เวลาที่ผ่านไปไวมาก ตอนนี้ก็เกือบจะปลายภาคเรียนแล้ว วันเวลาเดินเร็วไปหมด และหากเปรียบเมืองไทยตอนนี้กับอะไรสักอย่างก็คงเป็นเตาเผาชั้นดี อากาศทั้งร้อนระอุ ตามเนื้อตัวนั้นแสบไปหมด และถ้ามันลอกออกมาเป็นแผ่นได้มันก็คงลอกออกมาเดี๋ยวนั้น วันนี้คนตัวเล็กมีเรียนในช่วงบ่าย แต่ที่มาเร็วก็เพราะต้องมาก่อนเวลาเพราะนัดเพื่อนทำงานกลุ่ม ช่วงสายของวันเพื่อนสาวคนสวยอย่างส้มโอก็ไม่เคยทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง หอบหิ้วเพื่อน ๆ มาทำงานกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาที่ห้องสมุด โดยที่ไม่ต้องโทร.ตามแม้แต่คนเดียว ซึ่งสิ่งที่ทำให้เพื่อน ๆ ทุกคนนั้นมาพร้อมเพรียงกันได้นั่นคือ ส้มโอจะเลี้ยงปิ้งย่างในเย็นวันนี้ แน่นอนของฟรี และของอร่อยใครจะไปยอมพลาดกัน
“วันนี้พร้อมเพรียงมาก ส้มโอรักทุกคนเลย”
“เธอก็พูดเกินไปแล้วส้มโอ” ลัลนาเอ็ดเพื่อนสาวอย่างเอ็นดูพลางหยิกไปที่แขนของเพื่อนสาวเบา ๆ
“ตอนนี้รายงานของพวกเราถึงไหนกันแล้ว” ส้มโอเอ่ยขึ้นเพราะครั้งก่อนเธอได้แจกแจงงานว่าทำอะไรบ้าง เพื่อถามความคืบหน้าของเนื้อหา
“ของเราข้อมูลที่ให้หาเราเอามาทั้งหมด 5 ที่อ้างอิง” คนตัวเล็กหยิบเอกสารที่สำเนาเอกสาร
ออกมาพร้อมกับแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ ได้ดู
การทำงานในช่วงสายดำเนินไปอย่างราบรื่นก่อนจะถึงเวลาเข้าเรียน และใช้เวลาไม่นานนักการเรียนก็จบคลาสเพราะครึ่งชั่วโมงเเรกเป็นเพียงแค่เรียนตามเอกสารเท่านั้น ทำให้เลิกเรียนเร็วกว่าปกติ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาส้มโอหิ้วเพื่อน ๆ ไปทำงานกลุ่มอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นร้านของพี่พีท
“แกพี่พีทอยู่ร้าน” ส้มโอสะกิดเพื่อนตัวเล็กให้หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่ที่เคาน์เตอร์เพื่อทำ
เครื่องดื่มให้ลูกค้า
“ฉันเห็นแล้ว ๆ ก็มองอยู่เนี่ย” ลัลนาเดินตามเพื่อน ๆ เพื่อหาที่นั่งสำหรับทำรายงานในร้าน แต่สายตาก็ยังคงมองชายหนุ่มเป็นระยะ
“เพื่อนคะ ทำงานค่ะ ผู้ชายเขาไม่หนีไปไหนเนอะ” ส้มโอเอ่ยแซวเมื่อเพื่อนสาวเอาแต่มองหาชายหนุ่ม
“อื้อ ทำงาน ๆ” หญิงสาวละสายตาแล้วหันมาสนใจงานตรงหน้าแทน แต่ก็ยังแอบมองเป็นช่วง ๆ
บรรยากาศภายในร้านยังครึกครื้นไปได้ผู้คนที่หลั่งไหลเข้าออกไม่ขาดสาย เพื่อนบางคนก็เลือกที่จะสั่งเครื่องดื่มกับขนมมาเพื่อรองท้องก่อนจะไปกินมื้อเย็นวันนี้ ลัลนาขอตัวเพื่อไปเข้าห้องน้ำ และเมื่อเดินออกมาระหว่างทางมีกลุ่มรุ่นพี่ที่นั่งอยู่และกำลังมองคนตัวเล็ก โดยที่คนตัวเล็กนั้นไม่ได้สังเกตว่าตนเองกำลังถูกมองอยู่ตลอดเวลา
เมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำเพื่อกลับมานั่งที่โต๊ะ เพื่อน ๆ ที่อยู่ที่โต๊ะก็มองกันเป็นตาเดียวพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มน่าสงสัยจนคนตัวเล็กต้องหันไปหาเพื่อนสาวเพื่อเอาคำตอบ แต่เพื่อนสาวเองก็ยิ้มแบบเดียวกันกับเพื่อนในกลุ่ม
