แชร์

บทที่ 119

ผู้เขียน: จิ้งซิง
หรือว่าจะเป็นเศษดินเศษหญ้าที่กระเด็นเข้าตาตอนรดน้ำเมื่อครู่?

ทว่าเหตุใดนางถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ?

ในขณะที่นางกำลังทำอะไรไม่ถูก เป่ยเฉินหยวนก็กล่าวขึ้นทันที “ตอนนี้ไม่มีแล้ว เมื่อครู่นี้ ตอนที่ท่านมองเวินจื่อเยวี่ยผู้นั้น ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย ความโกรธ ความเกลียดชัง ความเสียใจ ความเจ็บปวด...”

ทุกครั้งที่เขาพูดถึงอารมณ์แต่ละอย่าง สีหน้าอารมณ์ของเวินซื่อก็ค่อยๆ จางหายไป

ในที่สุด เป่ยเฉินหยวนก็เอ่ยถามนางด้วยเสียงเบาๆ “ท่านเจออะไรมาบ้างที่สกุลเวิน?”

แน่นอนว่าเวินซื่อไม่มีทางตอบเขา

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะสังเกตได้ละเอียดเช่นนี้”

“ข้าไม่ได้สังเกตอย่างละเอียด แต่ท่านไม่รู้ว่า เมื่อครู่นี้ ท่านแสดงอารมณ์ออกมาทางสายตาอย่างชัดเจนเพียงใด”

ชัดเจนจนถึงขั้นทำให้ผู้อื่นไม่สามารถมองข้ามไปได้

และเป่ยเฉินหยวนไม่ได้บอกเวินซื่อว่า นอกจากเขาแล้ว ยังมีอีกคนที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเช่นกัน

เวินซื่อกำมือแน่น ก่อนจะหันไปมองทางอื่น “ขอบคุณท่านอ๋องที่คอยดูแลและปกป้องข้าตลอดช่วงเวลานี้ แต่ขออภัยด้วย บางเรื่องข้าคิดว่าเรายังไม่ถึงขั้นที่ต้องเปิดเผ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1078

    ที่เหนือความคาดหมายก็คือ แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำพยักหน้าทันที“มีอยู่จริงแน่นอน นั่นคือสถานที่ที่เหล่าทวยเทพอาศัยอยู่”ทวยเทพหรือ?สีหน้าของหลานซื่อและเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหลานซื่อหรือเวินเฉวียนเซิ่ง ก่อนมาพวกเขาต่างรู้สึกว่า “หมู่บ้านเซียนเมาแห่งลำธารซีถง” ที่ว่านั้นน่าจะเป็นเรื่องหลอกลวงเซียนเอยเทพเอยอะไรกัน โลกนี้จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่จริงได้อย่างไร?เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้นเท่านั้นเองดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งสองต่างคิดไว้แล้วว่าไม่น่ามีความเป็นไปได้ที่จะหาเจอเพียงคิดว่าจะลองหาดูไปเรื่อย ๆ หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีจริง ก็จะได้เริ่มสะสางเรื่องราวระหว่างพวกเขาเสียทีแต่ใครจะคิดว่า ที่แห่งนี้กลับมีอยู่จริง?ดังนั้นแผนที่สมบัติของสกุลหลานก็เป็นของจริงด้วยสินะ?หลังจากหลานซื่อได้รับคำตอบของคำถามแรกและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เตรียมถามคำถามที่สองอีกแต่ครั้งนี้นางยังไม่ทันเอ่ยออกไป ก็มีคนชิงถามขึ้นก่อนว่า“เหล่าทวยเทพที่ท่านพูดถึงเมื่อครู่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? ยังอยู่ที่นั่นใช่ไหม?”เสียงพูดดังมาจากหน้าป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1077

