แชร์

บทที่ 29

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เวินซื่อหลุบตาลง เหมือนกับว่าหัวเราะเยาะตนเอง “ใช่สิ เป็นเพราะเหตุใดกันแน่นะ?”

“คำตอบของคำถามข้อนี้ทุกคนล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ หรือว่าท่านพ่อไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”

นัยน์ตาของเวินเฉวียนเซิ่งมีความไม่พอใจปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง “เวินซื่อ ข้าจะพูดอีกรอบ เจ้าอย่าก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ขึ้นอีก ไม่เช่นนั้นครั้งนี้ข้าอาจจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่”

“ถ้าข้าจะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกล่ะ?

เมื่อเวินซื่อได้ยินประโยคนี้ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที สบตากับเวินเฉวียนเซิ่งตรง ๆ อย่างไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “ท่านยังคิดจะทำอย่างไรอีก? ถ้าเฆี่ยนห้าสิบทีไม่พอ เช่นนั้นก็หนึ่งร้อยที? ถ้าหนึ่งร้อยทียังไม่พออีกละก็ เช่นนั้นท่านก็ตีข้าให้ตายไปเลยเป็นอย่างไร?”

“เวินซื่อ”

“ท่านพ่อ”

เวินจื่อเฉินกับเวินฉางอวิ้นส่งเสียงออกมาพร้อมกัน

เวินจื่อเฉินคิดไม่ถึงว่าวันนี้เวินซื่อจะเป็นเหมือนกับคนเสียสติไปแล้ว

อยากจะเอาคืนเขาก็ช่างเถอะ ไม่คิดเลยว่ายังจะทำตัวท้าทายเช่นนี้ต่อหน้าท่านพ่ออีก!

นางอยากรนหาที่ตายใช่หรือไม่?

ถึงแม้ว่าเวินฉางอวิ้นเองก็รู้สึกว่าเวินซื่อจะทำตัวเหลวไหลเกินไปแล้วจริง ๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถให้ท่านพ่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Ann-Earth Oua-nguan
อิเส้าเจ๋อ หน้าด้านจริงๆ มั่นมาก อิพวกพี่ๆ แล้วก็พ่ออีก สมองอ่ะคงไม่มี
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 930

    ใครจะรู้ว่าอุตส่าห์ลงแรงไปตั้งครึ่งค่อนวันกลับเสียแรงเปล่า!แถมยังถูกหลานซื่อจับได้อีก!ไม่ได้ ต้องไม่ยอมรับเด็ดขาด!“ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?! หรือท่านสงสัยว่าตุ๊กตาคนตัวเล็กนี่ เป็นข้าอันหมิงจูโยนลงไปในสระน้ำหลังเรือนของพวกท่านหรือ!”หากยอมรับในตอนนี้ หลานซื่อไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ในทางกลับกัน ตราบใดที่หลานซื่อไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าตุ๊กตาคนตัวเล็กนี้เป็นนางที่โยนลงไป หลานซื่อก็ทำอะไรนางไม่ได้!เมื่อคิดเช่นนี้ อันหมิงจูก็ยิ่งทำใจแข็งขึ้นเล็กน้อย นางเชิดคอขึ้น พลางจ้องมองหลานซื่อและกล่าวอย่างมีเหตุผลชอบธรรมและมั่นใจ “ตุ๊กตาคนตัวเล็กนี่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นของที่สกุลหลานของพวกท่านทำตกไว้ในสระนั่นตั้งแต่เมื่อก่อนหรือไม่!”“หรือบางทีท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์อาจจะเห็นว่าข้าอันหมิงจูรังแกง่าย ก่อนหน้านี้จะตบจะด่าอย่างไรก็ได้ มาตอนนี้ยังคิดจะปรักปรำข้าอีก แต่ถึงข้าอันหมิงจูจะรังแกง่าย สกุลอันของเรากลับไม่ใช่พวกที่จะยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ !”อันหมิงจูกล่าวจบรวดเดียวอย่างเกรี้ยวกราด คิดว่าหลานซื่อคงจะต้องตกตะลึงในท่าทีของนางเป็นแน่แต่ผลลั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 929