“พวกเธอเป็นอะไรกันทำไมถึงมองฉันแบบนั้น” ลัลนาพูดกับส้มโออย่างสงสัยพร้อมกับจ้องอย่างเอาคำตอบ แต่เพื่อนสาวก็ยังคงยิ้มกริ่มไม่หยุด
“โอ๊ย เจ็บนะ” ส้มโอร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อเพื่อนตัวเล็กนั้นหยิกที่แขนอย่างแรง เพื่อจะเอาคำตอบจากเธอให้ได้
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ลัลนาทำหน้างอเมื่อรู้ว่าเพื่อน ๆ กำลังแกล้งเธออยู่
“บอกก็ได้ ๆ เมื่อกี้มีผู้ชายเดินเข้ามาถามหาเธอ”
“ใครเหรอ หรือว่า...”
“ไม่ใช่คนนั้น”
“...” เมื่อเพื่อนสาวเอ่ยขัด รอยยิ้มบนใบหน้าก็หุบลงทันทีอย่างผิดหวัง
“คนที่มาหาคือผู้ชายกลุ่มนั้นน่ะ เขาบอกว่าจะมาขอเบอร์แกกับพวกฉัน แต่ฉันบอกว่ารอแกมาก่อนแล้วค่อยมาขอเอง” ส้มโอเอ่ยก่อนจะยิ้มแซว แล้วดันแขนคนตัวเล็กเบา ๆ
“จริง เขาหล่อมากเลยนะนา” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ส้มโอเอ่ยอย่างสนับสนุน พร้อมกับยิ้มไม่ต่างจากส้มโอ
“แล้วเขาอยู่ไหนล่ะ” ลัลนาเอ่ยถามพลางมองหาไปทั่วร้าน ใจไม่ได้อยากให้เลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ใจของหญิงสาวมีเพียงพี่พีทที่เป็นรักแรกพบของเธอ
“อยู่ตรงนั้น” ส้มโอชี้ไปที่โต๊ะบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ มีกลุ่มชายสองสามคนที่กำลังยิ้มมาทางพวกเธอพร้อมกับลุกเดินมาหา ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ของพวกเธอ
ชายหนุ่มรุ่นพี่เดินมาที่โต๊ะของกลุ่มคนตัวเล็ก พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ ทว่าคนตัวเล็กกลับรู้สึกว่ามีเสน่ห์น้อยกว่าพี่พีทเยอะมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อตอนนี้เขาเดินมาถึงที่โต๊ะแล้ว พร้อมกับนั่งลงที่ข้าง ๆ หญิงสาว ที่มีที่ว่างอยู่พอสำหรับนั่งหนึ่งคนพอดี
“สวัสดีครับ” รุ่นพี่หันมามองคนตัวเล็กเหมือนกับล็อกเป้าหมายไว้แล้ว และพุ่งตรงมาที่คนตัวเล็กทันที
“ค่ะ... สวัสดีค่ะ” ลัลนามองคนตรงหน้าพร้อมกับค่อย ๆ ขยับออก
“พี่ชื่อฟิล์มนะ เราชื่ออะไรครับคนสวย”
“ชื่อนาค่ะ” ลัลนายิ้มตอบกลับตามมารยาท
“พี่ขอเบอร์เราหน่อยได้ไหมครับ” หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยขอเบอร์จากคนตัวเล็กด้วยสายตาแพรวพราว
“พี่คะ เหมือนเพื่อนหนูจะเขิน พี่ไว้มาหาใหม่ทีหลังได้ไหมคะ” ส้มโอเอ่ยขึ้นเพราะเหมือนจะเห็นอะไรผิดปกติ เพราะชายหนุ่มรุ่นพี่คนนี้เริ่มขยับเข้ามาหาเพื่อนสาวของเธอมากขึ้น
“แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมครับ” รุ่นพี่พูดพลางยิ้มไปด้วยเหมือนต้องการหว่านเสน่ห์
“ถ้าดวงเรามันใช่ เราก็จะมาเจอกันเองค่ะ พี่รบกวนขยับออกไปด้วยนะคะ” ลัลนาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรกับการกระทำของหนุ่มรุ่นพี่
ขณะที่หญิงสาวกำลังเอ่ยบอกรุ่นพี่ เจ้าของร้านก็เดินนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพร้อมกับมองมาที่ชายหนุ่มด้วยสายตาแปลก ๆ ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เห็นว่าครั้งนี้เหมือนจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ จึงถอยทัพกลับไปพร้อมกับมองมาที่พี่พีทด้วยสายตาไม่พอใจ ส่วนพี่พีทเองก็มองกลับไปเช่นกัน พี่พีทคงจะเห็นท่าไม่ดีที่มีคนมาทำเรื่องไม่ดีที่ร้าน
