้าขอนั่งเล่นที่ชิงช้าเถาวัลย์สักครู่" หากข้าสบายใจขึ้นข้าจักได้กลับเข้าเรือน"คุณหนูจะเอาเยี่ยงนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แต่อย่านานนักหนานะเจ้าคะ หากแม่นายศรีไพรตามหา บ่าวจักถูกเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่""มินานดอกพี่แตง หากข้าสบายใจขึ้น ข้าจะรีบกลับเรือนทันที"อีแ
"พี่แตง ดูปิ่นปักผมอันนี้ซิ สวยเหลือเกิน ลายดอกไม้สวยตรงใจข้าเหลือเกิน" ระย้าแก้วยิ้มสดใส ในวัย 18 ปี งามใสพรั่งราวดอกไม้แรกแย้ม ความงามเลื่องลือไปทั่วคุ้งน้ำ แลหัวท้ายหมู่บ้านต่างพากันอยากเยินโฉมบุษบานางฟ้าเดินดิน"สวยมากเจ้าค่ะทูนหัวของบ่าวอยากได้กระนั้นหรือเปล่าจะได้ต่อราคาพ่อค้าให้"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงรีบจัดแจงให้กับเจ้านายผู้กายของมัน"ข้าอยากได้ปิ่นปักผมอันนี้พี่แตง"ระย้าแก้วที่ยิ้มสดใสอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ"จีนซื่อ ข้าเอาปิ่นอันนี้ให้กับนายของขา""ได้ ได้"แต่ยังไม่ทันได้เอาปิ่นปักผมมาใส่ตะกร้าสานของนางแตง ก็มีเรียวกระชากปิ่นออกจากมือของจีนซื่อทันที พร้อมกับทำท่าทีโอหังหันมามองหน้าระย้าแก้วอย่างโกรธเคือง นั่นคือจันทร์แรมที่ตอนนี้อายุอานามก็ปาไป 27 ปี จนจะเป็นสาวแร้งทึ้งอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ออกเรือน ข่าวคาว ๆ ก็เล็ดรอดให้ชาวบ้านได้พูดกันไม่เว็นแต่ละวัน จนไอ้สิงห์ระอา ถึงแม้ยังไม่เคยเห็นกับตาได้ยินกับหูแต่มันก็ไม่ได้โง่ดักดาน เพียงแต่ยังไม่ทันเห็นธาติแท้ของนางจันทร์แรมกับตาก็เท่านั้น"ข้าจะเอาปิ่นอันนี้จีนซื่อ ท่านต้องขายให้ข้า"จันทร์แรมที่สแยะยิ้มอย่างผู้มีชัย"ขอโทษอาคุงหนู
ไอ้สิงห์ที่ยังคงร่ำสุรา อยู่ที่ชานเรือนบนบ้าน มันเฝ้ามองระย้าแก้วมาเนิ่นนาน แม้มันจะลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่รับรักระย้าแก้ว เรื่องที่มันหวนคิดยังมิได้ครึ่งกับสิ่งที่มันทำ แต่บัดนี้หัวใจที่แข็งแกร่งของมัน ก็ว้าวุ่นมิน้อย มันดื่มหนักจนเมาหลับไปจนถึงเช้าวันแล้ววันเล่า ที่ระย้าแก้วเฝ้ารัก ทะนุถนอมเทิดทูนบูชาในความรักที่มั่นคงของตนเอง ที่มีต่อไอ้สิงห์แม้จักรู้ว่า ไอ้สิงห์มิมีใจให้ตนเองเลย และยังมีนางในดวงใจอย่างแม่จันทร์แรม .แต่ระย้าแก้วก็ยังคงตั้งใจตั้งมั่น สักครั้งในชีวิตนางคิดว่าหากมิทำกะไรสักอย่าง จะมาเสียใจภายหลังแต่หากทำเต็มที่แล้ว ยังมิสามารถเอาชนะใจไอ้สิงห์ได้ นางก็จะถอยออกมาเอง."คุณหนู..!! ทูลหัวของบ่าว จะไปที่ใดกันเล่าแต่งตัวเสียสวยเชียว"บ่าวคู่ใจอย่างนางแตงเอ่ยชมผู้เป็นนาย"วันนี้เห็นว่า พี่สิงห์จะคุมชาวบ้านซ้อมฟันดาบ ข้าอยากจะเอาน้ำมะลิใบเตย เอาไปฝากพี่สิงห์เสียหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน ๆ" ทุกครั้งที่ระย้าแก้วพูดถึงไอ้สิงห์นางมักจะยิ้มแย้มแจ่มใส"ไปทำไมเล่าทูนหัวของบ่าว คราวที่แล้วก็น้ำแกงราดตัวมาทีนึงแล้วหนา"นางแตงรู้สึกโกรธแทนระยาแก้วที่ไปทีไรก็มักจะมีเหตุมีน้ำตาหรือเจ