    “ท่าน...ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกำลังพูดอะไรอยู่”สายตาของอันหมิงจูสั่นไหวเล็กน้อย หลังจากรู้สึกผิดในใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็รีบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อะไรคือสารภาพแต่โดยดีหรือถูกเปิดโปง อะไรกัน ข้าตกน้ำที่สกุลหลานของพวกท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นประมุขตระกูลหลาน ไม่คิดที่จะขอขมาและอธิบายกับข้า แต่กลับคิดจะใช้กำลังบังคับให้ข้ารับสารภาพที่นี่ นี่คือธรรมเนียมการต้อนรับแขกของสกุลหลานของท่านหรือ?!”อันหมิงจูกุมใบหน้าที่ถูกตบของตนเอง กล่าวอย่างขุ่นเคือง “ต่อให้ท่านจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ แต่พ่อของข้าก็เป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ข้ายังเป็นพี่หญิงของกุ้ยเฟย ท่านจะมาข่มเหงรังแกข้าอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้ มิฉะนั้น สกุลอันของเราจะต้องทูลฟ้องเรื่องนี้ต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาทแน่!”หลานซื่อเห็นว่านางยังไม่ยอมพูดความจริง ก็ขี้เกียจที่จะเค้นถามต่อ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านก็รออยู่ที่นี่เถอะ”อันหมิงจูเอนกายพิงเตียง กอดร่างที่เปียกโชกของตนเองไว้ กัดริมฝีปากล่าง สายตาคอยลอบเหลือบมองหลานซื่อเป็นครั้งคราวเมื่อเห็นว่าหลานซื่อยังคงมีท่าทีสงบนิ่งและใจเย็นตลอดเวลา พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อันหมิงจูเองกลับเริ่มร้อนใจข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 928

    “ท่านดูสิ ตอนนี้เสื้อผ้าของข้าก็เปียก ผมก็เปียกแล้ว งานเลี้ยงของท่านข้าคงอยู่ร่วมต่อไม่ได้แล้ว หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ท่านปล่อยข้ากลับไปก่อนดีหรือไม่ อย่างไรเสีย หากเรื่องที่ข้าตกน้ำในจวนของท่านแพร่งพรายออกไปก็คงไม่ดี ท่านว่าจริงหรือไม่?”ขณะที่นางกล่าวคำพูดนี้ สายตาก็ฉายแววรำคาญออกมาแวบหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ดูมีท่าทีร้อนรนอยู่บ้างแม้ว่าหลานซื่อจะกำลังจิบชาอย่างตั้งใจ แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่อันหมิงจูดังนั้นนางจึงไม่พลาดชั่วขณะนั้นดูท่าว่าเรื่องที่อันหมิงจูตกน้ำนี่จะมีเบื้องหลังจริงๆ สินะนางวางถ้วยชาลง แล้วจ้องมองอันหมิงจูเงียบๆ อยู่เป็นเวลานานในขณะที่ความอดทนของอันหมิงจูใกล้จะหมดลง ขมวดคิ้วกำลังจะเอ่ยปากอีกครั้ง หลานซื่อก็เอ่ยขึ้นมาในที่สุดเพียงแต่คำพูดแรกที่เอ่ยออกมาก็ทำให้อันหมิงจูสติหลุดลอยไปในทันที“คุณหนูใหญ่อันจะรีบร้อนไปไย ในเมื่อท่านตกน้ำที่สกุลหลาน เช่นนั้นก็ต้องสืบสวนหาสาเหตุของการตกน้ำให้กระจ่าง”หลานซื่อเอียงศีรษะเล็กน้อย แล้วสั่งการคนข้างกาย “เสี่ยวหาน นำคนไปตรวจสอบสถานที่ที่คุณหนูใหญ่อันตกน้ำให้ละเอียด ตรวจสอบทั้งบนบกและในน้ำ ตรวจให้ทั่วทุกตารางนิ้ว อย่าปล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 927

    “ผู้ใดตกน้ำ? ช่วยคนขึ้นมาได้แล้วหรือยัง?”หลานซื่อเอ่ยถามทันที“เป็นคุณหนูใหญ่สกุลอันเจ้าค่ะ ส่งคนลงไปช่วยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงช่วยขึ้นมาไม่ได้”หลานซื่อพอได้ยินก็รู้ทันทีว่าเป็นอันหมิงจูแห่งสกุลอัน นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ช่วยขึ้นมาไม่ได้? เหตุใดจึงช่วยขึ้นมาไม่ได้ ไม่ได้ส่งคนที่ว่ายน้ำเป็นลงไปเพิ่มอีกหรือ?”บ่าวรับใช้กล่าวอย่างจนใจ “ส่งไปแล้วเจ้าค่ะ แต่คุณหนูใหญ่สกุลอันผู้นั้น ไม่ทราบว่าตกใจกลัวหรือว่าเป็นอะไรไป เอาแต่ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำตลอดเวลา สาวใช้ที่ส่งไปช่วยนาง หากไม่ถูกนางผลักออกไป ก็ถูกนางดึงไว้ในน้ำจนว่ายไปไหนไม่ได้เจ้าค่ะ”หลานซื่อกำลังจะออกคำสั่ง ทันใดนั้นหางตาก็พลันเหลือบไปเห็นบ่าวรับใช้คนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของจวนใด กำลังมาจากทางหลังเรือน พยายามจะบุกเข้ามาในงานเลี้ยงนางหรี่ตาทั้งสองข้างลงทันที “จู๋เยวี่ย ไปจับบ่าวรับใช้คนนั้นมา อย่าให้เกิดความวุ่นวาย พอส่งตัวให้พ่อบ้านหลานแล้ว ก็ไปช่วยคนที่ตกน้ำขึ้นมา จากนั้นพามาพบข้า”“เจ้าค่ะ”ได้ยินเพียงเสียงแต่ไม่เห็นตัวเมื่อหลานซื่อออกคำสั่งแล้ว นางก็ประสานมือให้แขกเหรื่อทุกท่านในโถงบุปผาเพลิดเพลินกับอาหาร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 926