“ออร์เดอร์ได้รับครบนะครับ” พี่พีทเอ่ยถามพร้อมกับมองมาที่คนตัวเล็กด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ลัลนาหันไปขอบคุณชายหนุ่มที่เข้ามาได้จังหวะพอดี พร้อมกับยิ้มอย่างขอบคุณแอบคิดว่าที่เขามองหน้าพี่คนนั้น เพราะว่าเขาหวงเรา หรือว่าเขาหึงเราหรือเปล่านะ แต่จะบ้าเหรอ ตั้งสติสิยายนา แต่สายตาของเขาที่มองรุ่นพี่คนเมื่อกี้คือน่ากลัวมากเลย
“ไม่เป็นไรครับ น้อง ๆ มีอะไรก็เรียกได้เลยนะครับ”
“ถ้าไม่ติดว่าพี่เป็นเจ้าของร้าน พวกหนูคิดว่าพี่เป็นแฟนยายนานะคะเนี่ย” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมายิ้มให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งเขินจนตัวแดงไปแล้ว แถมมือยังกำกระโปรงแน่นด้วยความเขินอีกต่างหาก
“พอได้แล้วน่า มาสนใจงานเถอะ พี่พีทกลับไปทำงานเถอะค่ะ ก่อนที่เพื่อนหนูจะแซวหนูแล้วหนูละลายลงไปกองอยู่กับพื้นซะก่อน” คนตัวเล็กหันไปบ่นเพื่อนเพราะตอนนี้ตัวเองก็เขินแทบแย่แล้วแถมหัวใจก็เต้นแรงอีก แบบนี้พี่พีทก็ดูออกง่าย ๆ ก่อนจะเผลอไล่พี่พีทให้กลับไปทำงานอย่างลืมตัวว่าเขาเป็นเจ้าของร้าน จนชายหนุ่มแอบขำเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป
หลังจากที่ทุกคนทำงานกันจนเสร็จก็พากันออกไปกินปิ้งย่างตามที่ส้มโอได้พูดไว้ ก่อนกลับก็แวะทักทายพี่พีทอย่างเป็นกันเอง และเพราะว่าช่วงนี้ต้องรีบทำงานให้เสร็จเพราะใกล้จะสอบปลายภาคแล้ว และคนตัวเล็กก็ต้องรีบเตรียมอ่านหนังสือสอบ พร้อมกับเคลียร์งานที่ค้างคาไว้ด้วย งานที่ว่ามันจะท่วมหัวตายก็ตอนใกล้จบภาคเรียนเพื่อขึ้นปีสองนี่แหละ แค่คิดแล้วก็ปวดหัวแล้ว กลัวไม่ได้เจอพี่พีทด้วย
และในหลายอาทิตย์ถัดมาทุกคนต่างแยกย้ายกันเพื่ออ่านหนังสือและเคลียร์งาน หญิงสาวมีแวะไปที่ร้านพี่พีทบ้างในช่วงเย็นเพราะออกมาพักผ่อน แต่วันนี้เลือกที่จะเดินไปตลาดนัดใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย เพื่อหาของกินมื้อเย็น ระหว่างทางกลับก็เจอเข้ากับรุ่นพี่คนเดิมที่กำลังเดินสวนไป แต่แล้วชายหนุ่มก็เดินย้อนกลับมาเพื่อทวงสัญญาที่เคยคุยกันไว้ ว่าถ้าหากได้เจอกันอีกครั้งก็จะได้เบอร์ของหญิงสาวไป
“อ้าว น้องนา เจออีกกันแล้วนะเรา” รุ่นพี่เอ่ยทักอย่างร่าเริงพร้อมกับรอยยิ้มที่เขาเคยทำ
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“น้องบอกว่าถ้าเราได้เจอกันอีก...”
“หนูจำได้ค่ะ พี่เอาโทรศัพท์มาสิคะ” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงรีบ ๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์มาอย่างรวดเร็วแล้วกดเบอร์ลงไปให้ พร้อมกับส่งคืนแล้วเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณนะครับคนสวย เดี๋ยวพี่โทร.หานะคนดี”
