“ใคร...คือ...ธิดา...ศักดิ์สิทธิ์...”ยักษ์ต่างเผ่าหมุนกาย ตะโกนถามทุกคนรอบข้างด้วยเสียงดังลั่นและเพราะคำไม่กี่คำที่เขาพูดออกมาล้วนเป็นภาษาจงหยวนดังนั้นทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจึงเข้าใจในทันทีตามหาธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?!สีหน้าของหลานซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเวินเยวี่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าดีใจขึ้นมาทันใด กำลังจะยกมือชี้มาที่นาง หลานซื่อก็รีบชิงตัดหน้านางในทันที...“นาง…”“นางคือธิดาศักดิ์สิทธิ์!”ยักษ์ต่างเผ่าถูกดึงดูดด้วยเสียงของนางดังคาด ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเวินเยวี่ย “ใคร! ใคร...คือ...ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”หลานซื่อชี้ไปที่เวินเยวี่ย “นาง! หญิงชาวจงหยวนผู้นั้น ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้ากำลังตามหา!”ที่นี่เกือบทุกคนเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าและแต่งกายแบบชาวต่างเผ่าแล้วมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้นที่ไม่ชอบสภาพที่ดูน่าเกลียดแบบที่ต้องเอาผ้ามาคลุมศีรษะ และไม่ชอบวาดลวดลายสีเขียว ๆ บนใบหน้า ดังนั้นถึงแม้นางจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าของสตรีชาวต่างเผ่าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผูกผ้าบนศีรษะเหมือนกับสตรีชาวต่างเผ่าด้วยเหตุนี้ยักษ์ต่างเผ่าผู้นั้นจึงมองตามนิ้วมือของหลานซื่อไป ก็เห็นใบหน้าที
“ผู้อาวุโส! ไต้ซือ! หากท่านยังไม่ลงมือ สิ่งที่เคยรับปากกับท่านไว้ก่อนหน้านี้จะไม่มีใครมอบให้ท่านได้อีก!”ครั้งนี้ คำขอความช่วยเหลือของเวินเฉวียนเซิ่งในที่สุดก็เรียกการตอบสนองจากคนที่อยู่ในเงามืดได้อีกครั้ง“ติ๊ง!”เสียงกระดิ่งดังขึ้นในป่าโดยพลันเสียงกระดิ่งนั้นไม่เพียงทำให้ฝูงแมลงพิษทั้งหมดชะงักงัน แต่ยังสั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนอีกด้วยตรงหน้าหลานซื่อพลันมืดลง รู้สึกได้เพียงว่าสายตาพร่ามัวไปชั่วขณะ ร่างกายของนางโอนเอนเล็กน้อย เกือบจะล้มลงกับพื้นเมื่อนางกัดฟันเพื่อตั้งสติได้ แล้วมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในใจก็พลันตื่นตระหนก“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสามารถทนต่อเสียงกระดิ่งมารได้”เอ้อถานหลัวค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด มองหลานซื่อที่ยังยืนอยู่ได้ในสถานที่นั้นเพียงผู้เดียว สายตานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจดวงตาชราภาพคู่นั้นพลันฉายแววเฉียบคมเพ่งพินิจหลานซื่ออย่างละเอียด ราวกับต้องการค้นหาสาเหตุจากตัวนางว่าเพราะเหตุใดนางถึงสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้แต่น่าเสียดาย เขาไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลยและด้วยเหตุนี้เอง สายตาที่เอ้อถานหลัวมองหลานซื่อจึงยิ่งเต็มไปด้วยความใคร่รู้และตื่นเต
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย รีบส่งของที่ข้าต้องการออกมาเดี๋ยวนี้”เมื่อทั้งสองพูดจบ บรรยากาศทั่วทั้งป่าก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้งทันทีหลานซื่อจ้องมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยสายตาเย็นชา“ดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ให้เจรจาแล้ว”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ “ลงมือ”หลานซื่อแสร้งทำเป็นออกคำสั่งกับผู้อื่น เอ่ยออกมาคำหนึ่ง และในวินาทีถัดมา...“ตูม!”ในชั่วพริบตา แมลงพิษนับไม่ถ้วนก็พลุ่งพล่านอยู่ใต้พื้นดินเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกยังไม่ทันรู้ตัว ก็เห็นแมลงสีดำสนิทหลากหลายชนิดผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบ ๆ ตัวพวกเขา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างเนืองแน่นเวินเฉวียนเซิ่งสะดุ้งตกใจในทันทีฝูงแมลงพวกนี้คือแมลงชนิดเดียวกับที่โจมตีเขาคราวก่อนที่บริเวณใกล้ภูเขาหนาน!เป็นไปตามคาดลูกสาวเนรคุณผู้นี้มีปรมาจารย์กู่คอยหนุนหลังอยู่จริง ๆ!เวินเฉวียนเซิ่งตะโกนเสียงดังทันที “ท่านผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย!”ในขณะที่แมลงพิษเหล่านั้นกำลังจะพุ่งเข้าถึงตัวเวินเฉวียนเซิ่งกับพวก เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดก็ดังมาจากที่ไกล ๆ อย่างกะทันหัน...“ถอย!”ฝูงแมลงพิษกว่าครึ่งของหลานซื่อชะงักงันในทันทีแต่ในเสี้ยววินาทีถัดมา พวกมันก็หลุ