    เมื่อกล่าวจบ เวินซื่อก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อม จากนั้นจึงลุกขึ้นไปปักธูปเนื่องจากตอนนี้สกุลหลานไม่มีผู้อาวุโสแล้ว เวินซื่อจึงทำได้เพียงจับพู่กันด้วยตนเอง เขียนชื่อของนางลงไปในบันทึกลำดับญาติของสกุลหลานเมื่อขีดสุดท้ายถูกเขียนลงไป เวินซื่อก็ส่งพู่กันให้แก่พ่อบ้านหลานจากนั้น นางก็หันกลับมาคารวะแขกเหรื่อทุกคน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั่วหล้าจะไม่มีเวินซื่อแห่งสกุลเวินอีกแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นพยาน หลานซื่อแห่งสกุลหลานขอคารวะทุกท่าน”“ขอแสดงความยินดีกับประมุขตระกูลหลาน!”“ประมุขตระกูลหลานมิต้องเกรงใจ”“ขอให้สกุลหลานเจริญรุ่งเรืองดังเช่นในอดีต ภายใต้การนำของประมุขตระกูลหลาน!”“...”แขกเหรื่อทุกคนต่างประสานมือคารวะตอบกลับ กล่าวแสดงความยินดีกับหลานซื่อทีละคน เสียงแสดงความยินดีดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและในขณะนั้นเอง ด้านนอกก็มีเสียงประกาศดังขึ้น“ผู้ส่งสารจากฮองเฮาเสด็จมาถึง เพื่อแสดงความยินดีในวาระมงคลของธิดาศักดิ์สิทธิ์และสกุลหลาน ทรงพระราชทานของขวัญมงคลหนึ่งร้อยรายการ คทาหรูอี้หยกทองคำฝังอัญมณีหนึ่งคู่ กำไลข้อมือเคลือบทองลายเถาบัวหนึ่งคู่ ถ้วยแก้วหลิวหลีเรืองแสงหนึ่งคู่ สร้อยไข่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 925

    “เจ้าจะใช้สกุลอะไร เหตุใดยังต้องให้ข้าช่วยตัดสินใจด้วย?”เวินซื่อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ ราวกับไม่ได้เข้าใจคำใบ้ของคนบางคนเลยแม้แต่น้อยฟ่านจุ้ยถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะเขาคงไม่สามารถพูดออกมาตรงๆ ได้กระมังว่าตนเองอยากจะใช้สกุลนั้น?“พี่หญิง~ ขอร้องล่ะ ข้าอยากให้พี่หญิงช่วยตั้งชื่อให้น้องชายคนนี้จริงๆ จริงๆ นะ!”ฟ่านจุ้ยยังไม่ยอมแพ้ กะพริบตาปริบๆ มองนางอย่างน่าสงสาร “ท่านก็รู้ว่าข้าเร่ร่อนอยู่ข้างนอกตั้งแต่เด็ก แม้แต่ชื่อก็ยังเป็นคนขี้เมาตั้งให้ ฟ่านจุ้ย ฟ่านจุ้ย ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ท่านก็รู้สึกว่าชื่อของข้าไม่ดีมิใช่หรือ? ดังนั้นท่านช่วยข้าตั้งชื่อใหม่สักชื่อเถอะนะ~”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็กระแอมออกมาหนึ่งครั้งนางเองก็จำได้ว่าตอนที่ได้ยินชื่อฟ่านจุ้ยครั้งแรกนั้น มันช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายแถมยังตกใจอยู่บ้างว่าพ่อแม่บ้านไหนกันที่จะตั้งชื่อลูกของตัวเองว่า “ฟ่านจุ้ย” (ทำผิด) กันล่ะ“ตอนนี้ญาติทางสายเลือดของเจ้าก็ไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียวเสียหน่อย...”“แต่ข้าก็อยากให้พี่หญิงช่วยตั้งให้!”ไม่รอให้เวินซื่อพูดจบ ฟ่านจุ้ยก็ขัดจังหวะขึ้นมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status