    “ที่ไหนกันเล่า ท่านยายก็ไม่ได้ล่วงเกินพวกเราเลย ข้าจะไม่สนใจความยินยอมของท่านยายได้อย่างไรกัน?”หลานซื่อยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่ “เช่นนั้นก็เข้ามาสิ แต่พวกเจ้าคนเยอะเกินไป อนุญาตให้เข้ามาได้แค่สามคนเท่านั้น”หลานซื่อพาผู้สื่อสารหลี่มาด้วย ส่วนเสี่ยวหานนั้นให้อยู่เฝ้าข้างนอกเวินเฉวียนเซิ่งย่อมตามเข้าไปอยู่แล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่ออกค่าใช้จ่ายล่วงหน้า แม้จะไม่ใช่เลือดของเขาก็ตามหลังจากเข้าไปในเรือนแล้ว หลานซื่อกำลังคิดจะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง แม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำในห้องก็พูดขึ้นว่า “เอาเจ้าตัวน้อยที่เจ้าวางไว้ข้างนอกนั่นออกไป มันเหยียบดอกไม้ของยายพังหมดแล้ว เดี๋ยวถ้าเจ้าไม่ให้ของอะไรไว้เป็นค่าชดเชย ยายจะถลกหนังของเจ้าเอาไปทำปุ๋ยใส่ดอกไม้”เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าสะพรึงกลัวนี้ นอกจากหลานซื่อจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยนางรู้ว่าอีกฝ่ายสังเกตเห็นงูเขียวน้อยตัวนั้นแล้ว จึงโบกมือเรียกงูเขียวน้อยให้ออกมาจากพุ่มดอกไม้ทันทีที่เห็นงูตัวนั้น สีหน้าของผู้สื่อสารหลี่ก็ซีดเผือดเล็กน้อย “นี่…นี่มันงูพิษ!”ส่วนเวินเฉวียนเซิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1076

    เวินเฉวี่ยนเซิ่งที่ได้ยินเสียงของเวินเยวี่ยได้หันกลับไปหานาง “เป็นอะไรไป?”เวินเยวี่ยขมวดคิ้วกล่าวว่า “ท่านพ่อ เมื่อครู่ข้ารู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังจ้องมองข้าอยู่เจ้าค่ะ”“จ้องมองเจ้าหรือ? ตอนนี้ก็ยังอยู่อีกหรือ?”เวินเฉวี่ยนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองลง กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ลานกลางเผ่าเวินเยวี่ยส่ายหน้า “ตอนนี้ไม่อยู่แล้วเจ้าค่ะ”เวินเฉวี่ยนเซิ่งได้ยินดังนั้นก็ถอนสายตากลับ “ไปเถิด ประเดี๋ยวหากสังเกตเห็นอะไรอีก เจ้าก็รีบบอกพ่อก่อน”สองพ่อลูกจึงเดินตามหลานซื่อกับพวกที่อยู่ด้านหน้าอีกครั้งความเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งสอง หลานซื่อย่อมสังเกตเห็นอยู่แล้วแต่นางก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะคนที่อยู่ในความมืดนั้นชัดเจนว่าพุ่งเป้าไปที่เวินเยวี่ย เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดแน่หลานซื่อรีบเดินตามแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำไป ครั้นไล่ตามไปถึงระยะห่างสี่ห้าเมตรนางก็ไม่ได้ตามติดอีก แต่ชะลอฝีเท้าลง ค่อย ๆ ตามหลังอีกฝ่ายแม่เฒ่าเสื้อป่านสีดำได้ยินเสียงฝีเท้าที่อยู่ข้างหลัง แต่นางไม่ได้หันกลับไปมอง และไม่ได้เอ่ยปากห้ามไม่ให้หลานซื่อกับพวกตามไปเดินกันไปเช่นนี้เรื่อย ๆ จนผ่านไปหนึ่งเค่อ พวกเขาก็มาถึงหน้าเรือนเล็กห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1075

    หลานซื่อเหลือบมองผู้สื่อสารหลี่คราหนึ่งผู้สื่อสารหลี่มองไปยังอีกฝ่ายอย่างเข้าใจความหมายทันที “คนที่พวกเราตามหาคือคนที่รู้จักนายน้อยของเรา”“อะไรนะ?”เด็กชายหมาป่าแขนเดียวอึ้งไปชั่วขณะ “คนที่รู้จักนายน้อยของพวกท่านหรือ?”ผู้สื่อสารหลี่ผายมือไปทางหลานซื่อ แนะนำให้เด็กชายหมาป่าแขนเดียวรู้จักด้วยท่าทีสุขุม “นี่คือนายน้อยของเรา”เด็กชายหมาป่าแขนเดียวมองไปยังหลานซื่อด้วยความสงสัยทันที “ท่านคือนายน้อยเผ่าโยวหลานหรือ? แต่ข้าเคยเจอนายน้อยเผ่าโยวหลานมาก่อน ท่านหน้าตาไม่เหมือนเขาเลยนี่”หลานซื่อยิ้มกริ่มอย่างไม่ตื่นตระหนกพลางเอ่ยปากว่า “ก็เพราะเขาตายแล้วน่ะสิ”เด็กชายหมาป่าแขนเดียวสะดุ้งตกใจทันทีแต่แล้วก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง พินิจมองหลานซื่อตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วพยักหน้า “สงสัยท่านจะฆ่าพี่ชายของท่านสำเร็จ แล้วขึ้นเป็นนายน้อยคนใหม่ของเผ่าโยวหลาน ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อก่อนข้าไม่เคยพบพวกท่าน”หลานซื่อเห็นว่าตบตาสำเร็จแล้ว ก็แสร้งพยักหน้าอย่างจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็พาพวกเราไปตามหาคนได้หรือยัง?”เด็กชายหมาป่าแขนเดียวเกาศีรษะ “แต่คำพูดของพวกท่านมันแปลกเกินไป ก่อนห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1074