ในบริเวณตรงนั้นไม่ได้มีแค่รุ่นพี่คนเดียว มันยังมีกลุ่มเพื่อนเขาอีกสองคนที่อยู่ตรงนั้นด้วย ลัลนาจึงเลือกที่จะออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพราะสถานการณ์ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจและมันอันตราย แต่ก็ไม่วายมีเสียงไล่ตามหลังมายิ่งทำให้ต้องรีบเดินกลับหอพักอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มยืนมองเธอจนพนักงานในร้านนั้นต้องสะกิดเขาให้กลับร้าน และนั่นคือครั้งแรกที่เขาเจอเธอ แล้วก็มาเจอเธออีกครั้งตอนที่ชนกันที่หน้าร้าน ความน่ารักที่เขาได้เห็นอย่างใกล้ชิดทำหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนกลองรัว แต่ก็ต้องผละออกจากเธอเพราะแถวนั้นคนเยอะและเขาเองนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากมองเธออยู่ห่าง ๆ และพยายามทำตัวไม่สนิทสนมกับเธอในตอนที่เธอนั้นมาที่ร้านของเขาบ่อย ๆ “พี่เจอหนูตอนที่หนูเต้น ๆ อยู่เหรอคะ น่าอายจริง ๆ แล้วพี่เขินหนูไหมตอนที่หนูแซวพี่ครั้งแรก” คนตัวเล็กซุกอกเขาอย่างเขินอายก่อนจะเงยหน้ามองเขา“ตอนนั้นพี่ทำตัวไม่ถูกอยู่นะ เพราะไม่เคยมีสาวคนไหนกล้าแซวพี่ ถึงเขาจะมาที่ร้านพี่แบบหนูทุกวัน” ในตอนนั้นเขาเห็นเธอมาร้านเขาทุกวัน พยายามมองหาเขา ในขณะที่เขาพยายามหลบเธอ มันน่าตลกดีเหมือนกัน ในใจเขาก็คิดว่าเธอคนนี้พยายามมากในการมาหาเขา แต่ก็ผิดที่เขาเองไม่ได้บอกเธอว่าเขามีแฟนแล้ว“ก็หนูชอบพี่มาก ๆ เลยนี่คะ ถึงหน้าพี่จะดูโหดแต่มันหล่อมากในสายตาหนู” คนตัวเล็กเงยหน้ามองแฟนหนุ่มพร้อมกับเบ้ปากด้วยหน้าตาน่าเอ็นดู พร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มอีกครั้งเป็นการให้รางวัลกับความหล่อ“พี
การกินอาหารในช่วงบ่ายจบลงพร้อมกับภาพที่บันทึกบรรยากาศรวมทั้งรูปคู่ของทั้งสองคน เมื่อกินเสร็จก็พากันเดินลงมาถ่ายภาพที่สวนด้านล่าง มันตกแต่งไปด้วยไม้ประดับรูปทรงต่าง ๆ และมีบ่อน้ำพุตั้งอยู่ที่กลางสวน อากาศที่ไม่ได้ร้อนมากเหมาะกับถ่ายภาพ ในตอนนี้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็มองไปที่คู่รักที่ยืนอยู่ที่ลานน้ำพุด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชมและอิจฉา“พี่พีทคะ ขอสวย ๆ เลยนะ จะเอาไปอวดคุณแม่” หญิงสาวเดินนำแฟนหนุ่มมาที่น้ำพุพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกครั้ง “โอเคครับ” สายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความสุขใจ ใบหน้าหวานและรอยยิ้มที่เขานั้นจะได้มองมันนับจากนี้และจะเป็นความสุขของเขาตลอดไป“ไปถ่ายตรงนั้นไหมคะ เขามีของตกแต่งให้เราถ่ายรูปด้วย” คนตัวเล็กเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ทางร้านจัดไว้และมีของน่ารักเต็มโต๊ะไปหมด มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ เธอหยิบส้มปลอมขึ้นมาพร้อมกับแนบที่แก้มของตัวเองทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มไปที่กล้องที่แฟนหนุ่มนั้นถือรออยู่เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกของทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มเขินอายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะบางรูปที่ถ่ายคู่กับแฟน