สภาพเสื้อผ้าสไบที่เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนสองแขนแดงเถือก น้ำตาไหลริน แต่นางกลับยังคงยิ้มส่งมาให้กับบ่าวคู่ใจเยี่ยงนางแตง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพี่ มันเป็นอุบัติเหตุหนา" ระย้าแก้วที่ปลอบใจนางแตงบ่าวคู่ใจ"อุบัติเหตุอันใดกันเล่า..! ข้าเห็นกับตาว่าพ่อสิงห์จงใจปัดกับข้าวจนหกรดคุณหนูเยี่ยงนี้""มิเป็นไรดอกพี่ เหตุก็เป็นเพราะข้า ที่จะมาวุ่นวายกับพี่เขา ตอนที่พี่สิงห์ยังคงเจ็บแผลอยู่เลยหงุดหงิดก็เท่านั้น"คำพูดภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาระย้าแก้วมักจะหาเหตุผลหักล้างการกระทำที่ไม่ดีของไอ้สิงห์เสมอ"เมื่อใดคุณหนูของข้า จักโตขึ้นแลคิดได้เสียทีหนาบุญคุณหากต้องทดแทน ไปตลอดชีวิตมันก็มิแปลกแต่หากทดแทน แล้วเขามิต้องการก็ควรหยุดเสียทีเถิด"อีแตงพยายามปลอบใจผู้เป็นนายของตนให้รู้จักความรักที่แท้จริงเสียที"เรากลับเรือนกันเถิดหนาคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัว"อีแตงประคองผู้เป็นนายกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อพายเรือกลับสาวน้อยในวัย 17 ปีถึงแม้จะไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงเป็นเช่นไร แต่นางก็ตั้งมั่นที่จะมอบกายถวายหัวใจให้กับไอ้สิงห์ระหว่างทางไปก็ราวกับฟ้าฝนเป็นใจตกห่าใหญ่ลงมา จนเรือแทบจะล่มกลางทาง กว่าจะถึงบ้านก็ทุลักทุ
หลังจากวันนั้นข่าวลือเรื่องผู้ชายสองคนต่อยตีกันแย่งหญิงสาวก็ลืมสะพัดทั่วทั้งหมู่บ้านทั่วคุ้งน้ำว่าลูกสาวแสนสวยของพ่อหมอไทยถูกผู้ชายรุมแย่งตัวส่วนไอ้สิงห์ก็เอาแต่ดื่มเมามายโวยวายซ้อมฟันดาบกับบ่าวในเรือนและเหล่าพลทหารที่ตรวจตารอบหมู่บ้านต่างมิมีใครกล้าเข้าหน้ามันสักคนเดียวจนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยกับลูกชาย"ไอ้สิงห์เอ็งเป็นกระไรของเอ็งเหตุใดจึงเอาแต่เมามายเยี่ยงนี้"ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นลูกชายของตนผู้เงียบขรึมกินเหล้าหัวราน้ำเช่นนี้ แถมยังมีข่าวลือหนาหูเรื่องชกต่อยกลางตลาดเพราะผู้หญิง"ข้ามิเป็นอันใดดอกพ่อ ข้ารู้สึกมีเรื่องให้ข้าต้องตัดสินใจหลายอย่าง ขอเวลาถ้าสักพักนึงเถิด"เสียงครางยานของไอ้สิงห์เอยบอกผู้เป็นพ่อคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด บนฟากฟ้า ไอ้สิงห์ที่นอนเมาอยู่ชานเรือน มันนอนน้ำตาไหลรินโดยที่มันก็ไม่รู้เหตุใดจึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ไอ้สิงห์หวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนที่มันได้ช่วยเหลือระย้าแก้วที่กำลังจมน้ำ จนทำให้ระย้าแก้วมอบหัวใจทั้งดวงให้กับมันแต่มันกลับไม่เห็นคุณค่าเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจของหล่อนย้อนไปเหตุการณ์วันที่ฟ้าฝนมืดครึ้มแต่ระย้าแก้วยังดื้อรั้นที่จะเอาบ