    เวินเฉวียนเซิ่งชำเลืองมองหลานซื่อ จากนั้นถอยไปหนึ่งก้าว มอบอำนาจตัดสินใจให้นางหลานซื่อกล่าวด้วยสีหน้าคงเดิม คำพูดที่ออกมานั้นกลับเป็นภาษาต่างเผ่า “เผ่าโยวหลาน”ผู้เฒ่าฝ่ายตรงข้ามได้ยินว่าเป็นคนจากเผ่าโยวหลาน จึงถามว่า “มาด้วยเหตุอันใด?”หลานซื่อตอบว่า “มาหาคน”เป็นภาษาต่างเผ่าอีกครั้งเวินเฉวียนเซิ่งมองนางอีกครั้งด้วยสายตาแฝงนัยอันลึกซึ้งเขาไม่รู้เลยว่า บุตรสาวของตนผู้นี้ไปเรียนภาษาต่างเผ่ามาตั้งแต่เมื่อใด?ก่อนมา หรือหลังจากมาแล้ว?ต้องเรียนรู้หลังจากมาแล้วเป็นแน่หลานซื่อในอดีตไม่เข้าใจภาษาต่างเผ่านี้เลย แต่ระหว่างทางมา นางใช้เวลาเรียนรู้ภาษาต่างเผ่าแบบเร่งด่วนจากอวิ่นซิงเพียงไม่กี่คำแม้ว่าอวิ่นซิงจะช่วยให้นางฟังเข้าใจได้ แต่ถ้อยคำที่ออกมาก็ยังต้องให้นางพูดเองแต่แค่ฟังเข้าใจ แล้วพูดซ้ำตามคำพูดของอวิ่นซิง ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรและนางก็ไม่จำเป็นต้องพูดมากเกินไปเสี่ยวหานที่อยู่ข้างหลังนางได้คว้าตัวผู้สื่อสารหลี่ซึ่งเป็นคนในคณะที่สามารถพูดภาษาต่างเผ่าได้มาอยู่ข้างกายแล้วหลานซื่อแค่ต้องพูดประโยคสำคัญไม่กี่คำ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วการสื่อสารที่เหลือก็โยนให้ผู้สื่อสารหลี่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1073

    ชางชิงหลานแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อ “เหตุใดข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้?”เยี่ยนจือเอ่ยอย่างหมดคำพูด “เพราะตอนนั้นท่านกำลังยุ่งอยู่กับการเพาะเลี้ยงราชากู่ของท่าน คำพูดของราชาใหญ่ท่านยังไม่ทันได้ฟังให้ชัดเจน ก็โบกมือบอกว่าให้พวกเขาตัดสินใจกันตามสบาย จากนั้นก็วิ่งออกไป”มุมปากของชางชิงหลานกระตุกในทันใดเยี่ยนจือยังตอกย้ำอีกว่า “อ้อ ใช่แล้ว ก็คือราชากู่ของท่านที่หายไปแล้วนั่นอย่างไร"ชางชิงหลาน “...””เยี่ยนจือ”“ขอรับ”ชางชิงหลานจับราวจับเกี้ยว มองเขาอย่างเยือกเย็นจากที่สูง “แค่ชาคำเดียวเอง ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้กระมัง?”เยี่ยนจือเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ยังมีน้ำลายของท่านด้วยขอรับ”วินาทีต่อมา...“พลั่ก!”เยี่ยนจือก็ถูกถีบกระเด็นออกไปใครคนนั้นทิ้งท้ายไว้ว่า “เก็บกวาดสิ่งไร้ประโยชน์พวกนี้ให้หมดจด เก็บกวาดเสร็จเมื่อไหร่ค่อยกลับมาเมื่อนั้น”แล้วเขาก็สั่งให้คนรีบไปโดยไม่เหลียวหลังทิ้งให้เยี่ยนจือยืนอยู่ที่เดิมอย่างหมดคำพูด รอจนเกี้ยวของชางชิงหลานหายไปจากสายตา เขาจึงถอนสายตาหันไปมองผู้คนเหล่านั้นที่คุกเข่าอยู่บนถนนหมูดูเหมือนจะรับรู้ได้ว่าภยันตรายกำลังจะมาถึง ใบหน้าของคนเหล่านั้นเผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status