ทั้งคู่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมกับกินของว่างที่พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ และเดินทางออกมาเพื่อเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ สถานที่แรกที่จะไปคือชมไร่องุ่นที่ห่างจากบ้านชายหนุ่มไปไม่ไกล ได้เข้าไปดูการหมักไวน์ และกิจกรรมที่ทางไร่องุ่นจัดขึ้น ทั้งสองคนทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับแวะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน คนตัวเล็กเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมกับเรียกชายหนุ่มที่เดินจูงจักรยานตามมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าของเธอโดยที่ตัวของเธอนั้นพิงกับต้นไม้อยู่“พี่พีทจะทำอะไรคะ นาออกไปไม่ได้” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัย“พี่เหนื่อยครับ อยากได้พลัง” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับมองไปที่ดวงตาสวยอย่างทะเล้น“ก็นึกว่าอะไร” คนตัวเล็กโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเพื่อให้รางวัลและเติมพลัง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งคู่ออกเดินทางจากไร่องุ่นพร้อมกับไปที่โรงงานขนมหวานแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก ร่างเล็กเดินไปยังตู้ขนมหวานที่มีขนมวางเรียงรายอย่างน่ากิน เธอเดินไปดูตามตู้ต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่มากมายโดยมีชายหนุ่มนั้นเดินตามหลังมาติด ๆ เพราะมีสายตาจากหนุ่ม ๆ ภายในร้านนั้นมองเธอไม่วางตา“พี่พ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงสาวมีความสุขมากที่ได้มีแฟนหนุ่มคอยเคียงข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร หรือไปที่ไหนก็มีเขาไปด้วยทุกที่ และไม่ว่าเธอนั้นต้องการอะไรเขาก็หามาให้หมดทุกอย่างแบบไม่มีขัด ถ้าถามเรื่องของการทะเลาะกันไม่ใช่ว่าไม่มี ก็มีบ้างที่เป็นเธอเองที่งอแงใส่แฟนหนุ่ม แต่เขาก็มักจะใจเย็นกับเธอเสมอ อย่างเช่น ในวันนี้หลังจากที่เธอนั้นสอบปลายภาคเรียนจบแล้วเขาก็พาเธอมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เขาให้เหตุผลว่าเธอนั้นต้องการสิ่งที่เยียวยาจิตใจในตอนนี้เพราะเธอทั้งเรียนหนักและงานเยอะ ทำให้เธอเกิดอาการเครียดจนแฟนหนุ่มสังเกตได้ “พี่พีทคะตอนนี้เราจะไปไหนกันคะ” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังมุ่งหน้าไปทั้งสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้และภูเขาเต็มไปหมด “ไปบ้านของพี่กันค่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขับรถและเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ โชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อนมากเพราะมันใกล้จะเย็นแล้ว กว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็บ่ายแก่ ๆ “พี่มีบ้านกี่หลังกันคะ หนูชักจะสงสัยแล้วนะคะว่าพี่ทำงานถูกกฎหมายไหม พี่ไม่ได้โกหกอยู่ใช่ไหม” หญิงสาวถามอย่างสงสัยพร้อมกับหรี่ตามองเขาเชิงแกล้ง “คิดไปถึ