หลูเฟิงในเวลานี้อยากบีบคอเขาให้ตายนักยังต้องปกป้องเขาอีกหรือ?ถ้าไอ้แก่นี่ไม่ก่อเรื่อง เรื่องในคืนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!“บัดซบเอ๊ย!”หลังจากหลูเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งทันที “ทุกคน! คุ้มกันเจิ้นกั๋วกงเดี๋ยวนี้!”คนที่ฮ่องเต้ส่งมารีบคุ้มกันเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกที่หนีออกมาจากกระโจมที่ถูกผ่าออกไว้ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับจ้องมองจูเยวี่ยที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวังจูเยวี่ยถือกระบี่ไว้ในมือ สายตาอันเย็นชาจับจ้องเพียงเวินเฉวียนเซิ่งที่ถูกคุ้มกันอยู่ตรงกลางเมื่อบีบคนออกมาได้แล้ว หลานซื่อก็ไม่ปล่อยให้จูเยวี่ยลงมือต่ออีกนางเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว เสี่ยวหานอยู่ที่ไหน?”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยวหานอะไรกัน ข้าไม่…”“ท่านควรบอกว่าท่านรู้ และรับรองด้วยว่าตอนนี้นางปลอดภัยดี”หลานซื่อขัดคำพูดเวินเฉวียนเซิ่งที่ต้องการแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทันทีอย่างไม่เกรงใจ สายตาของนางแสดงเจตนาฆ่าชัดเจน “ไม่เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำให้พวกท่านทุกคนตายอยู่ที่นี่แน่”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันนิ่งเฉย เขาจ้องมองหลานซื่อด้วยสายตาอันมืดมนผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดว่า “
กว่าสิบศพถาโถมเข้าใส่กระโจม พร้อมกับระเบิดออกจู๋เยวี่ยและคนอื่น ๆ ยับยั้งไม่ทัน ถูกแรงระเบิดพัดกระเด็นออกไปแต่หลังจากร่วงลงสู่พื้น พวกเขามองดูบาดแผลบนร่างกายของตนเอง ก็พบว่าแรงระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิดไว้“นายน้อย!”จู๋เยวี่ยรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ถูกระเบิดทันทีแต่ในไม่ช้า นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนางเห็นหลานซื่อที่กำลังยืนอยู่กลางกระโจม และดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจู๋เยวี่ยคาดเดาได้ทันทีว่า เมื่อครู่นายหญิงของนางคงจะหลบเข้าไปในมิติปริศนานั่นดีมาก นายหญิงฉลาดจริง ๆไม่ได้รับบาดเจ็บคือความโชคดีอย่างยิ่งจู๋เยวี่ยรีบเข้าไปคุ้มกันนางไว้ข้างกาย ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”หลานซื่อผงกศีรษะเล็กน้อย ปลอบจู๋เยวี่ยและเกาหยางพลางเอ่ยว่า “ดินปืนในร่างของศพหุ่นเชิดพวกนั้นมีไม่มากนัก จุดประสงค์แท้จริงของพวกมันไม่ใช่เพื่อสังหารข้า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จู๋เยวี่ยและเกาหยางก็กลับมามีท่าทีระแวดระวังอีกครั้งไม่ใช่เพื่อสังหารคนในกระโจมหรือ?ถ้าเช่นนั้นจุดประสงค์ของเวินเฉวียนเซิ่งคืออะไร?เพื่อเบี่ยงเบนความส
เข้าสู่ราตรีกลางป่าพงไพรหลานซื่อนอนสงบเงียบอยู่ในกระโจมนางหลับตาทั้งสอง มีผ้าสักหลาดคลุมกาย หายใจสม่ำเสมอ ดูเหมือนหลับสนิทลงแล้วแต่ยามนี้สติของนางกลับตื่นตัวอย่างยิ่งนางกำลังใช้มุมมองของอวิ่นซิง มองไปรอบ ๆ จากบนหลังคากระโจมที่นางอยู่ภายนอกกระโจม ผืนป่าเงียบสงบยิ่งนักไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่เสียงแมลงในส่วนลึกของป่าก็ค่อย ๆ หายไปความรู้สึกมืดมนและแปลกประหลาดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นความรู้สึกที่หลานซื่อมองผืนป่าผ่านมุมมองของอวิ่นซิงเป็นเช่นนี้เองนางกำลังคิดว่า หากคืนนี้เวินเฉวียนเซิ่งจะลงมือ เขาจะทำอย่างไร?จะเป็นหลวงจีนเฒ่าลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่เมื่อหลานซื่อนึกถึงตรงนี้ ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะนางยังไม่เคยประลองกับอีกฝ่ายอย่างจริงจังครั้งก่อนที่จวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะถือว่าได้ประมือกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่เผยไพ่ตายอย่างหมดเปลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ ฝูงแมลงพิษของหลานซื่อได้ผ่านการยกระดับอย่างทรงพลังในช่วงเวลานี้ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนางอยากรู้จริง ๆ ว่า ครั้งนี้ไม้เท้าวิเศษของหลวงจีนเฒ่าผู้นั้นยังสามารถปราบฝูงแมลงพิษของนางได้หรือไม่น่