หลังจากที่ได้ไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน เธอนั้นรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากที่ได้เจอกับครอบครัวของเขา และเพราะได้การต้อนรับอย่างดี วันนี้เธอจึงจะพาเขามาพบกับครอบครัวของเธอบ้าง เธอก็หวังว่าเขาจะสบายใจและไม่อึดอัดกับบ้านของเธอ “พี่พีทตื่นเต้นเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถด้วยท่าเกร็ง ๆ และมีสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย จนเธอเองก็อดอมยิ้มไม่ได้เพราะเขาก็ไม่ได้ต่างจากเธอที่ไปพบที่บ้านเขาในวันนั้น แต่วันนี้แตกต่างตรงที่ว่าเราไม่ได้ค้างที่บ้านก็เท่านั้น “ก็นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของเธอที่มีบรรดาสาวใช้ยืนรออยู่แล้วไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร แต่บริเวณบ้านนั้นดูอบอุ่นและน่าอยู่มาก ๆ หญิงสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับป้าภาแม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กที่ยืนรออยู่ เธอเดินเข้าไปโอบกอดพร้อมกับแนะนำชายหนุ่มให้ได้รู้จัก ป้าภาดูชอบพี่พีทมากและเอ่ยชมความหล่อของร่างสูงไม่หยุด และไม่นานนักผู้เป็นประมุขของบ้านทั้งสองก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน “คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาท่านทั
ทางด้านของพ่อลูกที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดูจากสีหน้าพ่อแล้วชายหนุ่มก็รู้ว่าพ่อพอใจมากแค่ไหนกับแฟนคนนี้ของเขา แค่นี้ก็สบายใจแล้ว เขามองไปที่พ่อเหมือนท่านจะพูดอะไรบางอย่าง จนเป็นเขาเองที่พูดขึ้นมา“พ่อมีอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่าครับ” เขามองไปที่พ่อที่กำลังยิ้มมาให้“แค่รู้สึกว่ารอบนี้แกตัดสินใจได้ดี เธอน่ารักน่าเอ็นดู ดูจากที่แม่แกดีใจจนออกนอกหน้า คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ” คนพ่อพูดด้วยความดีใจและเป็นห่วง“รอบนี้ผมมั่นใจมากครับพ่อ เธอเป็นคนดีและน่ารักกับผมเสมอ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม“แล้วใครจีบใครก่อนล่ะ ดูแกมีความสุขมาก ดูหลงเขาแบบนี้พ่อก็พลอยดีใจไปด้วย” พ่อพูดด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกชายของเขานั้นกลับมามีความสุขอีกครั้งในรอบปี“ผมไม่บอกพ่อหรอก” เขาพูดก่อนจะเมินคำพูดของพ่อ มีหวังได้โดนล้อแน่นอน เขตแดนยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้เรื่องของนาก็ล้อทันทีที่มีคนมาจีบเขาก่อนสองพ่อลูกนั่งมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ชายหนุ่มมองพ่อของตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเสียงข้อความแจ้งเตือนธนาคารของตนที่ดังขึ้นเมื่อพ่อของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมาพอดี เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูท